จ้ะ! คลอปป์มั่นลิเวอร์พูลไล่จ่าฝูงทันแน่
เจอร์เกน คลอปป์กุนซือหัวร้อนของลิเวอร์พูล ออกมาแสดงความมั่นใจว่าทีมของยังสามารถลุ้นแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ แม้จะทำได้แค่บุกไปเสมอนิวคาสเซิล ในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำจากลูกยิงสุดสวยของพ่อมดน้อยเจ้าน้ำตา ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่ปัญหาเดิมก็ตามหลอกหลอนแฟนหงส์แดง เมื่อโฆเซลูมายิงประตูตีเสมอหลังจากนั้นแค่ 9 นาที
ผลเสมอ 1-1 ทำให้ปัจจุบันลิเวอร์พูลรั้งอยู่อันดับ 7 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูงแมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่ 7 คะแนน
เมื่อถามว่าลิเวอร์พูลสมควรจะชนะหรือไม่ “แน่นอน ผมคิดว่าเราสมควรชนะ แต่ผมก็ต้องยอมรับมัน”คลอปป์กล่าว
“ผมว่าเราเล่นได้ดีเลยนะ ถ้าท้ายเกมเราทำได้ดีกว่านี้เราอาจจะได้สามแต้มก็ได้”
อย่างไรก็ตาม คลอปป์ยังเชื่อว่าทีมของเขายังอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องและจะไม่หยุดพัฒนาทีมต่อไป “เรากำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก แต่ทีมอื่นก็จะต้องเจอช่วงเวลาเหล่านี้เหมือนกัน”
“สิ่งที่เราต้องทำคือ ทำงานของเราต่อไป ผมคิดว่าเราไม่ได้ห่างไกลจากการลุ้นแชมป์ขนาดนั้น ซึ่งถ้าเราทำในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ ถ้าเรายิงประตูได้มากกว่านี้ และเก็บชัยชนะได้ ไม่ว่าช่องว่างจะมากขนาดไหน มันจะลดลง แต่เราจะต้องไม่คิดถึงทีมอื่นๆ” คลอปป์ทิ้งท้าย
http://www.skysports.com/football/news/11669/11064134/jurgen-klopp-backs-liverpool-to-close-gap-on-premier-league-leaders
-------------------------------------------------------------
#ทีมกูอดทน บิ๊กท็อฟฟี่หนุนคูมันน์คุมทัพต่อ
ฟาร์ฮัด โมชิริ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเอฟเวอร์ตัน ออกโรงหนุนโรนัลด์ คูมันน์ ผู้จัดการทีมเก้าอี้ร้อนของท็อฟฟี่สีน้ำเงิน หลังจากแพ้คาบ้านต่อเบิร์นลี่
เอฟเวอร์ตัวเก็บได้เพียง 7 แต้ม จาก 7 นัด อยู่อันดับที่ 16 ของตาราง ห่างโซนตกชั้นเพียง 2 คะแนนส่งผลให้ผู้จัดการทีมชาวดัตช์เจอกับแรงกดดันมหาศาล เนื่องจากทุ่มเงินมากมายไปกับการเสริมทีมในตลาดนักเตะที่ผ่านมา
“เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย แต่ฤดูกาลเพิ่งเริ่มต้นและคูมันน์จะได้รับการสนับสนุนจากผมอย่างเต็มที่”นักธุรกิจลูกครึ่งอังกฤษ-อิหร่านกล่าวกับสกาย สปอร์ต สำนักข่าวชื่อดัง
ในขณะที่คูมันน์ยังคงพอใจกับความทุ่มเทที่นักเตะแสดงให้เห็นในนัดที่แพ้เบิร์นลี่ “ผมมีประสบการณ์เหล่านี้ แน่ละมันไม่ดีในการพ่ายแพ้ก่อนที่จะพักเบรคเกมทีมชาติ แต่นี่ล่ะชีวิตเราต้องยอมรับมัน เราจะพยายามกันต่อไป ผมจะพยายามจนถึงที่สุด”
http://www.skysports.com/football/news/11671/11064010/everton-boss-ronald-koeman-given-support-from-farhad-moshiri
--------------------------------------------------------------
ทีมแฮรี่ เคน! เป๊ปยก ไก่ ลุ้นแชมป์เต็มตัว
เป๊บ กวาดิโอล่า กุนซือหัวใสของเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกโรงยกให้ ท๊อตแน่มฮอตสเปอร์ คู่แข่งในการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ เคียงข้าง แมนฯ ยู และเชลซี
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไก่เดือยทอง ของพอเช็ตติโน่ ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการบุกไปถล่ม ฮัดเดิ้ลฟิลทาวน์ ทีมน้องใหม่ ขาดลอย 4-0
ในขณะที่แมนฯ ยู และแมนฯ ซิตี้ ก็เก็บชัยชนะได้ทั้งสองทีม โดยแมนฯ ยู เปิดบ้านยัดเยียดความพ่ายแพ้ติดต่อกัน 7 นัด ให้คริสตัล พาเลซ 4-0 ทางด้านแมนฯ ซิตี้เองก็บุกตบคู่แข่งแย่งแชมป์อย่างเชลซีไป 1-0 จากประตูชัยสุดสวยของ เควิน เดอบรอยน์
“ผมเห็นทีมของแฮรี่ เคน ยิงประตูได้ 2-3 ประตูทุกนัด” อดีตผู้จัดการทีมบาซ่ากล่าว
“นี่เพิ่งเดือนกันยายน ปีที่แล้วเชลซีแข็งแกร่งมาก ชนะติดต่อกัน 13 นัด และคว้าแชมป์ได้ก่อนฤดูกาลจะจบซะอีก”
“แต่ปีนี้พวกเขามีปัญหาเพิ่มขึ้นนิดหน่อยจากการที่ต้องลงเล่นทุกๆ 3 วัน มันเป็นปัญหาสำหรับทุกทีมนั่นแหละ” กวาดิโอล่าเสริม
แมนฯ ซิตี้นำเป็นจ่าฝูงอยู่ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่มากกว่าแมนฯ ยู เพียง 1 ลูก เป๊ปเชื่อว่าคู่ปรับตลอดการอย่างโจเซ่ มูรินโญ่ ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถขับเคี่ยวแย่งแชมป์กับทีมของตนได้
“แมนฯ ยู กลายเป็นทีมของมูรินโญ่ พวกเขาเชื่อมั่นในแนวทางของพวกเขา เอาชนะในการปะทะ พวกเขารวดเร็วมากในการโต้กลับ”
“มันจะยากแน่นอน (การแย่งแชมป์) เราจะไปที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เวมบลี และเอมิเรส และพิสูจน์ว่าเราทำได้”
http://www.skysports.com/football/news/11661/11064131/pep-guardiola-lists-harry-kane-team-alongside-chelsea-and-man-utd-as-title-rivals
--------------------------------------------------------------
ทีมต่อไปใคร!? เรือแรงไม่หยุดตบสิงห์คาบ้าน 1-0 ทวงจ่าฝูงคืน
อัลบาโร่ โมราต้า กองหน้ารูปหล่อฟอร์มฮอตของเชลซี โชคร้ายเล่นได้เพียง 35 นาทีก่อนโดนเปลียนตัวออกเนื่องจากบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริง ทำให้เชลซีโดนแมนฯ ซิ บุกกดคาถินแสตมฟอร์ด บริดจ์
Chelsea starting formation: 3-5-2
ติโบต์ กูรตัวส์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, แกรี เคฮิลล์, มาร์กอส อลอนโซ่, เซซาร์ อัซปิลิกูเอต้า, เอนโกโล่ กองเต้, ติเอมูเอ้ บากาโยโก้, เชส ฟาเบรกาส, เอเดน อาซาร์, อัลบาโร่ โมราต้า
Substitute
วิลลี่ กาบาเยโร่, ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, วิคเตอร์ โมเสส, เคเนดี้, วิลเลี่ยน, เปโดร, มิชี่ บาตซูอายี่
Manchester City starting formation:4-1-4-1
แอแดร์สัน, ไคล์ วอร์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, นิโคลัส โอตาเมนดี้, ฟาเบียน เดลฟ์, เฟอร์นันดิญโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ลีรอย ซาเน่, ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์, กาเบรียล เฮซุส
Substitute
เคลาดิโอ บราโว่, ดานิโล่, เอเลควิม มองกาล่า,ยาย่า ตูเร่, อเล็กซานเดอร์ ซินเซนโก้, แบร์นาโด้ ซิลวา, อิกาย กุนโดกัน
ศึกยักษ์ชนยักษ์ประจำสัปดาห์ที่ 7 ของการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ทางด้านเจ้าบ้านเชลซีฟอร์มดีเพิ่งเอาชนะทีมตราหมี ในศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก นัดนี้จะยังคงไม่มี ดาวิด ลุยซ์ เซนเตอร์สายฮาประจำทีมเนื่องจากติดโทษแบน และแดนนี่ ดริ้งวอเตอร์ที่ยังมีอาการบาดเจ็บบริเวณน่อง สวนทางด้านแมนซิตี้ จะไม่มีกองหน้าตัวเก่งอย่าง เซอร์คิโอ กุน อเกวโร่ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ซี่โครงร้าว และเบนจามิน เมนดี้ ที่ผ่าตัดเข่าปิดเทอมยาวไปก่อนเพื่อน
3’
เจ้าบ้านทักทายก่อน
เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที เอนโกโล่ กองเต้ เปิดบอล ให้ อัลบาโร่ โมราต้า ได้โหม่งในกรอบ 6 หลา แต่บอลหลุดเสาสองออกไป ถือว่าทักทายได้น่ากลัวทีเดียวสำหรับแชมป์เก่าอย่างเชลซี
4’
เดอ บรอยน์ซัด แต่ยังเบาไป
แมนฯ ซิตี้ ไม่ยอมน้อยหน้ามีโอกาสจบเช่นเดียวกัน เควิน เดอ บรอยน์ ได้ยิงฟรีคิกด้วยเท้าขวา ทิศทางดีแล้ว แต่ยังเบาไป กินกูรตัวส์ไม่ได้
12’
เรือเจาะด้านซ้ายรัวๆ
ดูเหมือนแมนซิจะเจอจุดอ่อนเชลซี กระหน่ำบุกด้านซ้ายของมาร์กอส อลอนโซ่อยางหนัก วอร์คเกอร์เติมเกมขึ้นมา เปิดให้ดาบิด ซิลบาได้ยิงแต่บอลหลุดกรอบออกไป
13’
กูรตัวส์เกือบไป
แมนซิวันนี้เล่น เพรสซิ่งตั้งแต่ในแดนของเชลซี และก็เกือบส่งผลเมื่อ กูรตัวส์ โดน เฮซุส ไล่บีบ กลายเป็นไปเตะอัดตัวกองหน้าบราซิล โชคยังดีบอลไม่ตรงกรอบ ออกหลังไป
26’
ยังไม่เหม่อ
คราวนี้เชลซีได้โอกาสบ้างจากจังหวะคลุกคลิกบริเวณกรอบเขตโทษ อัซปิลิกูเอต้า ได้จังหวะยิง บอลกระดอนพื้น แต่แอแดร์สันไม่หลับปัดเอาไว้ได้
29’
เรือโหมหนัก
ดาบิด ซิลบาได้โอกาสอีกครั้งเมื่อได้บอลจากลีรอย ซาเน่ กองกลางชาวสเปนกดเสาแรกเต็มข้อ ยังไม่ผ่านมือนายด่านเบลเยี่ยม ของสิงโตน้ำเงินคราม
35’
สิงห์งานเข้า โปรหล่อเจ็บ
ถือข่าวร้ายของเชลซีเมื่อ อัลบาโร่ โมราต้าที่ทำหน้าที่ได้โอเคในวันนี้ มีอาการบาดเจ็บ เล่นต่อไม่ไหวส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัว บอสใหญ่คอนเต้ เลือกไม่ส่งกองหน้าสายโซเชี่ยลอย่างบาตซูอายี่แต่เลือกส่งวิลเลี่ยน ลงไปแทน
45’
เฟอร์นันดิญโญ่โขกเกือบเฮ
เรือใบทองคำน่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อเดอ บรอยน์เตะมุมเข้ามาให้ เฟอร์นันดิญโญ่ ได้โหม่งจ่อๆ แต่กูรตัวส์ยังซุปเปอร์เซฟ ปัดทิ้งเอาไว้ได้ ทำให้จบครึงแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
Half time
50’
สเตอร์ลิ่งข้ามคานน
เริ่มครึงหลังมายังคงเป็น แมนซิตี้ เดินหน้าเปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้านอย่างต่อเนื่อง เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลให้ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แต่ปีกชาวอังกฤษยิงข้ามคานไปอย่างหน้าเสียดาย
67’
เดอ บรอยน์ซัดไกล เรือนำแล้ว
หลังจากโหมบุกอย่างหนัก ในที่สุดความพยายามก็ประสบความสำเร็จเมื่อเควิน เดอ บรอยน์ ทำชิ่งกับกาเบรียล เฮซุส ก่อนกองกลางหน้าแดงชาวเบลเยี่ยมจะซัดตรงกรอบ 18 หลา บอลพุ่งแรงแถมเสียบมุมคมกริบ กูรตัวส์หมดปัญญาเซฟ เรือใบนำแล้ว 1-0
72’
อยู่เฉยไม่ได้แล้ว
จะนิ่งเฉยไม่ได้แล้วสำหรับคอนเต้ ทำการส่งตัวสำรองทีเดียว 2 คนรวด เปโดร ลงมาแทนอาซาร์ ส่วน บาตซูอายี่ ลงมาแทน บากาโยโก้ และเปลี่ยนแผนไปเล่น 3-4-3 หวังทวงประตูตีเสมอ
84’
เกือบ 2-0 รูดิเกอร์เซฟบนเส้น
แมนซิตี้เกือบได้ประตูปิดฝาโรงเมื่อ กาเบรียล เฮซุสได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษ ผ่านมือกูรตัวส์ไปแล้ว แต่รูดิเกอร์ยังวิ่งมาโหม่งออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ เชลซีตามลูกเดียวยังมีความหวังอยู่
90’
คริสเตนเซ่นเกือบหล่อ
แฟนเชลซีเกือบได้เฮ เมื่อเชส ฟาเบรกาสเปิดฟรีคิก เข้ามาในกรอบเขตโทษ อันเดรส คริสเตนเซ่นได้โหม่ง แต่ข้ามคานออกไป
Full time
เรือใบหยุดไม่อยู่ทวงจ่าฝูงคืน ฟอร์มดีต่อเนื่องเลยสำหรับแมนซิตี้ของเป๊ป กวาดิโอล่าบุกมาเก็บชัยชนะถึงถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แซงแมนยู ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า 1 ลูก
ฝากไว้ด้วยครับ