ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 22 Mar 2009
ตอบ: 5459
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:07 am
เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้
มันทำให้เห็นสัจธรรมจริงๆว่าความอดทนและการให้โอกาสรอคอยมันไม่มีอีกต่อไปแล้ว ขนาดทีมอย่างบาเยิร์น มิวนิค สะดุดเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้นก็ปลดโค้ชแล้ว ซึ่งรู้สึกว่ามันเกินไป พอๆกับตอนพาเลซปลดเดอบัวร์ทั้งๆที่คุมแค่ 4 เกม ทั้งๆที่มันควรให้โอกาสต่ออีกหน่อยได้ บาเยิร์นนัดหน้าเดี๋ยวก็ชนะแล้ว ไม่น่าใช่เรื่องที่ต้องกังวล ส่วนพาเลซเจอทีมแข็งๆขนาดนั้นปลดเอาคนใหม่มามันก็ไม่ได้พลิกสถานการณ์ได้ในทันทีหรอก

คือไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้ความอดทนในการใช้งานโค้ชมันน้อยลงไปทุกวัน ผมมองว่าบาเยิร์นสะดุดแค่ 3 นัด ไม่ใช่ 10 นัด ไม่สมควรโดนไล่ออกอะ ดูโค้ชแบน แพ้รัวๆ 6 เกมเขายังไม่ปลดเลย คือทีมระดับบาเยิร์น นัดหน้าก็ตบคู่แข่งได้อยู่แล้วจะหัวร้อนรีบปลดเพื่ออะไร UCL ก็ใช่ว่าจะตกรอบ กอดคอเข้ากับปารีสได้อยู่แล้ว

คือมองว่ามันรีบร้อนเกินเหตุไปแล้วสมัยนี้ ถ้ายังเป็นแบบนี้ เผลอๆมีนัดเดียวปลดออก ไม่รู้จะใจร้อนไรกันนัก อดทนหน่อยดิ
0
1
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 3287
ที่อยู่: แมนเชสเตอร์
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:09 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
ประเด็นคือ นักเตะ มันไม่เอาโค๊ชแล้ว
ถ้าอยู่ต่อ อาจจะแพ้มากกว่านี้ สปิริตทีมเสียกว่านี้

การไล่โค๊ช ของแต่ละทีม สถานการณ์มันต่างกันนะ
ไม่น่าเอาเทียบ
0
0
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 26714
ที่อยู่: CRINGE
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:10 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
แสดงว่าไม่ได้ดูข่าวที่ผ่านมาๆมาเลย

ไหนจะความตึงเคียดระหว่างโค้ชกับบอร์ดก็แล้ว ผลงานไม่ดีก็แล้ว นักเตะอีก แผนการเล่นอีก

ไม่มีบอร์ดไหนอยากปลดหรอกถ้ามันเข้าที่เข้าทาง บางทีการตัดไปเลยก็ดีกว่า

เข้าร่วม: 21 Apr 2007
ตอบ: 5965
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:11 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
-เคยเห็นแฟนบาเยิร์นบอกว่า "รูปเกม"มันแย่มานานแล้วครับ

-จัดตัวแปลกๆหลายครั้ง ไม่ค่อยแก้เกม

-ไม่ได้พึ่งแพ้มาแล้วปลด
0
0
เข้าร่วม: 03 Oct 2013
ตอบ: 18483
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:11 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
เวนเกอร์ ครับ อดทนกันไหมล่ะ
0
0


เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 153
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:12 am
[RE]เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้
ต้องดูหลายๆปัจจัยครับผมว่า
แอบเห็นสื่อต่างประเทศลงตอนคลิปสัมภาษณ์อันเช่
เหมือนแกหัวร้อนแล้วเหยีดๆนักข่าวแอฟริกาไงไม่รู้หรือคิดไปเอง
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1763
ที่อยู่: บน จาน
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:13 am
[RE]เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้
ไม่นะครับ ปัญหาจริงๆเลยที่ผมเห็นนะ คือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากตอนปรีซีซันเลย รูปเกมแย่ นัดไหนชนะได้ ก็เพราะทีมต้องข้ามสวนไม่คม

ที่ผ่านมาไม่ใช่เล่นแบบว่าฟอมดีละพึงมาสะดุดติดๆกันนะครับ จวนเจียนหลายนัดแล้ว

ด้วยแผนการเล่นที่ไม่ต่างจากตอนเป๊ป ประกอบตัวเจ็บผลัดกันเยอะแยะ ตัวหลักรีไทรไปสอง หรืออะไรก็ตาม

การปลดอันเช่ผมเห็นว่ามันอาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างในแนวทางที่ดีขึ้น

ปล. จริงๆผมแค่ไม่อยากเห็นบาเยิร์นเล่นเคาะไปเคาะมาเจาะไม่ได้คืนหลัง จบแค่นี้ แล้ว น่าเบื่อ
1
0
เข้าร่วม: 05 Feb 2009
ตอบ: 10448
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:15 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
หลายๆปัจจัยครับ ไม่ใช่แค่ผลงาน
โค้ช หลายคนผลงานไม่ค่อยดี แต่บอร์ดรัก ก็อยู่ได้นาน
โค้ชบางคน แม้ไม่ค่อยชนะ แต่ แฟนๆยังเชื่อมั่น ก็ยังอยู่ได้
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 323
ที่อยู่: เชือกกล้วยกางเกงแดง
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:15 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
พวกไม่ดู แต่อยากวิจารณ์ ออกมาโชว์.. กันอีกแล้ว
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 21319
ที่อยู่: ฺฺ [ stadio olimpico ]
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:16 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
MaArSeNaL พิมพ์ว่า:
เวนเกอร์ ครับ อดทนกันไหมล่ะ  


เจ๊บอกเมื่อคืนก็ชนะให้จะเอาอะไรอีก


เข้าร่วม: 12 Oct 2010
ตอบ: 20607
ที่อยู่: Thammasat Rangsit
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:18 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
หน้าเดิม
As a Lakers fan since July 2018 I can’t even put into words how much this all means to me
เข้าร่วม: 04 Nov 2014
ตอบ: 5868
ที่อยู่: Soccersuck FC.
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:18 am
[RE]เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้
ผลงานอาจจะเรื่องนึง ใช่นัดหน้าก็คงชนะแล้ว ลีกก็คงแชมป์ ในยุโรปก็คงถึงรอบน็อคเอ้าได้อยู่ดี

แต่ไม่แน่ว่าอาจมีปัญหาเรื้อรังในทีม เก็บไว้ก็มีแต่บานปลาย

แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ตามนั้นครับ ความอดทนต่ำไป
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:19 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
เฮ้อ คงมีอีกหลาย 10 กระทู้แน่ๆ ที่พูดว่า อันเช่ไม่ชนะแค่ไม่กี่นัดก็โดนปลด
คือไม่ได้ติดตามกันไง ทั้งฟอร์มการเล่นจริงๆ ทั้งสถานการณ์ภายในทีม ทั้งกระแสจากบอร์ด ถ้าตามจะพอเห็นแนวโน้มได้

เอาจริงๆ เป็นผมจะคิดก่อนนะว่า ถ้าพลาดแค่ไม่กี่นัดทำไมถึงโดนปลด มันต้องมีมากกว่านั้นดิ ค่อยมาตั้งกระทู้
0
0
เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 7823
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:21 am
เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้
it หนังห่วยมาก อวยกันเอง เนื้อเรื่องพื้นๆ มันน่าตกใจกลัวตรงใหน ให้ 5/10
ปล.ยังไม่ได้ดู




เข้าร่วม: 25 Oct 2010
ตอบ: 1446
ที่อยู่: Munich
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:23 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
บอลไม่มีทรงครับ เน้นความสามรถเฉพาะตัวนักเตะ
ต่างคนต่างเล่น เกมเนื่อยบอลช้า ยังไม่อยากเชื่อเลย
ระดับอันเช่แต่เหมือนไม่มีทางบอลตัวเองเลย
เป็นมานานแล้ว ตั้งแต่ซีซั่นแรกล่ะครับ
แบบเป็ปทิ้งอะไรไว้ ก็ใช้หยั่งงั้น แต่ไม่พัฒนาอะไรเลย
ที่ต้องแยกทางก็ตามผลงานเลยนะ
อยู่ต่อก็ไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น ทีมเล่นเดิมๆ
ไม่มีปั้นเด็ก นักเตะก็เก่งเท่าเดิม
นี้ยังไม่อยากเชื่อเลย คิดว่าทีมคงเทพน่าดูตอนได้มาคุม
อันนี้ไม่นับนะ ว่ามีปัญหากับแกนหลักทีมอีก
เข้าร่วม: 13 Mar 2008
ตอบ: 6703
ที่อยู่: League 1 แล้วครัชชช
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:24 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
เปลือกมาก
0
0
AFC Wimbledon "The Real Dons"
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 1062
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:25 am
[RE]เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้
พาเลซ เดอบัวร์คุมในลีก 4นัด เจอทีมระดับไม่แข็งมากทั้งหมดมีหนักสุดก็เจอหงส์ โดนน้องใหม่อย่างฮัดเดอร์สฟีลอัด3-0, สวอนซีหนีตกชั้นปีที่แล้ว, เบิร์นลีย์ เจอ3ทีมนี้แล้วยัง 0แต้ม เป็นบอร์ดที่ไหนก็เสียวๆทั้งนั้นแหละครับ ทรงทีมก็ไม่ดีเอาซะเลย

บาเยิร์นส่วนตัวก็ว่าทรงบอลมันไม่ได้พัฒนาขึ้นน่ะ เทียบกับแบบเป๊ปคุมบาซ่า, คอนเต้คุมเชลซี, มู หรือคนอื่นๆที่ผลงานเห็นชัด พวกข่าวมีปัญหาต่างๆอีกด้วย
0
0
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 26714
ที่อยู่: CRINGE
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:26 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
D.Dave พิมพ์ว่า:
หน้าเดิม  


นักเตะคนไหนโดนขายอีก ต้องมาแน่

kaito daiki ประธานสมาคมสิทธินักฟุตบอลและโค้ชแห่งประเทศไทย

เข้าร่วม: 28 Oct 2013
ตอบ: 8987
ที่อยู่: ตู้เพลง
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:29 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
แฟนคลับฮาเมสนี่นา.มาเชียร์พี่เสือตามฮาเมสใช่ป้ะ
0
0
เข้าร่วม: 12 Oct 2010
ตอบ: 20607
ที่อยู่: Thammasat Rangsit
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:30 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
maggo พิมพ์ว่า:
D.Dave พิมพ์ว่า:
หน้าเดิม  


นักเตะคนไหนโดนขายอีก ต้องมาแน่

kaito daiki ประธานสมาคมสิทธินักฟุตบอลและโค้ชแห่งประเทศไทย

 


ไม่ว่าคุมทีมจะกาก นักเตะจะกากแค่ไหน ก็ต้องใช้ต่อไป
0
0
As a Lakers fan since July 2018 I can’t even put into words how much this all means to me
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 5837
ที่อยู่: ลิเวอร์พูล เมอร์ซีย์ไซด์
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:36 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
ทรงบอลไม่ดีขึ้น ก็ปลดออกเหอะ

ก็เหมือนที่บอกนัดหน้าก็กลับมาชนะ ใครคุมขัดตาทัพไปก่อนก็ได้
0
0


เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 9656
ที่อยู่: Promised Land
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 11:53 am
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
ต้องยอมรับวิถีปัจจุบัน เครดิสที่ทำไว้ไม่ได้มีผลต่ออนาคตแล้ว เว้นกรณีนวนเกอร์ไว้คน

อาจเป็นช่วงฟอมตกของอันเช่ก็ได้ ถึงโดยรวมแกจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลุดฟอม

ปล แต่อันเช่คนอวยแกหนักจริงๆนะ บางทีอาจมากกว่าที่เป็นจริง
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6426
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 12:01 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
ปัญหาภายในแหละผมว่า ข่าวช่วงนี้เรื่องแบบนี้ค่อนข้างแม่น
0
0


เข้าร่วม: 14 Sep 2010
ตอบ: 9349
ที่อยู่: แคร์ริงตัน
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 12:05 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
ถ้าผลงานแย่เพราะแทคติกและโค๊ชมีทางแก้ ยังไงก้อไม่โดนไล่

แต่ถ้าคุยกันแล้ว ไม่มีทางแก้ หรือ อย่างเคสนี้คือ นักเตะ ไม่เอาแล้ว มันก้อต้องไป
0
0
เข้าร่วม: 03 May 2009
ตอบ: 15805
ที่อยู่: 3rd Knight of Round table
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 12:07 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
อยู่บอลไทยเป็นไข่ยี หนีมาบอลนอกดีกว่า
0
0
Manchester UTD - Chiangrai UTD
เข้าร่วม: 19 Aug 2008
ตอบ: 2392
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 12:24 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
ต้องยอมรับวิถีปัจจุบัน เครดิสที่ทำไว้ไม่ได้มีผลต่ออนาคตแล้ว เว้นกรณีนวนเกอร์ไว้คน

อาจเป็นช่วงฟอมตกของอันเช่ก็ได้ ถึงโดยรวมแกจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลุดฟอม

ปล แต่อันเช่คนอวยแกหนักจริงๆนะ บางทีอาจมากกว่าที่เป็นจริง  



หลักๆ คือ เวลาแกชนะ ที นี่คือ ชนะทีมคนหมั่นไส้เยอะครับ

อย่าง ยูไนเต็ด ปี 2007

บารเยิร์นปี 2014


ชนะใน Big Match บ่อยอะว่าง่ายๆ


ส่วนเรื่อง ฝีมือตก ผมว่าเริ่มตกมาตั้งแต่ ปีสองกับมาดริดแล้วล่ะ


เอาจริงๆ กับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่น ที่แกเคยทำงานอยู่ อย่าง มิลาน เชลซี มาดริด หรือ PSG

ก่อนที่แกจะคุม คือทีมไม่มีแนวทางอย่างชัดเจน พอจะปรับจะเปลี่ยนอะไรก็ค่อนข้างง่าย

พอมาเป็น บาร์เยิร์น ที่แนวทางเล่นค่อนข้างชัดเจน ต้องถูกจริตบอร์ด แถมทีมเดิมมันดีมากอยู่แล้ว(คือมันดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว) พออยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ก็เลยค่อนข้างจะยาก

คุมทีมในอิตาลี่น่าจะสบายสสุดแล้ว เพราะไม่ค่อยสนเรื่องสไตล์ แค่ชนะก็พอ

เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2655
ที่อยู่: London
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 12:36 pm
เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้
เหมือนตอนแกคุมเชลซี ก่อนโดนไล่รูปเกมห่วยมาก
1
0
Blue is the colour

เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 9656
ที่อยู่: Promised Land
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 12:41 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
identity พิมพ์ว่า:
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
ต้องยอมรับวิถีปัจจุบัน เครดิสที่ทำไว้ไม่ได้มีผลต่ออนาคตแล้ว เว้นกรณีนวนเกอร์ไว้คน

อาจเป็นช่วงฟอมตกของอันเช่ก็ได้ ถึงโดยรวมแกจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลุดฟอม

ปล แต่อันเช่คนอวยแกหนักจริงๆนะ บางทีอาจมากกว่าที่เป็นจริง  



หลักๆ คือ เวลาแกชนะ ที นี่คือ ชนะทีมคนหมั่นไส้เยอะครับ

อย่าง ยูไนเต็ด ปี 2007

บารเยิร์นปี 2014


ชนะใน Big Match บ่อยอะว่าง่ายๆ





ส่วนเรื่อง ฝีมือตก ผมว่าเริ่มตกมาตั้งแต่ ปีสองกับมาดริดแล้วล่ะ


เอาจริงๆ กับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่น ที่แกเคยทำงานอยู่ อย่าง มิลาน เชลซี มาดริด หรือ PSG

ก่อนที่แกจะคุม คือทีมไม่มีแนวทางอย่างชัดเจน พอจะปรับจะเปลี่ยนอะไรก็ค่อนข้างง่าย

พอมาเป็น บาร์เยิร์น ที่แนวทางเล่นค่อนข้างชัดเจน ต้องถูกจริตบอร์ด แถมทีมเดิมมันดีมากอยู่แล้ว(คือมันดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว) พออยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ก็เลยค่อนข้างจะยาก

คุมทีมในอิตาลี่น่าจะสบายสสุดแล้ว เพราะไม่ค่อยสนเรื่องสไตล์ แค่ชนะก็พอ

 


จะว่างั้นก็มีส่วนคับ

ผมว่าแกได้เคดิตเยอะสดๆในช่วงได้แชมป์กับมาดริด ในยุคที่มีคนเห็น คนดูเยอะ คนเลยติดภาพว่าแกเทพจัด จากหลายเสียงที่ยกให้แกที่ครบเครื่องทั้งรุกรับ และสมดุล ยืดหยุ่น

แต่โดยส่วนตัว ผมมองผลงานแกได้แชมป์ลีกค่อนข้างน้อย ในอิตาลีกับอังกฤษที่ละครั้ง ส่วนในฝรั่งเศสนั้น แกคุมงานที่แค่เสมอตัว เยอรมันก้คล้ายๆ

แกเก่งมากคนนึงแหละ แต่เรื่องความสม่ำเสมออาจไม่ใช่จุดเด่น จากที่แกไม่เคยป้องกันลีก เมื่อเทียบกับกลุ่มท้อป5ที่ยกชื่อกันมาบ่อยๆ แกเป็นรองพอสมควร

ส่วนเครดิตในยุฟ่า แกก้ควรได้ไปแต่ต้องไม่ลืมว่า เคยมีคนอย่าง ราฟา และ ดิ มัตเตโอได้ไป ซึ่งหลังจากนั้นมันไม่ได้เป็นตัววัดที่เที่ยงตรงเสมอไป แต่ผมไม่ได่ดิสเครดิตส่วนนี้แกนะ เพราะแกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

แล้วก็ทีมที่แกคุม เป็นทีมที่..อ่ะนะ

ตอนเปลี่ยนจากไฮยเกจ มาเป็นเพอเฟคแมน ก็คราวนึงแล้ว ทั้งที่ได้ทั้งถ้วย เรื่ิองวิธีการเล่นก็จัดว่า โพสิทีฟฟุตบอล จนแล้วจนรอด ตอนเปปลายังมีเสียงเป่าปากว่าไปเสียได้ เบื่อหน่าย ไม่โดนบ้างล่ะ ก็คงต้องเข้าใจว่า....ทางของเค้า

0
0
เข้าร่วม: 04 Dec 2014
ตอบ: 437
ที่อยู่: Manchester
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 12:46 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
ถึงขนาดคนในบาเยินออกมาอวยเป๊ปผู้จัดการทีมเก่า
ขนาดตอนที่อยู่ยังโดนวิจารณ์ต่างๆนาๆ
นักเตะเนี่ยแหละที่ๆม่เอาโค้ชแล้ว
ยังจำได้ มีข่าวนักเตะไม่พอใจตลอดแต่ฟอรมในลีคดูดีมีการแข่งขันในทีมสูง
เปลี่ยนลงมา ฟอรมก็เล่นได้ดี
แต่ยุคอันเช่นักเตะกลับบอกคิดถึงเป๊ปอย่างน้อยก็สอนเทคติคให้เก่งขึ้น
ดีกว่าส่งลงไปตามบุญตามกรรมแบบนี้ พูดแบบนี้มันไม่เผาผีแล้ว
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2331
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 1:01 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
Spoil
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
identity พิมพ์ว่า:
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
ต้องยอมรับวิถีปัจจุบัน เครดิสที่ทำไว้ไม่ได้มีผลต่ออนาคตแล้ว เว้นกรณีนวนเกอร์ไว้คน

อาจเป็นช่วงฟอมตกของอันเช่ก็ได้ ถึงโดยรวมแกจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลุดฟอม

ปล แต่อันเช่คนอวยแกหนักจริงๆนะ บางทีอาจมากกว่าที่เป็นจริง  



หลักๆ คือ เวลาแกชนะ ที นี่คือ ชนะทีมคนหมั่นไส้เยอะครับ

อย่าง ยูไนเต็ด ปี 2007

บารเยิร์นปี 2014


ชนะใน Big Match บ่อยอะว่าง่ายๆ





ส่วนเรื่อง ฝีมือตก ผมว่าเริ่มตกมาตั้งแต่ ปีสองกับมาดริดแล้วล่ะ


เอาจริงๆ กับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่น ที่แกเคยทำงานอยู่ อย่าง มิลาน เชลซี มาดริด หรือ PSG

ก่อนที่แกจะคุม คือทีมไม่มีแนวทางอย่างชัดเจน พอจะปรับจะเปลี่ยนอะไรก็ค่อนข้างง่าย

พอมาเป็น บาร์เยิร์น ที่แนวทางเล่นค่อนข้างชัดเจน ต้องถูกจริตบอร์ด แถมทีมเดิมมันดีมากอยู่แล้ว(คือมันดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว) พออยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ก็เลยค่อนข้างจะยาก

คุมทีมในอิตาลี่น่าจะสบายสสุดแล้ว เพราะไม่ค่อยสนเรื่องสไตล์ แค่ชนะก็พอ

 


จะว่างั้นก็มีส่วนคับ

ผมว่าแกได้เคดิตเยอะสดๆในช่วงได้แชมป์กับมาดริด ในยุคที่มีคนเห็น คนดูเยอะ คนเลยติดภาพว่าแกเทพจัด จากหลายเสียงที่ยกให้แกที่ครบเครื่องทั้งรุกรับ และสมดุล ยืดหยุ่น

แต่โดยส่วนตัว ผมมองผลงานแกได้แชมป์ลีกค่อนข้างน้อย ในอิตาลีกับอังกฤษที่ละครั้ง ส่วนในฝรั่งเศสนั้น แกคุมงานที่แค่เสมอตัว เยอรมันก้คล้ายๆ

แกเก่งมากคนนึงแหละ แต่เรื่องความสม่ำเสมออาจไม่ใช่จุดเด่น จากที่แกไม่เคยป้องกันลีก เมื่อเทียบกับกลุ่มท้อป5ที่ยกชื่อกันมาบ่อยๆ แกเป็นรองพอสมควร

ส่วนเครดิตในยุฟ่า แกก้ควรได้ไปแต่ต้องไม่ลืมว่า เคยมีคนอย่าง ราฟา และ ดิ มัตเตโอได้ไป ซึ่งหลังจากนั้นมันไม่ได้เป็นตัววัดที่เที่ยงตรงเสมอไป แต่ผมไม่ได่ดิสเครดิตส่วนนี้แกนะ เพราะแกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

แล้วก็ทีมที่แกคุม เป็นทีมที่..อ่ะนะ

ตอนเปลี่ยนจากไฮยเกจ มาเป็นเพอเฟคแมน ก็คราวนึงแล้ว ทั้งที่ได้ทั้งถ้วย เรื่ิองวิธีการเล่นก็จัดว่า โพสิทีฟฟุตบอล จนแล้วจนรอด ตอนเปปลายังมีเสียงเป่าปากว่าไปเสียได้ เบื่อหน่าย ไม่โดนบ้างล่ะ ก็คงต้องเข้าใจว่า....ทางของเค้า

 
 


จะว่าอวยเกินไปก็ไม่ถูกนะ ตอนอยู่มิลานก็ปั้นชุดนักเตะที่ยังไม่สุด จนเป็นสตาร์ทุกตำแหน่ง แถมแผนต้นคริสมาสต์ตอนนั้นก็แทบจะเป็นต้นตำรับด้วย พอย้ายไปเชลซีทรงบอลก็ดีกว่าคนก่อนๆชัดเจน ยิงนัดละ 4 5 ลูกบ่อยๆ นักเตะบางตัวไม่ค่อยได้ลงยังจับลงเล่นจนเทพได้ ส่วนมาดริดไม่ต้องพูดถึง แฟนมาดริดน่าจะเข้าใจดี รูปเกมตอนนั้นโหดจริง
0
0
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 12576
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 1:02 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
แฟนบอลสมัยนี้ก็ไม่ได้ต่างกันหรอก

ส่งบอลพลาด 1 ที = ไม่ไหวมั้ง เปลี่ยนตัวออกเหอะ

ส่งบอลพลาด 2 ที = อยากได้เนียงโกลัน วิดัล ฮัมซิค บลาๆๆ มาเล่นแทนจัง
(ทำยังกะพวกนี้มาเล่นแล้วจะไม่ส่งบอลเสียเลยแม้แต่ครั้งเดียว)

ส่งบอลพลาด 3 ที = กาก ห่วย ขายทิ้งเหอะ จบเกมจะตั้งมู้ประนามมันรัวๆ



โลกนี้มันคงมีแต่โทนี่ โครส หรือชาบี (บาร์ซ่า) อะมั้ง ที่ส่งบอลแทบจะเข้าเป้า 100%
ซึ่งหลายๆนัดทั่วไป ระดับ 2 คนนี้ ก็ไม่ใช่จะส่งบอลสำเร็จ 100% อยู่ดี

แต่แฟนบอลสมัยนี้โคตรจับจด เหมือนเชียร์บอลเพื่อดูว่าวันนี้ใครจะพลาด จะได้มีคนให้ด่า
เสียบอลทีด่าอย่างหมูอย่างหมา ทำพลาดอะไรไม่ได้เลย ทำเป็นเรื่องใหญ่โตตลอด

ติ่งโล้นครับผม
เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 9656
ที่อยู่: Promised Land
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 1:16 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
mmdsadd พิมพ์ว่า:
Spoil
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
identity พิมพ์ว่า:
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
ต้องยอมรับวิถีปัจจุบัน เครดิสที่ทำไว้ไม่ได้มีผลต่ออนาคตแล้ว เว้นกรณีนวนเกอร์ไว้คน

อาจเป็นช่วงฟอมตกของอันเช่ก็ได้ ถึงโดยรวมแกจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลุดฟอม

ปล แต่อันเช่คนอวยแกหนักจริงๆนะ บางทีอาจมากกว่าที่เป็นจริง  



หลักๆ คือ เวลาแกชนะ ที นี่คือ ชนะทีมคนหมั่นไส้เยอะครับ

อย่าง ยูไนเต็ด ปี 2007

บารเยิร์นปี 2014


ชนะใน Big Match บ่อยอะว่าง่ายๆ





ส่วนเรื่อง ฝีมือตก ผมว่าเริ่มตกมาตั้งแต่ ปีสองกับมาดริดแล้วล่ะ


เอาจริงๆ กับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่น ที่แกเคยทำงานอยู่ อย่าง มิลาน เชลซี มาดริด หรือ PSG

ก่อนที่แกจะคุม คือทีมไม่มีแนวทางอย่างชัดเจน พอจะปรับจะเปลี่ยนอะไรก็ค่อนข้างง่าย

พอมาเป็น บาร์เยิร์น ที่แนวทางเล่นค่อนข้างชัดเจน ต้องถูกจริตบอร์ด แถมทีมเดิมมันดีมากอยู่แล้ว(คือมันดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว) พออยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ก็เลยค่อนข้างจะยาก

คุมทีมในอิตาลี่น่าจะสบายสสุดแล้ว เพราะไม่ค่อยสนเรื่องสไตล์ แค่ชนะก็พอ

 


จะว่างั้นก็มีส่วนคับ

ผมว่าแกได้เคดิตเยอะสดๆในช่วงได้แชมป์กับมาดริด ในยุคที่มีคนเห็น คนดูเยอะ คนเลยติดภาพว่าแกเทพจัด จากหลายเสียงที่ยกให้แกที่ครบเครื่องทั้งรุกรับ และสมดุล ยืดหยุ่น

แต่โดยส่วนตัว ผมมองผลงานแกได้แชมป์ลีกค่อนข้างน้อย ในอิตาลีกับอังกฤษที่ละครั้ง ส่วนในฝรั่งเศสนั้น แกคุมงานที่แค่เสมอตัว เยอรมันก้คล้ายๆ

แกเก่งมากคนนึงแหละ แต่เรื่องความสม่ำเสมออาจไม่ใช่จุดเด่น จากที่แกไม่เคยป้องกันลีก เมื่อเทียบกับกลุ่มท้อป5ที่ยกชื่อกันมาบ่อยๆ แกเป็นรองพอสมควร

ส่วนเครดิตในยุฟ่า แกก้ควรได้ไปแต่ต้องไม่ลืมว่า เคยมีคนอย่าง ราฟา และ ดิ มัตเตโอได้ไป ซึ่งหลังจากนั้นมันไม่ได้เป็นตัววัดที่เที่ยงตรงเสมอไป แต่ผมไม่ได่ดิสเครดิตส่วนนี้แกนะ เพราะแกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

แล้วก็ทีมที่แกคุม เป็นทีมที่..อ่ะนะ

ตอนเปลี่ยนจากไฮยเกจ มาเป็นเพอเฟคแมน ก็คราวนึงแล้ว ทั้งที่ได้ทั้งถ้วย เรื่ิองวิธีการเล่นก็จัดว่า โพสิทีฟฟุตบอล จนแล้วจนรอด ตอนเปปลายังมีเสียงเป่าปากว่าไปเสียได้ เบื่อหน่าย ไม่โดนบ้างล่ะ ก็คงต้องเข้าใจว่า....ทางของเค้า

 
 


จะว่าอวยเกินไปก็ไม่ถูกนะ ตอนอยู่มิลานก็ปั้นชุดนักเตะที่ยังไม่สุด จนเป็นสตาร์ทุกตำแหน่ง แถมแผนต้นคริสมาสต์ตอนนั้นก็แทบจะเป็นต้นตำรับด้วย พอย้ายไปเชลซีทรงบอลก็ดีกว่าคนก่อนๆชัดเจน ยิงนัดละ 4 5 ลูกบ่อยๆ นักเตะบางตัวไม่ค่อยได้ลงยังจับลงเล่นจนเทพได้ ส่วนมาดริดไม่ต้องพูดถึง แฟนมาดริดน่าจะเข้าใจดี รูปเกมตอนนั้นโหดจริง  


แกเก่งมากจริงๆครับ

แต่อวยเกินก็มีจริง เก่ง90 แต่ อวย95 อวย100งี้

ในที่นี้ไม่ใช่แค่แกคนเดียวหรอก ใครๆก็โดนอวยเกินกันบ่อยๆ อย่าง เฟอกี้ บ่อยครีั้งแฟนผีก็อวยเกิน เป้ปงี้

เรื่องเก่งน่ะเก่งอยู่แล้ว
เข้าร่วม: 19 Aug 2008
ตอบ: 2392
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 1:17 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
mmdsadd พิมพ์ว่า:
Spoil
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
identity พิมพ์ว่า:
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
ต้องยอมรับวิถีปัจจุบัน เครดิสที่ทำไว้ไม่ได้มีผลต่ออนาคตแล้ว เว้นกรณีนวนเกอร์ไว้คน

อาจเป็นช่วงฟอมตกของอันเช่ก็ได้ ถึงโดยรวมแกจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลุดฟอม

ปล แต่อันเช่คนอวยแกหนักจริงๆนะ บางทีอาจมากกว่าที่เป็นจริง  



หลักๆ คือ เวลาแกชนะ ที นี่คือ ชนะทีมคนหมั่นไส้เยอะครับ

อย่าง ยูไนเต็ด ปี 2007

บารเยิร์นปี 2014


ชนะใน Big Match บ่อยอะว่าง่ายๆ





ส่วนเรื่อง ฝีมือตก ผมว่าเริ่มตกมาตั้งแต่ ปีสองกับมาดริดแล้วล่ะ


เอาจริงๆ กับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่น ที่แกเคยทำงานอยู่ อย่าง มิลาน เชลซี มาดริด หรือ PSG

ก่อนที่แกจะคุม คือทีมไม่มีแนวทางอย่างชัดเจน พอจะปรับจะเปลี่ยนอะไรก็ค่อนข้างง่าย

พอมาเป็น บาร์เยิร์น ที่แนวทางเล่นค่อนข้างชัดเจน ต้องถูกจริตบอร์ด แถมทีมเดิมมันดีมากอยู่แล้ว(คือมันดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว) พออยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ก็เลยค่อนข้างจะยาก

คุมทีมในอิตาลี่น่าจะสบายสสุดแล้ว เพราะไม่ค่อยสนเรื่องสไตล์ แค่ชนะก็พอ

 


จะว่างั้นก็มีส่วนคับ

ผมว่าแกได้เคดิตเยอะสดๆในช่วงได้แชมป์กับมาดริด ในยุคที่มีคนเห็น คนดูเยอะ คนเลยติดภาพว่าแกเทพจัด จากหลายเสียงที่ยกให้แกที่ครบเครื่องทั้งรุกรับ และสมดุล ยืดหยุ่น

แต่โดยส่วนตัว ผมมองผลงานแกได้แชมป์ลีกค่อนข้างน้อย ในอิตาลีกับอังกฤษที่ละครั้ง ส่วนในฝรั่งเศสนั้น แกคุมงานที่แค่เสมอตัว เยอรมันก้คล้ายๆ

แกเก่งมากคนนึงแหละ แต่เรื่องความสม่ำเสมออาจไม่ใช่จุดเด่น จากที่แกไม่เคยป้องกันลีก เมื่อเทียบกับกลุ่มท้อป5ที่ยกชื่อกันมาบ่อยๆ แกเป็นรองพอสมควร

ส่วนเครดิตในยุฟ่า แกก้ควรได้ไปแต่ต้องไม่ลืมว่า เคยมีคนอย่าง ราฟา และ ดิ มัตเตโอได้ไป ซึ่งหลังจากนั้นมันไม่ได้เป็นตัววัดที่เที่ยงตรงเสมอไป แต่ผมไม่ได่ดิสเครดิตส่วนนี้แกนะ เพราะแกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

แล้วก็ทีมที่แกคุม เป็นทีมที่..อ่ะนะ

ตอนเปลี่ยนจากไฮยเกจ มาเป็นเพอเฟคแมน ก็คราวนึงแล้ว ทั้งที่ได้ทั้งถ้วย เรื่ิองวิธีการเล่นก็จัดว่า โพสิทีฟฟุตบอล จนแล้วจนรอด ตอนเปปลายังมีเสียงเป่าปากว่าไปเสียได้ เบื่อหน่าย ไม่โดนบ้างล่ะ ก็คงต้องเข้าใจว่า....ทางของเค้า

 
 


จะว่าอวยเกินไปก็ไม่ถูกนะ ตอนอยู่มิลานก็ปั้นชุดนักเตะที่ยังไม่สุด จนเป็นสตาร์ทุกตำแหน่ง แถมแผนต้นคริสมาสต์ตอนนั้นก็แทบจะเป็นต้นตำรับด้วย พอย้ายไปเชลซีทรงบอลก็ดีกว่าคนก่อนๆชัดเจน ยิงนัดละ 4 5 ลูกบ่อยๆ นักเตะบางตัวไม่ค่อยได้ลงยังจับลงเล่นจนเทพได้ ส่วนมาดริดไม่ต้องพูดถึง แฟนมาดริดน่าจะเข้าใจดี รูปเกมตอนนั้นโหดจริง  


ใช่ ความเก่งนี่เก่ง แน่ๆ แหละ เก่งกว่า มัตเตโอ กับราฟา แน่ๆ

แต่เรื่องบอล ลีก ก็ต้องยอมรับไป

ขาลงมั้ย ก็อาจจะเริ่มๆ ขาลงแล้ว ก็ไม่แปลก เพราะคุมทีมมา 20 ปีแล้ว ก็ไม่แปลก

ถามว่าอยากให้กลับมิลาน มั้ย ก็อยากมาก


ปัญหาหลักเรื่องแผนการเล่นกับบาร์เยิร์นเลย ก็คือยังยืนยันจุดเดิม ว่า มันทำให้ดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว ทีมมาถึงจุดพีคแล้ว

รักษามาตราฐานไม่ได้ ก็ต้องรับกรรมไป


ตอนอยู่มิลาน ปีท้ายๆ ก็เหมือนกัน ทีมมันถึงจุดอิ่มตัวด้านแท็กติกแล้ว ทั้งแผน คริสมาส กับแผน ไดม่อน

คืออยู่ไปก็มีแต่ทรุด เลิกลาต่อกันก็ดีที่สุดแล้ว
เข้าร่วม: 24 Oct 2009
ตอบ: 2943
ที่อยู่: BKK
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 2:02 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
สมควรโดนปลด ทั้งคู่นะ ถ้าได้ตามดู
อย่างเคส เดอ บัวร์ เอามายกได้ไง เล่นซะเละขนาดนั้น
0
0

เข้าร่วม: 27 Oct 2013
ตอบ: 742
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 2:08 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
Gwyndolin พิมพ์ว่า:
แฟนบอลสมัยนี้ก็ไม่ได้ต่างกันหรอก

ส่งบอลพลาด 1 ที = ไม่ไหวมั้ง เปลี่ยนตัวออกเหอะ

ส่งบอลพลาด 2 ที = อยากได้เนียงโกลัน วิดัล ฮัมซิค บลาๆๆ มาเล่นแทนจัง
(ทำยังกะพวกนี้มาเล่นแล้วจะไม่ส่งบอลเสียเลยแม้แต่ครั้งเดียว)

ส่งบอลพลาด 3 ที = กาก ห่วย ขายทิ้งเหอะ จบเกมจะตั้งมู้ประนามมันรัวๆ



โลกนี้มันคงมีแต่โทนี่ โครส หรือชาบี (บาร์ซ่า) อะมั้ง ที่ส่งบอลแทบจะเข้าเป้า 100%
ซึ่งหลายๆนัดทั่วไป ระดับ 2 คนนี้ ก็ไม่ใช่จะส่งบอลสำเร็จ 100% อยู่ดี

แต่แฟนบอลสมัยนี้โคตรจับจด เหมือนเชียร์บอลเพื่อดูว่าวันนี้ใครจะพลาด จะได้มีคนให้ด่า
เสียบอลทีด่าอย่างหมูอย่างหมา ทำพลาดอะไรไม่ได้เลย ทำเป็นเรื่องใหญ่โตตลอด  
เห็นด้วยครับ อย่างเช่น ปอกบา ดล่นดีทั้งเกมมีดึงจังหวะโชว์นิดๆหน่อยด่าอย่างกะกากทั้งเกม
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 8291
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 2:44 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
เราไม่รู้ปัญหาภายในเท่าเขาหรอกว่ามันสุกงอมระดับไหน
เหมือนเห็นคนเป็นแฟนเลิกกัน แล้วว่าไม่น่าเลิกเห็นรักกันดี

เอาอะไรไปวัดครับ
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 7773
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 3:06 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
Spoil
identity พิมพ์ว่า:
mmdsadd พิมพ์ว่า:
Spoil
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
identity พิมพ์ว่า:
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
ต้องยอมรับวิถีปัจจุบัน เครดิสที่ทำไว้ไม่ได้มีผลต่ออนาคตแล้ว เว้นกรณีนวนเกอร์ไว้คน

อาจเป็นช่วงฟอมตกของอันเช่ก็ได้ ถึงโดยรวมแกจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลุดฟอม

ปล แต่อันเช่คนอวยแกหนักจริงๆนะ บางทีอาจมากกว่าที่เป็นจริง  



หลักๆ คือ เวลาแกชนะ ที นี่คือ ชนะทีมคนหมั่นไส้เยอะครับ

อย่าง ยูไนเต็ด ปี 2007

บารเยิร์นปี 2014


ชนะใน Big Match บ่อยอะว่าง่ายๆ





ส่วนเรื่อง ฝีมือตก ผมว่าเริ่มตกมาตั้งแต่ ปีสองกับมาดริดแล้วล่ะ


เอาจริงๆ กับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่น ที่แกเคยทำงานอยู่ อย่าง มิลาน เชลซี มาดริด หรือ PSG

ก่อนที่แกจะคุม คือทีมไม่มีแนวทางอย่างชัดเจน พอจะปรับจะเปลี่ยนอะไรก็ค่อนข้างง่าย

พอมาเป็น บาร์เยิร์น ที่แนวทางเล่นค่อนข้างชัดเจน ต้องถูกจริตบอร์ด แถมทีมเดิมมันดีมากอยู่แล้ว(คือมันดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว) พออยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ก็เลยค่อนข้างจะยาก

คุมทีมในอิตาลี่น่าจะสบายสสุดแล้ว เพราะไม่ค่อยสนเรื่องสไตล์ แค่ชนะก็พอ

 


จะว่างั้นก็มีส่วนคับ

ผมว่าแกได้เคดิตเยอะสดๆในช่วงได้แชมป์กับมาดริด ในยุคที่มีคนเห็น คนดูเยอะ คนเลยติดภาพว่าแกเทพจัด จากหลายเสียงที่ยกให้แกที่ครบเครื่องทั้งรุกรับ และสมดุล ยืดหยุ่น

แต่โดยส่วนตัว ผมมองผลงานแกได้แชมป์ลีกค่อนข้างน้อย ในอิตาลีกับอังกฤษที่ละครั้ง ส่วนในฝรั่งเศสนั้น แกคุมงานที่แค่เสมอตัว เยอรมันก้คล้ายๆ

แกเก่งมากคนนึงแหละ แต่เรื่องความสม่ำเสมออาจไม่ใช่จุดเด่น จากที่แกไม่เคยป้องกันลีก เมื่อเทียบกับกลุ่มท้อป5ที่ยกชื่อกันมาบ่อยๆ แกเป็นรองพอสมควร

ส่วนเครดิตในยุฟ่า แกก้ควรได้ไปแต่ต้องไม่ลืมว่า เคยมีคนอย่าง ราฟา และ ดิ มัตเตโอได้ไป ซึ่งหลังจากนั้นมันไม่ได้เป็นตัววัดที่เที่ยงตรงเสมอไป แต่ผมไม่ได่ดิสเครดิตส่วนนี้แกนะ เพราะแกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

แล้วก็ทีมที่แกคุม เป็นทีมที่..อ่ะนะ

ตอนเปลี่ยนจากไฮยเกจ มาเป็นเพอเฟคแมน ก็คราวนึงแล้ว ทั้งที่ได้ทั้งถ้วย เรื่ิองวิธีการเล่นก็จัดว่า โพสิทีฟฟุตบอล จนแล้วจนรอด ตอนเปปลายังมีเสียงเป่าปากว่าไปเสียได้ เบื่อหน่าย ไม่โดนบ้างล่ะ ก็คงต้องเข้าใจว่า....ทางของเค้า

 
 


จะว่าอวยเกินไปก็ไม่ถูกนะ ตอนอยู่มิลานก็ปั้นชุดนักเตะที่ยังไม่สุด จนเป็นสตาร์ทุกตำแหน่ง แถมแผนต้นคริสมาสต์ตอนนั้นก็แทบจะเป็นต้นตำรับด้วย พอย้ายไปเชลซีทรงบอลก็ดีกว่าคนก่อนๆชัดเจน ยิงนัดละ 4 5 ลูกบ่อยๆ นักเตะบางตัวไม่ค่อยได้ลงยังจับลงเล่นจนเทพได้ ส่วนมาดริดไม่ต้องพูดถึง แฟนมาดริดน่าจะเข้าใจดี รูปเกมตอนนั้นโหดจริง  


ใช่ ความเก่งนี่เก่ง แน่ๆ แหละ เก่งกว่า มัตเตโอ กับราฟา แน่ๆ

แต่เรื่องบอล ลีก ก็ต้องยอมรับไป

ขาลงมั้ย ก็อาจจะเริ่มๆ ขาลงแล้ว ก็ไม่แปลก เพราะคุมทีมมา 20 ปีแล้ว ก็ไม่แปลก

ถามว่าอยากให้กลับมิลาน มั้ย ก็อยากมาก


ปัญหาหลักเรื่องแผนการเล่นกับบาร์เยิร์นเลย ก็คือยังยืนยันจุดเดิม ว่า มันทำให้ดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว ทีมมาถึงจุดพีคแล้ว

รักษามาตราฐานไม่ได้ ก็ต้องรับกรรมไป


ตอนอยู่มิลาน ปีท้ายๆ ก็เหมือนกัน ทีมมันถึงจุดอิ่มตัวด้านแท็กติกแล้ว ทั้งแผน คริสมาส กับแผน ไดม่อน

คืออยู่ไปก็มีแต่ทรุด เลิกลาต่อกันก็ดีที่สุดแล้ว  
 


เรื่องแชมป์ลีก มานั่งนึกๆ ปีที่ควรต้องได้แชมป์ลีกจริงๆ ก็
มิลาน 2002-03 / 04-05 / 05-06 ทุกอย่างพร้อม ควรแชมป์
มาดริด 2013-14 นี่ก็ไม่น่าพลาด+ บาร์ซ่ายังไม่ลงตัว

ปีอื่นๆนี่คิดว่าอนุโลมได้ บางปีน่าเห็นใจ

เรจจิน่ากับปาร์ม่านี่ตัดไปเลย

- ยูเว่ 2-3 ปี ก้ำกึ่งๆ ว่าล้มเหลวไหม เพราะช่วงนี้โรม่า ลาซิโอ เขาโหดจัดจริงๆ + เดล ร่าง 2 ความเก่งลดลงเยอะ (แต่สำหรับเคสนี้ จะนับรวมว่าควรแชมป์ก็ได้)

- มิลาน 2001-02 อันนี้ หยวนๆให้เลย ถึงจะมีตัวใหม่ แต่ยังไม่ดีพอ + เพิ่งสร้างทีม + ถึงยูเว่ไม่ได้แชมป์ โรม่าก็ยังโหดกว่า

- มิลาน 06-07 / 07-08 / 08-09 ปัจจัยหลักที่เห็นใจเลย คือไม่มีเชฟเชนโก้แล้ว และบอร์ดไม่สามารถหากองหน้าที่ดีระดับนั้นมาแทนได้ ส่วนตำแหน่งอื่นๆก็โรยรา

- เชลซี 2010-11 อันนี้ ก็น่าเห็นใจ ที่เคยอ่านมา แฟนเชลซีเขามองว่า บอร์ดมีปัญหาเรื่องการซื้อขาย ตัวเก่งออกเยอะ แต่ตัวใหม่ธรรมดาๆ แฟนๆบางคน มองว่าอาจจะรีบปลดเกินไปด้วยซ้ำ

- PSG 2011-12 ได้มาคุมตอนครึ่งฤดูกาล เลยก้ำกึ่งว่าควรแชมป์หรือไม่

- มาดริด 2014-15 ปีนี้เจอ MSN (แต่สำหรับเคสนี้ จะนับรวมว่าควรแชมป์ก็ได้เหมือนกัน)
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1016
ที่อยู่: Arkham City
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 4:29 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
ชื่อ ยูส kaito Daiki เหมือนตัวละคร kamen rider diend ในเรื่อง decade เลย

ถึงว่าชื่อคุ้นๆ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6299
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 4:32 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
ผมว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องผลงานในสนามนะของอันเช่อ่ะ
มันต้องมีเรื่องอะไรมากกว่านั้นแหละครับ
ส่วนของเดอ บัวร์ นี่ ถ้าท่านเป็นเจ้าของทีม
ท่านจะเสี่ยงใช้ต่อหรอ เปลี่ยนคนนี่แหละ
คือสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่ง ไม่งั้นมีดิ่งลงเหวยาวๆแน่
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 15204
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 5:31 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
บางทีม สะดุดตั้งเยอะ ไม่เห็นจะสะเทือนเลย
0
0
!!เชียร์แมนยู ทีมเดียว!!
เข้าร่วม: 19 Aug 2008
ตอบ: 2392
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 29, 2017 9:47 pm
[RE: เคสบาเยิร์นกับอันเช่ ทำให้เห็นสัจธรรมในยุคนี้]
Contingency พิมพ์ว่า:
Spoil
identity พิมพ์ว่า:
mmdsadd พิมพ์ว่า:
Spoil
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
identity พิมพ์ว่า:
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
ต้องยอมรับวิถีปัจจุบัน เครดิสที่ทำไว้ไม่ได้มีผลต่ออนาคตแล้ว เว้นกรณีนวนเกอร์ไว้คน

อาจเป็นช่วงฟอมตกของอันเช่ก็ได้ ถึงโดยรวมแกจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหลุดฟอม

ปล แต่อันเช่คนอวยแกหนักจริงๆนะ บางทีอาจมากกว่าที่เป็นจริง  



หลักๆ คือ เวลาแกชนะ ที นี่คือ ชนะทีมคนหมั่นไส้เยอะครับ

อย่าง ยูไนเต็ด ปี 2007

บารเยิร์นปี 2014


ชนะใน Big Match บ่อยอะว่าง่ายๆ





ส่วนเรื่อง ฝีมือตก ผมว่าเริ่มตกมาตั้งแต่ ปีสองกับมาดริดแล้วล่ะ


เอาจริงๆ กับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่น ที่แกเคยทำงานอยู่ อย่าง มิลาน เชลซี มาดริด หรือ PSG

ก่อนที่แกจะคุม คือทีมไม่มีแนวทางอย่างชัดเจน พอจะปรับจะเปลี่ยนอะไรก็ค่อนข้างง่าย

พอมาเป็น บาร์เยิร์น ที่แนวทางเล่นค่อนข้างชัดเจน ต้องถูกจริตบอร์ด แถมทีมเดิมมันดีมากอยู่แล้ว(คือมันดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว) พออยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ก็เลยค่อนข้างจะยาก

คุมทีมในอิตาลี่น่าจะสบายสสุดแล้ว เพราะไม่ค่อยสนเรื่องสไตล์ แค่ชนะก็พอ

 


จะว่างั้นก็มีส่วนคับ

ผมว่าแกได้เคดิตเยอะสดๆในช่วงได้แชมป์กับมาดริด ในยุคที่มีคนเห็น คนดูเยอะ คนเลยติดภาพว่าแกเทพจัด จากหลายเสียงที่ยกให้แกที่ครบเครื่องทั้งรุกรับ และสมดุล ยืดหยุ่น

แต่โดยส่วนตัว ผมมองผลงานแกได้แชมป์ลีกค่อนข้างน้อย ในอิตาลีกับอังกฤษที่ละครั้ง ส่วนในฝรั่งเศสนั้น แกคุมงานที่แค่เสมอตัว เยอรมันก้คล้ายๆ

แกเก่งมากคนนึงแหละ แต่เรื่องความสม่ำเสมออาจไม่ใช่จุดเด่น จากที่แกไม่เคยป้องกันลีก เมื่อเทียบกับกลุ่มท้อป5ที่ยกชื่อกันมาบ่อยๆ แกเป็นรองพอสมควร

ส่วนเครดิตในยุฟ่า แกก้ควรได้ไปแต่ต้องไม่ลืมว่า เคยมีคนอย่าง ราฟา และ ดิ มัตเตโอได้ไป ซึ่งหลังจากนั้นมันไม่ได้เป็นตัววัดที่เที่ยงตรงเสมอไป แต่ผมไม่ได่ดิสเครดิตส่วนนี้แกนะ เพราะแกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

แล้วก็ทีมที่แกคุม เป็นทีมที่..อ่ะนะ

ตอนเปลี่ยนจากไฮยเกจ มาเป็นเพอเฟคแมน ก็คราวนึงแล้ว ทั้งที่ได้ทั้งถ้วย เรื่ิองวิธีการเล่นก็จัดว่า โพสิทีฟฟุตบอล จนแล้วจนรอด ตอนเปปลายังมีเสียงเป่าปากว่าไปเสียได้ เบื่อหน่าย ไม่โดนบ้างล่ะ ก็คงต้องเข้าใจว่า....ทางของเค้า

 
 


จะว่าอวยเกินไปก็ไม่ถูกนะ ตอนอยู่มิลานก็ปั้นชุดนักเตะที่ยังไม่สุด จนเป็นสตาร์ทุกตำแหน่ง แถมแผนต้นคริสมาสต์ตอนนั้นก็แทบจะเป็นต้นตำรับด้วย พอย้ายไปเชลซีทรงบอลก็ดีกว่าคนก่อนๆชัดเจน ยิงนัดละ 4 5 ลูกบ่อยๆ นักเตะบางตัวไม่ค่อยได้ลงยังจับลงเล่นจนเทพได้ ส่วนมาดริดไม่ต้องพูดถึง แฟนมาดริดน่าจะเข้าใจดี รูปเกมตอนนั้นโหดจริง  


ใช่ ความเก่งนี่เก่ง แน่ๆ แหละ เก่งกว่า มัตเตโอ กับราฟา แน่ๆ

แต่เรื่องบอล ลีก ก็ต้องยอมรับไป

ขาลงมั้ย ก็อาจจะเริ่มๆ ขาลงแล้ว ก็ไม่แปลก เพราะคุมทีมมา 20 ปีแล้ว ก็ไม่แปลก

ถามว่าอยากให้กลับมิลาน มั้ย ก็อยากมาก


ปัญหาหลักเรื่องแผนการเล่นกับบาร์เยิร์นเลย ก็คือยังยืนยันจุดเดิม ว่า มันทำให้ดีกว่านั้นไม่ได้แล้ว ทีมมาถึงจุดพีคแล้ว

รักษามาตราฐานไม่ได้ ก็ต้องรับกรรมไป


ตอนอยู่มิลาน ปีท้ายๆ ก็เหมือนกัน ทีมมันถึงจุดอิ่มตัวด้านแท็กติกแล้ว ทั้งแผน คริสมาส กับแผน ไดม่อน

คืออยู่ไปก็มีแต่ทรุด เลิกลาต่อกันก็ดีที่สุดแล้ว  
 


เรื่องแชมป์ลีก มานั่งนึกๆ ปีที่ควรต้องได้แชมป์ลีกจริงๆ ก็
มิลาน 2002-03 / 04-05 / 05-06 ทุกอย่างพร้อม ควรแชมป์
มาดริด 2013-14 นี่ก็ไม่น่าพลาด+ บาร์ซ่ายังไม่ลงตัว

ปีอื่นๆนี่คิดว่าอนุโลมได้ บางปีน่าเห็นใจ

เรจจิน่ากับปาร์ม่านี่ตัดไปเลย

- ยูเว่ 2-3 ปี ก้ำกึ่งๆ ว่าล้มเหลวไหม เพราะช่วงนี้โรม่า ลาซิโอ เขาโหดจัดจริงๆ + เดล ร่าง 2 ความเก่งลดลงเยอะ (แต่สำหรับเคสนี้ จะนับรวมว่าควรแชมป์ก็ได้)

- มิลาน 2001-02 อันนี้ หยวนๆให้เลย ถึงจะมีตัวใหม่ แต่ยังไม่ดีพอ + เพิ่งสร้างทีม + ถึงยูเว่ไม่ได้แชมป์ โรม่าก็ยังโหดกว่า

- มิลาน 06-07 / 07-08 / 08-09 ปัจจัยหลักที่เห็นใจเลย คือไม่มีเชฟเชนโก้แล้ว และบอร์ดไม่สามารถหากองหน้าที่ดีระดับนั้นมาแทนได้ ส่วนตำแหน่งอื่นๆก็โรยรา

- เชลซี 2010-11 อันนี้ ก็น่าเห็นใจ ที่เคยอ่านมา แฟนเชลซีเขามองว่า บอร์ดมีปัญหาเรื่องการซื้อขาย ตัวเก่งออกเยอะ แต่ตัวใหม่ธรรมดาๆ แฟนๆบางคน มองว่าอาจจะรีบปลดเกินไปด้วยซ้ำ

- PSG 2011-12 ได้มาคุมตอนครึ่งฤดูกาล เลยก้ำกึ่งว่าควรแชมป์หรือไม่

- มาดริด 2014-15 ปีนี้เจอ MSN (แต่สำหรับเคสนี้ จะนับรวมว่าควรแชมป์ก็ได้เหมือนกัน)
 


มาขยายความหน่อยนิดนึง

ปีแรกของ แก กับปาร์ม่า นี่คือ จบอันดับ ที่ สอง เลยนะ ห่างยูเวนตุสของ ลิปปี้ แค่ สองแต้มเอง

และนั่นคือ ปาร์ม่าที่ใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์ลีกที่สุด

แต่ปี สองปาร์ม่าก็หล่น ไปอันดับ 6 เลย และเหมือนเดิม คือตอนนั้นเรื่องซื้อขายนักเตะแกก็ไม่คิดจะหาใครมาเพิ่มเป็นพิเศษ ตอนนั้นคือ บาจโจ้ เสนอชื่อย้ายจากมิลานมาเลยนะ แต่แกก็บอกว่าถ้ามาเล่นต้องทำตาม Tactic แก ผลงาน ปาร์ม่าผลงานแย่ลง ในขณะที่บาจโจ้พา โบโลญญ่าขึ้นไปหัวตาราง


ปี 1999-2000 กับยูเวนตุ้น ก่อนหน้านั้นนี่ ยูเว่ อยู่อันดับ 7 ในฤดูกาลก่อน เนื่องจากเหตุหลักๆ คือเดลเจ็บ มาถึงปีแรก จบอันดับ สอง แต้มห่างจากแชมป์แค่แต้มเดียว แต่สามนัด สุดท้าย นี่คือ เสมอ 1 แพ้ 1 ชนะ 1 หลุดแชมป์เฉย กับยูเว่สิ่งที่แตกต่างไปจากลิปปี้เลยก็คือ กองกลางอย่างซีดานมีบทบาทกว่ายุคลิปปี้มากขึ้น (เพราะเดลเจ็บ)



โดยรวมผลงานแก ปีแรกที่คุมทุกทีมนี่คือ ทีมยกระดับ จากเดิม แทบทุกทีม

จะมีก็แต่ บาร์เยิร์นนี่แหละ ที่อยู่ในระดับสูงสุดอยู่แล้ว จึงทำให้ระดับการเล่นไม่ได้ดีขึ้น

ที่ผมประดับใจ พี่แจ้ไม่ใช่ เรื่องความสม่ำเสมอหรอก แต่เป็นแนวทางการเล่นของมิลานในยุคแก แนวทางการเล่นของมิลาน ในยุค พี่แจ้ ก็ถือว่าเป็นรากฐานระบบการขึ้นเกมของอิตาลี่ ตลอดยุค ปิร์โล่ ครองแดนกลางก็ว่าได้ คล้ายๆ กับแนวทางการเล่น Press Zone ในยุคก่อนของมิลานที่เป็นรากฐานให้กับทีมชาติ