หลังจากเปิดฤดูกาลมาได้ด้วยฟอร์มเกมรุกอันยอดเยี่ยมจนผู้คนเกือบจะลืมเลือนแท็คติก “รถบัส" อันขึ้นชื่อลือชา ในที่สุดโจเซ่ มูริญโญ่ก็งัดออกมาใช้จนได้ในเกมที่เฉือนเอาชนะเซาแธมป์ตันไป 1-0

ประตูโทนของโรเมลู ลูกากูเพียงพอแล้วที่จะส่งให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบดบี้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้บนหัวตารางต่อ ติดก็แต่ประตูได้เสียน้อยกว่าจึงทำให้ร่วงมาอยู่ในอันดับที่ 2

เรื่องการเก็บ 3 คะแนนนั้นถือว่าทำได้ตามเป้าหมายเป็นอย่างดี เหลือแต่เรื่องฟอร์มในสนามนี่สิที่ไม่ใช่แค่ไม่เข้าเป้าเข้าตา แต่ทำเอาหัวใจแฟนๆจะวายไปด้วยเลย

แม้ว่าจะเริ่มต้นเกมได้ดี จนสามารถทำประตูที่เกิดขึ้นลูกเดียวในเกมนี้ไปได้ก่อน แต่หลังจากที่หนังม้วนเดิมเหมือนเกมที่แล้วเริ่มฉาย ไล่จากการเก็บบอลในแดนฟน้าไม่ได้ ตั้งเกมไม่ขึ้นเพราะขาดตัวที่มีพลังขับเคลื่อนในการทำเกมรุกตรงกลาง ทำให้เกมของ แมนฯยูฯ เริ่มถอยล่นลงไปรับมากขึ้น

จนกระทั่งพักครึ่งและกลับลงมาเล่นกันใน 45 นาทีที่เหลือมันก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ เพราะทีม “นักบุญ” เซ็ตเกมรุกกันมาต่อเนื่องจากครึ่งแรก ปั่นป่วนแนวรับของทีมเยือนได้ โดยเฉพาะมาริโอ เลอมิน่าที่เด่นแทบจะทุกจังหวะ จนเกือบจะตีเสมอได้ถ้าไม่ติดว่าโอริโอล โรเมอูทำหมูคงยิงจ่อๆหลุดเสาไปซะก่อน รวมทั้งจังหวะที่โขกไปโดนมารูยาน เฟลไลนี่สกัดจากเส้นอีกดอก

แม้ว่าทาง “ปีศาจแดง" จะไม่ถึงกับยวบและมีสวนขึ้นมาบ้าง แต่อันแดร์ เอร์เรร่าที่ถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองก็ดันซัดเหน่งๆข้ามคานไปอีกซะได้ นี่เป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากเกมที่แล้วเช่นเดียวกันกับการจบสกอร์ไม่ลงในจังหวะที่ควรทำให้ได้

ท้ายเกมนี้แทบจะเรียกว่าเป็นการเล่นวันเวย์ของทาง เซาแธมป์ตัน เลยก็ว่าได้ เพราะแมนฯยูไนเต็ดลงไปเล่นเกมรับกันเต็มตัว ไล่ตั้งแต่การเปลี่ยนคริส สมอลลิ่งลงไปเล่นแทนเฮนริค มาคิทายาน ก่อนจะจบไปด้วยการมีกองหลังถึง 6 คนในสนาม หลังจากดาลี่ย์ บลินด์ลงเล่นแทนมาร์คัส แรชฟอร์ด เรียกได้เลยว่า รถบัส ของจริง

จนแล้วจนรอด หลังจากตั้งรับกันจนเยี่ยวเหนียว ในที่สุดก็จบเกมไปด้วยแอ็คชั่นข้างสนามที่ มูริญโญ่ โดนเคร็ก พอว์สันไล่ออกจากสนาม ซึ่งแว่วว่ามาจากการที่เจ้าตัวออกแอ็คชั่นเกินเหตุ ซะงั้น ...

อย่างที่เราเห็นกัน นี่ไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดของพลพรรค “ปีศาจแดง" โดยเฉพาะในแง่ของเกมรุก แต่หากพูดถึงเกมรับแล้วถือว่าเล่นกันได้ดีเช่นเคย แม้ว่าจริงๆแล้วทาง เซาแธมป์ตัน จะทำเสียของไปเองบ้างก็ตาม

โดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์อย่างเอริค ไบญี่กับฟีล โจนส์ ที่แม้ว่าจะทำผิดพลาดจนทีมต้องเสียแต้มมาในเกมกับสโต๊ค ซิตี้ แต่ผลงานโดยรวมถือว่าน่าพอใจ ยิ่งกับ โจนส์ แล้วนั้น ซีซั่นนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ทุ่มเท ดักสกัดจังหวะช่วยทีมได้อยู่ตลอด ที่เหลือก็แค่ภารวนาให้เจ้าตัวอย่าเจ็บอย่าจนขึ้นมาก็พอ

อย่างที่เกริ่นไปทั้งบทความก่อนหน้า รวมทั้งไม่กี่บรรทัดข้างบนนี้ว่า เกมรุกของยูไนเต็ดค่อนข้างที่จะมีปัญหาในการสร้างมิติการเข้าทำ เพราะตัวรุกอย่าง มาคิทายาน มักจะผีเข้าผีออกอยู่บ่อยๆ ดีหน่อยที่เกมก่อนหน้านี้มีแอสซิสต์ช่วยได้ แต่พอไม่มีขึ้นมา คงพูดได้เหมือนกันว่าเจ้าตัวเหมือนจะฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานที่แฟนๆคาดหวัง

แน่นอนว่านี่เป็นผลพวงมาจากการขาดหายไปของพอล ป็อกบาที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาคืนสนามอีกเมื่อไหร่ เพราะข่าวล่าสุดทางสโมสรกำลังตัดสินใจว่าส่งตัวแข้งเลือดเฟร้นช์เข้ารับการผ่าตัดหรือไม่ เพราะแม้ว่าขนาดของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะมีขุมกำลังใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งในยุโรป แต่รายละเอียดในการเล่นบางอย่างนั้น นักเตะต่างคนใช่ว่าจะทดแทนกันได้

เรื่องของ ป็อกบา คงต้องพักเอาไว้ก่อนและมาพิจารณาถึงตัวเลือกที่เหลือของทีม ซึ่งลึกๆแล้วผมเองก็เข้าใจ มูริญโญ่ อยู่เหมือนกันในเกมนี้ว่าทำไมถึงต้องรับอะไรขนาดนั้น

ในมุมมองผมแล้ว นี่คือหนึ่งในแท็คติกที่กุนซือชาวโปรตุกีสมักจะทำได้ดีเสมอ ไม่ว่าจะหยิบยกมาใช้กับทีมใดที่เขาคุมอยู่ข้างสนามก็ตาม จึงไม่น่าแปลกสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีแฟนบอลบางส่วนรู้สึกนอยด์เล็กน้อยที่มันถูกนำมาใช้กับทีมที่ชื่อชั้นเป็นรองกว่าก็ตาม แต่หากลองดูกันดีๆแล้วจะเห็นว่า มูริญโญ่ ไม่ได้งัดเอาไม้ตายก้นหีบของตัวเองออกมาโชว์พร่ำเพื่อ

แต่นั่นเป็นเพราะแนวรุกของทีมไม่ทำงานต่างหากล่ะครับ ถึงขนาดไปติวกันมาแล้วในช่วงพักครึ่งแต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น แถมยังต้องเล่นนอกบ้านและทาง “นักบุญ" เองก็มาดีน่าดู อดีตกุนซือเชลซีเลยต้องตามน้ำด้วยการเพลย์เซฟก่อนจะส่งตัวรับลงไปเพิ่มเพื่อเน้น 3 คะแนนในขณะที่ทีมยังมีโอกาส

ว่ากันในเกมนี้แล้วแม้ว่าจะไม่สวยงามหมดจด แต่ผลการแข่งขันก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ

ที่เหลือก็คือการบ้านของทีมงาน มูริญโญ่ ทั้งหมดว่าจะทำยังไงให้แนวรุกเล่นกันได้ดีขึ้นกว่าเดิมในยามที่ไม่มี ป็อกบาในเร็ววันนี้เป็นแน่

รถบัสจะได้ไม่ต้องถอยเอามาจอดบ่อยๆให้เปลืองแรง

ส่วนแฟนบอลก็จะได้ไม่ต้องลุ้นกันจนเยี่ยวเหนียวจนแทบจะเป็นนิ่วแบบนี้นี่ไงล่ะครับ !



-----------------------------------------------------------------------






ปล.ติชมได้เช่นเคยครับ ขอบคุณครับ

แมนยูพอไม่มีป็อกบามันขาดตัวคุมบอลอ้ะ แต่ที่จริงต่อให้มีป็อกบามันก็ยังต้องการคนคอยคุมจังหวะในเขตโทษคู่กับลูกากูอยู่ดี

ตำแหน่งนี้ที่ควรทำได้คือตำแหน่งมาคิตายาน กับมาต้า แต่เจ้าตัวดันเล่นไม่ออกอีก มาต้าก็ด้วย รู้สึกฝากการคุมจังหวะบอลที่ 2 คนนี้ไม่ได้เลย

อย่างเชลซี ซิตี้ สเปอส์ เค้าจะมีนักเตะเบอ 10 เจ๋งๆ อย่างน้อย 1 คน เพื่อพลิกบอล สร้างจังหวะในเขตโทษ ซึ่งเป็นประเภทคาดหวังได้เลย

ยังไงก็ตาม แมนยูขนาดทีมใหญ่มาก เรื่องการขาดแคลนผู้เล่นจะไม่ใช่ข้ออ้างในวันปิดฤดูกาล สุดท้ายผจกต้องมีแท็คติกที่เป็นทางออกสำหรับทุกๆสถานการณ์ สำหรับเคสนี้ผมยังคงให้ผ่านแม้ว่าจะเยี่ยวเหนียวก็ตาม

เอา สลาตันมาเล่น กองกลาง เก็บบอลได้แน่

มันถึงขนาดนั้นเลยหรอครับ "ชัยชนะสุดลากเลือด บนรอยถอยรถบัส"

ความรู้สึกมันก็แค่ เปลี่ยนแทคติค ไปเน้นเกมรับ นะ

ลุ้นเยี่ยวเหนียวหน่อย แต่ก็ได้ผล

ฤดูกาลนึงมีตั้งหลายนัด คงบุกยับทุกนัดไม่ไหวหรอก
เล่นหลายๆรูปแบบ คู่แข่งก็มีหลายรูปแบบ
อย่างน้อยนัดนี้เราก็รู้อย่างนึงคือเกมรับเราแข็งมาก
ถึงจะลุ้นสุดๆก็เหอะ

ไม่ต้องเอาเฟลไลนี่ลง แล้วเอา Matic คู่ Herrera ตามปกติ
ที่มันไม่ไหลลื่นจริงๆอาจเพราะเอาฟูลงไปเป็นกลางก็เป็นได้นะ

ฝากแก้ตัวสะกดบางคำด้วยนะครับ เช่น รากเลือด ไม่ใช่ลากเลือด ถอยร่น ไม่ใช่ถอยล่น

จะรถบัส รถฟอร์มูล่า สุดท้ายทีมชนะก็ได้ 3 แต้ม

ถ้าผมเป็นผู้บริหารแล้วอยากได้แชมป์หรือลุ้นแชมป์ ผมก็คงจะเลือกมูรินโญ่คุมทีม

ยอดเยี่ยมครับ

มันก้แค่เปลี่ยนแทคติกมาเล่นรับแล้วโต้

แต่ปัญหาคือกลางเก็บบอลไม่ได้ บวกกับเซ้ามาดีด้วย

เลยต้องเล่นรับเต็มตัว จริงๆก้คล้ายเกมส์เลสเตอร์แหละ

แต่ตอนนั้นสวนได้ลูกสองมันก้เลยง่ายกว่า

เจอทีมใหญ่เดี๋ยวรู้เลยหลังเราเหนียวจริงไหม สู้ๆ

ชอบมูตรงความเคี่ยวต่อเกมรับนี่ล่ะ

สมัยอยู่อินเตอร์นี่ชัดมาก

UCL กับอินเตอร์นี่พิสูจน์ถึงแทคติกเกมรับของแกได้ดีเลยทีเดียว

ถึงจะหลัง 6 แต่ถ้าเล่นเหมือนตอนเจอเซาท์ หากเจอทีมที่เกมรุกโหๆคมๆ แมนซิ ลิเวอร์พูล เชลซี สเปอร์ เดเกอา ก็คงช่วยไม่ไหวมั้ยครับ

ตอนพาเชลซีได้แชมป์ก็ฟอร์มแบบนี้แหละครึ่งหลังฤดูกาล ถึงคู่แข่งจะมีโอกาสบ้าง เสียวๆหน่อย แต่ก็ยิงประตูไม่ได้เอง

พอเริ่มมีเกมส์ทีมชาติ + UCL เข้ามาคั่น
ฟอร์มเริ่มหนืดขึ้นเรื่อยๆ การมีป๊อกบา เหมือนเหรียญ 2 ด้าน

เอาจริงๆ ถ้าลูกที่เอเรร่ายิงเหน่งๆเข้า กลายเป็น 2-0 ผมว่าแมทช์นี้มีสิทธิ์ไหลไปถึง 3หรือ4ลูก พอไม่ได้ ก็ต้องลุ้นแบบที่เห็น ขาดป๊อกไม่มีคนเก็บบอลแดนกลางและเลี้ยงกินตัว แต่นัดนี้ MK ก็ห่วยจริงๆทำบอลเสียตลอด แต่ยังไงก็ 3แต้ม ผมว่าทีมแบบนี้แหละน่ากลัว แช่งยาก รอดู พระเจ้ากับป๊อกกลับมา ทำให้ทีมมีตัวเปลี่ยนเกมส์ถึง2คน ผมว่าบางทีกองแช่งบางทีม อาจจะถึงขั้นอกแตกตาย

3แต้มดีกว่าา

แมนยูเล่นดีนะครับ ตามแทคติคเป้ะๆ มาเยือนเซาท์ไม่ง่ายอยู่แล้ว มูคงไม่สั่งให้เดินหน้าฆ่ามันหรอกครับ ทำให้ได้ 1 ลูกแล้วรับ จนชนะ สำหรับผมเล่นดีแล้วครับ

ถอยบ่อยๆ นี่รอวันโดนเหมือนกันนะ