10 September 2017 11:18 AM by Zaine_R
ครั้งแรกกับการดูทีมชาติไทยในแดนจิงโจ้
แม้ว่าจะมาพักอาศัยอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นานเกือบ 4 ปีแล้ว แต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้มีโอกาสดูทีมชาติไทยเตะแบบติดขอบสนามเหมือนอย่างในเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเหมือนกัน

เกมนัดส่งท้ายของทีมชาติไทยในศึกฟุตบอลโลก ปี 2018 ที่เมืองรัสเซีย ต้องเดินทางมาเยือนสนามเมลเบิร์น เรคแทนกูลาร์ สเตเดี๊ยมซึ่งมีความจุอยู่ที่ราวๆ 30,000 คนบนแสตนด์ ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บสุดใจ เพราะฝนตกมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ซึ่งจริงๆแล้วผมเห็นใจนักเตะไทยอย่างมาก เพราะถ้ากำหนดการณ์เตะเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น อากาศจะอบอุ่นกว่านี้เยอะ แต่ดันมาโดนช่วงทิ้งทวนหน้าหนาวก่อนเข้าฤดูใบไม้ผลิซะได้

ใจจริงผมเองอยากที่จะเก็บภาพบรรยากาศในช่วงก่อนเริ่มเกมมาให้ได้ชมกัน แต่เนื่องจากภรรยาที่แสนน่ารักของผมดันเลิกงานเลท ทำให้กว่าจะไปถึงสนาม เกมก็เริ่มไปได้ราวๆ 10-15 นาทีแล้ว จึงจะขอบอกเล่าผ่านตัวหนังสือแทนก็แล้วกัน

ที่จริงแล้วผมกับภรรยา(และเพื่อนๆ)จองที่นั่งได้โซนที่อยู่ถัดไปจากพื้นที่ของบรราดากองเชียร์ไทยซัพพอร์ตเตอร์ออกมาหน่อย โดยต้องปะปนอยู่กับบรรดากองเชียร์ “ซ็อคเกอร์รูส์” แต่หลังจากแสกนตั๋วเข้าชมผ่านมือถือแล้วและมองหาที่นั่งของตัวเอง ก็มีพี่ๆคนไทยกวักมือเรียกให้ไปยืนเชียร์ในโซนเดียวกัน เบียดกันหน่อย แต่อุ่นสู้ลมหนาวได้ดีนักแล ฮา

ผมเองก่อนหน้าที่จะเดินทางมายังแดนจิงโจ้ ก็เคยได้มีโอกาสเข้ากรุงไปดูทีมชาติไทยโม่แข้งในยุคของ “พี่โก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองที่สนามราชมังคลากีฬาสถานอยู่เหมือนกัน ซึ่งแน่นอนว่าการได้มานั่งอยู่ท่ามกลางกองเชียร์คนไทย แม้ว่าเกมจะเล่นกันในต่างแดนก็ตาม มันก็ช่วยดึงเอาความรู้สึกเดิมๆของผมกลับมา เหมือนสมัยที่อยู่ประเทศไทยยังไงยังงั้นเลยก็ว่าได้

จะมีก็ตรงสภาพอากาศนี่แหละครับที่ต่างกันสุดขั้วกับตอนนั้น เพราะจำได้ว่าที่ไทยผมยืนเหงื่อเปียกรักแร้เต็มไปหมด ส่วนที่นี่ใส่เสื้อ 3 ชั้นยังหนาวสั่น ฮา

ตรงนี้เองนี่แหละที่ทำให้ผมเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่า นักเตะของทีมชาติไทยที่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแดนสนามที่อากาศกำลังร้อนได้ที่ มาเจอกับความหนาวเหน็บสุดใจ ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายที่ดึงให้อุณภูมิต่ำลงไม่หยุดอีกนั้นต้องเจอกับงานที่ยากลำบากตั้งแต่ยังไม่ก้าวเท้าลงสนามเลยด้วยซ้ำ

ผมเชื่อว่าความต่างเรื่องสภาพอากาศก็เพียงพอที่จะทำให้ขุนพลช้างศึกเสียเปรียบมากพอแล้ว ยังไม่นับเรื่องสภาพร่างกายที่แข็งแรงกว่าของนักเตะออสซี่หรือการเป่าฟาวล์ของกรรมการที่ดูจะไม่เป็นใจให้กับทางทีมเยือนสักเท่าไหร่

จริงๆเกมนี้ถ้ามองกันตามเนื้อผ้า แม้ว่าเราจะทำได้ดี แต่ก็มีหลายจุดที่ต้องปรับปรุง ทั้งการเก็บบอลในแดนหน้า รวมทั้งจังหวะการเล่นเกมรุกในสภาพที่ต้องเจอกับทีมที่เหนือกว่า ต้องเด็ดขาดและแน่นอนกว่านี้ รวมทั้งแบ็คสองฝั่งซึ่งจริงๆแล้วมีหลายจังหวะมากที่สามารถต่อบอลพากันขึ้นมาจนเกือบสุดเส้นได้ แต่จังหวะสุดท้ายน่าผิดหวัง

แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปครับว่า ทั้งหมดทั้งมวลนั้นอยู่ภายใต้การเล่นนอกบ้านในสภาพอากาศหนาวเหน็บ ปัจจัยภายนอกที่พร้อมส่งผลถึงภายในได้ทุกเมื่อ ฉะนั้นผมจึงไม่ขอตัดสินนักเตะไทยไปมากกว่าการชื่นชมที่พวกเขาพยายามสู้กันอย่างเต็มที่ตลอด 90 นาทีในสนาม

ไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาดูในทีวีนั้น ทุกท่านเห็นหรือได้ยินหรือเปล่าว่า ในตอนที่ทีมชาติออสเตรเลียยิงเข้านั้น จอรอบสนามจะโชว์ตัววิ่งพร้อมเสียงอันกระหึ่มกึกก้องฉลองประตูของเจ้าบ้านกันแบบสุดๆ แต่พอทางทีมเยือนยิงได้บ้างนั้น ไม่มีอะไรสักแอะ

ถึงจะอย่างนั้น รู้ไหมครับว่าตอนที่ปกเกล้า อนันต์ทำประตูได้นั้น เสียงเชียร์ของกองเชียร์ไทยที่ผมได้ยินน่ะมันดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม โดยไม่ต้องพึ่งซาวน์เอฟเฟ็คอะไรทั้งนั้น ทั้งเสียงดีใจและสีหน้าที่มีความสุขของแฟนบอลไทยทุกคน

แฟนบอลไทยที่เดินทางมา 8-9 ชั่วโมงจากบ้านเกิดของตัวเอง หรือแฟนบอลไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นคนที่แบกความฝันของตัวเอง ความหวังของครอบครัวเอาไว้หรือคนที่มาแสวงหาโอกาสเพื่อวันข้างหน้า ก้มหน้าก้มตาร่ำเรียน ทำงานตรากตรำ

ทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการเดินทางมายังสนามแห่งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทัพนักเตะไทย ซึ่งผมเชื่ออย่างยิ่งว่าผลการแข่งขันมันก็แค่อีกเรื่องนึง

เพราะการได้มาตะโกนเชียร์พร้อมกันสุดเสียง กระโดดพร้อมกันสุดตัวนั้น น่าจะทำให้นักเตะไทยทุกคนบนสนามได้รู้ว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเดินทางมาไกลเพียงใด ต้องต่อสู้ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บแค่ไหน

ก็จะมีพวกเราที่คอยให้กำลังใจและอยู่สู้ด้วยกันไปจนสุดปลายทางยังไงล่ะครับ

ฟุตบอลโลกครั้งหน้า ค่อยว่ากันใหม่ สู้ๆไทยแลนด์ !



---------------------------------------------------------------




ปล.จริงๆตั้งใจจะเขียนให้ไวกว่านี้แต่ติดงานยุ่งเล็กน้อย ส่วนรูปน้อยไปหน่อยต้องขออภัยจริงๆครับ มัวแต่ลุ้น ฮา ติชมได้เช่นเคยครับ
เข้าร่วม: 15 Jul 2007
ตอบ: 2797
ที่อยู่: เดินไปเจอขี้ ถ้าเดินข้ามไปตีนก็ไม่เลอะขี้
โพสเมื่อ: Sun Sep 10, 2017 12:22 pm
[RE: ครั้งแรกกับการดูทีมชาติไทยในแดนจิงโจ้]
ขอบคุณที่เอาบรรยากาศมาแบ่งปันนะครับ ดูอ่านสรุปเกมส์ก็ยังไม่ได้ฟิลลิ่งเท่ากับอ่านความรู้สึกของกองเชียร์ครับ ขอบคุณมากๆ
0
0
เข้าร่วม: 03 Jan 2009
ตอบ: 132
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Sun Sep 10, 2017 2:01 pm
[RE: ครั้งแรกกับการดูทีมชาติไทยในแดนจิงโจ้]
น่ายินดีแทนคนไทยในเมลเบิร์นด้วยนะครับ
ส่วนตัวอยู่ซิดนีย์ถ้ามาแข่งที่นี่ผมกับเพื่อนไปดูแน่นอน
และอารมณ์ในการเชียร์คงไม่ต่างกันแน่นอน
1
0
ความดี ไม่มี ขาย อยากได้ ต้องทำเอง

ใจที่รู้จัก พอ คือ ใจที่มีความสุขที่สุด
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 3285
ที่อยู่: แมนเชสเตอร์
โพสเมื่อ: Fri Sep 15, 2017 2:31 pm
[RE: ครั้งแรกกับการดูทีมชาติไทยในแดนจิงโจ้]
ผมก็อยากไปดีใจ ตอนทีมชาติไทยยิงประตูได้ ในนัดเยือนเหมือนกันครับ
เพราะแค่เห็นจากหน้าจอทีวี เห็นคนที่อยู่สนาม ดีใจกันสุดๆ ก็ปลื้มแล้ว
0
0