ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 28 Oct 2010
ตอบ: 67
ที่อยู่: โอลแทร็ฟฟอร์ท
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 11:39 am
ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ
โดยปกติร่างกายคนเราใช้พลังงานวันละ 2000 แคล ใช่มั้ยครับ แต่ช่วงลดน้ำหนักผมกินวันละ 1500 แคล +เตะบอลเกือบทุกวัน แล้วถ้าผมลดน้ำหนักได้ตามเป้าแล้ววกลับมากินวันละ 1700-2000 แคล +ออกกำลังกายประจำ จะเกิดโยโย่มั้ยครับ กังวัลมาก

ปล ค่าbmr ผม 1750นะ หรือควรจะกินตามค่า bmr ดี 5555
0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8742
ที่อยู่: ท่าแซะ แซะมง ตะลุ่มตุ้มมง ♥♪♫
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 11:42 am
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
กินเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการยังไงก็ไม่เกิดโยโย่หรอก

ลองหาแคลลอรี่ที่พอเหมาะกับตัวเอง โดยสังเกตุจากน้ำหนักหรือรูปร่างทุกอาทิตย์

แล้วค่อยๆปรับจำนวนแคลลอรี่ตามความเหมาะสมครับ
เข้าร่วม: 27 May 2009
ตอบ: 546
ที่อยู่: จะรุ้ไป ทำไม
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 11:44 am
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
ถ้ากินน้อยกว่า BMR เกิดเเน่นอนครับ
เข้าร่วม: 05 Nov 2008
ตอบ: 9221
ที่อยู่: ได้ก็เพราะรักที่ได้จากเธอ
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 11:47 am
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
โยโย่มันเกิดจากการทรมานร่างกายแบบเฉียบพลันครับ ไม่ใช่กินเยอะ-กินน้อยแล้วนน.แปรปรวน

ถ้าเฉพาะข้อมูลที่ท่านแจ้ง ไม่มีปัญหาโยโย่หรอก
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2867
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 11:51 am
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
ไม่เคยเห็นคนออกกำลังกาย แล้วเกิดโยโย่นะ

อย่างคุณนี่กินวันละ 2000 ก็ไม่น่าจะอ้วนเลย เพราะเตะบอลเกือบทุกวันนิ
เข้าร่วม: 05 Jun 2007
ตอบ: 807
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 11:59 am
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
ไม่โย่ยิ่งใช้พลังงายมากยิ่งกินมาก ตัวจะหนาบึก พวกเล่นกล้ามรียกว่าการเบลา หรือบลัค นั่นเองแต่ถ้าออกมากินน้อย มันจะผอมเกร็งๆแบบนักมวย
ตบเด็กเตะหมาท้าผู้หญิงต่อยแย่งขนมเด็ก
เข้าร่วม: 28 Oct 2010
ตอบ: 67
ที่อยู่: โอลแทร็ฟฟอร์ท
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 12:00 pm
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
ขอบคุณทุกเม้นฮะ ผมแค่กลัวว่าหลังจากน้ำหนักคงที่แล้วกลับมากินปกติ อัตรการเผาผลาญจะลดลงอะคับ เช่น แบบปกติกินเกิน2000แคล แต่หลังจากลด นน แล้ว กินแค่เกิน1500 ก็อ้วนแล้วประมาณนี้
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4892
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 12:15 pm
ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ
ของผมออก ที25 ลดจาก 80กว่า เหลือ 60กว่า
หยุดออก ที25 ไป เปลี่ยนเป็นออกบ้างไม่ออกบ้าง ตอนนี้ นน 71-72 แต่ปีนึงได้นะ ถึงขึ้นมาเท่านี้
ตอน 60 กว่าคนบอกผอมไป เหี่ยวๆ
เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 16932
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 12:23 pm
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
กินธรรมดา + ออกกำลังกาย ระบบเผาผลาญคงไม่รวน

แต่ท่านกินเยอะขึ้น ก็คงต้องออกกำลังมากขึ้น ถ้าอยากให้น้ำหนักเท่าเดิม

ระบบร่างกายมันตรงๆ เนี่ยแหละ กินเข้า - เผาผลาญ = น้ำหนัก
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 45824
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 2:05 pm
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
ต้องเข้าใจหลักการก่อนน่ะครับ

- โยโย่เอฟเฟค มันเกิดจากการที่ระบบเผาผลาญพัง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆก็เช่นปกติกินกระจาย ของทอด ของมัน กินหมด ระบบเผาผลาญของร่างกายมันก็จะชินกับแบบนี้ ทำงานแบบนี้ได้เต็มที่ 100%(ถึงจะอ้วนก็เถอะ) แต่สุดท้ายอยากลดน้ำหนัก หักกิบไม่กินพวกนี้เลย กินอาหารคลีน ร่างกายแทบจะไม่ได้รับไขมันอะไรเลย ระบบเผาผลาญของร่างกายมันก็จะฉลาดเอง โดยการปรับให้เผาผลาญน้อยกว่าปกติ อาจจะเหลือ 50% สุดท้ายพอท่านเลิกลดน้ำหนักกลับมากินอย่างช่วงแรก ระบบเผาผลาญมันก็ไม่เหมือนเดิม ไม่สามารถเผาผลาญได้ 100% เหมือนเดิม มันก็จะเกิดการ โยโย่เอฟเฟค นั้นเอง

ส่วนเคสของท่าน มันก็ไม่เข้าข่ายโยโย่หรอกน่ะครับ แต่น้ำหนักมันก็ต้องเพิ่มเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะกินมากกว่าเดิม

ส่วนค่า bmr ง่ายๆมันก็คือหลักการนับแคลปกติ ซึ่งท่านควรกินให้พอดีตามค่านั้นล่ะครับ จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่อยากน้ำหนักเพิ่มก็กินน้อยกว่าค่านั้นเผื่อๆไปหน่อยก็ได้

ว่าแต่ค่า bmr ท่านน้อยไปมากน่ะสำหรับคนออกกำลังกาย ท่านได้คิดคำนวณเพิ่มการออกกำลังกาย คูณเข้าไปหรือยัง? ผมว่าค่า bmr ท่านผิดอยู่น่ะ
เข้าร่วม: 28 Oct 2010
ตอบ: 67
ที่อยู่: โอลแทร็ฟฟอร์ท
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 3:54 pm
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
boy1000 พิมพ์ว่า:
ต้องเข้าใจหลักการก่อนน่ะครับ

- โยโย่เอฟเฟค มันเกิดจากการที่ระบบเผาผลาญพัง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆก็เช่นปกติกินกระจาย ของทอด ของมัน กินหมด ระบบเผาผลาญของร่างกายมันก็จะชินกับแบบนี้ ทำงานแบบนี้ได้เต็มที่ 100%(ถึงจะอ้วนก็เถอะ) แต่สุดท้ายอยากลดน้ำหนัก หักกิบไม่กินพวกนี้เลย กินอาหารคลีน ร่างกายแทบจะไม่ได้รับไขมันอะไรเลย ระบบเผาผลาญของร่างกายมันก็จะฉลาดเอง โดยการปรับให้เผาผลาญน้อยกว่าปกติ อาจจะเหลือ 50% สุดท้ายพอท่านเลิกลดน้ำหนักกลับมากินอย่างช่วงแรก ระบบเผาผลาญมันก็ไม่เหมือนเดิม ไม่สามารถเผาผลาญได้ 100% เหมือนเดิม มันก็จะเกิดการ โยโย่เอฟเฟค นั้นเอง

ส่วนเคสของท่าน มันก็ไม่เข้าข่ายโยโย่หรอกน่ะครับ แต่น้ำหนักมันก็ต้องเพิ่มเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะกินมากกว่าเดิม

ส่วนค่า bmr ง่ายๆมันก็คือหลักการนับแคลปกติ ซึ่งท่านควรกินให้พอดีตามค่านั้นล่ะครับ จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่อยากน้ำหนักเพิ่มก็กินน้อยกว่าค่านั้นเผื่อๆไปหน่อยก็ได้

ว่าแต่ค่า bmr ท่านน้อยไปมากน่ะสำหรับคนออกกำลังกาย ท่านได้คิดคำนวณเพิ่มการออกกำลังกาย คูณเข้าไปหรือยัง? ผมว่าค่า bmr ท่านผิดอยู่น่ะ  


ผมสูง172 หนัก 70 ค่า bmr อยุ่ที่ 1750 ส่วน TDEE ประมาณ 2700 ครับ ลืมบอก 55555
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 45824
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 19, 2017 4:37 pm
[RE: ถามเรื่องโยโย่เอฟเฟคหน่อยครับ]
yoosmart123 พิมพ์ว่า:
boy1000 พิมพ์ว่า:
ต้องเข้าใจหลักการก่อนน่ะครับ

- โยโย่เอฟเฟค มันเกิดจากการที่ระบบเผาผลาญพัง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆก็เช่นปกติกินกระจาย ของทอด ของมัน กินหมด ระบบเผาผลาญของร่างกายมันก็จะชินกับแบบนี้ ทำงานแบบนี้ได้เต็มที่ 100%(ถึงจะอ้วนก็เถอะ) แต่สุดท้ายอยากลดน้ำหนัก หักกิบไม่กินพวกนี้เลย กินอาหารคลีน ร่างกายแทบจะไม่ได้รับไขมันอะไรเลย ระบบเผาผลาญของร่างกายมันก็จะฉลาดเอง โดยการปรับให้เผาผลาญน้อยกว่าปกติ อาจจะเหลือ 50% สุดท้ายพอท่านเลิกลดน้ำหนักกลับมากินอย่างช่วงแรก ระบบเผาผลาญมันก็ไม่เหมือนเดิม ไม่สามารถเผาผลาญได้ 100% เหมือนเดิม มันก็จะเกิดการ โยโย่เอฟเฟค นั้นเอง

ส่วนเคสของท่าน มันก็ไม่เข้าข่ายโยโย่หรอกน่ะครับ แต่น้ำหนักมันก็ต้องเพิ่มเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะกินมากกว่าเดิม

ส่วนค่า bmr ง่ายๆมันก็คือหลักการนับแคลปกติ ซึ่งท่านควรกินให้พอดีตามค่านั้นล่ะครับ จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่อยากน้ำหนักเพิ่มก็กินน้อยกว่าค่านั้นเผื่อๆไปหน่อยก็ได้

ว่าแต่ค่า bmr ท่านน้อยไปมากน่ะสำหรับคนออกกำลังกาย ท่านได้คิดคำนวณเพิ่มการออกกำลังกาย คูณเข้าไปหรือยัง? ผมว่าค่า bmr ท่านผิดอยู่น่ะ  


ผมสูง172 หนัก 70 ค่า bmr อยุ่ที่ 1750 ส่วน TDEE ประมาณ 2700 ครับ ลืมบอก 55555
 


ถ้าแบบนี้ท่านต้องกินประมาณ 2200 แคลน่ะ ถึงจะโอเค ที่ตั้งกะทู้นั้นน้อยไปเยอะเลยล่ะ