ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ส่วนตัวผมเองนั้นไม่ได้รู้จักโค๊ชโย่ง วรวุฒิ ศรีมะฆะ เป็นการส่วนตัว แต่ถือว่ามีโอกาสที่ได้นั่งดูบอลแบบเก้าอี้ติดกันกับแกครั้งนึง เป็นบอลอุ่นเครื่องตอนที่สุพรรรมาเก็บตัวที่เชียงใหม่ เจอสโมสรจากเคลีก ที่อัลไพล์กอลฟ์คลับ ตอนแรกผมนั่งติดกับพ่อของเจ้าเหมี่ยว ณัฐพงษ์ สมณะ พ่อเค้าเป็นคนเหนือเหมือนกัน เลยคุยกันถูกคอประมาณนึง ซักพัก โค้ชโย่งเดินมากับเพื่อนแกคนนึงนั่งด้านซ้ายผม มีเก้าอี้ยางกั้นไว้ตัวเดียว โค๊ชโย่งตัวจริงตัวใหญ่มาก ดำๆ บึกๆเหมือนกวนอู ดูพุงแล้วไกล้คลอดเต็มที
เป็นคนที่แม้แต่ผู้ใหญ่ หรือคนปรกติทั่วไป ผมก็คิดว่าถ้าไม่สนิทจริงไม่น่าจะแหย่แกเล่นด้วยประการทั้งปวง
จากทางฝั่งพ่อแม่นักบอลที่คุยกันจุ๊กจิกพอโค๊ชโย่งนั่งปุ๊ปทุกคนก็เหมือนนิ่งๆเงียบแบบไม่มีสาเหตุ นั่งไปซักพักเราก็ดุบอลแบบเงียบๆ สุพรรณตอนนั้น ฟารีอัส มาคุมรอบสองและเป็นบอลที่สุพรรรสู้ไม่ได้เลย ทั้งความฟิต หรือ ทรงบอล ซักพักเหมือนได้ยินโค๊ชโย่งแกนับเลข หนึ่ง สอง สาม สี่ ซักพักก็ หนึ่ง สอง สามสี่ ห้า ใหม่ แต่ไม่เคยถึงยี่สิบ ทีนี้ถ้ามองไปในสนามจะเห็นว่าที่แกนั่งนับดังๆ จะหมายถึงจังหวะการต่อบอลของสุพรรรณ เมื่อฝั่งสุพรรณเก็บบอลไม่ว่าจะแย่งมาหรือเริ่มเกมส์เองแกจะนั่งนับจังหวะการ passing ของทีมว่าผ่านบอลได้กี่ครั้ง ก่อนที่จะโดนเพรสจนเสียบอลไป ซึ่งก็ไม่เคยจะผ่นบอลกันได้เกินสิบหรือสิบห้าครั้งเลย
นั่งนับซักพักก็ไปคุยกับอีกคนที่มาด้วยแต่จะเป็นภาษาแบบเหน่อๆหน่อยเหมือนคนใต้แต่แม่งพูดเร็วมากฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เป็นสามสิบนาทีที่โค๊ชโย่งแกพูดแต่เรื่องฟุตบอลอย่างเดียว การยืน การเคลื่อนที่ ตัวนั้นวิ่งยังไง ตัวนี้ส่งแบบไหน มีจังหวะนึงที่สุพรรณต่อบอลกันได้สวย แล้วเหมี่ยวเติมมาโอเวอร์แลปแล้วครอสออกไป เหมี่ยวทำหน้าเสียดาย โค๊ชโย่งแกยืนขึ้น ผมยังจำได้ว่าแกตะโกนดังมาก "เฮ้ยเหมี่ยว ไม่เป็นไรๆ ดีแล้วๆ เอาใหม่" เหมือนให้กำลังใจ บอกว่าเต็มที่แล้ว พูดอยู่สองสามครั้ง แล้วกลับมานั่ง นั่งดูอีกซักพักแกก็เดินออกไป
ทีนี้กลับมาที่ซีเกมส์ จะแชมป์ไม่แชมป์ จะตกรอบ หรือ อะไรยังไง โค๊ชโย่งนี่ก็ถือว่าได้สร้างสถิติใหม่เป็นโค๊ชไทยที่โดนวิจารณ์มากที่สุดไปแล้ว ส่วนใหญ่วิจารณ์แท็คติกส์การเล่น เรื่องเลือกตัวผู้เล่นมั่ง แต่เป็นผมเองรึเปล่าที่มองว่าระดับการเล่น หมายถึงนักเตะเองก็เล่นได้กากมากๆเหมือนกัน ผมคิดว่าครึ่งนึงที่ควรจะวิจารณ์กัน มันควรจะไปโฟกัสไปลงที่ที่ความมุ่งมั่นของนักเตะด้วย บางคนบอกอ้าวก็โค๊ชเป็นคนเลือกมาเอง คือเค้าก็เลือกเอาคนที่คิดว่าดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ มันก็ถูกแล้ว เพราะหลายๆคนในทีมเล่นให้สโมสรเห็นวิ่งตีนแทบขวิด พอมาเล่นซีเกมส์เป็นตัวแทนชาติ เล่นกันสองสลึง วิ่งเหยาะๆแหยะๆ แปะคืน ขึ้เกียจวิ่งก็โยน เล่นแบบเฉื่อยๆเหมือนประคองตัว สำหรับส่วนตัวผมเอง ผมคิดว่าปัญหาจริงๆที่ผมเห็น
มันเป็นเรื่องมุ่งมั่นในการเล่น การแข่งขัน ความเป็นมืออาชีพ ความภาคภูมิใจในการเป็นตัวแทนชาติ ความ aggressive ในการเล่น พวกนี้ต่างหากที่เป็นปัญหา
เอาเฉพาะตัวไทยลีกนะ แทบทุกคนในทีมผมเห็นเล่นให้สโมสร ผมเห็นเล่นดีกว่านี้แทบทุกตัว แทบทุกตัว คุณไปไฮไลท์ เด็กอายุเท่านี้ยี่สิบต้นๆพวกนี้วิ่งลืมตายกันหมด ทุ่มเท เก็บทุกจังหวะ ผมท้าให้ว่าไปดูตอนซ้อม ตอนที่โค๊ชเค้าแบ่งข้างทีมตัวจริง เจอ ตัวสำรอง หรือตอนคัด 11 ตัวจริงเล่นเกมส์ถัดไป ทุกคนเล่นกัน 120% ครับ 100% นึงนี่ยังน้อยไปเพราะต้องไปแย่งตัวจริงกับคนที่เป็นตัวจริง ตัวต่างชาติ หรือตัวที่ประสบการณ์เยอะกว่า
... แล้วกลับมาดูตอนเจอติมอร์เลสเต้เมื่อวานครึ่งแรกเอาซัก 60% นี่ถึงมั๊ย คือตอนซ้อมกับสโมสรบางคนมันยังเต็มที่มากกว่านี้ แต่ก็มีบางคนที่เอือยๆเป็นปรกติอันนั้นก็ไม่รู้จะจะแก้ยังไง ครึ่งหลังผมว่าดูดีขึ้นมานิด นิดเดียว แล้วผมชอบคอมเม้นท์คนนึงมาก ในบอร์ดบอลไทย เค้าบอกเจอติมอร์ที่เป็นรองค่อนข้างมาก ต่อให้ไม่มีโค๊ช นักเตะระดับไทยลีกพวกนี้จัดตัวลงไปตามตำแหน่ง แล้วเล่นเต็มที่ เล่นตามศักยภาพ คือเบสิคบอล ประสบการณ์การเล่นเราแน่นกว่า ยังไงก็ยังต้องสมควรชนะแบบไม่มีข้อแก้ตัว
อีกเรื่องที่เข้ามาในหัวอาจจะเป็นปัญหาเรื่องวินัย บอลเยาวชนนะ ผมว่ายังไงก้ต้องมีโค๊ชที่แข็งๆดุๆที่ต้องคอยตบพวกที่ไม่เข้ากลุ่ม หรือผู้จัดการทีมที่มีอายุ มีบารมี หรือ ประสบการณ์ เข้ามาหน่อยเรียกว่าต้องเอาให้อยู่ตั้งแต่เก็บตัว ปัญหาเรื่องวินัยสำหรับบ้านเรามันมีมาตลอดอยู่ที่ว่าจะทำได้ดีแค่ไหนเท่านั้น และส่วนตัวผมคิดว่าหลังจบเกมส์เมื่อวาน น่าจะมีการจัดหนัก ทั้งนายกสมาคม โค๊ชเฮง โค๊ชโย่ง ผมว่าเค้าคงจัดหนักจัดเต็มกันไปเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าต้องมีการคืนสติกันชุดใหญ่
แล้วย้อนกลับไปเรื่องโค๊ชโย่ง ยังไงวิจารณ์ก็ขอให้มีสติกันนิดนึง นักบอลทีมชาติเจเนอเรชั่นนี้รักชาติมากนะครับ พวก ตะวัน น้าเทิด โค๊ชโย่ง โชคทวี หรือ แม่แต่ซิโก้ พวกนี้การได้ทำทีมชาติไทยไม่ว่ารุ่นไหนเค้าถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตหมด เชื่อผมนะพวกนี้ถ้าได้ทำทีมชาติเต็มที่สุดชีวิตหมด เพราะสมัยก่อนเค้าถูกปลูกฝังมาอย่างนี้ อารมณ์บอลไทยสิบยี่สิบปีก่อน ตอนเล่นในสนามนี่ทุ่มเทมาก แทบจะตายแทนได้ ตอนโค๊ชเค้าก็สุดชีวิตเหมือนกัน บางคนวิจารณ์ แท็คติกส์ การเล่น ก็อย่าไปเรื่องส่วนตัว ผมคนนึงที่คิดว่าโค๊ช หรือ สมาคม เต็มที่แล้วกับการเตรียมตัว
ฟังโค๊ชเฮงคุยกับมดสุรเดชเค้าก็บอกซีเกมส์นี่ขนาดได้แชมป์ก็ยังเฉยๆเลยเพราะยังไงก็ต้องได้ ถ้าไม่ได้นี่คือปัญหาใหญ่ คือในส่วนโค๊ช ผู้จัดการทีม หรือสมาคม เค้าเตรียมตัวเต็มที่กันหมดนะผมว่า แต่บางครั้งเราก็ต้องดูการแสดงออกของระดับการเล่น ความมุ่งมั่นในการเล่นของนักเตะมั่ง ว่าคุณเต็มที่รึเปล่า บางคนไม่ฟิตจริงๆแต่เล่นได้เท่ากับคนที่ฟิตมาตลอด มันหมายถึงอะไร บางคนคิดว่าซีเกมส์ เล่นกับ อาเซียน ไม่ค่อยมีแรงกระตุ้น ถ้าคิดแบบนี้ความเป็นมืออาชีพไม่มีก็ไม่ต้องไปมองถึงระดับ เอเชีย นะครับ ถ้าคุณยังไม่พร้อมไม่เต็มร้อยกับบอลระดับภูมิภาค มันก็ชัดเจนว่าระดับที่สูงกว่า หนักกว่า อย่างระดับเอเชีย หรือ ทีมชาติชุดใหญ่ก็ไม่มีที่ว่างสำหรับคุณเช่นกัน ....
ปล. มีคลิปนึงที่อยากให้เปรียบเทียบแพสชั่นของฟตบอลทีมชาติ ความมุ่งทั่นการเล่นให้ทีมชาติไทยสมัยสิบปีก่อนว่าแพสชั่นของนักเตะ มันเต็มที่ เข้มข้น ดุเดือดขนาดไหน (หลักๆโฟกัสตอนต้นคลิปนะครับ หลังๆมาจะเป็นช่วงที่ซิโก้ หรือ โค๊ชโชคทำที่ยังผ่านมาไม่นาน)