ผมไม่แน่ใจเรื่องหมอท่านอื่นว่ามีที่ไหนอีกบ้าง แต่หาหมอหลายๆที่ก็ดีครับ
แล้วก็ที่ท่านไปศิริราช จุฬาแล้วให้นักศึกษาตรวจ อาจจะเสียเวลาตรวจนาน
แต่การตรวจพวกนี้จะมีอาจารย์หมอคอยดูตลอดครับ แล้วโอกาสที่จะเจออาจารย์นี่ค่อนข้างยากทีเดียว ปกติไปตามโรงเรียนแพทย์จะได้ตรวจกับแพทย์เฉพาะทางที่กำลังเรียนต่อ ยากที่จะได้ตรวจกับอาจารย์ ที่ได้ตรวจกับนักศึกษาอาจจะเสียเวลาไปหน่อย แต่แฟนท่านได้อาจารย์หมอตรวจด้วยแน่นอน ผมว่าคุ้มค่านะครับ  

ประเด็นคือ ผมไปตรวจที่จุฬา ครั้งแรกจ่ายยามาแบบ ยาบ้วนปากแรงมาก ทำให้เยื่อมันยิ่งแย่ลงไปอีก พอไปอีกครั้ง ก็ให้แค่ยาป้ายปากที่ขายตามร้านขายยาทั่วไป แล้วอาจารย์หมอแค่เดินมาเช็คดูแค่นั้น ผมนี่เพลียมากเลย  

เรื่องช่องปากต้องรีบรักษาเลยนะครับ เพราะเชื้อโรคเยอะ โอกาสติดเชื้อก็ง่ายด้วย

อย่างต้อม theska อ่ะครับ  

ประเด็นคือ ผมไปตรวจที่จุฬา ครั้งแรกจ่ายยามาแบบ ยาบ้วนปากแรงมาก ทำให้เยื่อมันยิ่งแย่ลงไปอีก พอไปอีกครั้ง ก็ให้แค่ยาป้ายปากที่ขายตามร้านขายยาทั่วไป แล้วอาจารย์หมอแค่เดินมาเช็คดูแค่นั้น ผมนี่เพลียมากเลย  

ไม่แน่ใจว่าคลีนิคนอกเวลาของมหาลัยที่สอนการแพทย์จะมีเกี่ยวกับช่องปากไหม แต่คิดว่ามีครับ ที่นั่นจะเป็นอาจารย์หมอจริงๆ ถ้าเจอเคสยากเค้าให้อาจารย์ทำหมดครับ ค่ารักษาไม่แพงด้วย  

ถ้าจะให้แนะนำ แนะนำอย่างแรกเลยคือ เลิกเปลี่ยนหมอไปเรื่อยๆครับ

โรคบางโรค มันต้องใช้เวลากว่าหมอจะรู้ ไม่ใช่เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ

เท่าที่อ่านดูน่าจะผ่านมาหลายหมอแล้วยังไม่ได้คำตอบซักที ถ้าทำแบบนี้ พอท่านย้ายที่ไป ท่านก็จะได้รับการดูแลแบบเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด แล้วก็ซ้ำรอยทางเดิมกับที่ที่เดิมที่เค้าเคยทำมาแล้ว  

งงคนที่แนะนำไปหาหมอหู คอ จมูก

โรคในช่องปากก็ต้องไปหาหมอฟันสิครับ



 

มันคล้ายๆ กันครับ เค้าจะเรียกว่า โสด สอ นาสิก ครับ