พอดีเห็นว่ามีกระทู้ถามเกี่ยวกับสามก๊กเยอะเลยอยากจะถามเพื่อน ๆ ที่ชอบติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ 3 ก๊กว่า สรุปแล้ว มีสรุปให้หรือปล่าวครับว่าก๊กไหนชนะศึก 3 ก๊ก ในตอนจบและแต่ละก๊กตอนจบนำทัพโดยใครครับ

[https://www.youtube.com/v/plwc2zpR4U0]

สุดท้ายลูกสุมาอี้กวาดหมดโต๊ะครับ[/youtube]

สุมาอี้อยู่ก๊กไหนหรอครับ พอดีว่าไม่ค่อยติดตาม (ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย)

เคยเป็นที่ปรึกษาฝั่งโจโฉ ไปๆมาๆ ยึดเอง แล้วยึดหมด

ฝั่งโจโฉครับ

ขงเบ้งตาย จ๊กอ่อนแอ แล้วเสียก๊กแก่ วุย

สุดท้ายเหลือ 2 ก๊ก วุย กับ ง่อ

ต่อมา ตระกูลโจ เสื่อมอำนาจ เจอลูกหลาน สุมาอี้ ยึดอำนาจ ปลดฮ่องเต้

วุยก๊กลุ้มสลาย

ต่อมา ง่อก็ล้มสลายเพราะ หลังจากลูกหลานสุมาอี้ ยึดอำนาจวุยก๊ก

แล้วนำทัพมา ยึดง่อก๊ก

จบตำนาน 3 ก๊ก

[วุยก๊ก + ง่อก๊ก + จ๊กก๊ก] = อี้ก๊ก

ผมว่าจริงๆแล้วตระกูลสุมาอยู่ถูกที่ถูกเวลาในช่วงนั้นมากกว่า

ถ้าโจโฉยังไม่ตายตระกูลนี้ไม่มีทางได้เกิดแน่นอน

ตั้งแต่โจโฉกับเล่าปี่ตายผมว่ามันก็เหมือนกับเป็นการปิดตำนาน 3 ก๊กไปแล้วครับ

ทายาท ตระกูลสุมา เข้มแข็ง จากวีรกรรมของสุมาอี้ น่าจะเป็น ตระกูลที่มีอำนาจที่สุดในยุคที่ ผู้นำแต่ละก๊ก อ่อนแอ

อิงจากเนื้อเรื่อง เหมือนกวาดหมดทั้ง 3 ก๊กเลย ยึดก๊กตนเองก่อน แล้วไปเอา ก๊กที่ อ่อนแอที่สุด พอรวมเป็น 2 จาก 3 ได้ ก๊กที่เหลือ ย่อมยอมโดยง่าย

เห็นแต่ละชื่อแล้วปวดหัว พอดีผมเล่นแรคไงครับแล้วมันมีการแข่งขันเก็บคะแนน RTC เห็นเขาเขียนเรื่อง 3 ก๊ก ผมเลยสนใจและอยากรู้ว่าตอนจบจะเป็นยังไง

ต้องดูว่า เล่าปี่ โจโฉ ซุนกวน

ใครตายก่อนกัน

คนตายหลังสุดคือผู้ชนะ

น่าจะทำหนังของตระกูลสุมา นะครับ เก่งทั้งตระกูล
แถมฟ้าเป็นใจอีก

หลานสุมาอี้ชนะ ส่วนลูกยึดอำนาจจาก วุยก๊ก สรุป สามก๊กล่มแล้ว จึงตกเป็นของตระกูลสุมา


ตาอยู่รอเค้าทะเลาะกันแล้วเอาปลาไปกิน

edit แก้จากลูกเป็นหลานลืมไป

ผมเคยอ่านจากหนังสือ โจโฉ ไม่ไว้ใจสุมาอี้นะครับ แต่ต้องการใช้งานเลยให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นพี่เลี้ยงโจผี


แต่ตอน จ๊กบุก วุยไม่เหลือใครให้พึ่งพาแล้ว เลยต้องใช้สุมาอี้

ถ้าให้สุมาอี้เด่นเดินเรื่อง น่าจะการตูนเรื่อง หงสาจอมราชันย์ นะครับ

ผมว่าตัว สุมาอี้ฉลาด ส่วนลูกหลาน เกิดถูกเวลา ได้ผลงานที่ ปู่ พ่อ ปูทางมา งานเลยง่าย

ถามแบบนี้ เหมือนถามว่า A B C คืออะไรอ่ะ

พอเล่าชื่อคนนู้นคนนี้มาก็งงหนักเพิ่มไปใหญ่

แนะนำทางที่ดีลองอ่าน ลองดูหนัง ดูซีรี่ย์ก่อนดีกว่า

ตระกูลสุมา ยึดอำนาจวุยก๊ก

มาถึงรุ่นหลานสุมาอี้ รุ่นสุมาเอี๋ยน กินเรียบ


สู้กับแทบตายสามก๊ก สุดท้ายไม่มีใครได้

อ่านสามก๊กแล้วเข้าใจถึง เกิด และตาย
สุดท้ายอำนาจหรือทรัพย์ที่แย่งชิงมา ถึงเวลาก็ไม่เหลือ

-รัฐเว่ย หลังสุมาอี้ก่อการรัฐประหารโจซองที่เกาผิงหลิงในปี ค.ศ.249 สกุลโจก็สิ้นอำนาจลง กลายเป็นสกุลซือหม่าก้าวขึ้นมาแทนที่ รัฐเว่ยถือได้ว่าล่มสลายลงอย่างไม่เป็นทางการ สุมาอี้และลูก ๆ มีอำนาจถึงขนาดที่ ซือหม่าสือ บุตรชายคนโตสั่งปลดพระเจ้าโจฮอง (เฉาฟาง) ลดชั้นเป็นฉีอ๋อง ฐานกระด้างกระเดื่อง ในปี ค.ศ.254 ซือหม่าเจาสั่งปลงพระชนม์พระเจ้าโจมอ (เฉาเหมา) ในปี ค.ศ.260 ฐานนำกำลังบุกทำเนียบสกุลซือหม่า และจัดการยกโจฮวน (เฉาฮ่วน) ขึ้นเป็นจักรพรรดิเว่ยหยวนตี้ไว้เชิดเล่น ปี ค.ศ.263 ซือหม่าเจาส่งขุนพลจงฮุ่ยกับเติ้งไอว่นำทัพบุกยึดเฉิงตูนครหลวงของรัฐสู่ฮั่นลงได้ ผนวกฮั่นจงและซีชวนไว้ใต้ธงรัฐเว่ย และอาศัยความสำเร็จนี้บีบจักรพรรดิเว่ยหยวนตี้ให้ตั้งตนเป็นจิ้นอ๋อง ปี ค.ศ.265 ซือหม่าเจาเสียชีวิต บุตรชายซือหม่าเหยียนสืบทอดตำแหน่งจิ้นอ๋อง ไม่นานก็บังคับให้จักพรรดิเว่ยหยวนตี้มอบบัลลังก์ให้ รัฐเว่ยล่มสลายอย่างเป็นทางการ ซือหม่าเหยียนขึ้นเป็นจักรพรรดิ พระนามจิ้นอู่ตี้ สถานปนาราชวงศ์จิ้น

รัฐสู่ฮั่น หรือ จ๊กฮั่น ในปี ค.ศ.263 จิ้นกง ซือหม่าเจา มหาเสนบดีรัฐเว่ย ส่งสองขุนพลจงฮุ่ยและเติ้งไอว่นำทัพเข้าตีแดนสู่ จงฮุ่ยใช้เวลาไม่นานก็ตีหนานเจิ้งเมืองสำคัญของฮั่นจงแตก เจียงเหว่ย (เกียงอุย) แม่ทัพใหญ่สู่ฮั่นนำทหารไปต้านทานทัพเว่ยที่ด่านเจี้ยนเก๋อ (เกียมก๊ก) และสามารถยันจนทัพเว่ยเริ่มประสบปัญหาเสบียง แต่เติ้งไอว่กลับอาสาใช้หนทางอันตรายลัดเลาะจนไปถึงด่านเหมียนจู่ (กิมก๊ก) จู่เก่อจาน บุตรชายจูเก่อเลี่ยง แม่ทัพรักษาด่านต้านทานเต็มความสามารถแต่ไม่อาจหยุดทัพเติ้งไอว่ได้ จูเก่อจานและลูกชายพลีชีพในสมรภูมิ ทัพเติ้งไอว่รุกประชิดพระนครเฉิงตู จักพรรดิหลิวซ่าน (พระเจ้าเล่าเสี้ยน) ยอมจำนน ส่งผลให้เจียงเหว่ยและกองทัพที่ด่านเจี้ยนเก๋อต้องไปจำนนต่อจงฮุ่ยด้วยเช่นกัน แม้ว่าภายหลังเจียงเหว่ยจะกล่อมให้จงฮุ่ยเป็นพวกและวางแผนกำจัดเติ้งไอว่ลงได้ แต่ก็ไม่อาจฟื้นแผ่นดินได้เมื่อทหารไม่เอาด้วยแล้วก่อจราจล จงฮุ่ยถูกรุมสังหาร ส่วนเจียงเหว่ยฆ่าตัวตาย สู่ฮั่นล่มสลายโดยสมบูรณ์ ส่วนอดีตฮ่องเต้หลิวซ่านต้องไปอยู่ลั่วหยางราชธานีรัฐเว่ย ได้รับแต่งตั้งเป็นสมเด็จเจ้าพระยาอานเล่อกง อยู่อย่างสุขสบายจนวาระสุดท้าย

รัฐอู๋ หรือง่อก๊ก ส่อแววแย่ตั้งแต่ปลายรัชสมัยจักรพรรดิต้าตี้หรือซุนกวนแล้ว เนื่องจากหลังขึ้นเป็นฮ่องเต้ นิสัยซุนกวนก็เริ่มเปลี่ยน เอาแต่ใจ หลงอำนาจ สั่งปลดลู่ซวิ่น (ลกซุน) แม่ทัพใหญ่คนสำคัญ และปกครองอย่างเละเทะ พอซุนกวนสิ้นพระชนม์ ซุนเลี่ยง โอรสวัย 9 ขวบ ขึ้นสืบทอดบัลลังก์ ซึ่งรัชสมัยของยุวกษัตริย์องค์นี้ รัฐอู๋มีการแย่งชิงอำนาจกันอย่างหนัก ปี ค.ศ.253 พระเจ้าซุนเลี่ยงจับมือกับซุนหลิน พระญาติ ราวมือกันสังหารจูเก่อเค่อ (จูกัดเก๊ก) ผู้สำเร็จราชการ แต่ภายหลังกลับโดนซุนจวิ้น พระญาติอีกคนรัฐประหารซ้อน ปลดซุนเลี่ยงลงจากบัลลังก์ลดชั้นเป็นฮุ่ยจีอ๋อง จากนั้นยกซุนซิว โอรสอีกองค์ของซุนกวนขึ้นนั่งบัลลังก์เป็นจักรพรรดิจิ่งตี้ ในปี ค.ศ.258 ซึ่งซุนซิวก็ปกครองแผ่นดินมาอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ได้ 6 ปี ก็สิ้นพระชนม์ ในปี ค.ศ.264 ซุนเฮ่า บุตรชายของซุนเหอ อดีตรัชทายาทของซุนกวนขึ้นสืบทอดบัลลังก์ หลังจากนี้ถือเป็นนรกของจริง เพราะจักพรรดิซุนเฮ่าเป็นคนโหดเหี้ยม ลงโทษขุนนางอย่างไร้เหตุผล ฟุ้งเฟื้อ เกณฑ์สาวงามจากมากมายมาเป็นสนม ช่วงต้น ๆ ยังดีที่มีแม่ทัพลู่คั่ง (ลกข้อง) บุตรลู่ซวิ่น คอยรักษาเมืองเจียงหลิงหน้าด่านของรัฐอู๋ แต่ซุนเฮ่ากลับสั่งปลดลู่คั่งออก ลางหายนะจึงมาชัดเจนในอีก 10 ปีต่อมา เมื่อปี ค.ศ.279 จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้ ซือหม่าเหยียน ส่งทัพใหญ่นำโดยตู้อวี้และหวังจวิน รุกลงใต้ ไม่นานนักก็ประชิดนครเจี้ยนเยี่ย เมืองหลวงรัฐอู๋ ซุนเฮ่ายอมจำนน รัฐอู๋ล่มสลาย แผ่นดินรวมเป็นหนึ่งอีกครั้งใต่ธงราชวงศ์จิ้น ในปีที่ 15 ของรัชสมัยจิ้นอู่ตี้

ทว่าแผ่นดินรวมเป็นหนึ่งได้ไม่กี่สิบปี เมื่อ ปี ค.ศ.279 จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้สวรรคต รัชทายาทซือหม่าจ่งสืบทอดราชบัลลังก์เป็นจักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ แต่เนื่องจากพระองค์มีสติปัญญาทึบ เหล่าอ๋องเจ้าแคว้นสบโอกาสก่อสงครามแย่งชิงอำนาจเกิดเป็นเหตุจราจล 8 อ๋อง ซึ่งอ๋องสกุลซือหม่าต่างยกกำลังเข้าเข่นฆ่ากันอุตลุด กินเวลากว่า 16 ปี ผู้คนล้มตายมากมาย เป็นเหตุให้ชนเผ่าต่าง ๆ ที่อพยพเข้ามาอยู่ในกำแพงเมืองจีนตั้งตนเป็นใหญ่ไม่ขึ้นกับราชสำนักจิ้น เริ่มจากหลี่เท่อ ผู้นำชนเผ่าตี นำกำลังผู้อพยพเข้ายึดซีชวนและฮั่นจงตั้งราชวงศ์เฉิงฮั่นใน ปี ค.ศ.303 แต่ที่เป็นปัญหาคือ หลิวยวน (เล่าอ้วนไฮ) ต้าฉ่านอวี๋ผู้นำเผ่าซงหนู ฉวยโอกาสที่เฉิงตูอ๋อง ซือหม่าอิ่งให้ไปรวบรวมกำลังเผ่าซงหนูมาช่วยรบกับหวังจวิน ผู้บัญชาการทหารมณฑลโยวโจว แต่ซือหม่าอิ่งเเพ้ทิ้งฐานกำลังเย่เฉิงหนีไปลั่วหยาง ไปขอพึ่งคนกันเองอย่าง เหอเจียนอ๋อง ซือหม่าหยง แต่กลับถูกซือหม่าหยงกุมตัว และพาซือหม่าอิ่งกับจักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้กลับไปนครฉางอานฐานอำนาจของตน ส่วนหลิวยวนกลับไปรวบรวมกำลังได้ 50000 คน ก็ไม่ได้สนใจจะไปช่วยซือหม่าอิ่ง เลยอาศัยว่าตนเองก็สืบสายเลือดจากองค์หญิงราชวงศ์ฮั่น เลียนแบบหลี่เท่อตั้งตนเป็นฮั่นอ๋องและประกาศตนสืบทอดราชวงศ์ฮั่นแยกตัวจากราชสำนักจิ้นซะเลยในปี ค.ศ.304 ประวัติศาสตร์เรียกราชวงศ์ฮั่นจ้าว จากนั้นก็ตีชิงดินแดนแถบปิ้งโจวไท่หยวนได้มากมาย กลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อราชวงศ์จิ้น ปี ค.ศ.307 ตงไห่อ๋อง ซือหม่าเยวี่ย วางยาพิษปลงพระชนม์จักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ และยกซือหม่าฉือ พระอนุชาขึ้นเป็นจักรพรรดิจิ้นไหวตี้ ฮั่นอ๋องหลิวยวนจึงตั้งตนเป็นจักรพรรดิเกาจู่แห่งฮั่นจ้าว และส่งกองทัพรุกรานลั่วหยาง นครหลวงของต้าจิ้นอยู่เนือง ๆ กระทั่งปี ค.ศ.313 จักรพรรดิจ้าวอู่ หลิวชงโอรสหลิวยวนส่งกองทัพเข้าตีลั่วหยางแตก จับจักรพรรดิไหวตี้กลับฮั่นจ้าว เอาไปลบหลู่สักพักก็จับสำเร็จโทษ แต่ขณะที่ลั่วหยางกำลังจะเสียเมืองนั้น ฉินอ๋อง ซือหม่าเยี่ยได้หลบหนีออกมาทัน และอาศัยกองกำลังของญาติ ๆ เข้ายึดฉางอาน และขึ้นเป็นจักรพรรดิจิ้นหมิ่นตี้ แต่นครฉางอานและดินแดนกวานจงในช่วงนั้นบอบช้ำจากภัยสงครามชิงอำนาจจนอยู่ในสภาพขาดแคลน เหลือประชากรไม่กี่ครัวเรือน ดังนั้นเมื่อหลิวเหยา แม่ทัพฮั่นจ้าวนำทัพมาโจมตีในปี ค.ศ.316 นครฉางอานจึงเสียเมืองอย่างง่ายดาย จักพรรดิหมิ่นตี้กลายเป็นเชลยของฮั่นจ้าว อยู่โดนเหยียดหยามได้สักพักก็โดนจักรพรรดิจ้าวอู่ หลิวชงจับสำเร็จโทษ ราชวงศ์จิ้นตอนต้นล่มสลายโดยมีอายุแค่ 51 ปี บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นได้ไม่ถึง 30 ปี

หลังจากจักรพรรดิจิ้นหมิ่นตี้ถูกจับไปเป็นเชลย หลางเยว่อ๋อง ซือหม่ารุ่ย ผู้คุมกำลังทหารภาคใต้ก็ประกาศสืบทอดราชวงศ์จิ้นที่เมืองเจี้ยนคัง อดีตเมืองหลวงรัฐอู๋ (ง่อก๊ก) ตั้งตนเป็นจักรพรรดิจิ้นหยวนตี้ ครองแผ่นดินทางใต้ แรก ๆ ก็ดูจะไปได้สวย แต่ไม่นานก็เสียอำนาจให้กับหวังตุน ขุนศึกใหญ่ ถึงแม้ว่าโอรสของพระองค์คือ จักรพรรดิจิ้นหมิงตี้ ซือหม่าเซ่า จะชิงอำนาจคืนมาได้ในปี ค.ศ.324 แต่พระองค์กลับด่วนสวรรคตในปีต่อมาหลังครองราชย์ได้แค่สามปีเท่านั้น ทำให้อำนาจหลุดจากมือจักรพรรดิจิ้นไปสู่ขุนศึกคุมกำลัง กระทั่งปี ค.ศ.420 ขุนศึกหลิวอวี้ (เล่าอิ้ว) จัดการถอดจักรพรรดิจิ้นกงตี้ออกจากบัลลังก์ ล้มล้างราชวงศ์จิ้น สถาปนาราชวงศ์ซ่งขึ้นแทนที่ นักประวัติศาสตร์เรียกราชวงศ์หลิวซ่งเพื่อไม่ให้ซ้ำกับซ่งของสกุลจ้าว ตัวหลิวอวี้ ขึ้นเป็นจักรพรรดิซ่งอู่ตี้ เริ่มราชวงศ์เหนือใต้

โจโฉแกเคยใช้งานสุมาอี้เป็นที่ปรึกษาตอนบุกฮั่นจงเมื่อปี ค.ศ.215 ครับ ตอนนั้นยึดหนานเจิ้งได้ จางหลู่ยอมแพ้ ปรากฏว่าในยุ้งฉางมีเสบียงเหลือกินเหลือใช้มากมาย สุมาอี้กับหลิวเยวี่ย (เล่าหัว) เลยเสนอให้ใช้โอกาสนี้บุกเสฉวนของเล่าปี่ต่อ แต่โจโฉไม่เห็นด้วย แกให้เหตุผลว่า "คนเรานี่ไม่รู้จักพอบ้างเลย เมื่อยึดฮั่นจงได้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่พอต้องไปตีซีชวน (เสฉวน) ที่ห่างไกลอีกเล่า" ตอนนั้นโจโฉน่าจะรับรู้ถึงความทะเยอทะยานในใจของสุมาอี้ได้แล้ว หลังเสร็จศึกที่ปากน้ำหรูซวีกับซุนกวนในปี ค.ศ.216 แกย้ายสุมาอี้ไปเป็นสมุหบัญชีไม่ให้ยุ่งกับการทหารเลย แต่พ่วงด้วยตำแหน่งที่ปรึกษาของโจผี และสุมาอี้ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้โจผีได้เป็นผู้สืบทอดของโจโฉ

แต่โจผีก็เหมือนจะวางใจไม่สนิท ก่อนตายแกเลยบอกโจยอยว่าอย่าให้สุมาอี้คุมกำลังทหาร พร้อมกับตั้งเฉินฉวินกับโจจิ๋นมาคานอำนาจ