พอดีเป็นกราฟฟิค แบบนี้เห็นภาพค่อนข้างชัดเจนขึ้นเลย

วิจารณ์ ไม่ค่อยได้ความรู้ไม่ถึง แต่มันก็มีบางนัดที่ซิโก้แกเพรสสูงนะ

แต่เรื่องการจัดการมิดฟิลด์ให้ช่วยแผงหลังนี่ดีขึ้นมากจริงๆ

เหมือนเคยมีคนตั้งแล้วทีนึงป่ะ ถ้าผมจำผิดขออภัยด้วย

ผมจะสื่อแบบนี้ แต่กลัวมีคนหาว่าติ่งครับ



คือรับต่ำมันก็มีตามสถานการณ์อยู่แล้ว เนี่ยที่ว่าปีกกับแบคติดกันเกินไป
โดนทำเกมมันก็ต้องร่นมาสิครับ

แล้วไม่ลองยกนัดเจอออสเตรเลียมาดู ว่าเพรสยังไง วางแนวรับยังไง
เอาจริงๆไม่โทษคนทำนะ แต่คนดูก็ต้องแยกด้วยอะ ไม่ใช่โอ้โหๆ ต่างกันเยอะ อย่างเดียว

แต่ต้องบอกว่ายุคนี้เท่าที่ดูมาแดนหน้ากับกลางเพรสดุดีมาก
เซนเตอร์2คนก็โดดเด่น เกมรับเปี่ยมด้วยแทคติคจริงๆ รูปเกมโดยรวมดีขึ้นครับ

ตั้งแต่ราเยวัชเข้ามาคุมเขาเน้นให้ความาำคัญเรื่องเกม์รับกว่าเมื่่อก่อน​โค้ชซิโก้ก็คงเห็นเหมือนกันแต่ทั้งสองคนมีวิธีแก้ปัญหาที่ต่างกัน​พอวิธีการต่างกันจึงงให้ผลต่างกัน​ คราวนี้เราต้องรอดูเกมส์ของทีมชาติไทยในการแข่งขัน​คัดบอลโลกในเกมส์ที่เหลือว่าวิธีของราเยวัชนั้นให้ผลออกมาต่างจากเดิมรึป่าว​ ผมกำลังรอดูตรงนี้อยู่น่ครับ​ ส่วนผลงานของราเยวัชจาก4นัดที่ผ่านมาก็มองว่าให้ผลออกมาต่างจากโค้ขซิโก้อยู่ไม่น้อยเลยครับ

ผมว่าสถานการ์ณต่างกันใช่ครับ แต่จะบอกว่ายุคราเยวัชนักเตะดีกว่าก็ไม่ได้นะ มีสิทธิเลือกเข้ามาติดทีมอยู่แล้ว


อีกอย่างถึงเจอคู่แข่งที่ต่างกัน แต่วิธีการเล่นแนวคิดที่ต่างกันครับ ราเยวัชเน้นแต่แรกว่าให้เราเอาดีในเกมรับ เสียประตูให้ยากที่สุด


ผมว่าการเพรซซิ่งมันต้องฉลาดที่จะเพรซซิ่งด้วย ไม่มีใคีทำได้ทั้งเกมหรอก ซึ่งยุคซิโก้บอกบุกเอามันส์แต่พอโดนสวนกลับหงายเงิบตลอด


ผมอยากเห็นนักเตะแบบฟูลทีมในมือราเยวัชนะครับ ว่าเขาจะจัดวางยังไง

เอาแบบนี้ครับ สิ่งที่ผมมองเห็นความแตกต่างชัดเจนคือการเล่นกรุ๊ปแทคติก

โค้ชไทยส่วนมากเน้นการซ้อม การเล่นแบบกลุ่มในการขึ้นเกมรุกให้เป็นแพทเทิร์น

แต่เขาไม่ทราบเหรอว่าโค้ชมืออาชีพเขาเล่นกรุ๊ปแทคติกในเกมรับด้วย

ด้วยการจำลองการบุกของคู่แข่งในแบบต่างๆจัดระยะการยืน รูปแบบการบีบเข้าหา

ทำซ้ำๆกันจนนักเตะเข้าใจสถานการณ์ได้เองโดยไม่ต้องใช้การจำ

ฝึกจนเคยชินล่ะครับ เหมือน overlap ที่ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเพื่อนต้องมา