ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 10474
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 28, 2017 6:19 pm
Intro & Rose War Part 1 (ตามสไตล์ผู้เขียน)
ช่วงที่เรารอบอลนัดชิงชนะเลิศ ก็อยากจะให้ข้อมูลที่มีความรู้แก่ผู้ที่ชื่นชอบฟุตบอลก่อนนะครับ ว่าในฟุตบอลมันซ่อนอะไรไว้หลายอย่าง เพราะฉะนั้นเราจะโฟกัสไปที่ฟุตบอลเพียงอย่างเดียวก็คงรู้แค่เบื้องต้น แต่ไม่สามารถรู้ในสิ่งที่ลงรายละเอียดลึกลงไปอีก สงครามดอกกุหลาบหลายๆท่านคงจะเคยทราบมาบ้างอยู่แล้วว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร ซึ่งทางสมาชิกบางท่านเคยให้ข้อมูลไปบ้างหรือมีเว็บอื่นบางเว็บที่ได้อธิบายไป แต่ข้อมูลจะลงรายละเอียดมิติที่ลึกไปกว่านั้นอีกก็คือก่อนเกิดเหตุการณ์นี้อีก หากท่านใดไม่ชอบประวัติศาสตร์อังกฤษ ขอให้ทุกท่านผ่านไปเลยนะครับ ขอบคุณที่ทนอ่านเน้อ

ก่อนที่เราจะไปล้วงข้อมูลเชิงลึก เรามาทำความเข้าใจระบบศักดินาและยศฐาบรรดาศักดิ์ขุนนางก่อนถึงจะสามารถเข้าใจได้มากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่เพียงท่านจะเข้าใจระบบขุนนางในวงการฟุตบอลมากขึ้น แต่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น หนังบางเรื่องที่ออกแนวประวัติศาสตร์ก็จะมียศขุนนางด้วย อย่าง ในหนังกล่าวถึง ดยุคแห่งอะเบอดีนอย่างหนังเบรฟฮาท หรือ ท่านเค้าต์แห่งทรานซิลวาเนีย ตำนานแดรกคิวล่า ของโรมาเนียหรือซีรีย์ดังอย่าง เกมออฟโทรน

ยศฐาบรรดาศักดิ์ของยุโรปหรือที่อังกฤษขึ้นอยู่กับการยอมรับเฉพาะบางแห่ง บางยศฐาบรรดาศักดิ์แต่ละที่อาจจะมีชื่อที่แตกต่างกัน แต่คุณค่าหรือพลังอำนาจอาจจะเท่ากัน ดังนั้นผมจะขอยกตัวอย่างยศฐาบรรดาศักดิ์ที่เราเคยได้ยินบ่อยๆกันนะครับ
ผมจะเรียงจากยศสูงที่สุดแล้วไล่ลงมาต่ำที่สุด (กษัตริย์เป็นขั้นสูงสุดตามระบบสมบูรณาสิทธิราชย์) ตำแหน่งอาจจะเป็นทั้งชายหรือหญิงก็ได้

1. ดยุค เป็นตำแหน่งของเจ้าครองนครแคว้น หรือมณฑล มีอำนาจยิ่งใหญ่คุมทหารและพลเรือน มีอำนาจในสภาสูงสุด คุมขุนนางที่ยศต่ำลงมาหลายขั้น ควบคุมระบบเศรษฐกิจในอาณาเขตของตน ส่วนมากจะสืบเชื้อสายเชื้อพระวงศ์ของกษัตริย์ราชวงศ์นั้นๆ หรือ ดยุค บางคนอาจจะสืบเชื้อสายราชวงศ์อื่นๆ ภรรยาหรือเมียของดยุค นั้นจะเรียกว่า "ดัชเชส" ดังนั้นเราจะได้ยินในหนังประวัติศาสตร์บ่อยมากครับ เช่น ดัชเชสแห่งเคมบริจดิ์ดยุคแห่งนอร์มังดี บลาๆ (กษัตริย์ที่อ่อนแอมักจะเกรงกลัว ดยุค ครับ เพราะมีอำนาจมาก พี่ฆ่าน้อง น้องฆ่าพี่ก็มีมาแล้ว ยิ่งดยุคที่ต่างเชื้อสายราชวงศ์แล้วด้วยกษัตริย์บางคนถึงกับต้องเอาใจหรือฆ่าตัดตอนก็มี)
ถ้าเทียบของไทยในสมัยก่อน ก็คือเจ้าพระยา มหาอุปราช

2. มาควิส(ชาย) เป็นตำแหน่งรองลงมา มีอำนาจและบารมีเป็นรองตำแหน่งดยุค แต่บางครั้งมาควิสบางคนสะสมบารมีเยอะมากๆก็สามารถเทียบดยุคได้เช่นกัน แต่อาจจะอยู่ใต้อำนาจเพราะอาจจะสืบเชื้อสายชั้นที่สอง หรือเป็นเครือญาติ ภรรยาหรือเมียของตำแหน่งมาควิสฝ่ายชาย เรียกว่า "มาควิสเนส" ถ้าตำแหน่งยศเป็นผู้หญิง เรียกว่า"มาร์ชันเนส"

3. เอิรล์ หรือเค้าท์( เค้าท์ประเทศบางยุโรปก็ใช้ยศนี้ครับ จะพบมากในแถบยุโรปตะวันออก หรือตอนกลางทวีปยุโรป) มีอำนาจบารมีน้อยกว่ายศสองอันบน แต่สามารถอัพเกรดได้ถ้ามีบารมีมากพอ ส่วนมากจะเป็นพวกชนชั้นขุนนาง พวกเศรษฐี ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เมียหรือภรรยาของท่านเอิรล์หรือท่านเค้าท์ เรียกว่า " เค้าท์เตส "

4. ไวส์เค้าท์ เป็นตำแหน่งที่รองลงมาจากสามชั้นบน มีอำนาจทางการทหารและระบบเศรษฐกิจแต่ก็จำกัดอยู่ในเขตพื้นที่ของตนเอง ภรรยาหรือเมียของท่านไวท์เค้าท์ เรียกว่า " ไวส์เค้าเตส "

5. บารอน เป็นตำแหน่งต่ำสุดของขุนนางสภา มีสิทธิอำนาจพอสมควรทั้งการทหารและเศรษฐกิจแต่ก็ถูกจำกัดสิทธิจำกัด

นี่คือตำแหน่งบางอย่างที่เราพบได้บ่อยครับ นอกจากนี้ยศฐาบรรดาศักดิ์สามารถปรับขั้นกันได้ เช่น มีความดีความชอบ มีเรื่องของผลประโยชน์ เป็นต้น และจะสืบเชื้อสายรุ่นสู่รุ่นมันไม่มีวันหมด ยกตัวอย่าง ผมเป็นดยุคแห่งโบฮีเมี่ยน เมื่อผมตาย ลูกผมก็ได้ยศบรรดาศักดิ์นั้นต่อทันที ลูกผมตาย หลานของผมสืบต่อไปเรื่อยๆ หรือว่า ผมเป็นบารอนแต่ผมช่วยออกรบสงครามแล้วทำผลงานได้ดี อาจจะได้เลื่อนยศเป็นตำแหน่งมาควิส (ผมไม่ขอเปรียบเทียบกับแต่งตั้งหรือการเลื่อนยศของไทย มันละเอียดอ่อนครับกลัวผิดกฎบอร์ด

ส่วนตำแหน่งลอร์ด (lord ) ที่หลายๆคนในssชอบใช้กัน เช่น ลอดร์ดเอ๊ดวิ่งดิลอร์ดเอ๊ด บรรดาศักดิ์ของผู้ชายที่มีกำลังและอำนาจ ใช้แตกต่างกันไปตามบริบทต่างๆ ซึ่งถ้าหากจะพูดในแง่ของตำแหน่งหรือบรรดาศักดิ์ในระบบขุนนางแล้ว ลอร์ด เป็นบรรดาศักดิ์ของชนชั้นสูงที่มีศักดินาถือครองที่ดินรวมถึงผลผลิตและแรงงานของทาสที่อาศัยอยู่ และ ยังจะใช้เป็นคำสุภาพของบุตรของขุนนางเหล่านั้นได้อีกด้วย เช่น บุตรชายคนเล็กของดยุค และมาควิสก็สามารถเรียกว่า ลอร์ด (ตามด้วย ชื่อ หรือ นามสกุล)ได้

ในบรรดาศักดิ์ของประเทศอังกฤษนั้น ไวส์เคานต์ และ บารอน นิยมใช้คำนำหน้าชื่อว่า ลอร์ด (Lord) และกับ ฝ่ายหญิง หรือภรรยาของ ไวส์เคานต์ และ บารอน ใช้คำนำหน้าชื่อว่า เลดี้ (Lady)
ส่วนขุนนางเพศชายทั้งหมดยกเว้น ดยุค มักจะใช้บรรดาศักดิ์แบบย่อๆว่า ลอร์ด แล้วตามด้วยชื่อสถานที่หรือนามสกุล เช่น อัลเฟรดเทนนีซัน บารอนที่ 1 แห่ง เทนนีซัน ก็จะเรียกกันทั่วๆไปว่า ลอร์ดเทนนีซัน เป็นต้น
ทั้งนี้ คำว่า 'ลอร์ด' สามารถใช้เรียกผู้ครอบครองหรือมีอำนาจเหนือสิ่งต่างๆเช่น แลนด์ลอร์ด หรือเศรษฐีที่ดิน
ขณะที่สภาขุนนาง (House of Lords) ของอังกฤษหรือเรียกสั้นๆว่า the Lords เป็นสภาสูงของรัฐสภาอังกฤษ ประกอบไปด้วย อาร์กบิชอป2 องค์, บิชอป24 องค์ และ สมาชิกขุนนาง 692 ท่าน สมาชิกของสภาขุนนางเรียกว่า Lords of Parliament

หวังว่าท่านคงจะพอเข้าใจเบื้องต้นแล้วนะครับ

เอาหล่ะเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าหากจะทราบถึงการต่อสู่ระหว่างตระกูลเชื้อเจ้าอย่างแลงแคสเตอร์กับตระกูลใหญ่อย่างยอร์กอย่างละเอียดต้องย้อนไปนานเหมือนกัน (ใครไม่ชอบข้ามไปได้เลยครับ)

ในสมัยปี1030 อังกฤษ(แองโกล-แซกซอน) ต้องยอมรับอำนาจของพวกไวกิ้ง (พวกไวกิ้งมีอำนาจมากขยายอิทธิพลได้ทั่วยุโรปและอังกฤษก็เป็นหนึ่งในนั้น)พระเจ้าคนุตมหาราช ทรงเป็นโอรสของพระเจ้าสเวนฟอร์คเบียร์ด ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษและเป็นกษัตริย์ไวกิ้งพระองค์แรกในอังกฤษ นอกจากนี้พระเจ้าคนุตยังได้เป็นกษัตริย์แห่งนอร์เวย์และเดนมาร์ก พระเจ้าคณุตทรงปกครองอังกฤษไม่ดี จึงได้เชิญเจ้าชายน้องชายอัลเฟรด คือเอดวาร์ด ขึ้นครองราชแทน แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดพระเจ้าเอดวาร์ดไม่มีรัชทายาท เมื่อพระองค์สิ้นพระชนน์ลง ก็เกิดการช่วงชิงราชบัลลังค์ขึ้นมาระหว่างเอิร์ลแห่งเวสเซ็กซ์(Earl of Wessex ) พระเจ้าฮาราล์ดแห่งนอร์เวย์ และ ดยุควิลเลี่ยมแห่งนอร์มังดีจากฝรั่งเศส (สองคนหลังเป็นพระเจ้าของคนุต) การช่วงชิงของทั้งสามคนผลปรากฎว่าเอิร์ลแห่งเวสเซ็กซ์ ได้ครองราชย์เป็นพระเจ้าฮาโรลด์ กอดวิลสัน ชนะพระเจ้าฮาราร์ดแห่งนอร์เวย์ที่สะพานสแตมฟอร์ด (Stamford Bridge เอ๊ะๆชื่อคุ้นสโมสรหนึ่งในลอนดอนนะ ) แต่พระเจ้าฮาโรล์ด ดันไปแพ้ดยุควิลเลี่ยมแห่งนอร์มังดีที่เฮสติงส์ ( Hastings) ดยุควิลเลี่ยมขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าวิลเลี่ยมที่1 แห่งอังกฤษ ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์นอรมัน

พระเจ้าวิลเลี่ยมที่1 ถูกเจ้าพวกแคว้นต่างๆต่อต้านเหตุผลเพราะได้เป็นกษัตริย์จากชัยชนะในการรบไม่ใช่มาจากการเลือกตั้งของผู้นำหรือเจ้าของแคว้นต่างๆในอังกฤษอย่างกษัตริย์ที่ครองอังกฤษผ่านมาเป็น แต่พระองค์ก็ทรงปราบกบฏเหล่านั้นได้สำเร็จ



รูปพระเจ้าวิลเลี่ยมผู้พิชิต หรือดยุค แห่งนอร์มังดีทรงนำระบบศักดินาสวามิภักดิ์ (Feudalism) เข้ามาสู่อังกฤษ
เมื่อพระเจ้าวิลเลี่ยมที่1 สินพระชนม์ลง ปัญหาราชสมบัติก็เกิดขึ้นมาทันทีเมื่อมีการแบ่งราชสมบัติในระหว่างโอรสของพระองค์ กล่าวคือ เจ้าชายโรเบิร์ต โอรสองค์ใหญ้ได้รับแคว้นนอร์มังดี
ส่วนคนน้องได้รับตำแหน่งกษัตริย์อังกฤษ นั่นก็คือ เจ้าชายวิลเลี่ยมที่2 ส่วนโอรสคนสุดท้องคือเจ้าชายเฮนรี่ได้รับเงินเพียงจำนวนหนึ่ง แต่ด้วยความโลภเจ้าชายนอกจากได้แคว้นนอร์มังดีอันเป็นฐานเดิมของตระกูลก็ยังทรงอยากได้ตำแหน่งกษัตริย์ด้วย เจ้าชายวิลเลี่ยมนั้นได้เป็นกษัตริย์อังกฤษก็จริงแต่พระองค์ก้ทรงคำนึงถึงความจำเป็นทางการเมืองที่กษัตริย์น่าจะมีสิทธิและอำนาจเหนือแคว้นนอร์มังดีด้วยเช่นกัน (ต่างฝ่ายต่างอยากได้ของกันและกัน จึงเกิดความไม่ไว้วางใจกันและกัน สุดท้ายพระองค์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ในที่สุด



แคว้นนอร์มังดีที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ เจริญ อุดมด้วยแร่ธรรมชาติ และเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของฝรั่งเศส ทั้งช่วงทามไลน์ของยุโรปกลางและช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่1และ2 ในการยกพลขึ้นบกของฝ่ายสัมพันธมิตร

พระเจ้าวิลเลี่ยมไม่มีพระราชโอรสเพราะไม่ได้อภิเสกสมรส แต่กระนั้นได้ทำข้อตกลงกับเจ้าชายโรเบิร์ต ดยุคแห่งนอร์มังดีว่า จะได้ครอบครองสืบต่อจากพระองค์ แต่ปรากฎว่าเวลาที่พระเจ้าวิลเลี่ยมที่2 สิ้นพระชนม์ ดยุคแห่งนอรมังดีได้เดินทางไปทำสงครามครูเสด เจ้าชายเฮนรี่น้องคนสุดท้องจึงฉวยโอกาสเข้ายึดบัลลังค์แทนซะเลย ทรงเป็นกษัตริย์พระนามว่า "พระเจ้าเฮนรี่ที่ 1 " โดยได้รับการสนับสนุนจากบรรดาขุนนาง (แย่งกันมั่วซั่วไปหมด- -)


รูปภาพพระเจ้าเฮนรี่ที่ 1 น้องคนสุดท้องของเจ้าชายโรเบิร์ตแห่งดยุคนอร์มังดีและพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 2

ดยุคแห่งนอร์มังดีพยายามจะรุกรานอังกฤษ แต่พระเจ้าเฮนรี่ที่1 ก็บุกไปโจมตีนอร์มังดี สุดท้ายแคว้นนี้ก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ปิดฉากการอ้างสิทธิของเจ้าชายโรเบิร์ต

พระเจ้าเฮนรี่ที่ 1 มีพระราชพระโอรสอยู่1 พระองค์ คือเจ้าชายวิลเลียม (ชื่อซ้ำกันอีกแล้ว ) และมีพระธิดาคือเจ้าหญิงมาธิลดา แต่เนื่องจากเจ้าชายวิลเลียมทรงสิ้นพระชนม์ไปก่อน ทำให้พระองค์จึงประสงค์ให้พระธิดาเป็นกษัตริย์อังกฤษแทนพระองค์ พระนางมาทิลดาได้ อภิเษกสมรสกับเจฟรีย์ เคานต์แห่งอังชู จากฝรั่งเศส ทำให้บรรดาขุนนางในอังกฤษไม่พอใจ (ไปแต่งกับท่านเค้าท์จากแคว้นอังชู ขุนนางเลยมองว่าเสื่อมเสียเกียรติ) ขุนนางเหล่านั้นจึงไปสนับสนุนสตีเฟนแห่งบลัวส์ (Stephen of Blois) ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นเอิร์ลแห่งแลงคาสเตอร์ (มาแล้วหล่ะตัวละครที่มาจากแลงคาสเตอร์ )



รูปภาพ สตีเฟนแห่งบรัวส์ กำรงตำแหน่งเอิรล์แห่งแลงคาสเตอร์ เป็นลูกชายของท่านเคานต์แห่งบลัวส์ ซึ่งแต่งงานกับพระธิดากับพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 1 จึงถือว่าน่าจะเป็นสายเลือดของกษัตริย์ด้วยเช่นกันจึงมีสิทธิขึ้นครองราชย์ได้ แต่ปรากฎว่าพระนางมาทิลดา (Empress Natilda) พระธิดาของพระเจ้าเฮนรี ซึ่งสามีของพระนางคือ เจฟฟรีย์ เคาน์ตแห่งอังชู (Count of Anjou) ยกทัพสิทธิมาทวงบัลลังค์ในปี 1139 พระนางทิลดาถูกขับไล่ออกจากอังกฤษ พระเจ้าสตีเฟนทรงมีรัชทายาทแตก็สิ้นพระชนม์อีก ในปี1153 ทรงเจรจากับพระนางมาทิลดา ใ้พระโอรสของพระนางขึ้นครองราชย์เป็น "พระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 " ปฐมกษัตริย์พลันตาจาเนต (Plantaganet)

พระเจ้าเฮนรี่ที่2 ทรงเป็นเคานต์แห่งอังชูมาก่อน จึงผนวกแคว้นอังชูมารวมกับอังกฤษ นอกจากนี้พระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 ทรงอภิเษกสมรสกับเอเลนอร์แห่งอากีแตน (Eleanor of Aquitaine) แค้วนอากีแตนอันกว้างใหญ่จึงรวมมาอยู่กับอังกฤษอีกด้วย ในรัชสมัยพระองค์ทรงช่วยเหลือเจ้าชายจากไอร์แลนด์ นำทัพไปทวงบัลลังค์คืน แต่สุดท้ายพระองค์ก็ยึดดินแดนเป็นของพระองค์เอง ทรงปราบดาภิเษกเป็น "ลอร์ดแห่งไอร์แลนด์ (Lord of Ireland ) นับเป็นครั้งแรกที่อังกฤษได้ดินแดนในไอร์แลนด์


รูปภาพที่สอง พระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 ผู้ครองดินแดนไอร์แลนด์ได้เป็นครั้งแรก

กษัตริย์พระองค์ต่อมาที่เราคงเคยได้ยินผ่านหูคือ พระเจ้าริชาร์ดที่1 หรือริชาร์ดใจสิงห์ คนนี้ดังมากในสงครามครูเสดครับ ทรงเป็นนักรบที่กล้าหาญและทำสงครามซาลาดินเพื่อแย่งชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จนได้รับฉายา ริชาร์ดใจสิงห์ (Richard the Lionheart)




รูปภาพ กษัตริย์ริชาร์ดที่1 หรือริชาร์ดใจสิงห์ อันโด่งดังในสงครามครูเสด &มีอนุเสาวรีย์ด้วยนะ

ต่อมาพระเจ้าจอร์นซึ่งเป็นพระอนุชาของกระเจ้าริชาร์ดที่ 1 ได้ครองบรรลังค์เป็นกษัตริย์ ทรงได้อภิเสกสมรสอิซาเบล แห่งอองกูแลม (Isabel of Angouleme) ซึ่งหมั้นหมายกับคนอื่นอยู่ก่อนแล้ว การกระทำของพระเจ้าจอร์นผิดหลักคริสต์ศาสนา พระเจ้าฟิลลิปเรียกพระเจ้าจอร์นให้ยกเลิกการแต่งงาน แต่พระเจ้าจอร์นทรงปฏเสธ พระเจ้าฟิลลิปจึงอ้างสิทธิว่าพระเจ้าจอร์นในฐานะลูกน้องไม่ฟังนาย ตามหลักศักดินา จึงทรงยกทัพตีแคว้นอากีแตนและนอร์มังดี ทำให้อังกฤษเสียแคว้นทั้งสองนี้ไป อังกฤษเหลือแต่แคว้นกาสโคนีเท่านั้น (ถ้าผมจำไม่ผิดพระเจ้าฟิลลิปนี่เป็นกษัตริย์ที่โด่งดังมากในฝรั่งเศส)

พระเจ้าจอร์นทรงพ่ายแพ้พระเจ้าฟิลลิปทำให้ขุนนางเห็นว่าพระองค์ทรงใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ควร จึงร่วมกันบีบให้พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไทยใน " มหากฎบัตรแมกนาคาตาร์ Magna Carta จำกัดพระราชอำนาจของกษัตริย์อังกฤษว่าจะต้องไม่ขัดกฎหมายและพวกขุนนางต้องยินยอมทำให้อังกฤษเป็นระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นประเทศแรกเป็นต้นมา (เราก็ได้อิทธิพลจากกฎบัตรนี้เช่นกัน) แต่พระเจ้าจอร์นก็มิได้ทรงให้เสรีภาพตามสัญญาเพราะทรงถูกบังคับทำ บรรดาขุนนางจึงก่อกบฏทำสงคราบารอน (Baron War) จพยกบัลลังค์ให้องค์ชายหลุยส์แห่ฝรั่งเศส องค์ชายหลุยส์นำทัพบุกอังกฤษแต่ไม่สำเร็จ

พระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 ครองราชย์ต่อจากพระบิดาพระเจ้าจอร์นทรงเคร่งศาสนามากและโปรดปรานขุนนางต่างชาติ เช่น ฝรั่งเศส ทำให้ขุนนางอังกฤษตำหนิพระองค์ ซิโมน เดอ มงฟอร์ต (Simon de montfort) ขุนนางฝรั่งเศสในอังกฤษ ใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินพระเจ้าเฮนรี่ที่3 ในแคว้นกาสโคนี ทรงไม่พอพระทัย ฝ่ายมงฟอร์ตก็รวบรวมขุนนางก่อกบฎต่อพระเจ้าเฮนรี่จนเกิดสงครามบารอนอีกครั้ง พระองค์ถูกบังคับให้ย้ำมหากฎบัตรพระราชอำนาจลดลงไปอีก
รัฐสภาอังกฤษ (Paliament) ยังประชุมกันคร้งแรกในปี 1236 ในสมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3

ในเวลาต่อมาพระเจ้าเอ็ดวาร์ดที่ 1 พระโอรสของพระเจ้าเฮนรี่ ทรงยึดแคว้นเวลส์ในปี1277 เหลือดินแดนเล็กน้อยให้กษัตริย์เวลส์ปกครอง และถูกลดขั้นเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of wales) แต่ก็ยึดตำแหน่งให้พระโอรสในที่สุด กลายเป็นตำแหน่งรัชทายาทอังกฤษในปัจจุบัน และยังทรงได้ยึดสกอตแลนด์เป็นเมืองขึ้นในปี1293 แต่ชาวสกอตไม่ยอม สองอาณาจักรจึงขับเคี่ยวในสงครามประกาศอิสรภาพสกอตแลนด์ (War of scottish Independence) แต่ทรงพ่ายแพ้ตอวิลเลี่ยม วอลเลช ( William wallace) วีรบุรษแห่งสก็อตแดนน้ำเมา ทำให้สกอตแลนด์แยกตัวออกไป ต่อมาพระโอรสคือ พระเจ้าเอ้ดเวิร์ดที่2
ทรงพ่ายแพ้พระเจ้าโรเบิร์ตแห่งสกอตแลนด์ที่บันน็อคเบิร์น ในปี1314 ทำให้สกอตแลนด์เป็นเอกราชอย่างสมบูรณ์ ( อังฤษและสกอตมักไม่ถูกกันครับ ดังนั้นประวัติศาสตร์ที่เกลียดกันของสองชาติได้ลามส่งผลมายังฟุตบอลด้วย ในมุมมองของคนสกอตแลนด์เขามองตัวเองว่าไม่เคยเปนหนี้หรือติดค้างกับประเทศอังฤษ เขามีระบบการเมือง ศาสนา เศรษฐกิจของเขาเอง ดังนั้นการที่คนอังกฤษจะไปเที่ยวสกอตแล้วหิ้วเงินปอนด์ไป เขาไม่อยากจะรับนะครับ ส่วนอังกฤษมองสกอตเป็นส่วนหนึ่งของตน เหมือนนายกับบ่าว )




รุปภาพ หนังการต่อสู้กล้าหาญของชาวสกอตที่ยืนหยัดสู้กับกองทัพของอังกฤษนำโดยกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 2 จนเกิดวีรบุรุษสกอตแลนด์ขึ้น นำแสดงโดยเมล กิ๊บสันครับ
และรุปภาพทัพขนาดใหญ่ของอังกฤษที่เตรียมโจมตีบดขยี้กองทัพสกอต

ต่อมาในสมัยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ทรงเริ่มสงครามครั้งใหม่กับสกอตแลนด์อีกในปี 1333 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทรงเล็งเห็นว่าเป็นเพราะฝรั่งเศสให้การสนับสนุนสกอตแลนด์ตามสัญญาพันธมิตรเก่า ระหว่างสกอตแลนด์กับฝรั่งเศส ในฝรั่งเศสราชวงศ์กาเปเชียงสิ้นสุดลง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่3 ทรงมีสิทธิในบัลลังค์ฝรั่งเศสผ่านทางพระมารดา แต่ขุนนางฝรั่งเศสอ้างกฎบัตรซาลลิคกันพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไม่ให้ครองฝรั่งเศส สงคราม100ปี ( Hundred Year War) จึงเริ่มขึ้น ในปี1337 และในสงคราม100ปี ที่ผมจะกล่าวต่อไปในครั้งหน้าเป็นจุดเริ่มต้นของตระกูลแลงคาสเตอร์ที่ก้าวมาเป็นราชวงศ์ใหม่ของอังกฤษครับ

ปล. พักก่อนครับ เด๋ยวทุกท่านจะเบื่อ
ปล. พาทสอง คือพาทสุดท้าย ที่เกิดสงครามระหว่างตระกูลแลงคาสเตอร์และตระกูลยอร์ค ที่ก่อสงครามจนนำไปสู่ผลกระทบในด้านอื่นๆ รวมถึงฟุตบอล

ผิดพลาดประการใดขออภัย



เข้าร่วม: 14 Mar 2010
ตอบ: 18390
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 28, 2017 7:00 pm
[RE]Intro & Rose War Part 1 (ตามสไตล์ผู้เขียน)
อันนี้นอกเรื่อง ท่านจบด้านไหน ทำงานด้านไหนครับ

ข้อมูลบางอย่างนี่ท่านรู้ลึกมาก เป็นแฟนสิงห์ในไม่กี่คนที่คิดว่า

ข้อมูลแน่นดี (แบบไม่พึ่งอากู๋)

0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 10474
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 28, 2017 7:20 pm
[RE: Intro & Rose War Part 1 (ตามสไตล์ผู้เขียน)]
กองกลางเบอร์ 20 พิมพ์ว่า:
อันนี้นอกเรื่อง ท่านจบด้านไหน ทำงานด้านไหนครับ

ข้อมูลบางอย่างนี่ท่านรู้ลึกมาก เป็นแฟนสิงห์ในไม่กี่คนที่คิดว่า

ข้อมูลแน่นดี (แบบไม่พึ่งอากู๋)

 

รัฐศาสตร์ และ ประวัติศาสตร์ ครับ ทำงานด้านการสอนครับ

มันไม่ได้ยากเกินไปครับ อย่างแรกถ้าคิดจะเรียนหรือทำงาน ต้องมีความสนใจครับ ไม่มีความสนใจเราก็จะผ่านไปเลยทันที ความยากคือต้องจำและเข้าใจนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด รายละเอียดปลีกย่อยคือจำอะไร เข้าใจอะไร เช่นจำเหตุการณ์ จำตัวละคร จำพ.ศ. มันถึงจะไปต่อได้ แล้วค่อยเอามาผูกโยงกัน เหมือนต่อจิ้กซอร์
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 10046
ที่อยู่: อยู่ตรงนั้นเธอคิดถึงฉันสักเท่าไหร่
โพสเมื่อ: Sun May 28, 2017 8:22 pm
Intro & Rose War Part 1 (ตามสไตล์ผู้เขียน)
ยาวไปแต่ก็อ่านครับ แพล่บไปก่อน
0
0
เข้าร่วม: 11 Jul 2010
ตอบ: 40325
ที่อยู่: DD จงเจริ้ญ!!!
โพสเมื่อ: Sun May 28, 2017 8:25 pm
[RE: Intro & Rose War Part 1 (ตามสไตล์ผู้เขียน)]
ติดแผล่บไว้ก่อนนะครับจารย์
0
0

เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 10474
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 28, 2017 10:07 pm
[RE: Intro & Rose War Part 1 (ตามสไตล์ผู้เขียน)]
Barcelonistu พิมพ์ว่า:
ติดแผล่บไว้ก่อนนะครับจารย์  

ไม่ต้องแผล่บครับ ไม่ได้หวังอะไร มีแต่ความรู้ให้
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 10474
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 28, 2017 10:07 pm
[RE: Intro & Rose War Part 1 (ตามสไตล์ผู้เขียน)]
Kuronek0 พิมพ์ว่า:
ยาวไปแต่ก็อ่านครับ แพล่บไปก่อน  

ขอบคุณครับ ไม่หวังแพล่บ ถือว่าแบ่งปันความรู้ครับ