[RE: "น้ามู"หน้าบานฝ่าฟันฤดูกาลยากสุดในชีวิตได้ 3 แชมป์+ตั๋วไป CL]
"สิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป ก็คือความรู้สึก, อารมณ์ และความทรงจำที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น มันยังคงตราตรึงอยู่ในหัวของผมเสมอมา"
โชเซ่ มูรินโญ่ เปิดใจถึงการโยนเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก 2005-06 ให้กับกลุ่มคนที่เขารักอย่างแฟนบอลเชลซี เพราะมองว่า ความรู้สึกเป็นสิ่งที่สำคัญเหนือวัตถุสิ่งของ ..... มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งฤดูกาล หลังจากเขาเพิ่งพา "สิงโตน้ำเงินคราม" ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
"ผมมีแบบจำลองของถ้วยแชมป์ทุกใบที่ผมเคยได้" มูรินโญ่ เล่าต่อ "แต่ผมไม่สนใจถ้วยจำลอง หรือเหรียญแชมป์หรอก ผมมองว่าสิ่งที่เป็นแรงกระตุ้นที่แท้จริง นั่นคือความรู้สึกในวัยเด็ก ที่ได้เล่นฟุตบอลข้างถนนแถวบ้าน คุณต้องการแค่ชัยชนะ และนั่นคือความรู้สึกที่ถ่องแท้ของฟุตบอล"
"ในช่วงเวลาที่เกมลีกสิ้นสุดลง ทุกอย่างจะผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก กับคนที่คุณรักมากที่สุด และคนที่คอยเคียงข้างคุณเสมอมา มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเหมือนกันในการนำไปสู่ถ้วยแชมป์ อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป หลังจากเฉลิมฉลองแชมป์เพียง 5 นาที ผมก็จะเดินหน้าต่อไป และคิดถึงแต่เรื่องของฤดูกาลหน้าเท่านั้น"
ผลสุดท้าย แฟนบอลคนที่ได้รับเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก ในครั้งนั้น นำมันออกมาประมูลขาย เพื่อแลกเป็นเงินจำนวนมหาศาลเข้ากระเป๋า และ 10 ปีหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น มูรินโญ่ กลายเป็น "คนทรยศ" ในสายตาแฟนบอลเชลซี บางส่วน
"แฟนบอลเชลซี อยากเรียกผมว่าอะไรก็ได้ตามต้องการ ผมยังคงเป็นผู้จัดการทีมอันดับ 1 ของพวกเขา จนกว่าจะมีกุนซือที่พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัย เวลานั้นผมถึงจะกลายเป็นเบอร์ 2"
วันนี้มูรินโญ่ อาจได้เรียนรู้ความจริงข้อหนึ่งของชีวิตว่า "ความรู้สึก, อารมณ์ และความทรงจำ" ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป เหมือนกับที่เขาเคยเข้าใจตลอดมา
ขออ้างอิงจาก "คนรักบอร์ด" นะครับ ผมว่าใครจะว่าความรู้สึก อารมณ์และความทรงจำ ไม่คงอยู่ตลอดไป ก็แล้วแต่ แต่ผมอิจฉาคนแบบน้ามูนะครับ ที่คิดย้อนกลับมาถึงความทรงจำที่ดี แล้วความรู้สึกมันพรั่งพรูออกมา มันคงฟินมากๆเหมือนวันที่เราหัวใจเต้นแรงในวันที่ตกหลุมรักครั้งแรกนะครับ