Nike , Adidas , UA สามค่ายผลิตรองเท้าบาสยักษ์ใหญ่ออกมาประกาศ แล้วว่าเมินการเซ็นสัญญากับ Lonzo Ball ลูกชายสุดรักของ Lavar Ball เรียบร้อยแล้ว หลังก่อนหน้านี้ พ่อของไอ้หนุ่มรายนี้ ออกปากว่า ลูกชายของเขาเก่ง ถึงขนาดค่ายดังสามค่ายนี้ต้องเซ็นสัญญาด้วย เรียกได้ว่าหน้าแตกกันไปตามๆกันเลยทีเดียว

http://www.sportingnews.com/nba/news/lonzo-lavar-ball-nike-adidas-under-armour-shoe-deal/ujtxdyj4djs117c8kwrv6i10n

แล้วแบรนด์ 3BB ไรนั่นอ่ะ

นันยางไหมจัดไปเลย

พอรู้จักหน่อยเหลือแต่ lining แล้วมั้ง

ดังเมื่อไหร่ก็ได้เซ็นเองแหละ

ตามข่าวจริงๆ คือBallคนพ่อ ต้องการขายลูกแบบแพคเกตสามคน

ที่สำคัญยังไม่พอ เหมือนกับต้องการเป็นพารทเนอไรงี้เลยมั้ง คล้ายๆจอรแดนไรงี้เลย

แทนที่จะแค่ออกรองเท้าตามสัญญาเหมือนคนอื่น

เอาจริงๆผมชอบการตลาดของคนพ่อไรนี้นะที่เกรียนๆให้ออกมาดัง

แต่ว่อันนี้มันดูเหมือนเยอะเกินไปหน่อย คือตัวลูกคนโตไม่ใช่เก่งแบบทิ้งห่างคนอื่นขนาดนั้น

ส่วนอีกสองคนยังไม่รุ้ชะตาเลย เออถ้าลูกเก่งแบบเปนสตาร์ของNBAหมด อาจจะต่อรองได้หน่อย

ตระกูลนี้คลั่ง adidas ด้วยนะ

ตระกูล 3 board band อะนะ

จากข่าวนี้

http://www.espn.com/mens-college-basketball/story/_/id/19264024/nike-armour-adidas-not-interested-deal-lonzo-ball


เข้าคุยกันทั้ง 3 แบรนเลยนะ

แต่ LaVar แกมี Model ต้นแบบของรองเท้าที่ออกแบบมาเรียบร้อยละ แล้วก็จะทำแบบ Co-Branding คือทำแบรนด์ด้วยกัน แกไม่ยอมให้แบรนด์รองเท้าดังเซ็นๆแล้วทำอะไรได้ตามใจนั่นแหละ (จอร์แดนกับจอร์แดนแบรนยังไม่มีอำนาจขนาดนี้เลย จอร์แดนอาจจะพอแนะนำให้แบรนด์เลือกผู้เล่นเข้าแบรนด์ได้แหละ แต่แกก็ไม่มีสิทธิถึงขั้นบริหารหรือออกแบบรองเท้าแบรนด์ขนาดนั้น ความจริงแกได้ส่วนแบ่งจากการขายแค่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นด้วยซ้ำไป นอกนั้นไนกี้ทำเองหมด)

ต่อไปแกจะไปคุยกับ LiNing, Peak และ Anta พร้อมทั้งจะเจรจาหาพาร์ทเนอร์นอกธุรกิจรองเท้าอีกซึ่งอาจจะเป็น Facebook

ความจริงแกร้ายนะนั่น คือถ้าลูกแกปังขึ้นมานี่ รวยแน่ๆอะ และแกน่าจะเรียกส่วนแบ่งจาก 3 ค่ายนั้นเยอะ 3 ค่ายนั้นเลยไม่ยอม (เอาง่ายๆขนาดจอร์แดนได้ส่วนแบ่งแค่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นของจอร์แดนแบรนด์ ปีที่แล้วยังได้ประมาณ 90 กว่าล้านเหรียญเลย)

เหนด้วยเลย เล่นโคตรเสี่ยง คือมั่นใจฟอมลูกขนาดนั้นเลยหรอว่าจะปัง

ถ้าไม่ปังนี่โอกาสเซนสัญญากับไนกี้หายไปหลักหลายสิบล้านเลย

ตัว Lonzo ไม่มี Potential แบบโดดออกมาจากรุ่น เหมือนเมื่อสมัย LeBron James ที่ทำให้หลายๆ แบรนด์กล้าทุ่มเซ็นสัญญากับเค้า

ล่าสุดมีสัมภาษณ์ที่ James เล่าว่าเคยปฏิเสธเช็คจำนวน 10 ล้านเหรียญจากเจ้าของแบรนด์ Reebok เพื่อที่จะให้ James ไม่ต้องประชุมกับแบรนด์ที่เหลืออย่าง Adidas และ Nike ทั้งๆ ที่ตอนนั้น James และครอบครัวยังต้องเช่าบ้านเดือนละ 17 เหรียญอยู่เลย ที่ปฏิเสธเพราะ James ให้เหตุผลว่าถ้าแม้แต่ Reebok ยังเสนอเงินจำนวนมากเท่านี้แก่เค้า แล้วทำไมแบรนด์ที่เหลือที่จะนัดคุยกันจะเสนอเงินมากกว่านี้ไม่ได้ล่ะ สุดท้ายก็เซ็นกับ Nike 90 ล้านเหรียญ และมีรองเท้าของตัวเองออกมา

ฉะนั้นเมื่อเทียบกันแล้วตัว Lonzo อาจจะเก่ง แต่ไม่มีทางที่จะได้ดีลแบบ James หรือคนอื่นๆ ที่ใกล้เคียงอย่างที่พ่อเค้าอยากได้แน่นอน อีกทั้งพวกดีลของ Rookie มักจะเป็นของฟรีและเงินอีกนิดหน่อย ไม่มีรองเท้าของตัวเอง หรือเต็มที่ก็แค่ P.E. แบบที่มีสีของตัวเองคู่กับทีม หรือกระทั่งมีโลโก้ตัวเองบนลิ้นรองเท้า

ถ้าเข้าลีคแล้วเล่นดีขึ้นเรื่อยๆ เก่งขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นสตาร์ของทีม ก็อาจจะเป็นไปได้ที่แบรนด์จะเข้ามาและเสนอดีลให้ในอนาคตก็เป็นได้ สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ตัวเองนี่แหละ อีกทั้งควรจะหา Agent ที่ดูแลผลประโยชน์ที่เป็น​ "มืออาชีพ" มากกว่าพ่อตัวเองด้วย

ตัว Lonzo ไม่มี Potential แบบโดดออกมาจากรุ่น เหมือนเมื่อสมัย LeBron James ที่ทำให้หลายๆ แบรนด์กล้าทุ่มเซ็นสัญญากับเค้า

ล่าสุดมีสัมภาษณ์ที่ James เล่าว่าเคยปฏิเสธเช็คจำนวน 10 ล้านเหรียญจากเจ้าของแบรนด์ Reebok เพื่อที่จะให้ James ไม่ต้องประชุมกับแบรนด์ที่เหลืออย่าง Adidas และ Nike ทั้งๆ ที่ตอนนั้น James และครอบครัวยังต้องเช่าบ้านเดือนละ 17 เหรียญอยู่เลย ที่ปฏิเสธเพราะ James ให้เหตุผลว่าถ้าแม้แต่ Reebok ยังเสนอเงินจำนวนมากเท่านี้แก่เค้า แล้วทำไมแบรนด์ที่เหลือที่จะนัดคุยกันจะเสนอเงินมากกว่านี้ไม่ได้ล่ะ สุดท้ายก็เซ็นกับ Nike 90 ล้านเหรียญ และมีรองเท้าของตัวเองออกมา

ฉะนั้นเมื่อเทียบกันแล้วตัว Lonzo อาจจะเก่ง แต่ไม่มีทางที่จะได้ดีลแบบ James หรือคนอื่นๆ ที่ใกล้เคียงอย่างที่พ่อเค้าอยากได้แน่นอน อีกทั้งพวกดีลของ Rookie มักจะเป็นของฟรีและเงินอีกนิดหน่อย ไม่มีรองเท้าของตัวเอง หรือเต็มที่ก็แค่ P.E. แบบที่มีสีของตัวเองคู่กับทีม หรือกระทั่งมีโลโก้ตัวเองบนลิ้นรองเท้า ยกเว้นบางคนที่แบรนด์เห็นแล้วว่ามี Potential จริงๆ

ถ้าเข้าลีคแล้วเล่นดีขึ้นเรื่อยๆ เก่งขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นสตาร์ของทีม ก็อาจจะเป็นไปได้ที่แบรนด์จะเข้ามาและเสนอดีลให้ในอนาคตก็เป็นได้ สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ตัวเองนี่แหละ อีกทั้งควรจะหา Agent ที่ดูแลผลประโยชน์ที่เป็น​ "มืออาชีพ" มากกว่าพ่อตัวเองด้วย

เรื่องมาก+อยากจัดใหญ่ก็เรียบร้อบสิครับ

Lavarช่วยสร้างกระแสให้ลูกได้เยอะ แต่มั่นใจในตัวเองมากเกินไป

Lonzoผมมองว่าoutstandingอยู่แต่ในclassนี้เก่งๆเยอะนะทั้งMarkel,De'aaron,Malik,J.JacksonหรือJason Tatumก็ด้วย

ส่วนLiAngeloกับLameloก็โดนหาว่าCherry Pickซะเยอะเลยทำแต้มสูงตลอด แต่ส่วนตัวผมว่าเจ้าเมลโล่ก็น่าจะพอไหวอยู่

ต้องบอกเลยว่าLavarนี่ตรรกะแปลกจริง ตั้งแบรนด์BBBมาขายในราคาที่แพงกว่าJumpmanอีก

1 คือเงิน ทำให้ไม่สามารถเซ็นได้
แต่ก้อจิงนะฮ่าๆๆๆๆ
ก้อแล้วแต่ฮะพ่อ แต่ดูฟอร์มจิงๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรขนาดนั้นอ่ะ