[ManUtd Analysis] ยังอันดับ 5 เท่าปีก่อน? มูมาทำให้ทีมดีขึ้นจริงหรือ?
บทความโดย Ted Knutson แห่ง Statsbomb.com ซึ่งเน้นการวิเคราะห์โดยใช้ตัวเลขทางสถิติเป็นหลักเพื่อให้เห็นภาพและมีหลักฐานชัดเจน ไม่ต้องมโน (บทความนี้ผมขอแปลแบบไม่เป็นคำต่อคำนะครับ เน้นสรุปๆและใช้ภาษาบ้านๆอ่านเข้าใจง่ายๆเอา ขี้เกียจพิมพ์เยอะ ถ้าอยากอ่านภาษาอังกฤษฉบับเต็มให้เข้าตามลิ้งข้างล่างได้เลย)
พูดถึงหลุยฟานกัลกันสักนิด...
แมนยูยุคลุงกัลเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในทีมระดับท้อปที่จัดการทีมได้แย่ที่สุดทีมหนึ่งเลยก็ว่าได้ เมื่อฤดูกาลก่อนด้วยตัวผู้เล่นที่ซื้อมาแพงๆ พวกเค้ามีจังหวะง้างไกยิงน้อยกว่าซันเดอร์แลนด์ที่อยู่อันดับ 17 ซะอีก!!
โดยแมนยูมีโอกาสยิง 11.3 ครั้งต่อเกมในฤดูกาล 15-16 ขณะที่ปีก่อนหน้านั้นเบิร์นลี่ย์และฮัลล์ตกชั้นไปด้วยค่าเฉลี่ยโอกาสยิง 11.3 ครั้งต่อเกม...
ซึ่งถ้าทีมคุณได้ง้างยิงเท่าๆกับทีมที่ตกชั้นโดยที่ทีมคุณคือทีมอย่างแมนยูแล้วล่ะก็ มันต้องมีปัญหาแล้วล่ะ
แมนยูจบฤดูกาลอันดับ 5 ด้วยผลต่าง +14 ประตู เท่ากับยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีกตลอดกาลอย่างเวสแฮม(ประชด) ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับทีมอันดับ 4 อย่างแมนซิตี้ที่จบด้วยแต้มเท่ากัน (66แต้ม) แต่มีผลต่าง +30 ประตู
ทั้งที่ในทีมก็ไม่ได้ขาดแคลนคนที่จะทำหน้าที่ยิงเลย ทั้งรูนี่ย์ เดปาย มาเที่ยว มาต้า ลินกาด ต่างก็สร้างจังหวะยิงได้อย่างมากมายในอดีต มันชัดเจนเลยว่าการที่โอกาสยิงน้อยมาจากแทคติก ซึ่งจะโทษใครไปไม่ได้นอกจากลุงกัล
สิ่งที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นคือถ้ามีจังหวะยิงน้อยมันก็น่าจะแลกมาด้วยคุณภาพของการยิงที่จะเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้ดีขึ้น แต่เปล่าเลย ฤดูกาลที่แล้วพวกเค้าทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งลีกแค่นิดเดียว คือ 10.5%
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นสรุปได้สั้นๆว่ามูริญโญ่รับช่วงต่อทีมที่ค่อนข้างเละเทะมานั่นเอง
มาดูตัวเลข
หมายเหตุ:ตัวเลขนี้คิดถึงสัปดาห์ก่อนอิบราเจ็บ
ดูจากตัวเลขข้างบน จะเห็นว่าการเข้ามาของมูริญโญ่นั้นมีผลต่อตัวเลขต่างๆของแมนยูอย่างมากแม้ว่าอันดับในลีกจะเท่าเดิม แมนยูยุคลุงกัลคือทีมที่ง่อยเปลี้ยที่โชคดีที่ได้จบเป็นอันดับ 5 แมนยูยุคมูในฤดูกาลนี้คือทีมที่มีตัวเลขพอๆกับทีมท้อป 4 ด้วยกัน
โดยแมนยูพัฒนาขึ้นทั้งเกมรุกและเกมรับ เห็นได้ชัดจากที่พวกเค้ามีค่าเฉลี่ยการยิงต่อเกมเพิ่มขึ้นถึง 6 ครั้ง ในขณะที่คู่แข่งมีโอกาสยิงพวกเค้าต่อเกมลดลงประมาณ 2 ครั้ง มันแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงวิธีการทำทีมจากฐานรากได้อย่างน่าประทับใจ
จะมีข้อติก็คือ การเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูของพวกเค้าลดลง (จาก 0.105 เป็น 0.091) แต่ของฝั่งคู่แข่งก็แย่ลงเช่นเดียวกัน (0.088 เป็น 0.077)
กราฟข้างล่างนี้แสดงถึงค่าเฉลี่ยการได้และการเสียประตูประตูในช่วงเวลาต่างๆใน 1 เกม ของยุคลุงกัลกับยุคมู ซึ่งจะเห็นความแตกต่างกันอย่างมาก
นอกจากตัวเลขเกี่ยวกับการยิงประตูแล้วมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงอีก? มูให้เดเคอาเล่นบอลยาวจากหน้าประตูบ่อยกว่า การเพรสซิ่งดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องแปลกอยู่เพราะมูจะใช้การเพรสแบบบล็อกกลางสนามส่วนลุงกัลจะใช้การเพรสแบบรายตัว และแมนยูเสียประตูจากลูกเซทพีซน้อยลงไปครึ่งนึงจากยุคลุงกัล
แล้วจะปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง?
โอเคแมนยูดีขึ้น แต่จะปรับปรุงตรงไหนให้ดีพอที่จะเป็นแชมป์ได้
อันดับแรกเลย ต้องยิงให้เข้าประตู
นี่คือภาพเทียบกันระหว่างจังหวะยิง(ซ้าย)กับจังหวะที่ยิงแล้วเป็นประตู(ขวา)ในฤดูกาลนี้
น่าสนใจว่าจังหวะยิงส่วนใหญ่มาจากทางด้านซ้ายซึ่งน่าจะมาจากการที่แนวรุกตัดเข้าด้านในแล้วยิง แต่ในขณะเดียวกันทางด้านขวาแทบจะไม่มีเลย และยังมีการยิงไกลที่ไร้ประโยชน์อีกมากมาย การที่มีการยิงจำนวนมากมาจากทางด้านซ้ายเป็นสิ่งที่ทำให้ทีมฝั่งตรงข้ามควรจะต้องมีแผนรับมือ
ทีนี้มาลองเทียบกับทีมชั้นยอดด้านเกมรุกอย่างบาซ่า ปี15-16 ดู ว่าเค้ารุกและยิงประตูกันยังไง
สิ่งที่ต้องปรับปรุงอย่างมากอีกอย่างนึงของแมนยูคือการทำประตูจากลูกเซทพีซ ยุคลุงกัลทำได้ 0.18 ประตู/เกม ส่วนยุคมูทำได้ 0.22 ประตู/เกม ด้วยตัวผู้เล่นระดับนี้และการที่พวกเค้าสามารถเรียกฟาล์วนอกกรอบได้บ่อยขนาดนี้ ถ้าปรับการฝึกลูกเซทพีซดีๆพวกเค้าควรทำได้ถึง 0.3-0.4 ประตู/เกม ซึ่งถ้าพวกเค้าแค่ปรับตรงจุดนี้ได้จุดเดียว พวกเค้าก็จะสามารถเข้าใกล้แชมป์ไปแล้วด้วยซ้ำ
ก้าวต่อไปในบอลยุโรป
แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในอันดับท้อป 4 เลยเกือบทั้งฤดูกาล แมนยูยังคงมีโอกาสมากพอสมควรที่จะได้เข้าไปเล่นใน UCL ปีหน้า จากการวิเคราะห์ทางสถิติของ ESPN แมนยูมีโอกาส 58% ที่จะคว้าแชมป์ UEL และมีโอกาส 35% ในการจบท้อป 4 ในลีก และเมื่อรวมความน่าจะเป็น (combined probabilities) จากทั้งสองทางแล้ว ทำให้พวกเค้ามีโอกาสถึง 73% ในการที่จะเข้าไปเล่นใน UCL ฤดูกาลหน้า
จากการวิเคราะห์ด้านบน การมาของมูที่แมนยูทำให้พวกเค้าเป็นทีมที่ดีขึ้นมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสภาพทีมที่ย่ำแย่จากยุคลุงกัล แต่เครดิตส่วนใหญ่ต้องให้กับเดอะ สเปเชียลวันและขุนพลนักเตะแห่งโอลด์แทรฟฟอร์ด พวกเค้าดีขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก และคนดูก็สนุกกับการดูพวกเค้าเล่นเช่นเดียวกัน
จากตัวเลขต่างๆในฤดูกาลนี้เป็นการบอกว่าพวกเค้าจะแข่งขันแย่งชิงพื้นที่ UCL ทุกปี และหากปรับปรุงสิ่งต่างๆตามที่กล่าวมาข้างต้นได้แล้ว มูริญโญ่อาจนำแมนยูกลับสู่การแย่งชิงแชมป์ได้ในฤดูกาลหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเค้าไม่ได้มีส่วนร่วมมานานพอสมควรแล้ว
ของแถม...
สถิติรายบุคคล
ความเห็น: หลังจากที่ผมอ่านบทวิเคราะห์ชิ้นนี้แล้วผมเข้าใจเลยว่าทำไมแมนยูถึงมีข่าวจริงจังมากถึงขั้นเจรจากันคืบหน้าไปแล้วกับนักเตะสองคนคือ กรีซมันและเบอนาโดซิลวา เพราะสองคนนี้คือตัวรุกที่ทั้งสร้างสรรค์เกมและยิงเองได้ ที่สำคัญคือถนัดเท้าซ้ายทั้งคู่
จะเห็นได้ว่าปัญหาอย่างนึงของทีมคือไม่มีคนยิงจากด้านขวาเลย ซึ่งในตำแหน่งนั้นถ้าคนถนัดซ้ายแล้วตัดมายิงจะมีมุมยิงเยอะยิงง่ายกว่าถนัดขวา ซึ่งตอนนี้แมนยูมีอยู่คนเดียวที่เข้าข่ายคือมาต้า แต่มาต้าขาดความเร็ว และความฟิตกว่าสองคนแรก
นอกนั้นก็มีพวก squad player อย่างลินกาดที่จะหวังอะไรมากไม่ได้นอกจากวิ่งสู้ฟัด
สรุปคือจะซื้อตัวไหนก็เอาๆมาเถอะ เพราะมีสิ่งที่ต้องปรับอีกเยอะถ้าจะไปลุ้นฤดูกาลหน้า ยิ่งถ้าเกิดได้เล่น UCL ด้วยแล้วนี่ถ้าไม่ปรับเข้าไปอาจโดนพวกยักษ์ใหญ่ทำให้อายเอาได้