ที่ประชุม สปท. ถกลับนาน 4 ชั่วโมง สุดท้าย มีมติ อุ้ม “ป๋าอนุสร” แค่ “ว่ากล่าวตักเตือน” เท่านั้น ชี้จ่ายค่าปรับแล้วไม่ผิด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 เมษายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสปท.คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม พิจารณารายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการจริยธรรม สปท. กรณีนายอนุสร จิรพงศ์ สมาชิกสปท.ที่ถูกร้องเรียนกรณีทำร้ายร่างกายเด็กเสริฟ ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง เนื่องจากถูกเรียกว่า “ป๋า” อาจเป็นการกระทำหรือมีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกรรมาธิการ พ.ศ.2558 ข้อ 32 ประกอบข้อบังคับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2558 ข้อ102 หรือไม่โดยเป็นการประชุมลับ ซึ่งใช้เวลาพิจารณาในเรื่องนี้นานถึง 4 ชั่วโมง

รายงานข่าวแจงว่า ในที่ประชุมได้มีการอภิปรายแสดงความคิดเห็น โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ โดยกลุ่มแรกประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร นักกฎหมาย ทนายความ เห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ร้ายแรง เพราะถือว่านายอนุสร ไปเขกหัวใครก็ไม่เป็นไร เพราะจ่ายปรับไปแล้ว ก็ถือว่าคดีจบแล้ว ดังนั้นนายอนุสร ก็ไม่น่าจะมีความผิดอะไรอีก ในขณะนี้อีกกลุ่มมีความเห็นแย้งว่า ถึงแม้ว่าจะมีการจ่ายค่าปรับตามกฎหมายแล้ว แค่ สปท.คือผู้ที่มีเกียรติในการทำหน้าที่ จึงควรมีมาตรฐานจริยธรรมที่สูงกว่าคนทั่วไป เพราะถูกคัดเลือกมาแล้วก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน อย่าให้เขาไปประณามได้ว่ามีพฤติกรรมไม่ต่างจาก สภาผู้แทนราษฎร ขณะเดียวกันบุคคลที่ได้เลือกเข้ามาเป็น สปท. ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถก็ควรจะมีการควบคุมอารมณ์ โดยเฉพาะต่อที่สาธารณะให้มากกว่านี้ จึงไม่ควรทำให้สภาฯแห่งนี้ตกต่ำ

ทั้งนี้ เมื่อแสดงความเห็นเสร็จสิ้น ที่ประชุมได้ลงมติ เป็น 4 มติ คือ 1.ฝ่าฝืน ด้วยคะแนน 124ต่อ 22 งดออกเสียง 22 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง มติที่ 2. ร้ายแรง เห็นด้วย 54 ไม่เห็นด้วย 93 งดออกเสียง 14 มติที่ 3. ให้ประณาม เห็นด้วย 29 ไม่เห็นด้วย 104 งดออกเสียง 17 ไม่ลงคะแนน 9 เสียง และ4.ให้ว่ากล่าวตักเตือน เห็นด้วย 107 ไม่เห็นด้วย 38 งดออกเสียง 14 ไม่ลง 2 คะแนน จึงทำให้ที่ประชุมมีมติเพียงแค่ ให้กล่าวตักเตือนนายอนุสร เท่านั้น

ต่อมาเวลา 15.40 น. นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกวิป สปท. แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายงานเรื่องดังกล่าวจากคณะกรรมาธิการจริยธรรมฯ สปท.ซึ่งมีมติว่า การกระทำของนายอนุสรฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม และข้อบังคัการประชุมสปท.ข้อที่ 102 โดยเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่าไม่ร้ายแรง และมีมติให้ว่ากล่าวตักเตือนเพียงเท่านั้น


http://www.matichon.co.th/news/539082

กาก

ไม่ใช่เรื่องใหม่ และควรจะต้องแปลกใจแต่อย่างใด

ชินกับเรื่องไม่ ปกติ จนเป็นเรื่อง ปกติ สินะ

ถ้ากลับกันเด็กเสิรฟ์ตบป๋า ป่านนี้เป็นปุ๋ยไปแล้ว

แปลกใจแค่ว่า เอากลับมาถกกันด้วยหรอ นึกว่าจะเงียบๆหายไปเลย แต่ผลก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ว่ากล่าวตักเตือนก็หรูแล้ว

ฏ็ไม่มีอะไรให้แปลกใจ

คนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ตบเด็กเสิร์ฟก็ผิดจรรยาบรรณไม่ร้ายแรง
คนดีนี่มันดีจริงๆ

ผมว่าแก เนี่ยตัวพ่อเลย

เรียกพี่ได้มั้ย

หมายถึงแกเป็นพ่อของน้องๆ พวกนี้หรอครับ

ถ้าเราตบมั่ง แล้วจ่ายค่าปรับก็ไม่ผิดดิคับ

กากจริงๆ แทนที่จะทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้ประชาชนเห็น

แล้วถ้าเด็กตบคืน เด็กก็ไม่โดนอะไรใช่ไหม

#ท่านผู้ทรงเกลียดทั้งหลาย

สว. สรรหาในระบบใหม่ เราคงพอเห็นภาพว่าจะเป็นยังไงแล้วครับ

คนนิสัยอย่างนี้ ไม่มีความรับผิดชอบ อวดใหญ่อวดโต จะมาปฏิรูปประเทศชาติ

เอาที่พวกท่านสบายใจกันเลยครับ


นักการเมืองสู้พวกท่านไม่ได้เลยซักคนครับ

ไม่ได้จะว่าไรนะ แต่ผลก็รู้ๆ กันอยู่ จะตั้งคณะกรรมการประชุม ลงมติให้เปลืองงบเพื่อออออ

ถ้าเด็กเสิร์ฟตบป๋ากลับบ้างล่ะ

สปท. เอามีหน้าที่อะไรเหรอครับ ...จะได้กล้ากับป๋า