บทความนี้เป็นบทความแปล โดยวิธีการประเมินคุณภาพทีมลิเวอร์พูลของผู้เขียนนั้นใช้การประเมินจากตัวเลขกว้างๆ แล้วค่อยๆ เจาะลึกลงไปที่ตัวเลขเชิงคุณภาพ ผมแปลแบบค่อนข้างรวบรัด คำอาจไม่ตรงบ้าง แต่ก็พยายามให้ใจความสำคัญคงอยู่อย่างครบถ้วน ถ้าแปลผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ






ทีมลิเวอร์พูลอยู่ในระดับไหนเมื่อเทียบกับทีมระดับท็อปของยุโรป
โดย Andrew Beasley
บทความถูกเขียนเมื่อ 29 มี.ค. 17




ปกติตามเว้บไซต์ดังๆ มักจะพูดถึง “5 ลีกใหญ่” อยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริงมีเพียง 3 ลีกที่อยู่ในระดับบนสุด คือ พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา และบุนเดสลีกา เซเรียอานั้นมาตรฐานตกลงไปเยอะมากเมื่อเทียบจากยุคที่พวกเค้าครองยุโรปในยุค 90 ส่วนลีกเอิงก็มีผู้เล่นระดับท็อปอยู่ไม่กี่คน ข้อเท็จจริงเหล่านี้ดูได้จากตาราง ECI (Euro Club Index) ข้างล่าง (หรือดูอันดับทีมได้ที่ http://www.euroclubindex.com/asp/Ranking.asp)






สำหรับ “Big6” ของพรีเมียร์ลีกนั้นมาตรฐานทีมค่อนข้างต่างจากทีมที่เหลือในลีกพอสมควร แต่ถ้าเอาไปเทียบกับทีมในสเปนหรือเยอรมัน พวกเค้าจะอยู่ในระดับไหนกัน? อยากให้เริ่มต้นที่ตารางข้างล่างนี้ซึ่งเป็นตาราง top10 ทีมที่มีอัตราส่วนการทำประตูทั้งหมดดีที่สุด


Shots F = โอกาสทำประตู
Shots A = โอกาสถูกทำประตู
Shot Ratio = อัตราส่วนระหว่างโอกาสทำประตูกับโอกาสถูกทำประตู



จะเห็นว่าลิเวอร์พูลนั้นไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในลีกเท่านั้น แต่ยังมีสถิติเหนือกว่าทุกทีมในเยอรมันและสเปนอีกด้วย เป็นรองเพียงแค่บาเยิร์นมิวนิคทีมเดียว ทีนี้ถ้าลองลงลึกไปในรายละเอียดเรื่องการยิงตรงกรอบ ตัวเลขจะเป็นดังนี้


Shots on target F = โอกาสยิงประตูแบบเข้ากรอบ
Shots on target A = โอกาสถูกยิงประตูแบบเข้ากรอบ
Shots on target ratio = อัตราส่วนระหว่างสถิติอันแรกกับอันที่สอง




ดูแล้วก็คล้ายๆกับตารางก่อนหน้านี้ ซึ่งตารางสองอันนี้บอกเรา “ในทางทฤษฎี” ว่าลิเวอร์พูลทำได้ดี คำถามคือมันดีจริงหรือเปล่า?? เพื่อให้ได้คำตอบที่ตรงกับความเป็นจริง เราคงต้องมองลึกลงไปอีกที่คุณภาพการทำประตู จากโอกาสจะแจ้ง พอมาถึงจุดนี้จะเห็นเลยว่าคุณภาพของหงส์แดงนั้นยังห่างไกลจากสองบิ๊กทีมแห่งสเปนมากนัก


Clear cut chances for = โอกาสทำประตูเหน่งๆ
Clear cut chances against = โอกาสถูกทำประตูเหน่งๆ
CCC difference = จำนวนความต่างของสถิติอันแรกกับอันที่สอง
CCC difference per game = จำนวนความต่างเฉลี่ยต่อเกม




มาถึงจุดนี้จะเห็นว่าคุณภาพของลิเวอร์พูลที่สะท้อนออกมานั้นห่างไกลจากสถิติในตารางแรกมากนัก ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ผลงานโดยรวมของทีมดูกระท่อนกระแท่น ถ้าจะเปรียบเทียบ บาร์เซโลน่านั้นมีโอกาสทำประตูจะแจ้งเหนือกว่าคู่แข่งถึง 26 ครั้ง นับเฉพาะในเกมเยือน ในขณะที่เกมเยือนของหงส์แดงนั้นมีโอกาสล่อเขาเท่ากับโอกาสที่จะโดนเขาล่อที่ 27 ครั้งเท่ากัน โดยสถิติการเสียประตูจากโอกาสเหน่งๆ นั้น หงส์แดงอยู่อันดับที่ 27 จากทั้งหมด 58 ทีมจาก 3 ลีก






จำนวนประตูเฉลี่ย (Expected goals หรือ xG) อาจจะเป็นวิธีการประเมินผลงานของทีมที่ยุติธรรมที่สุด ซึ่งแบ่งลักษณะการทำประตูเป็น 4 แบบ และถ่วงน้ำหนักความน่าจะกลายเป็นประตูจากสถิติย้อนหลัง 5 ฤดูกาล ดังนี้
- ลูกจุดโทษ = 0.783 xG (แปลว่าลูกจุดโทษมีโอกาสเป็นประตู 78.3%)
- จังหวะเหน่งๆ = 0.387 xG (แปลว่าลูกเหน่งๆมีโอกาสเป็นประตู 38.7%)
- การยิงในกรอบ = 0.070 xG (แปลว่าลูกยิงในกรอบทั่วไปมีโอกาสเป็นประตู 7%)
- การยิงจากนอกกรอบ = 0.036 xG (แปลว่าลูกยิงจากนอกกรอบทั่วไปมีโอกาสเป็นประตู 3.6%)

(เพิ่มเติมจากจขกท. : คือแทนที่จะดูสถิติโอกาสการทำประตู/ถูกทำประตูเฉยๆ ระบบนี้ได้กลั่นกรองตัวเลขกลมๆ เหล่านั้นให้กลายเป็นตัวเลขเชิงคุณภาพ อย่างลิเวอร์พูลที่มีโอกาสยิงถึง 485 ครั้ง แต่พอแปลงเป็นตัวเลขเชิงคุณภาพแล้วจะเหลือแค่ 49.3 เท่านั้น วิธีนี้ทำให้เห็นภาพความเป็นจริงได้ชัดเจนขึ้นว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นการยิงที่หวังผลไม่ได้)

ระบบนี้อาจจะไม่ใช่ระบบที่แม่นยำที่สุด แต่ก็ง่ายต่อการรวบรวมและเปรียบเทียบข้อมูลทีมแบบข้ามลีก หรือข้ามฤดูกาล ซึ่งตารางข้างล่างนี้คือการเปรียบเทียบทีมใหญ่จาก 3 ลีกดังในฤดูกาลนี้


xG for = โอกาสทำประตูแบบถ่วงน้ำหนัก
xG against = โอกาสถูกทำประตูแบบถ่วงน้ำหนัก
xG difference = ผลต่างสถิติอันแรกกับอันที่สอง
xG difference per game = ผลต่างเฉลี่ยต่อนัด




จากสถิติ ผลต่าง xG ของลิเวอร์พูลต่อเกมนั้นพัฒนาขึ้นในสองฤดูกาลล่าสุด (0.27 ปี 14/15 และ 0.45 ปี 15/16) ทำให้พอจะสรุปได้ว่าทีมกำลังมาถูกทางแล้ว ซึ่งพวกเขาทำได้ดีกับการสร้างโอกาสทำประตู แต่คุณภาพการทำประตูนั้นยังอยู่ในระดับทั่วไป กล่าวโดยรวมก็ถือว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่ดีของยุโรป แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างต้องปรับปรุง





อันนี้แถม

จำนวนประตูที่ยิงได้ใน 32 นัดที่ผ่านมา (สีเข้มคือทีม top6)





จำนวนประตูที่เสียใน 32 นัดที่ผ่านมา (สีเข้มคือทีม top6)






credit : tomkinstimes.com

ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีๆ

ขอบคุณมากครับ

แมนยู เอาไรวัดว่ะน่ะ อย่างกากปีนี้ ไม่คมเลย

จากกระทู้นี้ มูช่วยซื้อตัวรุกหน่อยครับ

คิดเปอเซนจากโอกาสเข้าทำแล้วก็ถูกเข้าทำครับ

ทําไมผมไม่เห็นรูป เน็ตผมเน่าเหรอ 3bb

บทความดีครับ

เห็นชัดว่าคุณภาพยังห่างพอควร

การสร้างโอกาศไม่ใช่ไม่มี แต่จบกันไม่คมและเสียประตูง่าย

ถ้าแก้สองจุดนี้ได้ ก็จะได้ลุ้นไป ชปล ทุกปี แล้วถ้าทำได้ต่อเนื่อง ค่อยไปคิดถึงการลุ้นแชมป์

บ่งบอกว่าคลอปป์อะเป็นคนที่ใช่แล้ว แต่นักเตะมันยังไม่ได้ ตั้งแต่คลอปป์มาคุมเป็นช่วงที่ผมดุบอลโคดมีความสุขเลยจริงๆนะ

ไม่ใช่ว่าคูตี้หรือมาเน่เก่งสู้พวกสถิติยิงหรือแอสซิสต์สูงๆไม่ได้ ผมว่าระดับเดียวกันเลยแหละ เพราะบางทีสถิติแอสซิสหรือการทำประตูไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงเสมอไป เท่าที่ดูหงส์เล่น สองคนนี้มีอิมแพ็คต่อเกมรุกสูงมาก ทำให้หงส์เป็นทีมที่ยิงเยอะที่สุด ขอใช้คำว่าถ้านับแค่เกมส์บุกละกัน นี่ถ้าเปลี่ยนกองหน้าจากที่มีอยู่เป็นระดับ ซัวเรส หรือ เลวาน ไม่ต้องสองคนนี้หรอก แค่มีแบบคอสต้า เคน ลูกากู สถิติการเข้าทำที่มากของหงส์ จะมีประโยชน์ มากกว่านี้ แต่ก็นะนอกจาก LFC กับมาเน่แล้ว ขุมกำลังนักเตะที่เหลือของหงส์ที่ไม่ใช่สี่คนนี้ เทียบกับทีม top 6 ไม่ได้เลย ยิ่งตัวสำรองยิ่งแล้วใหญ่ นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่า คล็อปไม่ใช่เล่นๆแน่นอนครับ ทีมอยู่ในโซนหัวตารางด้วยนักเตะที่จำกัด ( เก่งจริงๆอยู่สองคน - - ) มาถูกทางแล้วลิเวอร์พูล ไหนจะการเจอกับทีมใหญ่ที่วัดกันด้วยเกมรุกแบบเปิดมันจึงพิสูจน์ได้ว่า หงส์เหนือกว่าในด้านการสร้างสรรค์โอกาสตามสถิติกระทู้นี้ครับ(ผมว่าจุดนี้แมนยูฉลาดนะที่เลือกใช้จุดเด่นด้านอุดแล้วเคาน์เตอร์ของตัวเองเข้าสู้กับหงส์ ) ส่วนเกมส์รับนี่ไม่ขอพูดถึงละกัน เหนื่อยใจ เห้อ

ขอบคุณมากครับ

เสียดาย ลิเวอร์พูลมีโอกาสทำประตูเยอะ
ถ้ามีกองหน้าคมๆคงไม่ต้องลุ้นเยี่ยวเหนียวอย่างทุกวันนี้

บทความดีมาก เอาตัวเลข กับ สถิติ มาวิเคราะห์ประกอบ

ไม่ได้มโนลอยๆ ขอชื่นชมครับ จัดแผล่บให้เลย

พัฒนาทีม ให้โตต่อไปครับ