บทความนี่เขียนโดย Pual Murphy คอลัมนิสชื่อดังของอีเอสพีเอ็น ซึ่งเจ้าตัวพำนักอยู่ที่ไทยมานานกว่า9ปี
Siroch Chatthong shines despite Thailand losing to Saudi Arabia
สิโรจน์ฉายเเววรุ่งแม้ทีมไทยจะแพ้ซาอุฯขาดลอย
A lackluster Thailand side slipped to a disappointing 3-0 defeat at home to Saudi Arabia as poor defending once again proved their undoing in the Group B World Cup qualifier.
ทีมไทยที่เล่นได้น่าเบื่อหน่ายและเอื่อยเฉื่อยเหลือเกินเปิดบ้านแพ้ทีมชาติซาอุฯอย่างน่าผิดหวัง 3-0 เป็นเพราะแนวรับที่อ่อนแอของพวกเขาอีกครั้ง(ซ้ำเเล้วซ้ำเล่า) เกิดขึ้นอีกเเล้วในบอลโลกรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย กลุ่มบี
Kiatisuk Senamuang's men paid for a slow start to the game, with slack defending handing the Saudis the lead through Mohamed Alsahlawi. The Thais were pushing for an equaliser late in the game when Tanaboon Kesarat diverted a cross into his own net and Salman Mushawar scored in added time to leave the Thais rooted to the bottom of the group with just one point from six games.
ลูกทีมของโค้ชเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองจ่ายบทเรียนที่เเสนแพงด้วยการออกสต็าดเริ่มเกมเพียงเพราะพวกเขาไม่สามารถหยุดความอันตรายของหัวหอกซาอุฯอย่าง เอล ซาลาวี่ลงได้ ในทางกลับกันความหวังที่จะได้ผลเสมอเป็นอย่างน้อยกลับต้องฝันสลายเมื่อธนบูลย์ เกสารัต สกัดพลาดเข้าประตูตัวเองในช่วงท้ายเกม และซ้ำร้ายไทยมากลับมาเสียประตูเพิ่มอีกครั้งจากซัลมาน ซูซาว่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้ทีมไทยนอนอยู่ก้นตารางคะแนนแบบไม่ฟื้นโดยมีเพียงเเต้มเดียวจากการลงเล่นไปแล้วทั้งหมด6นัด
Thailand's head coach had set his team out in a bold formation, with three predominantly attacking midfielders and two strikers. The Thais opted for a flexible 3-5-2 formation, with Tristan Do and Theerathon Bunmathan given freedom to push forward from wide positions.
โค้ชซิโก้เซ็ตรูปแบบของทีมเหมือนอย่างเคย กล่าวคือ มีกองกลางตัวรุกส่วนใหญ่ถึง3คนและตามด้วยกองหน้าอีก2 ไทยเปิดหัวด้วยระบบ 3-5-2 แบบที่ยืดหยุ่นได้ โดยให้ทริสตอง โดและธีราทร เป็นตัวสนับสนุนการบุกจากด้านข้าง
But things didn't work out in a desperate first-half performance. Kiatisuk reshuffled the pack at half-time, bringing on left midfielder Peerapat Notchaiya for centre-back Prathum Chuthong, with Theerathon moving into the left of a back three.
แต่สถานการ์ณไม่เป็นไปตามที่ไทยต้องการในครึ่งแรก โค้ชเกียรติศักดิ์จึงเเก้เกมด้วยการส่งพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา มิดฟิลล์ทางฝั่งซ้ายลงมาเเทนประชุม ชูทอง กองหลังเซ็นเตอร์ในขณะที่ถอยเอาธีราทรลงไปยืนในแนวหลังแบบสามกองหลัง
In a much-improved second-half display, Peerapat looked lively throughout but the Thais struggled to create any clear openings. When Peerapat sliced horribly wide with 10 minutes remaining, it became clear that this was not going to be Thailand's night. And the two late goals ensured the night ended on a cruel note.
เกมของไทยมีการพัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดภายหลังที่พีระพัฒน์ลงมา ทีมไทยมีโอกาสสร้างการเข้าทำได้มากขึ้นแต่ส่วนใหญ่ก็พลาดการเบิกสกอร์ไปทั้งหมด พีระพัฒน์เองยิงออกแบบไม่ได้ลุ้นในอีก10นาทีที่เหลือ นี่คือสิ่งที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าวันนี้ไม่ใช่วันของพวกเขาและ2ประตูที่พวกเขาเสียในช่วงท้ายเกมก็ทำให้ค่ำคืนที่ราชมังคลาฯจบลงอย่างโหดร้าย
Here are three things we learned at Rajamangala Stadium:
นี่คือ3สิ่งที่ผมเห็น ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
1. Daydreaming defenders cost Thailand again
กองหลังฝันกลางวันของไทยยังคงเป็นปัญหาไม่เลิก
While the refereeing could have been more favourable in the first half, it was ultimately familiar weaknesses at the back that saw the Thais lose the game.
ในขณะที่เกมนี้ผู้ตัดสินลงทำหน้าที่ได้อย่างดีมาก ผมอาจพูดได้ว่าดีที่สุดเลยโดยเฉพาะในครึ่งแรกแต่สิ่งที่ทำให้ทีมไทยแพ้ในหนนี้มาจากความอ่อนแอของแผงหลังของพวกเขาเองเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา
Warning signs were there as the Saudis had the first opening in the ninth minute when they broke down the right, but Adison Promrak was on hand to clear Taiseer Al Jassam's cut-back for a corner.
สัญญาณเตือนจากผู้มาเยือนอย่างซาอุฯ แสดงให้เราได้เห็นภายในเเค่9นาทีเมื่อพวกเขาขึ้นบอลทางขวาและสลัดหลุดจากการเข้าสกัดของนักเตะไทยแต่อดิศร พรหมรักษ์ ก็ยังมาช่วยเคลียร์ลูกผ่านตัดหลังของ ทาเซอร์ อัล จัสซิม ได้สำเร็จชนิดที่ว่าน่าหวาดเสียวเสียเหลือเกิน
In the 23rd minute, a nice move from the visitors ended with a low shot from the edge of the box from Nawaf Alabid going just wide.
นาทีที23 ด้วยการเคลื่อนที่ที่ชาญฉลาดของผู้มาเยือนส่งผลให้นาวาฟ อัล อาบิดได้มีโอกาสส่องประตูแม้เจ้าตัวจะทำได้ไม่ดีนักเพราะยิงหลุดกรอบออกไปเยอะ
The Saudis deservedly took the lead in the 25th minute when a simple ball over the top from Nawaf caught the Thai defence napping. Alsahlawi had drifted into a dangerous position unchallenged, took the ball down and hammered past Kawin Thamsatchanan from close range.
ทีมซาอุฯยังคงตั้งใจบุกอย่างต่อเนื่องและมาทำได้สำเร็จในนาทีที่25 เมื่อบอลถูกยกผ่านแผงกองหลังไทยอย่างง่ายดายจากนาวาฟ ข้ามแนวศรีษะของนักเตะไทยทั้งหมดและเป็นอัล ซาลาวี่ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครขัดขวาง เจ้าตัวดึงบอลลงได้และยิงผ่านกวิน นายทวารเจ้าถิ่นในระยะเเค่ไม่กี่หลาส่งผลให้ผู้มาเยือนออกนำในที่สุด
Just before half-time, Yasir Alshahrani stole in down the right to meet a free kick and side-footed into the side netting. Again, there was a shocking lack of concentration, with no one picking up the full-back's run.
ก่อนหมดครึ่งแรกไม่กี่นาที ยอสเซอร์ อัล ชารามนี่สอดขึ้นมาทางฝั่งขวาและยิงตามน้ำลูกเปิดจากลูกตั้งเตะเเต่บอลดันผ่านเข้าข้างประตูไปอย่างน่าหวาดเสียว นี่เป็นอีกครั้งที่นักเตะไทยเสียสมาธิให้เห็นและไม่มีใครมองเห็นการเคลื่อนที่ของนักเตะซาอุฯผ่านฟูลแบ็กพวกเขาไป
There was less blame for the two late goals that sealed Thailand's fate but their campaign has repeatedly been undermined by lapses of concentration.
ผมไม่อาจตำหนิทั้ง2ลูกสุดท้ายที่ไทยเสียในช่วงท้ายเกมได้ แน่นอนบอลโลกสำหรับทีมไทยจบลงเเล้วและมันเป็นผลมาจากการขาดสมาธิ ครั้งเเล้วครั้งเล่าของนักเตะไทยเอง นั่นเเหละ
While the hosts performed much better in the second half, the damage had already been done. If the Thais are to achieve their aim of becoming one of Asia's top sides, stopping the concession of soft goals is a must.
ในขณะที่ฟอร์มการเล่นของนักเตะไทยกำลังดีขึ้นเรื่อยๆในช่วงครึ่งหลัง ทีมไทยเริ่มสร้างความยากลำบากให้ผู้มาเยือนได้ดี ผมอยากบอกว่าถ้าพวกเขาอยากจะขึ้นมาเป็นทีมหัวๆของเอเซีย พวกเขาต้องเลิกเสียประตูง่ายๆ(จากการเหม่อ-ฝันกลางวัน) เหมือนอย่างที่ผ่านๆมา
2. Man in the middle takes centre stage again
กรรมการยังคงเป็นประเด็นที่ไทยกล่าวอ้างเหมือนเคย
Thailand were nursing a lingering sense of injustice over the controversial refereeing performance that they felt cost them the game in Riyadh last year, when a late penalty handed the Saudis all three points, with the Thais having been denied two strong penalty claims
ทีมไทยยังคงหวดระเเวงและอยู่ในขั้นวิตกจริตเกี่ยวกับกรรมการ เพราะในเกมเเรกจากการตัดสินที่พวกเขาว่ากันว่าไม่ค่อยยุติธรรมสำหรับพวกเขาเท่าไร เพราะครั้งนั้นที่กรุงริยาด ไทยเองคิดว่าพวกเขาสมควรได้ถึง2จุดโทษซึ่งพวกเขาไม่ได้รับมันและกลับเป็นทีมซาอุฯที่ได้จุดโทษที่พวกเขาไม่ควรจะได้
Kiatisuak stoked the flames ahead of the game as he questioned the appointment of Bahraini referee Ali Hasan Ebrahim Abdulnabi in a game featuring another West Asian country. If he hoped this might lead to a more favourable performance, it didn't look the case early on.
โค้ชเกียรติศักดิ์ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมถึงความเหมาะสมในการที่เอเอฟซีเลือกใช้เปาจากประเทศบาร์เรนลงทำหน้าที่ในเกมในวันนี้ แน่นอน ฮัสซัน อัลราฮีม อัปดุลล์นาบี้เองมาจากตะวันออกกลาง ภูมิภาคเดียวกับผู้มาเยือน โดยที่เกียรติศักดิ์เองพูดดักคอไว้เเต่เนิ่นๆว่าอยากให้จับตาดูการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในวันนี้เป็นพิเศษและหวังว่าจะไม่มีเหตุการ์ณแบบในเกมเเรกเกิดขึ้นกับไทย
The first controversial refereeing call of the night came as early as the seventh minute. Chanathip Songkrasin appeared to have been barged over near the right touchline, but Abdulnabi waved play on to trigger the first chorus of boos from the sceptical home support.
การตัดสินที่ค้านสายตาเกิดขึ้นใน7นาทีเเรกเมื่อชนาธิป สรงกระสินต์ถูกสกัดหนักจากทางฝั่งซ้ายในขณะที่อับดุลล์นาบี้เองปล่อยให้เกมเดินต่อ ส่งผลให้แฟนบอลเจ้าถิ่นส่งเสียงโห่เป็นหนเเรก
The home fans were upset again in the 20th minute when Omar Othman went down easily under minimal contact from Teerasil Dangda and a foul was given.
แฟนบอลเจ้าถิ่นยังคงผิดหวังต่อเมื่อในนาทีที่20 โอมาร์ ออสมาน ล้มลงดื้อๆจากการเข้าสกัดแบบผิวเผินของธีรศิลป์ แดงดา แน่นอนกรรมการจากบาร์เรนให้ซาอุฯได้ฟาล์ว
The referee came under scrutiny again in the 31st minute when Abdulmalek Al Khaibri was awarded a foul after what looked a fairly innocuous a coming together with Teerasil.
เปาจากบาร์เรนเป่าฟาล์วอีกครั้งในนาทีที่31 จากการเข้าสกัดของธีรศิลป์คนเดิมซึ่งทำให้ อับดุลล์มาลัก อัล คาบี้ล้มลง
Jeers turned to outrage in the 35th minute when Teerasil fought his way past Motaz Hawsawi to get on the end of Chanathip's through ball. The referee blew for a foul when the defender went down as Teerasil looked set for a one-on-one with the keeper.
เสียงนกหวีตดังขึ้นอีกครั้งและเป็นไทยที่เสียประโยชน์ เมื่อชนาธิป ผ่านบอลอย่างสวยงามให้ธีรศิลป์ซึ่งกำลังสปรีดหนีโมทาด ฮาวซาวี่ก่อนที่รายหลังจะล้มลง โดยช็อตดังกล่าวหากธีรศิลป์สามารถผ่านทะลุเข้าไปได้ เขาจะได้ดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูซาอุฯ แต่ครั้งนั้นกรรมการเห็นว่าศูนย์หน้าจากไทยทำฟาล์วเสียก่อน แฟนบอลเจ้าถิ่นมอบเสียงโห่ให้อีกครั้ง
The referee could not stay out of the spotlight until half-time as the fans felt he was harsh in giving a yellow card to Theerathon for a trip on Nawaf. Jeers rang out at the break as the Rajamangala crowd let the referee know what they thought of his performance.
กรรมการยังคงอยู่ในการจับตาของบรรดาแฟนบอลเจ้าถิ่นต่อเนื่อง เมื่อเจ้าตัวจัดการควักใบเหลืองแรกมอบให้ธีราทรจากการเข้าสกัดนาวาฟ ซึ่งนี่คือการสกัดครั้งแรกของเขา เสียงโห่ดังก้องสนามราชมังฯกดดันให้กรรมการต้องทบทวนการทำหน้าที่ในวันนี้
But anger turned to resignation in the second half as the referee drifted out of the limelight and Thailand struggled to make inroads on the Saudi goal. While there were perhaps some poor calls in the first half, the War Elephants will have to look at their own inadequacies before the game in Japan next week.
เเต่ความน่าโมโหก็เปลี่ยนไปในครึ่งหลัง เมื่อทีมไทยเริ่มเล่นได้ดีขึ้นและเริ่มฉายเเววว่ากรรมการเองจะปล่อยเกมให้ไหลลื่นมากขึ้น (หรืออาจเป่าได้ตรงใจแฟนบอลของพวกเขา) ไทยเองดูมีโอกาสจะแก้ตัวเเละทำประตูทีมซาอุฯได้มาก บางที..ในขณะที่ทุกคนมองเห็นว่านักเตะไทยทำได้ไม่ดีนักในครึ่งแรกและทำได้ดีในครึ่งหลัง (อาจไม่ได้มาจากกรรมการทั้งหมด) ทีมช้างศึกเองต้องกลับมาทบทวนและพยายามทำให้ดีให้มากขึ้น(แทนที่จะพูดเรื่องกรรมการ) ทำให้ได้ก่อนออกไปเยือนทีมญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้าหากพวกเขาหวังจะมีเเต้มกลับมา
3. Siroch shines amid the gloom
สิโรจน์ยังคงฉายเเววเด่นให้เห็น
Thailand's muscular forward Siroch Chatthong showed he was up for the battle early on when he brushed off the attentions of Hawsawi as he chased down a through ball. He was at it again minutes later as he bulldozed past two defenders on the right before running the ball out of play.
กองหน้าร่างยักษ์ของทีมอย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง เเสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาพร้อมอย่างมากในการต่อสู้กับทีมซาอุฯหนนี้เมื่อต้นเกมเจ้าตัวปั่นหัวฮาวซาวี่ ชนิดหัวหมุนและเขาสามารถพาบอลผ่านกองหลังของซาอุฯมากถึง2คนทะลุเข้าเขตโทษได้สำเร็จก่อนที่บอลจะหลุดเส้นหลังไปเพียงนิดเดียว
In the 12th minute, he broke free down he left, forcing Othman to make a last-ditch tackle and concede a corner.
นาทีที่12 เจ้าตัวเรียกลูกคอนเนอร์ให้ทีมได้สำเร็จเมื่อสลัดผ่านเเนวรับผู้มาเยือน ก่อนจะเป็นออสเเมนมาสกัดไว้ในช่วงสุดท้าย
After a quiet spell, Siroch was again the danger man when he cut in from the left and found Chanathip in a good position on the edge of the box. Unfortunately, Chanathip's touch deserted him and the chance was gone.
หลังจากเกมที่เงียบและตื้อ, เจ้าตัวยังคงสร้างสีสันให้ทีมและเล่นแบบเเรงไม่หยุดชนิดเป็นตัวอันตรายของทีม ครั้งนี้เขาผ่านบอลสวยๆให้ชนาธิป ซึ่งอยู่ในหน้ากรอบเขตโทษ น่าเสียดายที่ชนาธิปเองกลับยิงเบาเเบบเหลือเชื่อส่งผลให้โอกาสการได้ประตูของเจ้าถิ่นแทบไม่มี
Siroch came closest to a first-half goal for the hosts when he took Teerasil's pass on the left, cut inside and curled a shot just wide from 16 yards -- it would have been a carbon copy of his second goal in the 2016 AFF Suzuki Cup final against Indonesia.
สิโรจน์เกือบทำสำเร็จเมื่อเขาได้บอลจากธีรศิลป์ ก่อนที่เจ้าตัวจะปั่นโค้งในระยะ16หลาเหมือนที่เขาเคยยิงในลักษณะนี้และทำได้ในเกมกับอินโดนีเซีย รอบชิงฯในรายการเอเอฟเอฟปีที่เเล้ว น่าเสียดาย..ที่ลูกนั่นหลุดออกเสาไปนิดเดียว
Siroch remained the home side's biggest threat early in the second half but came up short when Peerapat swung in a teasing cross from the left. Siroch was first to the ball but got his contact all wrong and headed weakly wide.
ภัยคุกคามที่น่ากลัวสำหรับผู้มาเยือนอีกครั้ง..เมื่อเจ้าตัวยังคงสร้างโอกาสให้ไทยต่อเนื่องและหนนี้พีระพัฒน์ได้ยิงชนิดน่าจะได้ลุ้นในระยะใกล้ที่สุดแต่เจ้าตัวกลับส่องข้ามคานชนิดไม่ได้ลุ้น สิโรจน์เองมีประสิทธิภาพอย่างมากในการเข้าหาบอลและไปกับบอลแต่สิ่งที่พลาดนั่นคือทีมไทยไม่มีผู้เล่นที่จะมาลิ้งค์กันกับเขาและดูเหมือนว่าในหลายครั้งตัวเขาเองจะพาบอลมุ่งหน้าไปในพื้นที่ๆเล่นยากเสมอ
In the 68th minute, Kiatisuk decided it was time for a new approach and Adisak Kraisorn was introduced.
และเป็นโค้ชเกียรติศักดิ์ซึ่งเลือกให้อดิศักดิ์ ไกรสรลงมาทำหน้าที่เเทนในนาทีที่68
Siroch may not look like becoming a prolific goalscorer any time soon, but his graft and physicality certainly gives the Thais another dimension.
สิโรจน์เองไม่อาจตอบโจทย์ในการทำประตูสำหรับไทยได้ดีพอและดูเหมือนว่าเขาอาจไม่ค่อยสมบูรณ์มากนักที่จะเพิ่มมิติการเข้าทำให้แก่ทีมไทย (เมอร์ฟี่เองมองว่าควรต้องมีคนมาช่วยประสานหรือลิงค์กับสิโรจน์ให้มากกว่านี้หรือไม่ก็อาจเทรนสิโรจน์ให้เป็นเพชรฆาตศุนย์หน้าให้มากขึ้นคือเน้นจบสกอร์ไปเลยไม่เน้นลงมาเอาบอล พาไปเลี้ยง พาไปปะทะ ลากเข้าพื้นที่ๆเล่นยากและทีมไม่ได้เปรียบ)
They certainly need something different in what is becoming a traumatic campaign.
ทีมไทยกำลังต้องการอะไรบางอย่างที่เเตกต่างก่อนที่รายการเเข่งขันนี้จะสร้างบาดแผลให้พวกเขามากเกิ้นนนน..
แปล ผิด กราบ ขออภัยมาล่วงหน้าคับ
ที่มา:
http://www.espnfc.com/blog/football-asia/153/post/3088094/siroch-chatthong-shines-despite-thailand-losing-to-saudi-arabia
ชอบบรรทัดสุดท้ายจัง "ทีมไทยกำลังต้องการอะไรบางอย่างที่เเตกต่าง ก่อนที่รายการเเข่งขันนี้จะสร้างบาดแผลให้พวกเขามากเกิน"
ใครๆก้อดูออก แต่มีคนเดียวที่ดูไม่ออก
เครดิต ท่าน akinson149 แห่ง Thailandsusu ครับ
