--------VDS---------
Brown-Vidic-Rio-Evra
----OH4(Fletcher)---
--Scholes-Carrick---
Tevez---Roon-----CR7



ถ้าได้มาครบจริงๆก็จะดีนะ MAN UTD 08' XI

ยังจำวันที่ซื้อแกมาจากสเปอร์สได้ดีอยู่เลย

เวลาผ่านไปไวชิบ

Sir Alex Ferguson กล่าวถึง Michael Carrick: “ผมรู้สึกเป็นสุข ที่เขามีเทสติโมเนียลแมตซ์ นักเตะที่จะได้รับเกียรติเช่นนี้ต้องอยู่ที่นี้มาเป็นเวลานาน

พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

เห็นแบบนี้แอบใจหายเหมือนกัน จำได้ว่าเริ่มดูแมนยูแบบจริงจังแรกๆก็ตอนแกย้ายมาเนี่ยละ ตอนแรกๆยอมรับดูแกเล่นละไม่ชอบ ดูช้า ดูไม่หวือหวา ชอบแปะไปแปะมา พอเราโตขึ้นมาก็เข้าใจว่าการเล่นแบบแกเนี่ยละ ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่มีอะไรเยอะกว่าที่คิดมาก เป็นไอดอลในการเล่นบอลของผมเลย

เตฟ รูน โด้ ที่สุดของการcounter attack

ขอแบบนี้น่ะ





ไม่เอาแบบนี้น่ะ

รอยยิ้มเล็ก

กำลังจะกลับมาอีกครั้ง




"เขาโกรธ และตะคอกใส่คุณเป็นนาที แต่เวลาต่อมา เขาจะเอามือมาลูบหัวคุณ พร้อมกับบอกว่า -เอาหน่อยเว้ย ไอ้ลูกชาย-"

นานี่ อดีตดาวเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงคนที่เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่พร้อมกล่าวตักเตือนเวลาทำผิด และไม่เคยลืมให้กำลังใจยามเผชิญอุปสรรค






"บุคคลแรกที่โทรศัพท์มาหาผมหลังจบเกมก็คือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาบอกกับผมว่า -ฟังนะไอ้ลูกชาย นายกลับมาบ้านเราที่แมนเชสเตอร์นะ และทุกอย่างจะโอเค- คำพูดนั้นทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น และผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายสุดในชีวิตมาได้"

เดวิด เบ็คแฮม กล่าวถึงเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บุคคลที่เปรียบเหมือนพ่อคนที่สอง ว่าเป็นคนที่โทรศัพท์หาเขาเป็นคนแรก หลังจบเกมที่เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในศึกฟุตบอลโลก 1998 จนกลายเป็นแพะรับบาปของแฟนบอลชาวอังกฤษ







@ Go and Do it ___ ตลอดเวลา 27 ปี ในการพาสโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวมาครองความยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มักถูกจดจำในฐานะผู้จัดการทีมที่เต็มไปด้วยความเด็ดขาด และชอบกระตุ้นลูกทีมด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบ "ไดร์เป่าผม"

ทว่าหนึ่งสิ่งที่เขายึดถือปฏิบัติมาตลอด นั่นคือ "ความใจเย็น" จนพาทีมแก้ไขปัญหา และผ่านพ้นเหตุการณ์คับขันมาอย่างมากมาย ซึ่งดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ออกมาเล่าถึงกุนซือ ที่เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองเอาไว้อย่างน่าสนใจ

เฟล็ทเชอร์ บอกว่า "เขาเป็นคนใจเย็นมากๆ, ผ่อนคลายสุดๆ และยังเชื่อมั่นในตัวลูกทีมทุกคนเสมอ เขามักเล่าเรื่องราวแสนมหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราววัยเด็กของตัวเอง, จากอดีตนักเตะของทีม หรือจากผู้เล่นบางคน เขาจะเงียบสงบ และชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม พร้อมกับนั่งจิบน้ำชา และอ่านหนังสือโปรแกรมไปพลางๆ"

"เมื่อเราต้องตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่ง เขาจะทำให้ทุกคนสงบลง ก่อนจะวางแท็คติคง่ายๆเอาไว้บนกระดาน พร้อมทั้งพูดว่า -นี่คือหนทางที่จะนำเรากลับสู่เกม พวกนายจงก้าวออกไป และทำมันซะ !!-"

นี่คือเรื่องราวบางส่วนของบรมกุนซือ ที่อาจไม่พร้อมด้วยนักเตะดีๆ แต่สามารถดึงส่วนดีๆ ออกมาจากพวกเขาเหล่านั้นได้







"ผมจำได้เสมอว่า ไมค์ ฟีแลน (ผู้ช่วยผู้จัดการทีม) จะเดินมาบริเวณข้างสนาม เพื่อส่งข้อความหานักเตะ 1-2 คน โดยส่วนมากเป็นเรื่องของการบอกแท็คติกการเล่น"

"อย่างไรก็ตาม เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก้าวเท้ามาอยู่ตรงเส้นข้างสนาม นักเตะของเราทุกคนจะรู้เลยว่า มันต้องเป็นเรื่องร้ายแรงแน่นอน !! .... หลังจากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะเปิดฉากไล่กดดันฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักหน่วงมากขึ้น"

เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เปิดเผยถึงอดีตกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เพียงออกมาบัญชาเกมข้างสนาม ก็สามารถส่งผลกระทบต่อลูกทีมได้แล้ว







คิดถึงป๋าโว้ยยย!!

ผมชอบรูปสุดท้ายของท่านมากอ่ะ.

อยากเห็นป๋าท่านี้อ่ะ



เป็นคนที่ชอบแมนยูเพราะเซอร์อเล็กจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ปักใจเชียร์เหมือนเชลซี

คิดถึงป๋า

บรรยากาศป๋าคุมพรีเมียร์ นี่มันย้อนเข้ามาในหัวเลย

ผมว่าแฟนบอลทุกทีมไม่ว่าจะรักหรือจะเกลียดแมนยู แต่แฟนบอลทุกคนต้องคิดถึงป๋าเสมอ

เจอร์ราด + แลมพาร์ด

ประเด็นคือ ทำยังไงจะได้ดู

มันแน่

ผู้ตัดสิน ขอไมเคิล โอลิเวอร์ = พีคคคค

ตำนานของจริง

ไม่เหมือนโค้ชอีกทีม อยู่มาจนรากงอก ผลงานก็บงชี้แล้วว่าช่วงหลังไม่ไหวจะเคลียร์ก็ยังจะอยากอยู่ต่อ

้howard webb มาด้วยป่าวครับ ตั้งแต่ป๋าจากไป ไม่มีศิษย์เอกอีกเลย

ดีใจที่จะได้เห็นป๋ายืนอยู่ข้างสนามอีกครั้ง

ทำไมเชลซีไม่มีจัดเทสติโมเนียลให้พวกตำนานทีมบ้าง

เห่ยยยย 11 ปีแล้วเหรอออ!!!
หยั่งกับแค่ 5-6 ปีเองงง
นี่เราอายุเยอะขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ยยยย

คนซ้ายบน กับ คนซ้ายโด้ใครครับ

ซ้ายบน โอเว่น ฮากรีฟ

ซ้ายโด้ เวส บราวน์