ตามดูความเชื่อ “เหนือธรรมชาติ” ที่ฟังดูพิลึกและแปลกประหลาดจากทั่วโลก!!
แม้ว่าปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะก้าวไกลไปกว่าเดิมมาก
แต่แนวคิดบางอย่างที่เป็นเรื่อง “เหนือธรรมชาติ”
ก็ยังไม่อาจถูกลบล้างออกไปจากความเชื่อของผู้คนในสังคม
และนี่คือความเชื่อเหนือธรรมชาติ
ที่แม้จะฟังดูประหลาดแต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังยึดถือ..!!
ทารกตัวแดง
ชาวโปแลนด์เชื่อว่าถ้าหากหญิงที่กำลังตั้งครรภ์
จ้องมองเปลวไฟมากเกินไป
เด็กทารกที่คลอดออกมาจะมีเนื้อตัวเป็นสีแดง
ประจำเดือนและอาหาร
ในประเทศเปรูมีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า
ถ้าผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือนลงมือทำอาหาร
อาหารเหล่านั้นจะเน่าเสีย
กินองุ่น
ชาวสเปนมีประเพณีประหลาด
ที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันมานานในช่วงปีใหม่
นั่นก็คือคุณต้องกินองุ่นให้หมด 12 ลูกภายใน 12 วินาที
ถ้าทำไม่ได้ก็จะเกิดโชคร้ายขึ้น
ห้ามไขว้นิ้ว
คุณครูชาวเวลส์คนหนึ่งเคยบอกกับนักเรียนของตนว่า
“ห้ามไขว้นิ้วเด็ดขาด” ไม่ว่าข้างไหนทั้งสิ้น
เพราะมันไม่ได้ช่วยป้องกันโชคร้าย
แต่ป้องกันไม่ให้โชคดีเข้ามาถึงเราได้ต่างหาก
กฎสามวัน
ชาวเลบานอนมีความเชื่อว่าห้ามส่งขวดเกลือให้คนอื่น
ถ้าจะยื่นให้กันต้องวางไว้แล้วให้อีกคนหยิบขึ้นมาเอง
นอกจากนี้ยังห้ามไม่ให้เปลี่ยนผ้าปูที่นอน หรือกวาดพื้น
หลังจากแขกเพิ่งกลับออกไปจากบ้านจนกว่าจะครบ 3 วัน
ผิวปาก
ชาวรัสเซียเชื่อว่าการผิวปากในบ้านจะเป็นการเรียกปีศาจร้าย
โรยเกลือ
ชาวอิตาลีทางตอนใต้ เชื่อว่าถ้าหากเราจะเดินทางออกจากบ้าน
ไปเที่ยวไกลๆ ไปสอบ หรือไปทำสิ่งที่ยากและเสี่ยงอันตราย
จะต้องให้ผู้อาวุโสโรยเกลือบนรองเท้า กระเป๋า หรือศีรษะของเราเพื่อขับไล่โชคร้าย
ต้นไม้หลอนซ่อนวิญญาณ
ชาวตะวันออกกลางเชื่อว่าการยืนใต้ต้นไม้ตอนกลางคืน
จะทำให้วิญญาณเข้ามาสิงสู่เราได้ โดยเฉพาะเด็กๆ
ของขวัญต้องห้าม
ชาวจีนเชื่อว่าการมอบนาฬิกาและรองเท้าให้แก่กัน
เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะคำว่านาฬิกานั้น
ออกเสียงคล้ายกับคำว่าสิ้นสุด ดังนั้นการให้นาฬิกา
จึงหมายถึงความตาย ส่วนการให้รองเท้าก็เหมือน
การบอกให้ผู้รับเดินออกไปจากชีวิตของเรา
อย่าสวมเล่น
ชาวอิตาลีเชื่อว่าถ้าหากคุณสวมชุดเจ้าสาว
โดยที่ยังไม่ได้หมั้นหมายหรือกำลังจะแต่งงาน
และถ้าวันหนึ่งได้แต่งงานขึ้นมาจริงๆ
คุณจะพบกับเจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมานในด้านเพศสัมพันธ์
จามมรณะ
ชาวยิวเชื่อว่าการจามอาจทำให้เสียชีวิตได้
วิธีแก้ก็คือการดึงหูข้างซ้ายเพื่อดึงวิญญาณกลับมา
นกฮูกและนกเค้าแมว
ชาวแอฟริกา เชื่อว่า นกฮูกและนกเค้าแมว
เป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย
ถ้าเราเห็นนกฮูกแสดงว่าเรากำลังจะตาย
จนคุณแม่คนหนึ่งถึงกับห้ามไม่ให้ลูกสาว
ซื้อเคสโทรศัพท์ลายนกฮูกน่ารักๆ มาใช้เลยทีเดียว
กฎเหล็ก
ชาวอินเดีย ห้ามส่งกรรไกร มีด หรือของมีคมให้กันโดยตรง
ไม่เช่นนั้นอาจมีเหตุให้ทะเลาะหรือต่อสู้กันได้
ประตูที่ไม่คุ้นเคย
ชาวลิทัวเนียห้ามไม่ให้เราเปิดประตูบ้านของใครก็ตาม
ที่เรารู้จักมานานไม่ถึง 7 ปีด้วยตนเอง
ห้ามเปิดพัดลม
ชาวเกาหลีใต้เชื่อว่าการเปิดพัดลมทิ้งไว้ในห้องทั้งคืน
แล้วเผลอหลับไปจะทำให้เสียชีวิต
พัดลมส่วนใหญ่ในเกาหลีจึงสามารถตั้งเวลาปิดได้
อย่ากลับบ้าน
ชาวฟิลิปปินส์ เชื่อว่าถ้าคุณไปงานศพ
แล้วตรงกลับบ้านทันที คุณจะนำโชคร้ายติดตัวกลับมาด้วย
นั่งพักก่อน
ชาวไอริช บอกว่าถ้าคุณกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเพื่อหยิบของที่ลืมหรืออะไรก็ตาม
คุณจะต้องนั่งลงก่อนถึงจะกลับออกไปได้
หมูนำโชค
ชาวเกาหลีเชื่อว่าถ้าเราฝันเห็นหมู
แปลว่าเราจะได้โชคเป็นเงินก้อนใหญ่
และถ้าฝันว่าฟันหลุดแสดงว่าจะเสียญาติผู้ใหญ่ไป
เช่นเดียวกับความเชื่อของคนไทย
ถ่มน้ำลายป้องกันโชคร้าย
ชาวมาซิโดเนียเชื่อว่าเราสามารถป้องกันโชคร้ายได้
ด้วยการถ่มน้ำลายสามครั้ง ส่วนชาวอเมริกันนิยมเคาะไม้หรือโรยเกลือ
รังไข่แช่แข็ง
ชาวโรมาเนียห้ามไม่ให้สตรีนั่งบนพื้นโดยไม่มีเบาะหรือพรมรอง
เพราะจะทำให้รังไข่ถูกแช่แข็งและมีลูกไม่ได้
ซื้อมีดเป็นของขวัญ
ชาวไอซ์แลนด์ เชื่อว่าการให้มีดเป็นของขวัญ
จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับถูกตัดขาด
ดังนั้นถ้าจะให้มีดเป็นของขวัญแก่กันจริงๆ
ผู้รับจะต้องจ่ายเงินให้อีกฝ่ายด้วย แต่ก็จ่ายเพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธีเท่านั้น
ผิวปากเรียกงู
ชาวญี่ปุ่นหลายคนเชื่อว่าถ้าเราผิวปากในตอนกลางคืน
จะมีงูเลื้อยเข้ามาในบ้าน
ข้าวแห่งความโชคดี
หลายคนเชื่อว่าการจุ่มมือลงไปในถังข้าวสาร
หลังมีประจำเดือนครั้งแรกจะทำให้โชคดี
กวาดพื้นเรียกปีศาจ
ชาวเม็กซิโกหลายคนเชื่อว่าว่าห้ามกวาดพื้นหรือดูดฝุ่นในยามค่ำคืน
เพราะจะเป็นการเรียกภูติผีปีศาจเข้าบ้าน
ตัดผมแล้วหัวล้าน
ความเชื่อหนึ่งที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณกล่าวไว้ว่า
ห้ามเด็กผู้ชายตัดผมในคืนพระจันทร์เต็มดวง
เพราะจะทำให้เขาหัวล้านเมื่อโตขึ้น
..