Rooney the legend on the bench - รูนี่ยตํานานบนม้านั่ง
Rooney the legend on the bench - รูนี่ยตํานานบนม้านั่ง
จริงๆตั้งใจว่าจะเขียนบทความนี้ตอนจบฤดูกาล ตอนที่มีบทสรุปแน่นอนแล้ว
ว่าแมนยูจะประสบความสําเร็จแค่ไหน หรือ ไม่เลยซักถ้วย
แต่ทว่า นัดเมื่อคืน ที่รูนี่ยไม่ได้มีส่วรร่วมเลยแม้แต่นาทีเดียว หลังจากอิบรา
ยิง3-2 และมูเลือกฟูแทนรูนี่ยเพื่อเล่นเกมรับ ก็เป็นความคิดที่ถูกต้อง
กระนั้นภาพที่รูนี่ยกระโดดดีใจกับเพื่อนข้างสนาม
และจังหวะเดินขึ้นบรรไดและหงุหงิกับซลาตัน มันอดให้ผมเขียนถึงนักเตะคนนี้ไม่ได้
อย่างที่เรารู้กันว่า มูรินโญ่นั้น เลือกคนที่ผลงาน ใครดีได้ลง ใครพร้อมและเหมะสม
กับเทคติคเกมไหน ก็จะถูกเลือกให้ลงสนามในนัดนั้นๆ และใครเล่นดีก็จะได้ลงต่อเนื่อง
ใครเล่นไม่ดีก็นั่ง แถม 45 นาทีแรก ไม่มีรีรอถ้ารูปเกมเป็นรอง มูจะเปลี่ยนตัวทันที
ตัวใหม่จะถูกส่งลงไปในทันที เพื่อแก้เกม เปลี่ยน Formation
นั้นคือ ที่มาของการ นั่งยาวๆ ของรูนี่ย
การดร๊อปมาคิทาเรี่ยน ให้พร้อม การดร๊อปมาซิอัลให้อยากเล่นและยกระดับ
การดร๊อปชอว์ การเปลี่ยนใจให้ชไวนี่อยู่ต่อ การเปลี่ยนมาต้าทุกๆนัด
สิ่งเหล่านี้แน่นอนละ มันต้องสร้างความไม่พอใจไม่มากก็น้อย ให้นักเตะบางคน
เพราะทุกคนอยากลงเล่นทุกนัดเหมือนกัน ไม่ว่าแก่เด็ก ตัวใหม่ตัวเก่า
แต่ไม่มีซักนิดที่เราจะเก็นว่าแคมป์แมนยูจะแตกเพราะเรื่องการลงสนามนี้
ผลประโยชน์ตรงนี้ ผมยกความดีความชอบให้รูนี่ย ที่นั่งสํารองแบบไม่มีบ่น
(ถึงแม้ว่ามันเป็นสิ่งที่นักเตะพึงกระทําอยู่แล้ว)
ผมคงไม่ยกเรื่องนี้มาพูด ถ้านักเตะคนนี้ ไม่ใช่รูนี่ย แต่ทว่า ด้วยสถานะที่เป็น
เบอร์1ของสโมสร อยู่มานานสุด และได้รับอภิสิทธิการลงสนามทุกนัดในช่วง
2-3ปีหลัง ต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ผมว่ารูนี่ยประพฤติตัวได้ดีเลยที่เดียว
ผมไม่รู้ว่า รูนี่ยต้องนั่งด้วยความรู้สึกอะไร ยอมรับความเป็นจริง เพราะคนอื่นเค้าดีกว่า
หรือเพราะอะไร แต่ภาพที่ออกมาทางสื่อต่างๆ
ผมไม่แค่เห็นรูนี่ย แสดงอาการหรือออกอาการ ไม่พอใจ ทุกครั้งที่นั่ง
ที่ครั้งที่มูสั่งให้ไปวอร์ม ได้ลงไม่ได้ลง รูนี่ยรับมือตรงนี้ได้ดีจริงๆ
ชนิดหักหน้าผม ที่เคยบอกว่า ไม่ได้ลง งอแงแน่นอน
แววตาตอนรับแชมป์มันบ่งบอกได้ว่า ไม่มีปัญหา พร้อมที่จะเป็นแค่ตัวเลือกแม้ไม่ใช่เบอร์1
อีกต่อไป
ตรงนี้ละครับ ประเด็นของบทความนี้ ในเมื่อนักเตะระดับตํานานดาวยิงสูงสุด
ของสโมสร ยังต้องนั่งดู มาคิ มาต้า ชอว์ มาเที่ยว แรชฟอรด และอีกหลายๆคนต้องเหลี่ยวมามองว่า
รูนี่ยมันยอมนั่งนะเว้ย แล้วแบบพวกเราที่มาใหม่ หรือ ยังเด็ก ทําไมจะรอโอกาส
ของตัวเองไม่ได้ เพราะภายใต้การนําทีมของมู
ผลงานเป็นตัว ชี้ว่า คุณควรได้ลงสนามหรือไม่
ไม่ใช่ว่า กัปตันการันตีตัวจริง แบบที่ผ่านๆมา
แล้วเราได้นักเตะกี่คนแล้วที่โดนดร๊อปและดีกว่าเดิม โดยไม่มีปากเสียง
นั้นละ สิ่งที่รูนี่ยได้ให้กับทีมตอนที่เค้านั่งสํารอง เป็นตัวอย่างให้ทุกคนดู
นั้นคือ คําว่า สปิริต ของมืออาชีพ ที่แม้ว่าเป็นจุดสูงสุดของสโมสร ยังต้องยอมรับ
กับบทบาทตรงนี้ นักเตะคนอื่นคสรเอาเยี่ยงอย่างตาม
ก็ต้องชื่นชมมูริโญ่ละครับ ที่เอาความยุติธรรมมาสู่สโมสร และเอาอยู่ทุกคน
การที่ดร๊อปเพื่อสร้างนั้นมันส่งผลยังไงกับสโมสรกับทีม
นักเตะในทีมต้องแข่งขันกันเองเพื่อโอกาสลงสนาม มันส่งผลยังไง
ผิดกับ 3 ปีที่ผ่านมา ที่โอ๋เอาใจ นักเตะคนเดียว เล่นหน้าไม่ดี จับลงกลาง
หน้าตํ่า มั่วเละเทะไปหมด หมายถึงทั้งทีมนะ
ทําลายนักเตะสิ้นดี ไม่ได้ช่วยพัฒนาเลย
การที่มูมา การดร๊อปรูนี่ย มันช่วยให้รูนี่ย เป็นนักเตะที่ดีขึ้น เพราะอย่างน้อย
การที่เค้าลงมาแม้ 10-20 นาทีสุดท้าย แต่เล่นดี มันดีกว่าลงตลอดแต่หมาไม่เห่า
ผมนึกภาพไม่ออกเลยนะครับ ถ้ามูยังบ้าจี๊ส่งรูนี่ยลงทุกนัดแบบที่พวกชอบอวย
อวยว่า ถ้ารูนี่ยไม่ลงไม่ใช่แมนยู ผลงานในสนามทุกวันนี้ของแมนยูจะเป็นยังไง
ชั่งเป็นคําพูดที่ เสล่อไร้ทรง จริงๆ กับการที่ห่วงสถานะของนักเตะที่ตัวเองชื่นชอบคนเดียว
แต่ไม่สนว่า ผลงานสโมสรจะเป็นยัง
ทรงบอลปีนี้ ผลงานของมู มันตอบชัดเจนแล้วว่า การบริหารจัดการทีมมันควรมีสิปิต
ไม่ใช่โอ๋นักเตะคนเดียวจนทีมเสียสูญ
ถึงแม้คุณจะไม่ได้ลงซักนาทีเดียว แต่ความมืออาชีพบนม้านั่งของคุณ
มันสร้างสิปิริตในทีมได้
ไม่ต้องน้อยใจที่ไม่ได้ลง เพราะแฟนๆแมนยูทั่วโลกรวมทั้งผม ให้เครดิตตรงนี้กับคุณ
เหมือนตอนที่กิกซสโคคล์ นั่งสํารองนานๆลงมาที
คุณไม่ต้องลงมาทุกเกม แต่ขอให้เต็มที่กับทุกเกมที่ได้ลง คุณก็เป็นที่รักของแฟนๆได้
นั้นละที่มาของคําว่า Rooney the legend on the bench.