[RE: ศิษย์ธรรมกายคนอื่นเค้าไม่ห้ามคุณอัยย์หน่อยเหรอครับ]
#ผีyai# พิมพ์ว่า:
Spoil
gUnNeR พิมพ์ว่า:
#ผีyai# พิมพ์ว่า:
Spoil
gUnNeR พิมพ์ว่า:
#ผีyai# พิมพ์ว่า:
Spoil
gUnNeR พิมพ์ว่า:
Silence พิมพ์ว่า:
gUnNeR พิมพ์ว่า:
เขาเชิญไปออก มันก็ดีที่มี2ฝ่ายดีเบตให้ดูไม่ใช่หรอครับ ผมไม่เข้าใจตรรกะคุณนะจุดนี้
ศรัทธา2แบบคุยกัน ข้อดีคือคนดูได้เป็นผู้ตัดสิน
ถ้าจะอ้างหลักฐาน งี้ให้ดีเบตระหว่างไบเบิ้ลกับพระไตรปิฏก คุณว่ามันจะจบยังไง
ดูกระแสคนดูตัดสินดิครับ ธรรมกายเสียเปรียบไปเรื่อยๆ ยิ่งดูยิ่งทรุด มีหลุดทุกเทป
ผมเลยถามไง ไม่มีใครห้ามหน่อยเหรอ
จะห้ามเพื่ออะไรละครับ ถ้าเรามองว่าเขาอ่อน ทางฝั่งธรรมกายควรเอาคนที่มีเหตุผลแน่นกว่านี้มาเถียงด้วยซ้ำ
ที่ผมสนใจกว่าเรื่องการบริจาค คือ เขาสอนเขาพูดยังไงให้คนศรัทธามากกว่า ซึ่งที่ผมตามดูจะพูดแค่ว่าให้เข้าวัดดูทั้งนั้น
ผมถามงี้ ผมขอเงินคุณไปทำบุญ คุณจะให้ผมง่ายๆเลยหรอ
คุณจะให้เงินใคร คุณต้องเชื่อใจ ไว้ใจ และคิดดีแล้วก่อนใช่ไหมครับ
อย่าพึ่งรีบด่าคนให้ว่าโง่หรืออะไร เอาความคิดพื้นๆก่อน
ธรรมกายขอเงินคนอื่นทำบุญ โดยอ้างสวรรค์อ้างรวย ฟังแบบนี้ไม่ง่ายไปหน่อยหรอครับ
การจูงใจให้คนควักเงินจากกระเป๋า มันควรจะมีอะไรมากกว่านี้ คุณว่าไหมละ
ผมก็ไม่ทราบว่าสาวกเขาติดใจอะไร ฟังอะไรเข้าไป นั้นละที่ผมสนใจมากกว่า
ง่ายมากครับ มันเป็นจิตวิทยา คนเข้าธรรมกายแบ่งเป็นสงอพวก
พวกแรกคือเข้าไปหวังผลประโยชน์ด้านธุรกิจคือพวกที่รวยมากๆอยู่แล้ว บางคนต้องการสร้างภาพ หรืออาจจะคอนเน็คชั่นด้านต่างๆ
พวกที่สองนี้แหละเป้าหมายในการไถ่เงิน คือพวกที่ผิดหวังในด้านต่างๆมา ด้านธุรกิจ ด้านความรัก ด้านครอบครัว พวกนี้จิตใจกำลังตกต่ำต้องการหาที่พึ่ง พอเข้าไปในธรรมกายทุกอย่างมันสวยงามไปหมด โอ่อ่า ขาวพราว ธัมมี่ดูเปร่งรัศมี(เพราะโบท็อค) แถมมีอุปทานหมู่จากพวกที่คลั่งอยู่ก่อนแล้ว ชิตังเม โป้ง คนผิดหวังที่เข้าไปอยู่ในช่วงไร้เหตุผล เอาไรที่รวบรัดและดูได้มาอย่างรวดเร็วก็เมาทันที โอ๋ชั้นแค่ทำบุญชั้นก็จะหลุดพ้น ชั้นก็จะได้ทุกอย่างกลับมา
มันเหมือนเทคนิคในการขายตรงนั้นแหละ เป้าหมายต้องการรวยอย่างรวดเร็ว จนลืมคิดถึงหลักความจริง กว่าจะรู้ตัวก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
ขำไอเรื่องที่ธัมมี่รู้ทุกอย่างผ่านจอทีวี แหม กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มๆแค่พูดกว้างๆก็ตรงจุดแล้ว แบบนั้นผมก็ทำได้ 5555
ก็ยังฟังไม่ขึ้นอ่ะครับ หรือยังไม่ชัดเจนพอ ดูคิดง่ายไป เพราะคนกลุ่มจำพวกที่หาวัดแนวเสริมดวง บูชาแล้วรวย
วัดนั้นๆก็มีเศรษฐีนีเป็นต้นบุญ มีดารานับถือ แบบนี้ไม่ตรงจุดกว่าหรอครับ เพราะตัวอย่างมันดูจับต้องได้มากกว่า
เอางี่ถ้าฟังไม่ขึ้นลองไปดูเทพ DMC ย่อนหลังดูสิครับ
ธรรมกายคุมสื่อในแทบทุกทาง มีช่องตัวเอง มีโรงเรียน มีป้ายโฆษณา มีหมดทุกอย่างที่แทบจะสะกดจิตคนได้ เปิดกล่อมวนกันไป พวกไปวัดก็โดนกรอกหูด้วย ภาพ เสียง ตลอด ดูคนโน้นสิ ทำแล้วรวยนะ ดูคนนี้สิ ทำแล้วสวยนะ บุญหนักนะ คนอมทุกข์คนนึงนั้งอยู่ท่ามกลางเสียง ชิตังเม โป้ง แบบเซอราวด์รอบทิศทาง
มันเหมือนยุคสมัยนึงที่ดารานิยมสักห้าแถวกับอาจารย์rat คนก็เฮโลตามไปเพราะดาราออกสื่อ
มันเหมือนกับที่คนเชื่อเรื่องผีแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ดูรายการ ริว จิตสัมผัสแม่างทุกวัน ดูยูทูปย้อนหลัง เห็นดารามาเล่าเรื่องผี สุดท้ายวันนึงนั้งๆอยู่แค่ลมพัดหน้าต่างเปิดในคืนที่เงียบสงัดก็คิดไปได้แล้วว่าผีมาทำ
มันเหมือนกับที่วัยรุ่นจบมาไม่มีงานทำ กำลังจิตตก มีคนชวนไปฟังขายตรง ดูพี่คนนี้สิอายุน้อยแต่มีเบนซ์ขับ แค่เค้าลงทุนก่อนนิดหน่อย ไปทุกวันฟังทุกวันเห็นทุกวัน เกิดความเชื่อ เค้าทำได้ทำไมเราทำไม่ได้แค่ลงทุนไปก่อนนิดหน่อย
คุณครับขนาดเทพโพเซดอนบ้าบออะไรนั้นโคตรไร้ตรรกะแต่พวกที่ดูช่องมันทุกวันยังเชื่อเลย นับประสาอะไรกับอาณาจักรธรรมกายที่มี ทั้งภาพ เสียง กลิ่น
จริงๆถ้าหาข้อมูลย้อนหลังในเน็ตดู คนที่ญาติบอกมาว่าเข้าวัดธรรมกายแล้ว บริจาคจนหมดตัวเป็นพวกที่กำลังล้มเหลวไม่เรื่องใดเรื่องนึงทั้งนั้น
เรื่องช่องอันนี้ผมว่าแล้วแต่ความชอบนะ เราเลือกเสพได้
ไม่งั้นไอ้ที่ผมเคยเห็นมุสลิมหรืออิสลามพูดในทีวีช่วงเช้า ผมต้องเปลี่ยนศาสนาด้วยใช่ไหม
ช่องของตัวเอง ผมเฉยๆนะ ขนาดทีวีมีพระให้ดูทุกวัน คุณคิดว่าจะมีคนดูกี่เปอร์เซ็นหรอ
ผมว่าเป็นแค่ช่องทางของสาวกเขามากกว่า เรื่องทางเลือกเพิ่มสาวกน่าจะส่วนน้อย
และมันฟังขึ้นแค่เรื่องโรงเรียนอ่ะครับ เพราะCPมันก็มีแบบนี้
ไอ้เรื่องเฮโล ก็อย่างที่ผมอ้างในคอมเมนอื่นครับ วัดที่ช่วยเสริมให้รวย หรือเช่าพระมาบูชา เล่นของก็เป้นอีกทางเลือก
ดังนั้น ไอ้เรื่องนี้ ผมก็ว่าน้ำหนักไม่เยอะละครับ ยิ่งสังคมโจมตี มีความเห็นเรื่องบริจาคแล้วหมดตัว คุณคิดว่าคนหน้าใหม่จะเพิ่มขึ้นได้สักเท่าไหร่ละ
เขาไปวัดฮิตที่อื่นไม่ดีกว่าหรอครับ หรือเพราะคนรู้จักเขาศรัทธาแล้วดีขึ้น รวยขึ้น เลยยังเชื่อใจ
กับยุคสมัยที่เชื่อหมอดูแนะเสริมดวง อย่างการไปขอพรที่เขาเขาคิชกุฏ หรือฮิตไปคำชะโนด
จริงๆผมไม่อยากคุยไอ้แนวพุทธแท้หรอก ผมอยากรู้ว่าทำไมคนเข้าแล้วสบายใจ โดยการอ้างอภินิหาร และต้องเข้าวัดไปรู้เองเสียมากกว่า
ก่อนอื่นผมขออนุญาตคิดว่าคุณน่าจะไม่เคยเจอจุดตกต่ำสุดในชีวิต ผมอธิบายเป็นข้อๆ
1 เรื่องช่องอันนี้ผมว่าแล้วแต่ความชอบนะ เราเลือกเสพได้
ระหว่างคนที่ชีวิตสมบูรณ์ กับคนที่มีปัญหาในชีวิตสภาวะรับรู้มันแตกต่างกันนะครับ
เราเลือกเสพได้แน่ถ้าจิตใจปกติและว่าง เราเลือกดูอะไรที่มันพอสุนทรีย์กับอารมณ์ตอนนั้น พื้นฐานชอบหนังก็ดูหนัง พื้นฐานชอบฟังเพลงดูเพลง
กับคนที่ ธุรกิจเจ๊ง อกหักผัวทิ้ง จิตใจไม่สามารถบังคับให้ดูสิ่งที่เราเคยชอบให้สุนทรีย์ได้หรอก เหมือนต่อให้กินของที่อร่อยที่สุดที่เคยชอบมันก็ไม่อร่อย ณ ตอนน้ันจิตใจต้องการอะไรที่มันมากระแทกอารมณ์ให้หลุดพ้นเร็วที่สุด ถ้าผมไม่รู้เรื่องธรรมกายมาก่อน หรือรูเพียงผิวเผิน เปิดช่อง DMC ผ่านในวันที่จิตตกมันย่อมสนใจ ยิ่งถ้าพื้นฐานคุณนับถือพุทธอยู่แล้ว เห็นพระสงฆ์นั้งสอนแล้วมีญาติโยม เฮโลคล้อยตามท่ามกลางเสียงเพลง จิตใจคนไทยส่วนใหญ่คล้อยตามอะไรที่เป็นวัดไว้ก่อนอยู่แล้ว ดูครั้งแรกเออพระสอนอะไรไม่รู้จับใจความไม่ได้ รู้แต่ถ้ากูทำบุญแล้วจะสบายจริงเหรอ? ครั้งแรกย่อมเป็นคถาม ครั้งที่สองที่สามถึงค่อยดูเพราะเริ่มคล้อยตาม
2.ไม่งั้นไอ้ที่ผมเคยเห็นมุสลิมหรืออิสลามพูดในทีวีช่วงเช้า ผมต้องเปลี่ยนศาสนาด้วยใช่ไหม
ถ้าคุณเป็นพุทธแล้วมันมีความสุขอยู่แล้วคุณจะไปเปลี่ยนทำไมครับ คนเราถ้ามันแฮปปี้และยึดมั่นกับความคิดที่มีอยู่ย่อมไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่แน่ถ้าคุณเคยโดดนวัดโกงเงิน เคยโดนพระตุ๋ยตูด คุณอาจจะอยากลองหาอะไรใหม่ที่ทำให้จิตใจคุณดีขึ้นก็ได้ มันเก็เหมือนกับที่ ไมค์ ไทสันเคยเป็นคริสต์ แต่ชีวิตไม่เคยดีขึ้น พอติดคุกเจอเพื่อนร่วมคุกเปลี่ยนไปนับถืออิสลามแล้วจิตใจผ่องใส เค้าเลยเปลี่ยนตามนั้นแหละ
3.ช่องของตัวเอง ผมเฉยๆนะ ขนาดทีวีมีพระให้ดูทุกวัน คุณคิดว่าจะมีคนดูกี่เปอร์เซ็นหรอ
ผมว่าเป็นแค่ช่องทางของสาวกเขามากกว่า เรื่องทางเลือกเพิ่มสาวกน่าจะส่วนน้อย
และมันฟังขึ้นแค่เรื่องโรงเรียนอ่ะครับ เพราะCPมันก็มีแบบนี้
ผมเคยคิดว่าช่องขายของมันจะมีคนดูสักกี่% เชียว แม่ผมบ่นรำคาญช่องนี้ทุกวัน แต่ก็ดูทุกวัน แถมสั่งของแทบประจำ สั่งของเพราะอะไร เพราะฟังกรอกหูทุกวันว่าของเค้าดี แถมลดแหลกแจกแถม สุดท้ายก็ติด แค่นั้นไม่พอ น้าข้างบ้านเห็นแม่ซื้อของมาเยอะ แม่ชวนดูช่องขายของสุดท้ายน้าคนนั้นก็ติด ประเด็นที่คนเริ่มดูกี่% ไม่สำคัญเท่าที่คนดูคนแรกแล้วเชื่อมีอิทธิพลในการชักจูงคนมาเชื่อต่อมากน้อยแค่ไหน
4.ไอ้เรื่องเฮโล ก็อย่างที่ผมอ้างในคอมเมนอื่นครับ วัดที่ช่วยเสริมให้รวย หรือเช่าพระมาบูชา เล่นของก็เป้นอีกทางเลือก
บูชาของกับโฆษณาบุญมันต่างกันครับ ต่างกันตรงไหน
พวกเล่นของ บูชาพระ มันเป็นอะไรที่จับต้องได้มากกว่า ผมบูชาพราะวัด A เพราะชื่อว่าขลัง ให้โชคให้ลาภ สุดท้ายผมรถชน ผมซื้อหวยไม่ถูก วัดนั้นก็ไม่ได้เกิดแล้ว
ในขณะที่บุญเป็นเรื่องที่ถูกโฆษณาไว้เกี่ยวกับภพหน้า มันเป็นจินตภาพ ไม่เคยมีใครลองตายแล้วกลับมาบอกว่าธัมมี่พูดจริงหรือตอแหล ดังนั้นมันก็ต้องเชื่อกันต่อไป
ส่วนหลังจากนี้พวกที่เชื่อหน้าใหม่คงหายากแล้ว แต่ธรรมกายจะกลัวอะไรสาวกเก่าเค้ามีเป็นล้านแล้ว ธรรมกายมีโครงการ บวชพระเณรแสนรูปต่อเนื่องกันมาเป็นสิบปี ในั้นต้องมีพวกคลั่งบ้างแหละ
5.จริงๆผมไม่อยากคุยไอ้แนวพุทธแท้หรอก ผมอยากรู้ว่าทำไมคนเข้าแล้วสบายใจ โดยการอ้างอภินิหาร และต้องเข้าวัดไปรู้เองเสียมากกว่า
อันนี้อย่างที่บอกสภาพแวดล้อมในธรรมกาย โอ่า ยิ่งกว่าวัง ทุกอย่างมันช่างเสริมสร้งหลักอภินิหารตามที่เคยได้ยินได้ฟังกันมา
ผมว่าผมคงไม่เข้ามาถกต่อแล้ว เพราะผมคิดว่า คุณน่าจะปักธงในใจไม่เชื่อในทุกคำอธิบาย คุณคงอยากได้คำตอบแบบที่ถูกใจอย่างที่เม้นท์บนว่า ซึ่งไม่รู้ว่าต้องการแบบไหน
ถ้างั้นคุณลองแสดงแนวความคิของคุณมาบ้างสิว่าทำไม คนเรามีถามย่อมมีคำตอบในใจบ้างเล็กน้อย
เอ๊ะหรือบางที คุณอาจจะเป็นสาวกธรรมกายปลอมตัวมาก็เป็นได้ 555
ความเห็นคุณมันดูมาจากการคิดเองเออเองอยู่หลายข้อนะครับ ผมว่าค่อนข้างอ่อนเลยละ มันออกไปทางแนวเดียวกับการเมืองเลยละครับ
ข้อ1 คือมันจะไปหาดูจากที่ไหน หนังสือพิมพ์หยิบฟรีตามข้างทางหรอ มันมีหรือเปล่า
ใครจะมาเปิดทีวีให้คุณดู หรือดูที่บ้านหรอ ชีวิตจนตรอก ทางออกคือธรรมกาย บ้าไปแล้ว
คำตอบของคุณมันสโคปว่าทางออกคือเข้าธรรมกาย เพราะสื่อมันบีบ คุณเอ่ย ทำไมมองข้ามวัดดังๆไปได้ยังไงเนี่ย
เวลาผมคุยกับคนอื่น ผมมักบอกเสมอว่า เราเลือกเข้าวัดได้ คุณจะไปเข้าวัดแขก เสริมพลัง สักยัน คุณเลือกได้
แล้วไปเรื่องจุดต่ำของชีวิตอีก นั้น ผมว่าไปกันใหญ่ละ เพราะคุณเอาจุดยืนตรงนี้เป็นตัวตั้ง
แล้ววัดอื่นๆคุณว่าไม่มีลักษณะเดียวกันหรอ แม้แต่วัดป่าก็ต้องมีอ่ะผมว่า
2. ผมว่าผมตอบชัดแล้ว เราสบายใจอะไรก็เลือกเข้าอันนั้น ไม่งั้นทั้งโลกต้องมีศาสดาองค์เดียวทั้งหมด ไม่แบ่งแย่งความเชื่อ นิกายของพุทธก็ต้องมีอันเดียว
3. คุณตอบแบบความเห็นของคุณเองมากกว่า เพราะถ้าตอบเหมือนฟังเพลง เพลงไม่เพราะ ฟังบ่อยๆแล้วร้องได้
แต่ของซื้อของขาย ถ้าไม่เห็นประโยชน์ ต่อให้ฟังมันทั้งชาติ มันจะซื้อกันทั้งหมดจริงๆหรอ ผมว่าฟังไม่ขึ้นนะครับ
4. ผมให้ความเห็นกับคนอื่นว่า การทำบุญ เหมือนทำประกัน โดยทั่วไป คุณหาอ่านได้หมด บาปตกนรก บุญขึ้นสวรรค์ ทำบุญช่วยเรื่องเจ้ากรรมนายเวร
จิตนาการของคุณที่ว่า พระดังๆที่คนนับถือ เขาก็พูดเรื่องพวกนี้ด้วยไม่ใช่หรือ บางทีอย่าหลงในวังวนธรรมกาย จนลืมว่าเกจิคนอื่นก็ยังเตือนสติโดยใช้หลักพวกนี้อยู่นะครับ
ไอ้สาวกเนี่ย ผมว่าก็แนวๆทั่วไป ญาติกัน เพื่อนกัน ลองชวนเข้า ถ้าเขาไม่โอเคก็ไม่เข้า
วัดอื่นๆก็มีคนชวนแบบนี้ หรือคุณว่าไม่จริง ความเห็นคุณ มันดูลอคคออีกอ่ะ
5. อันนี้ผมว่าเราหาคำตอบไม่ได้ เพราะไม่มีประสบการณ์ตรงกับตรงนั้น เหมือนคนเจอผี ก็เชื่อว่าผีมีจริง ผมก็อ้างจากคำสัมภาษณ์เสียมากกว่า
ครับ
ผมก็ไม่อยากถกที่ได้รับคำตอบไม่ถูกใจ คนมันควรถูกโน้มนาว จึงยอม หรือมีความประทับใจ จึงเลื่อมใส
ไม่งั้นผมคงไม่ถามจี้ไปเรื่อยๆกันหลายๆคนหรอก
แต่ต้องแฟร์กับวัดอื่นด้วย ไม่ใช่เจาะเอาเป็นเอาตายกับธรรมกาย
แหม ถ้ากล่าวหาว่าผมปลอมตัว หรือผมจะไม่ใช่พุทธวะเนี่ย
ผมว่า ผมเคยได้ยินแนวๆที่ว่า พุทธ ไม่ต้องถาม ให้ปฏิบัติ
แบบนี้คุณว่ามันใช้ได้หมดไหม คุณก็อ้างว่ามันไม่ใช่พุทธ
เหมือนบังคับกึ่งมัดมือชกไหม
แล้วงี้เราไม่ควรตั้งคำถามกับธรรมกาย หรือลองปฏิบัติละเนี่ย
เอาเถอะครับ ผมก็แค่อยากรู้ว่าคนที่เชื่อ มันเชื่อเพราะสาเหตุอะไรบ้าง
คุณเข้าวัดก็ใช่ว่าจะเชื่อทุกวัดหมด ฉันไดก็ฉันนั้นละ
ประมาณนี้ละกัน ไว้ติดตามกันต่อไป