ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 17 Apr 2006
ตอบ: 111
ที่อยู่: 221B Baker Street
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 9:22 pm
การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล
พอดีเห็นกระทู้นี้ในพันทิปน่าสนใจดี เกี่ยวกับเลสเตอร์ เลยอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชาว SS ยาวหน่อยนะครับ
https://m.pantip.com/topic/36146394?

เป็นการพุดคุยในประเด็นเรื่องโค้ชที่นำพาความสำเร็จในยุคที่ฟุตบอลกลายเป็นธุรกิจมากขึ้น ทีมฟุตบอลมันไม่ใช่แค่ทีมกีฬาแล้วในช่วง 2000s มานี้ มันกลายเป็นแบรนด์ เหมือนแบรนด์สินค้าที่ใครก็อยากประสบความสำเร็จทั้งในแง่ถ้วยแชมป์ ฐานแฟนบอล และการทำธุรกิจ

พูดถึงประเด็นเลสเตอร์ซิตี้ตะเพิดรานิเอรี จริงอยู่เลสเตอร์สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษหรือแม้กระทั่งตอนที่รานิเอรีคุมเชลซีเมื่อปี 2003 ก็ได้มากสุดแค่รองแชมป์ แต่รานิเอรีกลับพาทีมตกอยู่ในโซนหนีตกชั้นในตอนนี้ ถึงแม้ว่าทีมยังพอมีโอกาสเอาชนะเซบีญ่าและสร้างประวัติศาสตร์ในถ้วยยุโรปอยู่ก็ตาม ทำให้เกิดคำถามมากมายว่า บอร์ดบริหารเลสเตอร์ทำถูกแล้วหรือไม่ ที่ไล่ผู้จัดการทีมที่นำพาความสำเร็จมาสู่ทีม แน่นอนว่าแฟนบอลเลสเตอร์ที่อังกฤษต่างพากันไม่เห็นด้วยที่ไล่รานิเอรีออก

แต่พอกลับมาดูความเป็นจริงที่ว่า "ฟุตบอลคือธุรกิจ" ในความคิดผมกลับคิดว่าบอร์ดบริหารของเลสเตอร์ไล่ลุงรานิเอรีช้าไปด้วยซ้ำ ย้อนกลับไปปีที่แล้ว เชลซีเป็นแชมป์เก่าปี 2014 ทำผลงานได้ย่ำแย่มากๆ บอร์ดเชลซีไม่ลังเลที่จะไล่โชเซ่ มูรินโญ่ออก แล้วนำพากุส ฮิดดิงค์เข้ามากู้สถานการณ์ แต่เชลซีเปลี่ยนผู้จัดการทีมในเดือนธันวาคม ถือว่ายังพอมีโอกาสให้ผู้จัดการทีมคนใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทีม และมีโอกาสได้เซ็นผู้เล่นเข้ามาเพิ่มในช่วงหน้าหนาวด้วย สุดท้ายเชลซีจบอันดับกลางตาราง กลับมาที่เลสเตอร์ บอร์ดบริหารเลสเตอร์มัวแต่คิดเรื่องรานิเอรีเป็นผู้มีพระคุณต่อทีมจนลืมไปว่าควรมีการเปลี่ยนแปลงตั้งนานแล้ว คราวนี้ผู้จัดการทีมเลสเตอร์คนใหม่ผู้รับเผือร้อนมามีโอกาสกู้สถานการณ์แค่ 13 นัดเท่านั้น และไม่มีโอกาสได้เซ็นนักเตะเพิ่มเลย คล้ายๆกับนิวคาสเซิลฤดูกาลที่แล้วที่กว่าจะเอาราฟาเอล เบนิเตซเข้ามาคุมก็ปาไปเกือบจบฤดูกาลแล้ว ถึงผลงานช่วงที่ราฟาคุมจะดีแค่ไหนก็ไม่ทันอยู่ดี สุดท้ายนิวคาสเซิลตกชั้นไป แน่นอนรานิเอรี KPI ไม่ผ่านก็ต้องไล่ออก

ตั้งแต่ฟุตบอลกลายเป็นธุรกิจมากขึ้น เราอาจจะต้องยอมรับว่าเราอาจจะไม่ได้เห็นผู้จัดการทีมอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หรือ อาร์เซน เวนเกอร์อีกต่อไป อย่างเชลซีที่ประสบความสำเร็จมากในช่วงปี 2000s-2010s เนี่ยก็มีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมเป็นว่าเล่น ฟอร์มก็มีขึ้นบ้างลงบ้างตามแทคติกของฟุตบอลและอุณหภูมิของตารางคะแนน ยอดทีมจากสเปนอย่างเรอัล มาดริดเองก็มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมเยอะพอสมควรจนสุดท้ายมาเจอคนที่ใช่อย่างซีเนอดีน ซีดาน และเชลซีก็มาเจออันโตนิโอ คอนเต้ (#ความรักก็เช่นกัน ก่อนเจอคนที่ใช่ก็ต้องผ่านคนที่ไม่ใช่มาก่อน...จริงมั้ย) ส่วนแมนฯยูไนเต็ด ตั้งแต่เซอร์ฯวางมือ ก็ยังคลำหาฟอร์มเก่าๆไม่เจอ หลังว่ามูรินโญ่จะเป็นคนที่ใช่สักที บอร์ดอาร์เซน่อลเองก็คงหวั่นๆจะเจริญรอยตามแมนฯยูไนเต็ดไปแน่ๆหลังจากเจ๊วางมือ ส่วนหงส์แดงลิเวอร์พูลหวังว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอในเร็ววัน

ตั้งแต่เลสเตอร์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ ถือว่าการสร้างแบรนด์ในเชิงธุรกิจเป็นได้อย่างสวยงาม สามารถดึงดูดฐานแฟนบอลนอกสหราชอาณาจักรได้เยอะพอสมควร มิหนำซ้ำยังสามารถเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายถ้วยใหญ่ของยุโรปได้อีก จนตอนนี้ไม่มีใครคิดแล้วว่า "เลสเตอร์? ทีมไรวะ?" คำถามใหม่จะเกิดขึ้นมาแทน "เลสเตอร์จะสามารถสร้างมาตรฐานของตัวเองได้ดีแค่ไหน และ จะรั้งหรือสร้างฐานแฟนบอลได้ดีหรือไม่" แต่สิ่งที่ต้องทำ ณ ตอนนี้คือทำยังไงก็ให้รอดตกชั้นก่อน! ถ้าตกชั้นไปนี่เสียหายเยอะมาก เนื่องจากเม็ดเงินระหว่างพรีเมียร์ลีกกับแชมป์เปี้ยนชิพนั้นแตกต่างกันมากกกก และคงไม่อยากถูกจารึกไว้ว่าเป็นแชมป์เก่าทีมแรกที่ปีถัดมาตกชั้นในยุคพรีเมียร์ลีกแน่ๆ

ก็แน่นอนล่ะ ฟุตบอลมันคือธุรกิจ!

สุดท้าย ขอบคุณและรักทุกคนที่อ่านถึงตรงนี้ นานๆทีจะเขียนอะไรยาวเหยียด คนอ่านที่เป็นแฟนผีแดงก็ขอให้ได้แชมป์ยูโรป้า แฟนหงส์ก็ขอให้ติดท็อป 4 แฟนปืนก็เช่นกัน แฟนสิงห์ก็ขอสองถ้วยนะพรีเมียร์กับเอฟเอจ้า

นี่เป็นบทความแรกในชีวิตผม หากผิดพลาดประการใดหรือข้อมูลไม่แน่นก็ขออภัยด้วยครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับผม

ปล. ขออภัยที่แขวะหงส์ในอีดิทก่อนหน้านี้ครับ
# Chelsea FC since 2000 # Juventus since 1998 # Italia since 1998 #
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 951
ที่อยู่: ได้เพราะมีเธอ
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 9:28 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
เป็นการพุดคุยในประเด็นเรื่องโค้ชที่นำพาความสำเร็จในยุคที่ฟุตบอลกลายเป็นธุรกิจมากขึ้น ทีมฟุตบอลมันไม่ใช่แค่ทีมกีฬาแล้วในช่วง 2000s มานี้ มันกลายเป็นแบรนด์ เหมือนแบรนด์สินค้าที่ใครก็อยากประสบความสำเร็จทั้งในแง่ถ้วยแชมป์ ฐานแฟนบอล และการทำธุรกิจ

ถูกตอนนี้มันเป็นธุรกิจหมดแล้ว แต่เป็นธุรกิจที่มีชื่อสโมสรบอลนำหน้า



พูดถึงประเด็นเลสเตอร์ซิตี้ตะเพิดรานิเอรี จริงอยู่เลสเตอร์สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษที่แม้แต่ทีมแชมป์ยุโรปห้าสมัยก็ทำไม่ได้ (ทีมอัลลัยอ้ะ) หรือแม้กระทั่งตอนที่รานิเอรีคุมเชลซีเมื่อปี 2003 ก็ได้มากสุดแค่รองแชมป์ แต่รานิเอรีกลับพาทีมตกอยู่ในโซนหนีตกชั้นในตอนนี้ ถึงแม้ว่าทีมยังพอมีโอกาสเอาชนะเซบีญ่าและสร้างประวัติศาสตร์ในถ้วยยุโรปอยู่ก็ตาม ทำให้เกิดคำถามมากมายว่า บอร์ดบริหารเลสเตอร์ทำถูกแล้วหรือไม่ ที่ไล่ผู้จัดการทีมที่นำพาความสำเร็จมาสู่ทีม แน่นอนว่าแฟนบอลเลสเตอร์ที่อังกฤษต่างพากันไม่เห็นด้วยที่ไล่รานิเอรีออก


ถูกบอร์ดทำผิดที่ไล่ไวไป แต่คุณก็คงเหมือนบอร์ดแหละ ที่เอาลิเวอร์พูลมาใส่ในคำบอกเล่า

ผมอ่านถึงแค่นี้แหละ เพราะว่ามาแขวะหงส์ผม เกินเยี่ยวยาจัง
0
0
เข้าร่วม: 10 Sep 2008
ตอบ: 2998
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 9:32 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
จะบทความหรือบทแขวะ เอาสักอย่าง
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 2813
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 9:35 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
น่าจะพูดถึงเลสเตอร์อย่างเดียว พอมีแขวะลิเวอร์พูลมันทำให้ดูน่าอ่านน้อยลง

สำหรับผม ด้วยความรักที่มีต่อลุงรานิเอรี่ ผมก็ไม่อยากให้แกตกงานนะ

แต่สโมสรก็ต้องเดินหน้าต่อไป ไม่มีคำว่าบุญคุณ เขาจ้างมาทำงาน ปีที่แล้วทำได้ทะลุเป้า ปีนี้ทำได้ต่ำกว่าเป้ามากไป ก็โดนไล่ออกได้

0
0
เข้าร่วม: 26 Jun 2006
ตอบ: 3852
ที่อยู่: Citizen of Earth
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 9:38 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
ยูสก็ตั้ง 2006 จะบอกว่าหัดแขวะก็ดูจะอ่อนหัดไป

ลองดึงสติดีๆก่อนแล้วเขียนใหม่นะ
0
0
เข้าร่วม: 09 Aug 2009
ตอบ: 23063
ที่อยู่: Anfield,Liverpool
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 9:42 pm
[RE]การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล
มาม่ายทัน
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 339
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 9:49 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
จากทีมมูลค่า 30 ล้านปอนด์ ตอนได้แชมป์ขึ้นมาเป็น 300 ล้านปอนด์​ ตอนนี้เหลือเท่าไหร่นาาา
0
0
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 22343
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 9:50 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
โดยส่วนตัวผมว่าปลด timing ไม่ดีมากๆ

ถ้าจะเอาเรื่องอันดับในลีค...เลสเตอร์ควรจะมองย้อนกลับมาจุดที่ตัวเองเป็นอยู่...

ทำไม ณ วันนี้ของเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไนเจล เพียร์สัน ที่ทำทีมอันดับแย่กว่านี้อีก...ถึงยังไม่โดนไล่ออก..
(*แข่ง 25 นัดมี 17 คะแนน อยู่อันดับ 20 ตาม Burnley อันดับ 19 ถึง 4 แต้ม!!! เรียกได้ว่ากากมาก)
ที่มา:https://thechels.co.uk/6899-gameweek-25-2014-15-premier-league-table/

นั่นเพราะเลสเตอร์คือทีมระดับกลางถึงล่าง ที่ไม่มีซุปตาร์ และต้องดิ้นรนหนีตกชั้นเป็นปกติอยู่แล้ว..

มาในปีนี้ เลสเตอร์กลับมองตัวเองไม่เหมือนเดิม...ทั้งๆที่เสียตัว key man หลักอย่าง Kante ออกไป
(ต้องไม่ลืมว่า Vardy และ Mahrez หรือจะรวม Drinkwater ก็ได้... ก็อยู่ในทีมที่หนีตกชั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว)

การไปเสริมทีมเพิ่มอย่าง Islamani , Musa หรือพวก Ndidi, Mendy นั่นก็เพื่อสร้าง squad depth ไว้สู้ศึก UCL

โดยผลงาน UCL ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลย ผ่านเข้ารอบ knock out แถมยังพอจะมีลุ้นในนัดที่ 2 ด้วยซ้ำ..

คือถ้าจะปลดโดยโฟกัสไปที่ผลงานในลีคอย่างเดียว ก็ควรจะปลดไปตั้งแต่ช่วงปีใหม่ละ..

ไม่ใช่มาปลดช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของ UCL แบบนี้...

จะหาโค้ชที่มีประสบการณ์บอลยุโรป และยอมมาพาทีมหนีตกชั้นด้วย...จะมีซักกี่คน

ผมว่ามีโอกาสเละเทะได้เลยนะ...

นี่พูดเรื่องสภาพทีมล้วนๆโดยไม่อ้างอิงเรื่องบุญคุณที่พาทีมได้แชมป์ EPL หนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเลยนะ
เข้าร่วม: 07 Feb 2006
ตอบ: 8683
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 10:18 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
โดยส่วนตัวผมว่าปลด timing ไม่ดีมากๆ

ถ้าจะเอาเรื่องอันดับในลีค...เลสเตอร์ควรจะมองย้อนกลับมาจุดที่ตัวเองเป็นอยู่...

ทำไม ณ วันนี้ของเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไนเจล เพียร์สัน ที่ทำทีมอันดับแย่กว่านี้อีก...ถึงยังไม่โดนไล่ออก..
(*แข่ง 25 นัดมี 17 คะแนน อยู่อันดับ 20 ตาม Burnley อันดับ 19 ถึง 4 แต้ม!!! เรียกได้ว่ากากมาก)
ที่มา:https://thechels.co.uk/6899-gameweek-25-2014-15-premier-league-table/

นั่นเพราะเลสเตอร์คือทีมระดับกลางถึงล่าง ที่ไม่มีซุปตาร์ และต้องดิ้นรนหนีตกชั้นเป็นปกติอยู่แล้ว..

มาในปีนี้ เลสเตอร์กลับมองตัวเองไม่เหมือนเดิม...ทั้งๆที่เสียตัว key man หลักอย่าง Kante ออกไป
(ต้องไม่ลืมว่า Vardy และ Mahrez หรือจะรวม Drinkwater ก็ได้... ก็อยู่ในทีมที่หนีตกชั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว)

การไปเสริมทีมเพิ่มอย่าง Islamani , Musa หรือพวก Ndidi, Mendy นั่นก็เพื่อสร้าง squad depth ไว้สู้ศึก UCL

โดยผลงาน UCL ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลย ผ่านเข้ารอบ knock out แถมยังพอจะมีลุ้นในนัดที่ 2 ด้วยซ้ำ..

คือถ้าจะปลดโดยโฟกัสไปที่ผลงานในลีคอย่างเดียว ก็ควรจะปลดไปตั้งแต่ช่วงปีใหม่ละ..

ไม่ใช่มาปลดช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของ UCL แบบนี้...

จะหาโค้ชที่มีประสบการณ์บอลยุโรป และยอมมาพาทีมหนีตกชั้นด้วย...จะมีซักกี่คน

ผมว่ามีโอกาสเละเทะได้เลยนะ...

นี่พูดเรื่องสภาพทีมล้วนๆโดยไม่อ้างอิงเรื่องบุญคุณที่พาทีมได้แชมป์ EPL หนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเลยนะ
 


ผมก็คิดแบบนี้อ่ะ กลับโดนเถียงว่าปลดอ่ะเหมาะแล้ว

ทำทีมกาก แทบไม่เห็นชัยชนะเลย

ผมว่าโค้ชใหม่มาก็ไม่ต่างกันอ่ะ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 11213
ที่อยู่: Constantinople Byzantine
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 10:38 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
ผมว่าเลสเตอร์ดูให้ความสำคัญกับ UCL มากไปซึ่งขนาดทีมยังเล็กอยู่ บางนัดเห็นได้ชัดเลยว่าทำขนาดพักผู้เล่นเอาไว้เล่น UCL แถมผลงานปีนี้ก็ไม่ดีเหมือนเก่า เหมือนหมดแรงกระตุ้นไปแล้ว(แรงกระตุ้นอาจจะไปอยู่ UCL ถึงทำผลงานได้ดี)นักเตะหลายๆคนก็เล่นแบบทองไม่รู้ร้อนเหมือนคิดว่ายังไงก็ไม่ตกหรอก แต่เพราะคิดแบบนี้แหละมันเลยแย่เอา แถมสวอนซีกับฮัลล์ฟอร์มดีขึ้นมาด้วย ก็ไม่รู้นะว่าการเน้นUCLรานิเอรี่เป็นคนตั้งใจหรือบอร์ดบริหารทีมสั่งมา แต่ผมว่ามันได้ไม่คุ้มเสีย เพราะคิดว่าน่าจะจอดแค่รอบนี้ แถมทำให้ในลีกลำบากขึ้นอีกเยอะ
0
0
SjF3vD.gif
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 85
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 11:19 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
ที่เขาปลดเพราะสปิริตทีมครับ พูดง่ายๆตือตอนนี้นักเตะมันเตะไล่โค้ชกันอยู่ทีมสตาฟก็ไม่เอาแล้ว ถ้าปล่อยให้ราเอนิรี่คุมต่อตกชั้นแน่ๆ เหมือนมูคุมเชลซีปีที่แล้วเลย จะเอาไปเทียบกับเพียชสันไม่ได้อันนั้นสปิริตทีมยังดีอยู่
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 6426
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 24, 2017 11:36 pm
[RE: การปลดรานิเอรีของเลสเตอร์กับธุรกิจในฟุตบอล]
ประเด็นเรื่องธุรกิจ หรือไม่ธุรกิจ ยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
ทุกทีมที่จะตกชั้น หรือทีมใหญ่ที่ไม่ได้แชมป์ ต่างก็ต้องเปลี่ยนโค้ช
บางทีมันก็แยกไม่ออกระหว่างธุรกิจและผลงาน ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าต้องตัดสินใจลักษณะไหน ถึงไม่เป็นธุรกิจ

และช่วงระหว่างวันนี้ ไปถึง ucl นัดที่ 2 พอลองเทียบโปรแกรมในลีก จะผ่านเกมลีก 3 เกม
ในบรรดาอันดับ 17-20 เลสเตอร์จะเจอหนักสุดแล้ว มีโอกาส 0 แต้ม 3 นัดติดอยู่พอสมควร ซึ่งสำหรับทีมหนีตกชั้น 1-2 แต้มก็มีความหมายมาก


0
0