ฟุตบอลไทยไม่ได้ “ขาลง” อย่างที่ใครหวั่นใจ ถือเป็นข่าวน่ายินดีเลยละเมื่อ “บริษัท ไทยลีก จำกัด” มีการเปิดเผยยอดคนดูฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2017” ว่ามีการทุบสถิติเรียบร้อยแล้ว

ยอดผู้ชมสัปดาห์ที่ 2 ของฤดูกาลตัวเลขพุ่งไปถึง “145,169 คน” นี่คือสถิติใหม่และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลไทยลีก เฉลี่ยแล้วประมาณ 8,000 คนต่อ 1 นัด

ปรบมือชื่นชมทุกคนที่ช่วยกันทำให้ฟุตบอลไทยบูมและยังคงลอยละลิ่วติดลมบน นึกย้อนไปถึงสมัยวันวานแล้วต้องบอกเลยว่าคนละเรื่อง สมัยก่อนจำนวนคนดู 8,000 คนนี่อาจจะเป็นตัวเลขทั้งฤดูกาลของหลายๆสโมสรเลยด้วยซ้ำ

ฟุตบอลไทยมาถึงวันนี้มีหลายปัจจัยครับ ส่วนตัวแล้วมองว่าเกิดจาก 2 สาเหตุหลักๆ อันดับแรกเลยคือการ “รวมลีก” ระหว่างลีกของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กับ “โปรลีก” ของ การกีฬาแห่งประเทศไทย ทำให้กระแสดีมากขึ้น

การรวมลีกทำให้ฟุตบอลไทยมีจุดขาย ทั้งคุณภาพและมาตรฐานของลีกจากฝั่ง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่นักเตะล้วนเป็นแถวหน้าของเมืองไทย ขณะที่ โปรลีก มีเสน่ห์ตรง “ท้องถิ่นนิยม” ทีมมาจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ

ทั้ง 2 ลีกผสานรวมกันจึงเป็นอะไรที่กลมกล่อม บวกกับคำว่า “โลกาภิวัตน์” โลกของการสื่อสารที่ไร้พรมแดนทำให้แฟนบอลที่เห็นโลกลูกหนังของตะวันตกอยากเห็นบรรยากาศแบบนี้ใกล้ๆบ้านบ้างจึงร่วมกันสร้างสรรค์สีสันขึ้นมาทีละเล็กละน้อย

กระแสแฟนบอลเริ่มมากขึ้นตอนนั้น ขณะที่ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ “เอเอฟซี” มีนโยบาย “คลับ ไลเซนส์” ให้ทุกสโมสรต้องเดินหน้าสู่คำว่าฟุตบอลอาชีพ นั่นคืออีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟุตบอลไทยต้องพัฒนาอย่างจริงจัง

สโมสรต้องจดทะเบียนเป็น “นิติบุคคล” และมีข้อกำหนดอีกเยอะแยะมากมาย นี่คือช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของฟุตบอลที่ต้องปรับตัวตามแนวทางที่ “เอเอฟซี” กำหนดไว้ ทีมที่ปรับตัวไม่ได้เพราะติดข้อจำกัดต่างๆจึงต้องทยอยปิดตัวลง

ช่วงเวลานั้นฟุตบอลไทยเริ่มเรียนรู้และพัฒนาสู่การเป็นฟุตบอลอาชีพ ทั้งคนจัด คนเล่น และ คนดู เริ่มปรับตัวพร้อมๆกับกระแสที่ได้รับความสนใจมากขึ้น สื่อหันมาสนใจฟุตบอลไทยมากขึ้นทำให้สิทธิประโยชน์ขยับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นั่นคือพัฒนาการของไทยลีกที่พัฒนาเรื่อยมาจนถึงวันนี้ที่มียอดคนดูเฉลี่ยเฉียดๆหมื่นคนต่อนัดแล้ว และเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันต่อไปฟุตบอลลีกไทยยังน่าจะฮิตไปอีกนาน

หลายครั้งหลายหนที่ฟุตบอลลีกไทยมักถูกยกไปเปรียบเทียบกับบอลนอก แต่บางอย่างเทียบกันไม่ได้เสมอไปหรอกครับ ต้องเข้าใจว่าบ้านเขาเริ่มมาเป็นร้อยปีแล้ว แต่ของเราเพิ่งจะตั้งไข่กันจริงๆจังๆยังไม่ถึงสิบปี

แต่ก็นั้นอีกละว่าคงไม่ใช่ข้ออ้างที่จะมาอ้างบ่อยๆว่าเราเพิ่งเรียนรู้เพิ่งเข้าสู่คำว่าฟุตบอลอาชีพ หลายๆอย่างมีบทเรียนที่ต้องเรียนรู้แก้ไขเพื่อพัฒนาต่อไป ไม่ใช่ว่าผิดแต่เรื่องเดิมๆซ้ำซาก อย่างนั้นคงไม่ใช่แน่นอน

ตั้งแต่สมัยฟุตบอลไทยบูมใหม่ๆผมเคยย้ำอยู่เสมอว่า “ฟุตบอลไทยจะเป็นอาชีพ คนจัดต้องเป็นมืออาชีพก่อน” ถึงตรงนี้ลองพิจารณากันเองแล้วกันครับว่า “คนจัด” เป็นมืออาชีพขนาดไหนแล้ว

ส่วน “คนดู” ส่วนตัวแล้วคิดและพยายามมาตลอดว่าอยากให้การดูบอลเป็น “วัฒนธรรม” หรือกิจกรรมของครอบครัวเหมือนที่เมืองนอกเมืองนาเขาทำกัน คือวันหยุดพ่อแม่จูงลูกจูงหลานเข้าสนามฟุตบอล

ทุกวันนี้เห็นภาพพ่อแม่พาลูกเข้าสนามฟุตบอลแล้วชื่นใจครับ ตอนที่ทำรายการ “นักเลงฟุตบอล” ช่วง “ตะลอนบอลไทย” ก็พยายามหากิจกรรมแบบไปดูบอลพร้อมไปเที่ยวมานำเสนอเพื่อปลุกกระแสแฟนบอลจะได้ใช้เวลาวันหยุดเป็นกิจกรรมของครอบครัว

ชอบใจตรงที่ใครเคยบอกว่า “ฟุตบอลนอกอยู่ไกล ฟุตบอลไทยใกล้บ้าน” เอามากๆ ใครที่ยังไม่เคยเข้าไปดูฟุตบอลไทยก็ขอแนะนำให้ลองไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่บ้าง ส่วนคนที่ดูประจำอยู่แล้วก็ขอให้ช่วยๆกันทำให้ฟุตบอลไทยน่าดูน่าเข้าไปชม

สิ่งสำคัญที่สุดคือ “กฎระเบียบ” นี่ละครับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนจัด คนเล่น และ คนดู หากอยู่ในกรอบและปฏิบัติตามกติกาไม่มีการแหกกฎบ่อยๆเชื่อว่าฟุตบอลไทยจะเป็นสิ่งที่สวยงามและเป็นความบันเทิงของคนไทยไปอีกนานแน่นอน

“บับเบิ้ล”

สุดยอดเลยครับผม

ตอนนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่ทำเอาใจผมชดชื่นจริงๆครับ เมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้เดินทางไปดูทีมฟุตบอล กาฬสินธุ์FC ซึ่งตอนนี้กำลังแข่งกันสนุกใน ไทยลีก 3 ยูโร่ เค้ก ลีก โปร ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงการส่งเสรมมนเสน่ของการท่องเที่ยวเข้ามาด้วย ค่าเข้าชม 80 บาท ครับ ผู้ชมมากประมาณ 2000 คน แต่เสียงเชียร์นั้นดังก้องกังวาลชวนคิดถึงการไปนั้งชมในสนามฟุตบอลใหญ่ๆเช่นสนามไอโมบาย สเตเดียม ก็คงจะสนุกไม่น้อยอีกทั้งการทำให้ฟุตบอลเร้าใจในสนามที่แลกกันหมัดต่อหมัด ยิงกันสนุกรับสนุกออก เรียกเสียงเฮ้!! ผมว่าฟุตบอลไทยยังไปได้อีกไกลมากครับ

เหลือแต่บรรดาทีมต่างๆ ควรทำตัวให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ..


สู้ๆครับ บอลไทย

ถ้ารัฐช่วยส่งเสริมด้านกีฬาก็ยิ่งน่าสนใจ อย่างพวกนักมวย นักฟุตบอล แล้วอาจคัดอีกสัก 2-3 ชนิด แล้วให้เงินสนับสนุนพิเศษเหมือนญี่ปุ่นแต่ก่อนให้เรียนฟรี อาหารฟรี รักษาพยาบาลฟรี กับบรรดาเยาวชนที่ติดทีมเยาวชนระดับโรงเรียนหรือสโมสรฟุตบอล

ถ้ารัฐช่วยเหลือมันจะง่ายขึ้นยิ่งกว่านี้ ไม่ว่าอาจออกโฆษณาเชิญชวนให้ไปชมกีฬา ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเล่ย์บอล ในวันหยุดเป็นกิจกรรมครอบครัว แล้วอาจให้เอาตั๋วเข้าชมที่ซื้อมาลดหย่อนภาษีได้ ผมว่าระยะยาวแบบนี้มันดีกว่าด้วย

ถึงทีมบ้านผมจะอยู่ T3 แต่ก็เชียร์สนุกกองเชียร์เยอะ(ก็เต็มสนามทุกนัด)เรื่องเลื่อนชั้นไม่เน้น แต่มีทีมใกล้ๆบ้านทีมท้องถิ่นยังไงมันก็ห้ามใจที่จะไม่เชียร์ไม่ได้หรอก

แต่ยังได้ยินแว่วๆเรื่องการทำงานของสมาคมที่หลายๆอย่างยังล่าช้าและขาดตกบกพร่องพอสมควรนะครับ ในลีกล่างๆ

สโมสรฟุตบอลเป็นเอกชนครับ รัฐไปช่วยอะไรไม่ได้มาก ผิดระเบียบราชการ

ก็คงช่วยในภาพรวม ผ่านทางสมาคมฟุตบอล

บอกตรงๆ เห็นยอดผู้ชมแรกๆแล้ว ผิดคาดผมมาก
นี่ขนาด พวก สุพรรณ โคราช คนดูไม่เยอะเหมือนตอนขึ้นมาใหม่ๆนะ
ส่วนตัวๆ แรกๆคิดว่ามันจะเงียบลงด้วยซ้ำ

ทีมประจำจังหวัด เน้นนักเตะที่เป็นคนพื้นหน่อย
น่าจะเพิ่มกองเชียร์ได้อีกเยอะ

อีกหน่อยทีมตามหัวเมืองนี่แหละจะอยู่ได้

เห้ย! เห้ย! ท่าเรือเว้ย!
ภาพพ่อแม่ลูกเข้าแพทสเตเดี้ยมมีให้เห็นอยู่ทุกอาทิตย์

อยากให้เน้นนักเตะในอคาเดมี่ตัวเอง ดันขึ้นตั้งแต่เด็กจนถึงชุดใหญ่ วางรากฐานให้มั่นคง


ไม่ใช่ซื้ออย่างเดียว และ สโมสรต้องทำงานให้เป็นมืออาชีพ จะมาทำเป็นเด็กเล่นขายของ


เหมือนมือสมัครเล่นไม่ได้ สมาคมบอลไทยเขาช้วยกันดันสุดๆแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่สโมสร


ผมเชื่อว่าสโมสรที่เป็นจังหวัดจะพัฒนาได้ก้าวไกล บริหารให้เป็นมืออาชีพ มีสนามของตัวเอง


บริหารโดยมองมาตรฐานระดับ ACL ไม่ใช่มาตรฐานแบบไทยๆ อย่างบุรีรัมย์เขาจะสร้างอะไร


จะเน้นเกรดดีๆเลย มาตรฐานสากล มองไประดับ ACL ถ้าอยากกระตุ้นแฟนบอลไม่ต้องบ้า


แบบลีคจีน ที่ทุ่มเงินซื้อแหลกเว้อๆ ไทยลีคเอาแค่อดีตนักเตะดังที่ใกล้จะแขวนก็พอแล้ว


แค่นี้ก็เรียกฐานแฟนบอลได้แล้ว หรือ เอานักเตะญีปุ่น เกาหลี ก็ได้ ไม่ต้องไปเอาพวกยุโรป

เมืองทองก็มีนะ

ปีนี้เจอกัน เด่วรู้ เด่วรู้เลย
555 ขำๆนะ ผมไม่เคยไปตีใคร

ข้ารอเจ้าที่ 4 แยก วัดใจนะจ๊ะ

5555 ขำๆนะครับ

ไปด้วยกันไปได้ไกล สู้ๆครับบอลไทย