พอดีเห็น These Football Times อัพบทความเกี่ยวกับมาเน่เมื่อคืน
คิดว่าแฟนลิเวอร์พูลหลายคนน่าจะสนใจ เลยแปลตัวอย่างมาให้อ่านกันนิดหน่อยค่ะ

แต่ไม่ได้แปลมาทั้งหมดนะเพราะแปลไม่ไหว ใช้พลังงานสูงมากจริงๆ แปลทีนึกว่าทำข้อสอบ IELTS อยู่
แล้วก็ ที่แปลมามีการเรียบเรียงคำใหม่บ้างเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับบริบทภาษาไทยมากขึ้นนะคะ 555


--------------

บทความนี้แปลจาก These Football Times - The momentum man: Sadio Mané’s remarkable goalscoring traits

--------------




ณ เซนต์แมรี่ในตอนนั้น ลิเวอร์พูลแทบจะเดินเล่นสบายๆ พร้อมกับกำชัยชนะเอาไว้ในมือ สองประตูจากฟิลิปเป้ คูติญโญ่ และแดเนี่ยล สเตอริดจ์ ทำให้ทีมของเยอร์เก้น คลอปป์ นำเซาธ์แธมป์ตันอยู่สองประตูช่วงครึ่งแรก สามแต้มที่พวกเขาต้องการเพื่อการช่วงชิงพื้นที่ท็อปโฟร์ ดูเหมือนจะอยู่ในมือเรียบร้อย นอกจากนั้น นับตั้งแต่ปี 1964 เป็นต้นมา เหล่าเครื่องจักรสีแดงก็ไม่เคยพ่ายในเกมที่พวกเขาเป็นฝ่ายนำสองประตูในครึ่งแรกอีกเลย

อย่างไรก็ตาม หลังจากลงสนามมา ซาดิโอ มาเน่ก็ทำลายสถิติที่ว่าไม่เหลือชิ้นดี ยอดนักเตะเซเนกัลพาทีมของเขาพลิกกลับมาช่วงชิงชัยชนะไปด้วยสกอร์ 3-2 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาแสดงให้เห็นจุดเด่นของเขาคนนี้ ความสามารถในการสร้างแรงกระตุ้นของเขา ตลอดจนถึงเพื่อนร่วมทีม

ตอนที่ลงมา มาเน่ไม่ได้ทำประตูมากว่าสี่เดือนแล้ว ความคาดหวังที่เคยมีต่อเขาเริ่มถูกบั่นทอนด้วยคำวิจารณ์ต่างๆ จากภายนอก และลามไปถึงผู้จัดการทีมโรนัลด์ โคแมน ที่ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขาลงมาในช่วงครึ่งหลัง

ในช่วงครึ่งแรกของเกม เหล่านักบุญถูกปฏิเสธจุดโทษจังหวะที่เดยัน ลอฟเรน ทำฟาวล์เชน ลอง แต่คู่หูของเขาอย่างมาร์ติน สเคอเทล ไม่โชคดีแบบนั้น กรรมการเปล่านกหวีดในนาทีที่ 50 เมื่อเขาทำฟาวล์กราเซียโน่ เปเญ่ มาเน่รับหน้าที่เป็นผู้สังหารจุดโทษ ทว่าซิมง มินโญเล่ เดาทิศทางได้ถูกต้อง และปัดมันออกไปจากกรอบประตู

กระนั้นมาเน่ก็ไม่ครั่นคร้าม เขาพาทีมกลับสู่เกมอย่างเยือกเย็น หลังจากนั้นในจังหวะที่เปเญ่ถูกจอน ฟลานาแกน จับตาเอาไว้และคอยไล่บี้เขาก่อนถึงกรอบเขตโทษ มาเน่รับทำหน้าที่แทนด้วยการเป็นผู้ยิงประตูแรกให้แก่ทีม จากนั้นใน 20 นาทีต่อมา เปเญ่จึงเปลี่ยนหน้าที่จากผู้จ่ายบอลมาเป็นเพชฌฆาต ด้วยการยิงประตูตีเสมอให้กับทีม และแล้วในจังหวะทำเกมบุก มาเน่ก็ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของกองหลัง พังประตูที่สองของเขาได้สำเร็จ เพียง 2 นาที 24 วินาทีหลังจากประตูตีเสมอ

เครื่องจักรสีแดงกลายเป็นฝ่ายแพ้ทั้งที่ตอนแรกพวกเขาแทบจะถือชัยชนะคอยไว้ในมือ รายงานของลิเวอร์พูลเอคโค่หลังจากเกมดังกล่าวสรรเสริญถึงความมหัศจรรย์ของมาเน่ในการนำพาเกมมาสู่ปลายทางที่ไม่มีใครคาดฝัน แน่ล่ะ มันเป็นความผิดพลาดของทีมเมอร์ซีย์ไซด์ แต่มาเน่คือผู้ที่ก่อกวนพวกเขาไม่ให้ขึ้นสู่ที่หนึ่งของตาราง เขานำพาทีมจากที่มืดมิดไร้ความหวังมาสู่ชัยชนะในช่วงเวลา 45 นาที ด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเกมรุก ในช่วงครึ่งแรก เหล่านักบุญไม่สามารถรุกเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายได้ แต่การเคลื่อนไหวของมาเน่เปลี่ยนทุกอย่างไปโดยสิ้นเชิง

ในห้าเกมถัดมาของเซาธ์แธมป์ตัน มาเน่สังหารไปถึงห้าประตู นัดที่ดีที่สุดคงเป็นเกมที่เขาแฮตทริกใส่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างไม่ต้องสงสัย ในโลกนี้มีผู้เล่นมากมายที่มักทิ้งช่วงในการทำประตู เวย์น รูนีย์ เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เหมือนว่ามาเน่นั้นจะสามารถพังประตูต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็วในเกมหนึ่งนัด

แฮตทริกในนัดเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นเป็นครั้งที่ห้าในชีวิตค้าแข้งของเขา แต่ไม่ใช่แค่นั้น ในนัดที่ทีมของเขาถล่มแอสตันวิลล่า 6-1 ประตูทั้งสามของเขาเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 2 นาที 56 วินาที ทำลายสถิติเดิมของพรีเมียร์ลีกที่ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ทำไว้เมื่อปี 1994

หลังจากค้าแข้งอยู่กับเซาธ์แธมป์ตันสองปี มาเน่ก็ย้ายมาสู่ลิเวอร์พูล สโมสรที่ซึ่งร็อบบี้ ฟาวเลอร์เคยอยู่ในปี 2016 เขาได้รับความชื่นชมอย่างมากจากเยอร์เก้น คล็อปป์ มาเป็นเวลาหลายปี นับตั้งแต่โอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน แต่การมาเยือนเมอร์ซีย์ไซด์ของเขากลับไม่อาจทำให้ตื่นเต้นได้มากนัก

เมื่อเขากลายเป็นผู้เล่นแอฟริกันที่มีค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์การซื้อขาย....

------ 50% แปลไม่ไหวแล้วจริงๆ สลบแป๊ป

ใครสนใจอ่านต่อไปอ่านได้ตามลิ้งค์เลยค่ะ เผื่อมีใครสนใจมาช่วยแปล

อ่านต่อได้ที่ The momentum man: Sadio Mané’s remarkable goalscoring traits

ถ้าไม่บ้าพลังจริง ๆ คงไม่แปลบทความนี้แน่ ๆ
โหดมาก ฮ่า ๆๆ เอาเป็นว่า รอที่เหลืออยู่นะครับ

ของจากกลัดบลัคมาถึงแล้ว รีวิวให้ดูด้วยน้า

น่อลแพ้ทางพวกเลี้ยงแล้วยิงอย่างกะวินนึ่ง

มาแน่ ต้นฤดูกาล

อาซา นัดเจอสิงห์

ร๊อบเบน ล่าสุด

เป็นกำลังใจให้ครับ เข้าไปดูเว็ปต้นฉบับแล้วเยอะจริงๆ



เห็นมีในเว็ปเลยเอามาแปะ เผื่อมีความเชื่อมโยง ผมนี่รออ่านต่อไม่ไหวแล้ว ผมชอบบทความแบบนี้ ถึงจะไม่ใช่แฟนหงส์ก็เถอะนะ

เยอะแล้วยังโหดด้วยนี่สิ แปลทีนึกว่าทำข้อสอบ IELTS อยู่

ใช่เลย ข้อสอบแบบนั้นแหละ อ่านๆไปนานๆละมันจะมึนๆ เบลอๆ ผมลองอ่านแปบๆ ยังแย่เลย

เป็นอีกหนึ่งคนที่ตอนหงส์ได้ไป ผมว่าเฉยๆมาก แต่.....

ตอนนี้ขอกลืนน้ำลายครับ เล่นดี มี impact กับทีมมากกกกก แบบไม่น่าเชื่อ


ปล.อาจไม่เท่าซัวเรส แต่เป็นที่พึ่งของเพื่อนๆได้ดีเลยหละ

ให้กำลังใจน่ะครับ

มาให้กำลังใจ

ไม่มีใครหยุดมาเน่ได้ นอกจาก แอฟริกัน เนชั่นคัพ

เดกผี แต่แผล่บให้ แปลมาบ่อยๆ นะครับ

ผมเสียดายมากๆตัวนี้ ทำไม๊ทำไม ทำไมถึงเลือกไปหงส์ T_T

ขอบคุณมากครับ สายอ่านบทความเหมือนกัน แต่แค่อ่านก็กินเวลาโขแล้ว

นี่ถึงกับแปลมาให้ด้วย จิตใจงดงามมาก

ยังไม่มาเลยท่าน กว่าจะได้คงต้นเดือนหน้าอะ

ปกติบทความของที่อื่นก็ไม่โหดขนาดนี้นะ อย่างพวก Outside of the Boots, Bundesliga Fanatic หรือแม้กระทั่งพวกของ ESPN เองยังใช้ภาษาตรงไปตรงมากว่านี้เยอะ แปลชิลๆ

ปกติเราแปลพวกบทสัมภาษณ์ของนักเตะในทีม(กลัดบัค) มาลงเพจบ่อยๆ พวกนี้ใช้เวลาแค่ 5-10 นาทีสบายๆ

แต่อิของ TFT นี่โหดร้ายเป็นพิเศษค่ะ นอกจากศัพท์จะโหดเยี่ยงข้อสอบ IELTS TOEFL แล้ว สำนวนเล่ายังแบบ สวิงสวายหาคำแปลยากชิบอ๋าย แต่ก็ชอบอ่าน เราว่าเขาเขียนเวอร์วังอลังการอ่านสนุกดีอะ ฮือ 55555

อย่าว่าแต่ท่านเลย ตอนแรกเราก็แบบ ซื้ออะไรแพงจัง ไม่กลัวได้ปีกมิติเดียวเหรอ
ไปๆ มาๆ มาแบกทีมเลยจ้า โอเค้ 5555555

ถือว่าพยายามมาก

ขอบคุณมากครับ ไม่ใช่แฟนหงส์ แต่แปลให้แค่นี้ก็ดีมากแล้วครับ