ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 05 Nov 2008
ตอบ: 9221
ที่อยู่: ได้ก็เพราะรักที่ได้จากเธอ
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 3:39 pm
รัศมีแข


พูดชื่อว่า ‘เจมส์ ฟอเกอร์ลุนด์’ แน่นอนว่าคงไม่มีใครรู้จัก แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น ‘รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น’ ผู้ชายนะคะที่มีน้ำเสียงสุดมั่นกับแววตาท่วงท่าที่มีสไตล์ชัดเจน มีความเป็นตัวเองที่โดดเด่น สนุกสนานในสายตาคนภายนอก แน่นอนว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจใครต่อใคร แต่จริงๆ แล้วเขาคนนี้ก็มีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่มีใครรู้เหมือนกันนะ ว่าบางมุมของเขาก็ผ่านเรื่องแย่ๆ มาก่อน กว่าจะแฮปปี้กับชีวิตได้มากขนาดนี้



รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น คงไม่ใช่ชื่อที่ตั้งไว้ตั้งแต่เกิดแน่ๆ ช่วยเล่าที่มาที่ไปหน่อยได้ไหม

รัศมีแข : ชื่อจริง ชื่อเจมส์ ฟอเกอร์ลุนด์ ค่ะ เป็นชื่อที่ตรงตามพาสปอร์ตของสวีเดนเลย แต่พอมาที่นี่จะทำพาสปอร์ตไทยด้วย ตอนไปแจ้งทำ เขาก็บอกว่าชื่อกับนามสกุลมันเป็นคำที่ไม่มีความหมายในภาษาไทย ที่นี้เลยต้องหาคำที่สะกดเป็นอังกฤษให้มีความหมาย เลยเป็น “ ฟ้าเกื้อล้น” ส่วนชื่อจริงว่า “รัศมีแข” มาจากชื่อแม่เพื่อนสนิทของเจมส์เอง ท่านเคยเป็นนางเอกเก่า เล่นภาพยนตร์เรื่องรัศมีแข เราชอบมากมันแปลกดี เลยขอใช้ชื่อนี้ แต่พอต้องไปขอวีซ่า มันไม่ได้อีก เลยต้องไปเปลี่ยนชื่อ ตอนนี้ในพาสปอร์ตเลยเป็นชื่อ แจ่ม ฟ้าเกื้อล้น (หัวเราะ) กรี๊ดมาก เหมือนถูกกระชากลงจากบัลลังก์ แต่ตอนเข้าวงการคุยกันไว้แล้วว่าใช้ชื่อรัศมีแข ก็เลยเป็นตามนี้ค่ะ

ชีวิตในวัยเด็กของรัศมีแขเป็นยังไงบ้าง

รัศมีแข : เจมส์เป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันค่ะ เป็นเด็กที่โดนเพื่อนล้อเยอะมาก ทั้งเรื่องสีผิว และเรื่องเป็นตุ้ด ตอนนั้นแม่ไว้ผมอัลโฟล่ด้วย ถามว่าข้าวนอกนาดังขนาดไหนก็ต้องหลบไปเลยค่ะ ! ต่อด้วยขวานฟ้าหน้าดำ ก็หลบไปอีกค่ะ! คือโดนเยอะมาก ใจเราก็คิดนะว่า เฮ้ยมันไม่ใช่นะ เรื่องเป็นตุ๊ดก็โดนเหมือนกัน แต่เจมส์ต้องขอบคุณคุณแม่มากๆ ที่เข้าใจ พอท่านรู้ว่าเราเป็นแบบนี้ เราอยากใส่กระโปรงไปเรียน ท่านก็ให้ใส่ ลูกจะใส่อะไรก็ให้ใส่ จะเป็นอะไรก็เป็น มันทำให้เรากลายเป็นตุ้ดที่มีความมั่นใจในตัวเองมาก กรี๊ดกร๊าดตั้งแต่อยู่เมืองไทยเลย และพอไปอยู่เมืองนอกก็เจออีกนะล้อว่าเป็นตุ้ด แต่ตัวเองโชคดีมาก ที่ไม่สนใจตุ๊ดหรอ เออ ตุ๊ดก็ตุ๊ด! อยู่กับแก๊งค์ชะนีของเรา (เสียงลั้ลลามากๆ)



แสดงว่ามีภูมิคุ้มกันที่ดีมากตั้งแต่เด็กๆ แล้วใช่ไหม

รัศมีแข : ใช่ค่ะ อย่างที่บอกว่าตั้งแต่อยู่เมืองไทยแล้ว แต่ตอนนี้เวลาเราเห็นสัมภาษณ์พี่โอปอร์ พี่เมญ่า พี่กาละแมร์ และพอมาทำรายการกับแม่มอร์อีก (มอริส เค) เขาก็บอกเหมือนกันว่าโดนเรื่องนี้หนักมาก เราก็เฮ้ยไม่เข้าใจเลย ทำไมสิ่งพวกนี้ถึงเกิดขึ้น กับการที่เรามีสีผิวที่เข้มกว่าคนอื่น สำหรับเจมส์ ไม่รู้ว่าพูดแรงไปไหม ถ้าจะบอกว่าลองไปดูตัวอย่างคนสมัยก่อนเลยนะคะ คนในรั้วในวังเขาก็ผิวเข้มกันทั้งนั้นแหละค่ะ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแดดแรงนะคะ เมื่อก่อนยอมรับแลยว่าโกรธและเกลียดคนไทยที่ว่าเราแบบนี้มาก ทำไมมาเหยียดสีผิวกับเราแบบนี้ เพราะเรารู้สึกอยู่ตลอดว่าเราเป็นคนไทย แต่หลังๆ เราก็ทำความเข้าใจกับตัวเองใหม่ ว่าเออเราเป็นคนไทย แต่ร่างกายเราภายนอกนี่สูง185 ซม. และเป็นคนผิวเข้ม ใครที่มองมาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นคนไทย พอเราเข้าใจตรงนั้นก็ยอมรับกับมันให้ได้ และเข้าใจว่าบางคนเขาอาจจะไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วบนโลกใบนี้ยังมีคนอีกหลายเชื้อชาติ หลายภาษา วัฒนธรรม และสีผิว ซึ่งเขาก็คงไม่เคยได้ไปเห็นความแตกต่างในจุดนั้นจากบ้านเมืองที่อื่นว่ามันมีมากกว่านี้

ทราบมาว่าก่อนกลับมาเมืองไทยคราวนี้ เจมส์เองไปใช้ชีวิตอยู่สวีเดนมานานแล้วด้วย

รัศมีแข : ใช่ค่ะ พออยู่เมืองไทยถึง10 ขวบย้ายไปสตอกโฮล์มตามคุณแม่ รวมๆแล้วประมาณ 19 ปีที่ใช้ชีวิตที่นั่น ช่วงนั้นก็มีแต่เรื่องเรียนกับเล่นกีฬา เจมส์เป็นเด็กกิจกรรมเก่ง ส่วนวิชาการนี่ตกหมด แต่เราไปนั่งเรียนเพื่อให้สอบได้นะ แต่พอกับเรื่องกิจกรรมเต็มที่มาก โดยเฉพาะพละ กีฬาทุกชนิดคะแนนเต็มตลอด เป็นคนที่บ้าเล่นกีฬามาก ตอนอยู่ที่นั่นเริ่มเล่นฟุตบอลก่อน ต่อด้วยแฮนด์บอล และมาเล่นวอลเล่ย์บอล

ไม่ห่วงสวยเลยหรอ

รัศมีแข : (หัวเราะ) ตอนนั้นรู้อย่างเดียวว่ามันสนุก เล่นถึงขั้นยอมเข้าทีมกับผู้ชายแท้ๆ เลยนะคะ



มีเหตุการณ์สนุกๆ บ้างไหม ช่วงที่เล่นกีฬาอยู่ที่สวีเดน

รัศมีแข : จริงๆ เป็นเรื่องที่เรานึกถึงแล้วขำมากกว่า มีครั้งนึงก็เล่นกีฬาไปเข้าทีมกับพวกผู้ชายนี่แหละ เสร็จแล้วเข้าไปอาบน้ำ เราก็นั่งรอให้เขาอาบน้ำกันให้เสร็จ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าเราเป็นตุ๊ด แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ (หัวเราะ) เราอายมากที่จะแก้ผ้าอาบน้ำให้ใครดู แต่เราดูพวกเขานะ (หัวเราะ)

ดูแล้วชีวิตที่นั่นก็แฮปปี้ดี ทำไมถึงกลับมาเมืองไทย

รัศมีแข : ปกติก็จะกลับมาเที่ยวเมืองไทยบ้างอยู่แล้ค่ะ พออายุประมาณ 17-18 เราก็รู้สึกว่าสนใจงานในวงการบันเทิง อยากลองทำ เลยไปหาน้าโอ (ศิระ กุลเศรษฐศิริ) ที่นี่ น้าโอก็พูดให้เราคิดสะกิดเราคำนึงว่า หนูกลับไปค้นหาตัวเองให้ดีๆ ก่อนว่าเราต้องการอะไร เพราะช่วงนั้นความคิดเราบางอย่างมันก็ขัดแย้งกับตัวเองมากเหมือนกัน

คำว่าค้นหาตัวเองที่ว่าหมายถึงเรื่องอะไรบ้าง

รัศมีแข : คือเราคิดเสมอว่าเราเป็นคนไทยนะ แต่ภายนอกมันไม่ใช่ และมันเคยมีเสียงจากคนอื่นพูดกับเราว่า ดำจัง ตัวใหญ่จัง ตอนเด็กๆ เราเลยพยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองจนไม่เป็นตัวเอง พอน้าโอพูดกับเราแบบนั้น ก็อยู่ทบทวนตัวเองอยู่สองเดือนหลังจากที่กลับไปสวีเดนแล้ว สิ่งที่เราคิดได้ทันทีก็คือ เราไม่สนอะไรแล้ว เราขอเป็นตัวเอง คิดเลยว่าจะเป็นในแบบที่ตัวเราเป็น คือตัดเรื่องพวกนี้ทิ้งไปให้หมดเลยค่ะ



แล้วงานในวงการบันเทิงเข้ามาเริ่มทำได้ยังไง

รัศมีแข : จริงๆ ในใจเราอยากมาทำงานด้านนี้อยู่ก่อนแล้ว แต่มีวันนึงบังเอิญมากที่พี่แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ กับพี่หนุ่ม คงกระพันเขามาที่สตอกโฮล์ม ตัวเจมส์เองไปเป็นไกด์ให้พี่เขา พอพี่แท่งเห็นก็พูดจุดประกายกับเราว่าคาแรกเตอร์แบบนี้ต้องมาเมืองไทยนะ เอาไลน์พี่ไป ตอนนั้นก็ไปนั่งคิดสองเดือนเลยนะคะ แล้วตัดสินใจมาที่นี่เลย

แสดงว่ารู้อยู่แล้วว่ากลับมาที่นี่จะมีงานในวงการให้ทำเลย

รัศมีแข : เรื่องมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นค่ะ คือเข้าใจว่าพี่แท่งเองเวลาอยู่เมืองนอกแกก็มีเวลา แต่สำหรับเมืองไทยมันไม่ใช่ ตอนนั้นก็พยายามหาทางเองด้วยเหมือนกัน จำได้ว่าเห็นประกาศรับสมัครประกวดเคพีเอ็น วันสุดท้ายแล้วก็รีบไปเลยค่ะ เข้ารอบถึง 30 คนสุดท้าย แล้วตกรอบ เราก็แบบทำไงวะ เอาวะ! เขียนเรซูเม่เดินเข้ามาในแกรมมี่ ไม่รู้ล่ะต้องมา บริษัทใหญ่ ต้องมีอะไรสักอย่าง เสร็จปุ๊ปรีเซพชั่นก็ถาม มาทำอะไรคะ ก็เลยตอบไปว่า อยากเป็นดาราค่ะ ! (น้ำเสียงจริงจัง และแววตามั่นใจมาก) เขาก็มองหน้าแล้วเขียนที่เรซูเม่ให้ว่าต้องไปที่ชั้นไหนบ้าง เจมส์เองก็โทรหาพี่แท่งว่ามาหางานที่นี่ พี่เขาก็แนะนำว่าให้ไปหาพี่คนนึงในเอไทม์ พอเจอหน้าก็สวัสดีพี่เขา

“สวัสดีค่ะพี่ (ใส่ขาสั้นมาด้วยวันนั้น) ชื่อเจมส์ค่ะ ชอบงานในวงการค่ะ และก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเองให้เขาฟัง ตอนนั้นก็ยืนคุยกับพี่เขา พี่ฉอดก็ยืนอยู่เลยคิดว่าพี่ฉอดก็น่าจะเห็นเรานะ (ยิ้ม) ก็เลยได้มาทำงานที่นี่”



ไม่เสียดายชีวิตที่สวีเดนหรอ

รัศมีแข : อืม… ก็ไม่นะคะ เพราะเราตั้งใจแล้วว่ากลับมาที่นี่เพราะอะไร เป้าหมายของเราชัดเจนมากตั้งแต่แรก

รู้สึกยังไงกับงานในวงการบันเทิง สนุกอย่างที่คิดหรือเปล่า

รัศมีแข : คือเรารู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่กระเทยที่มีความอดทนสูง เป็นกระเทยเหวี่ยงๆ แรงๆ คนนึง ตอนแรกก็เห็นแต่เบื้องหน้าค่ะ ไม่รู้นี่คะว่าเวลาเข้ากองก็ต้องมานั่งแต่งหน้า รอไฟ รอแสง ร้อนแค่ไหนก็ต้องถ่าย ก็ช๊อกเลย ตั้งแต่แปดโมงถึงตีสี่ ช่วงที่ยังไม่เสร็จ นั่งถามตัวเองเลยว่า ไหวไหม เหยียบเข้ามาแล้วนะ นี่แหละคือสิ่งที่เราอยากทำ สนุกกับมันไหม ก็นั่งคิดอยู่คนเดียว จนคิดว่าเอาวะ… ไหว สุดท้ายก็ทำได้แล้ว ต้องขอบคุณกับสิ่งที่เจอ ทำให้รู้ว่ามันเป็นยังไงสอนให้เราคิดว่าผ่านตรงนี้ไปเราจะสบายมาก



จริงๆ รัศมีแขเป็นคุยสนุกแบบนี้ตลอดหรือเปล่า

รัศมีแข : แต่ก่อนที่ยังคิดไม่ได้ก็มีซึมๆ คิดเยอะเหมือนกัน แต่ก็พยายามเข้าใจกับปัญหาให้เราคิดมีสติมากขึ้น ไม่ให้เข้าข้างตัวเองและอยู่จมกับมัน เรื่องนี้รู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่คนเก่งมาก อาจใช้เวลาวันสองวัน จากนั้นก็จะโยนมันทิ้งไปเลย

ชีวิตที่ดูลั้ลลาแบบนี้เคยมีเรื่องอะไรที่ทำให้ไม่สบายด้วยหรอ

รัศมีแข : มีเรื่องนึงที่เรารู้สึกกับมันมากก็คือเรื่องหลาน คือเรารู้สึกตั้งแต่ที่เขาคลอดมาว่า หลานเป็นดาวน์ซินโดรม ก็นั่งคิดนะว่าทำไงดี คือร้องห่มร้องไห้ เพราะกลัวหลานตาย จนกระทั่งเราก็หาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ให้เข้าใจ และโทรบอกพี่สาวว่าเดี๋ยวเราจะช่วยกันเลี้ยง และบอกกับตัวเองเลยว่าเราจะไม่แบกโลกแล้ว ปัญหาจะเข้ามาแค่ไหนก็จะไม่แบกโลกอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาปุ๊ปก็จะแก้และผ่านมันไปให้ได้ คือ ช่วงนั้นหันไปทางไหนเห็นเด็กเป็นโรคนี้ร้องไห้ตลอด แต่ตอนนี้ใครจะมองว่าหลานเป็นไงก็ไม่สนแล้ว เราจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดพอ



แล้วความรักล่ะมีมาให้ปวดหัวบ้างหรือเปล่า

รัศมีแข : เจมส์อาจไม่ได้ผ่านอะไรมามาก เพราะมีแฟนคนแรก และคนเดียวที่ตอนนี้คบอยู่ ช่วงแรกทรมานหน่อย เพราะต้องปรับกันเยอะ และเขาก็เจ้าชู้นะ ก็คิดเลยว่าเราจะใช้ชีวิตยังไงต่อดี เพราะตอนนั้นเราเลือกที่จะตาต่อตาฟันต่อฟัน วีนเหวี่ยงทุกอย่าง จะให้เราปิดหูปิดตาไปเลยก็ไม่สบายใจอยู่ดี จนสุดท้ายมาบอกตัวเองว่าเราต้องรักอย่างมีสติ รู้นะว่าทำอะไร แต่ไม่สนใจ ไม่เอาไม่ยุ่งดีกว่าเรื่องบ้าๆ บอๆ ใช้เวลาให้มีค่าดีกว่า

ตอนนี้อยู่คนละประเทศด้วยมีระแวงไหม

รัศมีแข : ลึกๆ ก็คิดนะว่าจะทำไง แต่มองว่าเป้าหมายของเราคืองาน และเราสัมผัสได้ว่าตัวหนังสือที่พิมพ์ส่งหากันมันยังเหมือนเดิม แต่วันนึงถ้าสงสัยก็ไม่คิดดีกว่า คิดแล้วไม่สบายใจคิดไปก็เท่านั้น เน้นไปที่งานมากกว่า เขาเองก็รู้ว่าเรามาเมืองไทยเพราะอะไร



มองอนาคตงานในวงการบันเทิงไว้ยังไงบ้าง

รัศมีแข : คือเจมส์รู้ว่าลุคเราเป็นเพื่อนนางเอก หนังไทยห่มสไบก็คงไม่รอด ไม่ไหว เลยต้องมีความสามารถด้านการเต้น ร้อง โชว์ ด้วยความที่เป็นตัวเอง เราก็มีตรงนี้อยู่พอได้ เป็นพิธีกรก็พอได้ แต่เราก็ต้องพัฒนาพยายามหาจุดลงตัวในวงการบันเทิงของตัวเองให้ได้

“เราอยากพรีเซ้นในความดำของตัวเอง จะดำให้มากกว่านี้อีกค่ะ เพราะโครงสร้างของเจมส์เป็นบอดี้ที่หายาก เจมส์ไม่พลาดที่จะทำแน่นอน ตอนนี้เลยต้องควบคุมน้ำหนักดูแลตัวเองให้ดี”

ทุกวันนี้ตื่นเช้าปุ๊ปก็ว่ายน้ำให้เยอะที่สุด อาหารเช้าก็กินแป้งนิดหน่อย ไข่ต้มสองฟอง พักเที่ยงก็กินปลา กับสลัด เย็นก็ซุป มันก็ได้ผลทำให้ร่างกายเราเฟิร์ม แต่ต้องใช้ความอดทนมากค่ะ



ตอนนี้เริ่มมีแฟนคลับบ้างแล้วหรือยัง

รัศมีแข : เรียกว่ามีคนติดตามเรามากขึ้นดีกว่าค่ะ แต่ก่อนยอดไอจีคนตามแค่สามร้อย ตอนนี้ขึ้นมาแบบ โอ้วพระเจ้า มันทำให้เราแบบ ฉันจะต้องถ่ายรูปลงไอจี โหลดแอพฯ ทำนั่นนี่ให้อัพเดทน่าตาม เพราะคนที่มาตามคือเขาชอบเรา

เห็นว่าพี่หนูแหม่มก็ปลื้มด้วย

รัศมีแข : (หัวเราะเสียงสูง) ใช่ๆ อันนี้เราดีใจมาก คือตอนนั้นไปอัดรายการแฉแต่เช้า เราเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ ปล่อยเต็มมาก พี่มดดำก็บอกว่าพี่นิด อรพรรณ กับพี่แหม่มเขียนมาถามใหญ่เลยว่าเป็นใคร และบังเอิญมากเราไปงานเพื่อน เจอพี่หนูแหม่ม พี่เขาก็ทัก ก็รู้สึกดีมากค่ะ



เข้าวงการมาไม่นานแต่คนก็เริ่มรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าเป็นเพราะอะไร

รัศมีแข : อืม ไม่รู้สิ เทรนด์ผิวสีมาแรงมั้งคะนะ (หัวเราะ) และเราแปลกด้วย มีความเป็นตัวของตัวเองมาก มันเลยทำให้คนสงสัยว่าเอ๊ะนี่ใคร ฝาแฝดแม่มอร์ (มอริส เค)หรือเปล่า

“คือจริงๆ ถ้าเราภูมิใจในตัวเองก่อน ไม่ว่าจะเป็นสีไหน สีที่คุณเกิดมาออริจินัล ให้ยอมรับกับมันเถอะ เพราะมันเป็นธรรมชาติและปลอดภัยกับเราที่สุด บอกเลยว่าฉันชอบผิวของฉันที่เป็นแบบนี้ ที่คิดไว้ยังอยากจะไปตากแดดให้ทำกว่านี้ด้วยค่ะ คุณไปดูลูปิต้า เอนยองโก ที่ได้ออสการ์ เขาเป็นแรงบันดาลใจให้เจมส์มากเลยนะ เพราะแต่ก่อนเราไม่พอใจตัวเอง ครีมหน้าวอกเราก็เคยใช้มาแล้ว แต่ตอนนี้แล้วแต่เลยค่ะ ดำก็ดำ เราอาจจะเกิดมาเพื่อสู้กับเทรนด์ผิวขาวก็ได้ ใครจะไม่รู้ล่ะคะ”

ท้ายสุดแล้วอยากฝากอะไรไหมถึงคนที่เขาเคยโดนแบบเรา

รัศมีแข : คือเจมส์อยากให้มองตัวเราก่อนว่ามีความสามารถอะไร เรื่องภายนอกอย่าเพิ่งไปแคร์มาก อย่างเจมส์เองสมัยที่เรียนอยู่สวีเดนเราโฟกัสที่เรื่องเรียนและกีฬา งานฝีมือเป็นหลักเลย ไม่สนใจใครจะว่าตุ้ดก็ตุ้ด พอเรามีจุดเด่นที่เด็กคนอื่นไม่มี คนที่เห็นเขาก็ภูมิใจกับเรา และตรงนี้มันทำให้ตัวเจมส์แฮปปี้ด้วย เรื่องที่ใครมาล้อก็ไม่ต้องแคร์ เราต้องเข้าใจว่าคนพวกนั้นว่าเขาไม่คิดจริงๆ เจมส์ว่าผู้ใหญ่สำคัญนะว่าต้องสอนให้ลูกหลานมีความคิดที่ทันต่อโลกหน่อย เพราะเด็กด้วยกันอาจจะไม่ตั้งใจที่จะล้อ แต่เด็กคนที่โดนล้อมันก็ไม่ใช่ที่เขาจะต้องมารับสภาพแบบนี้ เขาอาจจะอดทนต่อคำพูดจนเติบโตแล้วค้นหาตัวเองเจอ มีชีวิตที่ดีได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะ อีกประเภทเขาอาจจะฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายคนที่ล้อก็ได้ คือมันล้อไม่ได้นะเรื่องนี้

“ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คนที่ชอบพูดจาเหยียดสีผิวคนอื่นให้เลิกซะ เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการที่ต่างชาติมองผู้หญิงไทยเวลาไปเมืองนอกเลย พูดแล้วของขึ้นเลย (หัวเราะ) คือจะบอกเลยว่าเราเองก็รู้สึกจี๊ดแบบนั้นเหมือนกันแหละ”



cr.http://www.praew.com/14977/people/russameekae/

--------------------------------------------------------------------------------------------

ลองอ่านดู ประวัติชีวิตเขาน่าสนใจมาก

ตัวจริงตัวบะเร่อ

1
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 5877
ที่อยู่: ตรงนี้ได้ก็เพราะเธอ.
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 3:40 pm
[RE: รัศมีแข]
มีภาพชุดว่ายน้ำไหมครับคนนี้ PMT
0
0
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 1587
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 3:42 pm
[RE: รัศมีแข]
YOU'RE NEXT พิมพ์ว่า:
มีภาพชุดว่ายน้ำไหมครับคนนี้ PMT  

1
0

////////////////
เข้าร่วม: 24 Apr 2010
ตอบ: 15345
ที่อยู่: เว็บบิน
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 3:42 pm
[RE: รัศมีแข]
ตลกดีคนนี้
0
0


IZONE วาไรตี้ ไทยแลนด์ : www.facebook.com/IZONEVARIETYTH
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 3895
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 3:50 pm
[RE: รัศมีแข]
ชอบๆ
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 13296
ที่อยู่: บ้านเฮียดรอก
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 4:03 pm
รัศมีแข
เห็นครั้งแรกช่องgmm25 เล่าข่าวบันเทิง ฮอลีวู๊ดกับมอริสเค ยังฮาอยู่เลยโคตรคล้ายกัน 555
0
0
เข้าร่วม: 13 Mar 2008
ตอบ: 4837
ที่อยู่: League 1 แล้วครัชชช
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 4:18 pm
[RE: รัศมีแข]
YOU'RE NEXT พิมพ์ว่า:
มีภาพชุดว่ายน้ำไหมครับคนนี้ PMT  


หากระทู้เซเรน่าไปดูแทนก่อน น่าจะใกล้เคียงกันอยู่
0
0
"identity of a football club is implicitly bound up in its community". The club regards itself as Wimbledon F.C.'s spiritual continuation to this day, holding that the community maintaining and backing AFC Wimbledon is the same one which originally formed Wimbledon Old Centrals (later Wimbledon F.C.) in 1889, "and kept Wimbledon Football Club alive until May 2002"
เข้าร่วม: 12 Feb 2009
ตอบ: 6805
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 4:36 pm
[RE: รัศมีแข]
เป็นกระเทยที่ผมมั่นใจว่าของเค้าใหญ่กว่าของพวกเราเกือบทุกคน
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 5571
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 4:45 pm
[RE: รัศมีแข]
แรกๆไม่ชอบนะ ดูแรงเกิ๊น


หลังๆนี่ออกรายการตลกบ่อย ดูแล้วฮาดี
0
0
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 2255
ที่อยู่: เชียงใหม่ ไทยแลนด์
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 4:52 pm
[RE: รัศมีแข]
เห็นข่าวที่แกอุ้มคนที่เป็นลมที่สนามหลวง แล้วนับถือใจแกเลย แมนกว่าผู้ชายหลายคนอี๊ก!!!
0
0


เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 1556
ที่อยู่: THAILAND
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 4:53 pm
[RE: รัศมีแข]
เขาบอกเคยเตะบอล ผมว่าถ้าเล่นจริงๆจังๆนี้ หุ่นได้เลยนะ โครตหนา
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 1957
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 4:54 pm
[RE: รัศมีแข]
คนนี้ยิงหนักมากครับ
ใส่เบอร์ 50 บุรีรัมย์
0
0
เข้าร่วม: 05 Aug 2010
ตอบ: 9926
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Feb 20, 2017 5:20 pm
[RE: รัศมีแข]
เห็นแล้วคิดถึงมอริสเคเลย ไอดอลผมสมัยเด็ก ตัวดำๆ เหมือนกัน สมัยนั้นประกวดโดมอนแมนด้วยมั้ง เท่ห์มาก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นสาว
0
0