#### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน soccersuck.com####

08 February 2017 11:17 AM by jedi

ส่องกล้องบอลไทยลีก 2017

ฟุตบอลลีกไทยฤดูกาลใหม่เตรียมเปิดสนามดวลแข้งตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.นี้แล้ว หมดเวลาการรอคอยของแฟนบอลไทยที่ไม่ได้เชียร์ทีมรักของตัวเองมากว่า 4 เดือนเต็ม นับจากสุดสัปดาห์นี้ไปความมันส์กำลังจะบังเกิด

ไฮไลท์ของลีกไทยที่มีคนจับตามองที่สุดหนีไม่พ้นลีกสูงสุดอย่าง “โตโยต้า ไทยลีก 2017” ที่แต่ละทีมมีการเตรียมทีมกันอย่างเต็มที่ หลายๆทีมทุ่มงบประมาณกันแบบอู้ฟู้ แต่บางทีมเริ่มรับสภาพทำทีมตามสรรพกำลังที่มี

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ขอฟันธงล่วงหน้าเลยว่า “สงครามลูกหนัง” ในฤดูกาล 2017 จะมีดีกรีร้อนระอุมากกว่าเดิมแน่นอน ทว่าสุดท้ายแล้วใครจะ “สมหวัง” หรือ “ผิดหวัง” คงต้องตามลุ้นกันยาวๆ

ช่วงเวลาก่อนเปิดฤดูกาลแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติครับที่จะมีการวิพากษ์วิจารณ์วิเคราะห์ฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง หากเป็นในต่างประเทศบรรดา “พูล” หรือร้านพนันถูกกฎหมายจะออกราคามาล่อใจให้แฟนๆทำนายล่วงหน้ากันเลยทีเดียว

ที่เมืองไทยไม่มี “พูล” แต่มี “กูรู” หลายสำนักที่ออกมาฟันธงกันล่วงหน้า ความเห็นมีมากมายถือเป็นสีสันของเกมฟุตบอลอยู่แล้ว วันนี้เลยขอส่องกล้องบอลไทยลีกฤดูกาลใหม่ในมุมมองของตัวเองบ้าง ไม่งั้นเดี่ยวจะตก “เทรนด์”

ว่ากันที่ทีมในข่าย “ลุ้นแชมป์” กันก่อนเลย ทีมที่ถือเป็น “เต็งหนึ่ง” คงต้องยกให้ “แชมป์เก่า” อย่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อยู่ดี เพราะศักยภาพของทีมยังอัดแน่นไปด้วยผู้เล่นระดับคุณภาพทั้งไทยและต่างประเทศ

“กิเลนผยอง” มีนักเตะทีมชาติไทยร่วมทีมอยู่มากที่สุด หากไม่ยกให้เป็น “เต็งจ๋า” คงจะทำร้ายจิตใจกันเกินไป อีกทั้งแกนของทีมยังคงเดิมจากฤดกาลที่แล้วเกือบทั้งหมด แต่จะมีที่ปวดหัวหน่อยคือการเปลี่ยนแปลงตรงนักเตะกำลังสำคัญ

แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก แต่ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน ต้องหาตัวแทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ย้ายออกไป รวมถึงกำลังเสริมอย่าง ชัยวัฒน์ บุราณ ที่ตัวโค้ชเสียดายมากที่ย้ายทีมไปเพราะนักเตะเข้าใจระบบของทีมอย่างดีแล้วแท้ๆ

รวมถึงในเลกสอง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องย้ายไปเล่นใน “เจลีก” ทำให้ศักยภาพของทีมต้องลดลงไปแน่นอน ตรงนี้เป็นสิ่งที่ “โค้ชแบน” ต้องวางแผนล่วงหน้าไม่งั้นโอกาสป้องกันแชมป์จะยากยิ่งกว่าเดิม

ส่วนทีมที่จะมาล่าแชมป์กับ “กิิเลนผยอง” แบบน่าจับตามองมากที่สุดก็ไม่พ้น “รองแชมป์เก่า” อย่าง “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่แม้ปีนี้จะเสียฟอร์มตกรอบ “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017” ไปแล้ว แต่ขุมกำลังพลยังถือว่าน่าเกรงขาม

ทีมของ “มาโน” แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีมเลย การได้ ปกเกล้า อนันต์ ดีกรีทีมชาติไทยเข้ามาเสริมน่าจะทำให้แผนแดนกลางแน่นเข้าไปอีก ส่วนตำแหน่งอื่นๆเปลี่ยนไม่มากทุกคนเข้าใจระบบและเล่นกันมาอย่างคุ้นเคย

ฤดูกาลที่แล้วทั้ง “กิเลนผยอง” และ “แข้งเทพ” สู่้กันแบบสูสีมาตลอด เรียกว่าแข่งกันทำสถิติไม่แพ้และชนะติดต่อกันแบบยาวนานที่สุดเลยด้วยซ้ำ ดูแล้วปีนี้ทั้ง 2 ทีมก็น่าจะสู้กันแบบทำแต้มหายใจรดต้นคอกันอีกแน่นอน

นอกจาก “แชมป์เก่า” และ “รองแชมป์เก่า” แล้วทีมที่อยู่ในข่ายลุ้นแชมป์รายอื่นหากไม่มองไปที่ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือว่าโหดร้ายเกินไป การที่ผลงานออกทะเลในปีที่แล้วทำให้ทีมทำการบ้านมาใหม่อย่างดี

แข้ง “เซราะกราว” เปลี่ยนแปลงทีมค่อนข้างมาก แรกๆน่าเป็นห่วงที่แนวรับหลัง อันเดรส ตูเญส ย้ายออกไป แต่ล่าสุดที่ได้ โซลวี ออตเตลเซ่น ปราการหลังดีกรีทีมชาติไอซ์แลนด์เข้ามาทดแทนน่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ไปได้

ทีเด็ดของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือเกมรุกที่จัดหนักมาเต็ม ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ดาวยิงตัวเก่งจะได้คู่หูใหม่ทั้ง โรเจอร์ลิโอ คูตินโญ่ ดีกรีอดีตนักเตะต่างชาติยอดเยี่ยม “เอเอฟซี” และ “จาจ้า” แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ่ กองหน้าร่างยักษ์

ทีมที่มีโอกาสสอดแทรกลุ้นแชมป์อีกทีมต้องมองไปที่ “บีจี” บางกอกกล๊าส ที่ฤดูกาลใหม่นี้มาแบบเงียบๆแต่แว่วว่าค่อนข้างลงตัว นักเตะต่างชาติที่มาใหม่อย่าง ยาสมานี คัมโปส ดีกรีทีมชาติโบลีเวียถูกยกย่องว่าเป็น “ของแท้” ที่น่าจับตามอง

สรุปว่าทีมในกลุ่มล่าแชมป์ขอยกให้ 4 ทีมนี้เป็นหลักคือ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แบงค็อก ยูไนเต็ด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ บางกอกกล๊าส หากผิดจากนี้ต้องถือว่าเหนือความคาดหมายไม่น้อย แต่ดูแล้วน่าจะยาก

ทีมที่อาจจะแหกโผมาลุ้นแชมป์หรือเป็น “ม้ามืด” มีอยู่สัก 1-2 ทีม ทีมแรกคือ “กว่างโซ้ง” เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เปลี่ยนแปลงแบบยกเซตและน่าจับตามองมากๆ อเลกซานเดอร์ กาม่า จะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งหลังสร้างชื่อกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาแล้ว

เชียงราย ยูไนเต็ด ดึงตัวผู้เล่นไปเพียบทั้งไทยและต่างประเทศ ว่ากันว่านักเตะ “แซมบ้า” ที่มาใหม่อยู่ในระดับซีรีส์เอของบราซิลดังนั้นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่ทีมจะมีปัญหาที่การประกอบร่างในช่วงแรก หากผ่าน 6-7 นัดไปแล้วน่าจับตาสุดๆ

อีกทีมที่น่าสนใจคือ “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล ที่ไม่หวือหวาแต่ไม่ธรรมดา ทีมเปลี่ยนแปลงไม่มากและต่างชาติตัวใหม่ค่อนข้างน่าสนใจ สำคัญที่สุดคือเกมที่ “มิตรผล สเตเดี้ยม” ค่อนข้างดีมากๆ หากยืนระยะได้ดีกว่าทุกปีก็มีสิทธิ์ได้ซ่าแบบสุดติ่ง

จากกลุ่มลุ้นบนหัวตารางขยับลงต่ำไปดูทีมในกลุ่มที่ถูกคาดหมายให้ “หนีตกชั้น” กันบ้าง ทีมในกลุ่มนี้วิพากษ์ลำบากจริงๆเพราะใครถูกจับมาอยู่กลุ่มนี้เป็นต้องมี “ดราม่า” ทั้งที่หากว่ากันตามเนื้อผ้าจะพิจารณาได้ไม่ยากเท่าไรนะ

เต็ง 1 ในกลุ่มนี้ทุกเสียงฟันธงไปที่ “เดอะพาวเวอร์” ซูเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ ที่รอดตกชั้นจากฤดูกาลแล้วแบบไม่น่าเชื่อ แต่ทีมมีปัญหาสารพัดเพิ่ง ตั้งหลักได้ไม่นาน ตัวผู้เล่นเป็นรองหลายขุม ปีนี้ “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล เหนื่อยแน่

ทีมน้องใหม่ที่ขึ้นชั้นมาเป็นลีกสุงสุดเป็นครั้งแรกอย่าง “เทพอินทรี” อุบล ยูเอ็มที หนีไม่ออกจากกลุ่มนี้เช่นกัน แม้จะมี “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าทีมชาติไทยเป็นตัวชูโรง แต่ภาพรวมถือว่าศักยภาพค่อนข้างน่าเป็นห่วง

ส่วนทีมอื่นๆคงต้องลุ้นกันตามสภาพ ไล่มาตั้งแต่ทีมที่ขึ้นชั้นมาอย่างแชมป์ดิวิชั่น 1 ฤดูกาลก่อน “พญาอินทรี” ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง ทีมขอ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย มาแบบเงียบๆแต่ผู้สันทัดกรณีมองว่าน่าจะรอด

ขณะที่ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ ที่กลับมาสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งก็ทุ่มเงินไปเยอะ ตัวผู้เล่นดีๆมีมากไม่น่าจะต้องไปลุ้นหนีตกชั้นเช่นกัน แต่เสียดายตรงที่ อัสตรูปาน ปาดรอน ที่เคยเล่นกับ ลาสพัลมาส เจ็บยาวเท่านั้น ไม่งั้นว่ากันว่าน่าจับตามาาก

“ตะหานน้ำ” ราชนาวี ได้ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุ่ม ไปคุมทีมนี่ก็รับประกันคุณภาพได้เลย แถมตัวผู้เล่นที่ดึงไปไม่ธรรมดาด้วย ปีนี้แฟนๆอาจไม่ต้องลุ้นเสียวๆ

แต่ที่ถูกมองว่ามีเสียวกลับกลายเป็น “กูปรี” ศรีสะเกษ ของ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน ที่เปลี่ยนแปลงทีมเยอะ ตรงนี้เสียงแตกพอสมควรเพราะยังเชื่อศักยภาพของ “โค้ชโอ่ง” อยู่ แต่หลายคนมองว่าตัวผู้เล่นยังไม่ถึง ดังนั้นคงต้องลุ้นกันที่เวลาแข่งจริง

ทีมที่เคยซ่าในปีที่แล้วอย่าง “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย นี่ไม่แน่ไม่นอนเหมือนกัน หลายคนยังไม่เชื่อมือ สมชาย มากมูล แต่ถ้าดูจากเกมในบ้านที่แฟนบอลแน่นๆแล้วอาจจะเป็นพลังให้ทีมอยู่รอดปลอดภัยได้

ที่เงียบๆแล้วอาจจะต้องมาลุ้นเหนื่อยอีกทีมคือ “สวาดแเคท” นครราชสีมา มาสด้า ที่ปีนี้เสียตัวดีๆไปหลายราย แถมยังมีข่าววุ่นๆภายในทีมพอสมควร หากออกสตาร์ทไม่ดีอาจจะมีงานเข้าในบั้นปลาย

สำหรับทีมอื่นๆที่เหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็น ชลบุรี สุพรรณบุรี พัทยา ยูไนเต็ด บีอีซี เทโรศาสน (ชื่ออย่างเป็นทางการที่ยังไม่ได้รับการอนุญาตให้เปลี่ยน) น่าจะอยู่ระดับกลางๆตารางไม่ต้องไปลุ้นอะไรมากมายเหมือนทีมอื่นๆนัก

แต่ทั้งหมดทั้งมวดเป็นเพียงการวิเคราะห์คาดเดาเท่านั้นครับ บทสรุปสุดท้ายแบบจริงๆจะเป็นอย่างไรรอลุ้นและตามเชียร์กันในฤดูกาล 2017 ที่กำลังจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.นี้

ดูฟุตบอลให้เป็นกีฬาแล้วจะสนุก ตัด “อคติ” และท่องจำสปีริต “รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย” ให้ขึ้นใจ “ชนะได้ ต้องแพ้เป็น” ด้วยนะ แล้วมาสนุกกับฟุตบอลไทยฤดูกาลใหม่กันครับ

“บับเบิ้ล”

googoe247, comscmanu, zerossi, Son Of Darkness

People's Club

เข้าร่วม: 05 May 2014

ตอบ: 8033

ที่อยู่: Goodison Park

โพสเมื่อ: Wed Feb 08, 2017 11:32 am

[RE: ส่องกล้องบอลไทยลีก 2017]

ผมกลับมองว่า สวาทแคท เล่นบอลดีกว่าที่ผ่านมาอีกนะ

เน้นการผ่านบอลช่วงหลังนี้ อีกอย่างความฟิตที่เพิ่มขึ้นไปอีก น่าจะได้ลุ้นสนุกขึ้นเยอะเลย

Groupop

googoe247

เข้าร่วม: 20 May 2011

ตอบ: 4572

ที่อยู่: บนอากาศที่ล่องลอยไปตามสายลม ฟิ้วววววว

โพสเมื่อ: Wed Feb 08, 2017 12:18 pm

[RE: ส่องกล้องบอลไทยลีก 2017]

ทีมที่ผมเคยคิดว่า ไม่น่ารอด น่าจะปลิวแน่ๆอย่างราชนาวี โคราช

เห็นฟอร์มช่วงปรีซีซั่นแล้ว ปีนี้ไม่แน่นะ ดีไม่ดีอาจเป็นก้างขวางคอพี่ใหญ่ก็ได้

ราชนาวี ใส่เกมรับแน่นๆ เกมรุกจูนกันติด น้าฉ่วยกดสูตรแบบสุโขทัยติดแน่
โคราช ตัวนอกพึ่งพาได้แน่นอนครับ โดยเฉพาะพีน่า&อดิเยีย ปีนี้ท็อปฟอร์มแน่นอน ตัวไทยตอนนี้ที่เห็นเด่นๆเทพๆก็ชนัตพล เอกณัฐคงเกตุ

2ทีมนี้ถ้าไม่เป๋ยาว ผมว่ายังไงก็รอด แล้วอาจรอดสบายด้วยซ้ำ