02 February 2017 01:30 PM by jedi
แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร


เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมลงอุ่นเครื่องให้ต้นสังกัดใหม่ไปแล้ว 1 นัดสำหรับ “ย้า” สิทธิโชค ภาโส กองหน้าดาวรุ่งวงการฟุตบอลไทยวัยแค่ 18 ปีที่ไปร่วมทัพ “คาโงชิมา ยูไนเต็ด ในฟุตบอล “เจลีก 3” ประเทศญี่ปุ่น

สื่อสโมสรออกข่าวอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับเพจ “เจลีก” ภาคภาษาไทยที่ตีข่าวของ “ย้า” อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ แต่จริงๆแล้วกองหน้าเด็กปั้นของ “ฉลามชล” ชลบุรี เดินทางไปญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.แล้ว

ประเด็นที่กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์พอสมควรคือเนื้อข่าวที่ระบุว่า “ย้า” คือ “นักเตะไทยคนแรกในเจลีก” เนื่องจาก ชนาธิป สรงกระสินธิ์ ยังไม่ได้ย้ายไปร่วมทีม “คอนซาโดล ซัปโปโร” ใน “เจลีก” ลีกสูงสุดของญี่ปุ่น แต่ “เมสซีเจ” รอไปช่วงเลก 2 ตอนกลางปี

หลายคำถามมีความสงสัยครับว่าใช่ตามที่เป็นข่าวหรือไม่ เพราะจะว่าไปแล้วตั้งแต่อดีตที่ผ่านมามีนักฟุตบอลไทยไปเล่นในญี่ปุ่นมากมายหลายคน และแน่นอนว่า “ย้า” ไม่ใช่คนแรก

ย้อนกลับสู่อดีตกันก่อนแล้วกันครับ นักเตะไทยคนแรกที่เวทีลูกหนังญี่ปุ่นคือ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ที่ปลุกปั้น “ย้า” จนมาถึงวันนี้นี่ละที่ถูก “ยันมาร์ ดีเซล” ดึงตัวไปร่วมทีมตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว

เส้นทางลูกหนังของ “โค้ชเฮง” สร้างชื่อกับทีม “ตราชฎา” ราชประชา แล้วถูกดึงตัวไปค้าแข้งกับ ยันมาร์ ดีเซล ก่อนจะเป็นกลายเป็นนักเตะไทยคนแรกใน “บุนเดสลีกา” เยอรมนี หลังจากนั้นกลับไปรับงานโค้ชที่ญี่ปุ่นอยู่หลายปีจนถูกเรียกว่า “เฮงซัง”

“โค้ชเฮง” ที่เพิ่งอายุครบ 63 ปีเล่าความหลังว่าสมัยที่ไปเล่นญี่ปุ่นในยุคนั้นคือ “JSL” หรือ Japan Soccer League ถือเป็นลีกสูงสุดของญี่ปุ่นดำเนินการจัดแข่งขันโดย สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น หรือ JFA

แต่ลีกญี่ปุ่นสมัยนั้นยังไม่ใช่ลีกอาชีพเป็นแค่สมัครเล่นเท่านั้น “โค้ชเฮง” คือคนไทยคนแรกที่ไปโกยเงินเยน หลังจากนั้นเป็น “โค้ชเฮง” นี่ละที่เปิดตลาดพานักเตะไทยไปโลดเล่นบนลีกลูกหนังแดนซามูไร

หลังจากแขวนสตั๊ด “โค้ชเฮง” กลับไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในฐานะกุนซือทีม “มัตซึชิตะ” โดยดึงเอาซูเปอร์สตาร์ฟุตบอลไทยอย่าง “ดำ อุตรดิตถ์” นที ทองสุขแก้ว และ “เพชฌฆาตหน้าติดหนวด” รณชัย สยมชัย ไปร่วมทีมด้วย

ต่อจากนั้นนักเตะไทยเริ่มทยอยเดินทางไปโกยเยนกันอีกหลายคนทั้งในลีกสูงสุดและลีกรอง เท่าที่จำได้ล้วนเป็น “ตัวพ่อ” ของฟุตบอลไทยยุคนั้นทั้ง วรวรรณ ชิตะวณิช, พิชัย คงศรี, พิชิตพล อุทัยกุล, สมชาย ทรัพย์เพิ่ม, ประเสริฐ ช้างมูล และ พงศธร เทียบทอง

แต่ด้วยปัญหาสภาพอากาศที่หนาวเย็นชนิดที่ว่าบางวันหิมะตกหนักจนเด็กไทยก้าวขาไม่ออก รวมถึงวิถีชีวิตที่ต่างการทำให้นักเตะหลายคนไปค้าแข้งอยู่ได้เพียงไม่นาน แต่ “โค้ชเฮง” ที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นฟุตบอลยังคงปักหลักอยู่ที่ญี่ปุ่นต่อไป

ฟุตบอลลีกญี่ปุ่นถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเมื่อมีการตั้งลีกอาชีพขึ้นมาในชื่อ “เจลีก” โดย “โค้ชเฮง” ที่กลายเป็นคนไทยคนเดียวที่เหลืออยู่ยังคงอยู่ในช่วงตั้งไข่ “เจลีก” ด้วยในฐานะผู้ฝึกสอนของทีมมัตซึชิตะที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น “พานาโซนิค กัมบะ”

“โค้ชเฮง” ลุย “เจลีก” อยู่ 2 ฤดูกาลก่อนที่จะตัดสินใจปิดฉากชีวิต 14 ปีบนแดนปลาดิบกลับมาอยู่เมืองไทย ซึ่งหลังจากนั้นลีกของญี่ปุ่นได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง พานาโซนิค กัมบะ กลายมาเป็น “กัมบะ โอซากา” ในปัจจุบัน

นักเตะไทยห่างหายจากลีกญี่ปุ่นมายาวนานมาก กระทั่งเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว “โค้ชเฮง” กลับไปทำงานที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในการคุมทีม “โตโตริ” ในระดับดิวิชั่น 3 ที่เรียกกันว่า JFL หรือ Japan Football League

“บังดุล” อดุล หละโสะ ถูก “โค้ชเฮง” ดึงตัวไปร่วมทีมโตโตริ ซึ่งระบบลีกญี่ปุ่นตอนนั้นลีกอาชีพคือ “เจลีก 1” และ “เจลีก 2” ดำเนินการจัดแข่งขันโดย “เจลีก” ส่วน JFL จัดแข่งขันโดย สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น จึงไม่ได้เรียกว่า “เจลีก”

ดังนั้นถ้าพิจารณามาถึงตรงนี้ต้องบอกว่าตั้งแต่อดีตที่ผ่านมายังไม่มีนักเตะไทยที่เคยเล่นในเวทีระดับเจลีกเลย สมัยเก่าก่อนยุค “โค้ชเฮง” และตำนานนักเตะไทยอีกหลายๆคนคือ JSL ส่วนยุค “บังดุล” คือ JFL

แต่ปัจจุบันญี่ปุ่นได้ปรับเปลี่ยน JFL เข้ามารวมกับ “เจลีก” ยกระดับให้เป็น “เจลีก 3” ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากจะบอกว่า “ย้า” คือนักเตะไทยคนแรกใน “เจลีก” ก็เรียกได้ เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่มีใครได้เล่นในลีกที่เรียกว่า “เจลีก” เลย

แต่ถ้าจะนับเฉพาะ “เจลีก 1” ที่ถือเป็นลีกสูงสุดของญี่ปุ่นต้องถือว่า “เมสซีเจ” ที่กำลังจะไปเล่นกับ คอนซาโดล ซัปโปโร คือคนแรก แต่ไม่ว่าอย่างไรต้องบอกว่าทั้ง 2 คนคือความภาคภูมิใจของวงการฟุตบอลไทย

ดังนั้นไม่ต้อง “ดราม่า” หรืออะไรทั้งนั้น เจตนาที่ร่ายมาถึงหมดคือเล่าที่มาที่ไปว่ามีนักเตะไทยไปเล่นในลีกญี่ปุ่นมาแล้วอะไรยังไงบ้าง ส่วนหลังจากนี้ขอเอาใจช่วยทั้ง “ย้า” และ “เมสซีเจ” อย่างเต็มที่กับการค้าแข้งบนแผ่นดินซามูไร

สู้เต็มที่ให้สุดพลัง คนไทยทั้งชาติให้กำลังใจอยู่ครับ

“บับเบิ้ล”
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 11973
ที่อยู่: ไม่เสือกดิ :D
โพสเมื่อ: Thu Feb 02, 2017 1:35 pm
[RE: แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร]
0
0
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 4252
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 02, 2017 1:41 pm
[RE: แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร]
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลยครับ

ไทยเรารอแค่พัฒนาเกมรับ และความเข้าใจเกมส์

ผมว่าก็พอที่จะสู้ในเอเชียได้เลยนะ[/img]
0
0
เข้าร่วม: 16 Nov 2009
ตอบ: 1790
ที่อยู่: Anywhere The Heart Goes
โพสเมื่อ: Thu Feb 02, 2017 3:11 pm
[RE: แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร]
ขอบคุณสำหรับบทความและข้อมูลครับ พี่บับเบิ้ล
0
0
เข้าร่วม: 02 Aug 2006
ตอบ: 440
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 02, 2017 3:17 pm
แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร
บทความดี น่ายกย่อง​,, :)
0
0
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 20153
ที่อยู่: ฺฺ [ stadio olimpico ]
โพสเมื่อ: Thu Feb 02, 2017 9:19 pm
แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร
ขอบคุณสำหรับบทความครับ
0
0


เข้าร่วม: 26 Mar 2010
ตอบ: 768
ที่อยู่: ศรีราชา
โพสเมื่อ: Fri Feb 03, 2017 7:51 am
แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร
ตอนแรกคิดไว้ว่ายิมคงได้ไปก่อนใครเพื่อน ไปๆมาๆ กลายเป็นย้าเฉยเลย
0
0

เข้าร่วม: 01 Jan 2014
ตอบ: 4528
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 05, 2017 10:37 am
แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร
ตรงอากาศและการปรับตัวนี่เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงจริงๆ
0
0
ว่ากันไปเป็นนัดๆ
เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 445
ที่อยู่: ข้างหลังนาย......
โพสเมื่อ: Thu Feb 09, 2017 12:44 am
[RE: แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร]
เอาใจช่วยยยยครับบบ
0
0



อย่ากลัวคนที่ "เก่งกว่า" แต่ จงกลัวคนที่ "ขยันกว่า"
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 571
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 09, 2017 4:40 pm
[RE: แข้งไทยบนแผ่นดินซามูไร]
อย่าสนใจมากเลยครับ ว่าคุณจะเป็นคนแรก คนที่สอง คนที่สาม
แต่จงสนใจในสิ่งที่พวกคุณทำ พวกคุณคือความภูมิใจของคนไทยครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ประสบความสำเร็จ และกลับมาพัฒนาทีมชาติไทยของเราครับ
0
0