เรื่องโทษประหาร มีอะไรมาให้อ่านกัน (มีอ้างอิง)
แหล่งที่มา
http://www.thaipost.net/?q=ร้องยกเลิกโทษประหารชีวิต
แอมเนสตี้ฯ เปิดตัวเลขโทษประหารชีวิตทั่วโลกปี 58 พบสูงกว่า 1,634 คน ไม่นับรวมจีนที่ปกปิดเป็นความลับราชการ เผยกว่า 140
ประเทศรวมกัมพูชา-ฟิลิปปินส์ ได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตแล้ว ส่วนไทยยังมีอยู่ พร้อมเรียกร้องทุกชาติยกเลิก ชี้ละเมิดสิทธิที่จะมีชีวิตตามที่ประกาศไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
เมื่อวันพุธ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดรายงานสถานการณ์โทษประหารชีวิตและการประหารชีวิตทั่วโลกในปี 2558 โดยพบว่าตัวเลขการประหารชีวิตเพิ่มสูงขึ้นจากสถิติสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี โดย 3 ประเทศที่ประหารชีวิตมากที่สุดคือ อิหร่าน ปากีสถาน และซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้ แนวโน้มประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างกำลังหันหลังให้กับโทษประหารชีวิต ปัจจุบันมี 140 ประเทศ หรือมากกว่า 2 ใน 3 ของประเทศทั่วโลกได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตทั้งในทางกฎหมายหรือในทางปฏิบัติแล้ว โดยที่ 102 ประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตสำหรับความผิดอาญาทุกประเภท
รายงานระบุว่า ปี 2558 เป็นปีที่มีการประหารชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่มีการบันทึกจากปี 2532 โดยมีผู้ถูกประหารชีวิตมากกว่า 1,634 คนใน 25 ประเทศ เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 54% ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่นับรวมตัวเลขจากประเทศจีน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นความลับของทางราชการ แต่จีนยังคงเป็นประเทศที่ประหารชีวิตประชาชนมากสุดในโลก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเชื่อว่ามีผู้ถูกประหารชีวิตและถูกสั่งลงโทษประหารชีวิตหลายพันคนในปี 2558 แม้จะมีสัญญาณว่าจำนวนการประหารชีวิตในจีนลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากการเก็บข้อมูลโทษประหารชีวิตเป็นความลับ ทำให้ไม่สามารถยืนยันข้อมูลที่แท้จริงได้
ประเทศที่ประหารชีวิตประชาชนมากสุดห้าอันดับแรกของโลกในปี 2558 ได้แก่ จีน อิหร่าน ปากีสถาน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐ ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ยังมี 4 ประเทศยกเลิกโทษประหารชีวิตในกฎหมายของตนอย่างถาวรในปี 2558 ได้แก่ ฟิจิ มาดากัสการ์ สาธารณรัฐคองโก และซูรินาเม ส่วนมองโกเลียผ่านร่างประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่ซึ่งยกเลิกโทษประหารชีวิต โดยจะมีผลบังคับใช้ช่วงปลายปี 2559
แม้จะมีความถดถอยในปี 2558 แต่ทั่วโลกยังคงเดินทางไปสู่การยกเลิกโทษประหารชีวิต นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลก 102 ประเทศยกเลิกโทษประหารชีวิตสำหรับความผิดอาญาทุกประเภท ถ้านับรวมกันแล้วประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตทั้งในทางกฎหมายหรือในทางปฏิบัติรวมเป็นจำนวน 140 ประเทศ หรือ 2 ใน 3 ของประเทศทั่วโลก
ซาลิล เช็ตตี้ (Salil Shetty) เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า โชคดีที่ประเทศซึ่งประหารชีวิตประชาชนยังคงเป็นประเทศส่วนน้อยและมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ ประเทศส่วนใหญ่ในโลกหันหลังให้กับโทษประหารชีวิตแล้ว
“ไม่ว่าความถดถอยระยะสั้นจะเป็นอย่างไร แต่แนวโน้มระยะยาวยังคงชัดเจนว่า ทั่วโลกกำลังมุ่งหน้าออกจากโทษประหารชีวิต ประเทศที่ยังคงมีโทษประหารชีวิตจึงต้องตระหนักว่า พวกเขาอยู่ในด้านที่ผิดของประวัติศาสตร์ และควรยกเลิกการลงโทษที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมมากสุดนี้เสียที”
สำหรับประชาคมอาเซียนซึ่งประกอบด้วย 10 ประเทศนั้น กัมพูชาและฟิลิปปินส์ยกเลิกโทษประหารชีวิตสำหรับความผิดทางอาญาทุกประเภท ส่วนลาว พม่า และบรูไน ได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตในทางปฏิบัติ (การที่ยังคงไว้ซึ่งโทษประหารชีวิต แต่ได้ระงับการประหารชีวิตเป็นระยะเวลา 10 ปีติดต่อกัน) ส่วนประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์และเวียดนาม ยังคงมีและใช้โทษประหารชีวิตอยู่
ในส่วนของประเทศไทย มีการประหารชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2552 ก้าวเข้าสู่ปีที่เจ็ดที่ไม่มีการประหารชีวิต ซึ่งหากไม่มีการประหารชีวิต 10 ปีติดต่อกัน ทางองค์การสหประชาชาติจะถือว่าเป็นประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตในทางปฏิบัติทันที ซึ่งจะถือเป็นพัฒนาการที่ดีด้านสิทธิมนุษยชนสำหรับประเทศไทยอีกก้าวหนึ่ง
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ขอคัดค้านโทษประหารชีวิตทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดทางอาญาประเภทใด ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะมีบุคลิกลักษณะใด หรือไม่ว่าทางการจะใช้วิธีประหารชีวิตแบบใด โทษประหารชีวิตละเมิดสิทธิที่จะมีชีวิตตามที่ประกาศไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และถือเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งงานวิจัยมากมายจากนานาประเทศได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโทษประหารชีวิตไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของอาชญากรรม.
ในยุคหลังๆ หน่วยงานระหว่างประเทศ องค์กรภายในเกี่ยวกับสิทธิ ก็พยายามยกเลิกโทษประหาร
ปล. เราคือคนนึงที่โคตรไม่เห็นด้วยนะ
Scandal, nogizaka46, AKB and 48 Group, silent siren, Miwa, Nishino kana FC
"My love for you is a journey.Starting at forever,And ending at never."