#### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน soccersuck.com####

06 January 2017 03:05 PM by jedi

ฟุตบอลไทยปี 60 น่าลุ้น น่าเชียร์

ฟุตบอลลีกไทยฤดูกาลใหม่กำหนดออกสตาร์ทเปิดสนามดวลแข้งตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. แต่กระแสข่าวตอนนี้ถือว่าคึกคักไม่เบาเลยทีเดียว โดยเฉพาะการซื้อ-ขายใน “ตลาดนักเตะ” ที่น่าสนใจมากๆ

แต่ละข่าวช่วยกระตุ้นต่อมความอยากอยากจะให้ลีกไทยเปิดฤดูกาลใหม่ไวๆเสียเหลือเกิน และต้องบอกเลยว่าศักราชใหม่ “พ.ศ.2560” นี่ทิศทางของฟุตบอลไทยน่าจับตามองมาก ไม่ใช่แค่ “ลีก” แต่ระดับ “นานาชาติ” ก็ไม่ธรรมดา

ปฏิทินลูกหนังประจำปี 2017 ของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ แต่ถึงตรงนี้ถ้าดูจากโปรแกรมของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) พอจะไล่เรียงโปรแกรมการแข่งขันต่างๆไว้ได้พอสมควรครับ ลองมาดูกันว่าปีนี้เราจะได้ลุ้น ได้เชียร์อะไรกันบ้าง

เริ่มจากทัวนาเมนต์แรกเลยของฟุตบอลไทย “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประเดิมเตะไปแล้วเป็นทีมแรกในฟุตบอลแห่งศักดิ์ศรีชาติอาเซียนในรายการ “โตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2016” รอบชิงชนะเลิศ

แต่แข้ง “เซราะกราว” เสียฟอร์มนิดๆเมื่อเตะรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก บุกไปพ่าย ล้านช้าง ยูไนเต็ด ทีมเจ้าบุญทุ่มของสปป.ลาว กลับมา 0-1 ทว่าทีมของ “โปโป้” รันโก โพโพวิช ยังมีโอกาสแก้ตัวในนัดที่ 2 วันที่ 8 ม.ค. เวลา 19.00 น. ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต

จบจาก “แม่โขง” แล้วฟุตบอลไทยจะเปิดหัวด้วยนัดพิเศษเป็นสัญญานสู่ฤดูกาลใหม่ จากเดิมคือ “ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก ” แต่ถ้วยพระราชทาน ก ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการกับ สำนักพระราชวัง เพื่อเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ใหม่จึงต้องเปลี่ยนเกมนัดนี้ใหม่

เกมนัดนี้่คาดว่าจะใช้ชื่อในแนวๆ “แชมป์ชนแชมป์” กำหนดเตะวันที่ 22 ม.ค.เป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ ปีนี้เป็นการพบกันของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ไทยลีก 2016 กับ สุโขทัย ที่จับสลากได้สิทธิ์ไปเตะ “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017”

หลังจากนั้นทีมสโมสรของไทยจะลงเล่นใน “เอซีแอล 2017” รอบเพลย์ออฟวันที่ 31 ม.ค. แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ ยะโฮร์ ดารูล ทาซิม จากมาเลเซีย ส่วน สุโขทัย พบ ยาดานาบอน จากเมียนมาร์

หากผ่านด่านแรกไปได้ทั้ง “แข้งเทพ” และ “ค้างคาวไฟ” จะไปลุยรอบเพลย์ออฟ รอบสุดท้ายต่อในช่วงต้นเดือนก.พ. ขณะที่เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ลีกไทยจะรอเล่นรอบแบ่งกลุ่มเลย เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.เป็นต้นไป

ส่วนฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2017” พร้อมด้วยลีกรองที่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นไทยลีก 2 (ดิวิชั่น 1) ไทยลีก 3 (ลีกแชมเปี้ยนชิพ) ไทยลีก 4 (ดิวิชั่น 2) จะเปิดสนามตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.ก่อนดวลแข้งกันยาวไปประมาณ 8 เดือน

นอกเหนือจากเกมลีกแล้วฟุตบอลถ้วยทั้ง “ช้าง เอฟเอคัพ” และ “โตโยต้า ลีกคัพ” ยังมีเตะกันตามปกติ ซึ่งโปรแกรมจะสอดแทรกอยู่ระหว่างการแข่งขันลีกก่อนจะไปชิงชัยในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.เหมือนเดิม

ด้านคิวเตะของ “ช้างศึก” จะประเดิมทัวร์นาเมนต์แรกใน “ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2016” ที่เลื่อนจากปีที่แล้วมาเตะกันวันที่ 23-29 ม.ค.นี้ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก

สำหรับไฮไลท์สำคัญแน่นอนว่าหนีไม่พ้น “ฟุตบอลโลก 2018” รอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย กลุ่มบี ที่ทีมชาติไทยที่เก็บไปได้แค่ 1 แต้มจาก 5 เกมแรกมีคิวเตะ 5 นัดสุดท้าย โดยจะเริ่มเดือนมี.ค.นี้

โปรแกรมของ “ช้างศึก” มีดังนี้ วันที่ 23 มี.ค.เปิดบ้านพบ ซาอุดีอาระเบีย วันที่ 28 มี.ค.เยือนญี่ปุ่น จากนั้นกลับมาเตะในบ้าน 2 นัด วันที่ 13 มิ.ย.พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 31 ส.ค.พบ อิรัก แล้วปิดท้ายวันที่ 5 ก.ย. เยือน ออสเตรเลีย

ขณะที่ทีมชาติไทยชุดอื่นๆมีคิวเตะกันทั้งปี ที่น่าลุ้นไม่น้อยคือ “ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี” (เกิดพ.ศ.2538) ของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ที่มีรายการสำคัญใน ฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปีชิง แชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 15-23 ก.ค.

จบจากจากนั้นอีก 1 เดือนทีมชุดนี้ต้องไปป้องกันแชมป์ในฟุตบอลชาย “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29” ระหว่างวันที่ 19-31 ส.ค. ที่ประเทศมาเลเซีย ที่จำกัดอายุนักเตะเหลือแค่ 22 ปี ถือเป็นงานหนักของนักเตะไทยจริงๆ

ด้านทีมเยาวชนไทยอายุ 16 และ 19 ปีที่ถึงตรงนี้ยังไม่มีโค้ชมีคิวต้องลงเตะ ฟุตบอลอายุไม่เกิน 16 และ 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก เช่นเดียวกับทีมฟุตบอลหญิงของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ต้องเตะเกมชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือกในปีนี้ด้วย

ขณะที่ทีมเยาวชนหญิงต้องเตะ ฟุตบอลหญิงอายุไม่เกิน 17 และ 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2017 รอบสุดท้าย ส่วนฟุตซอลชาย-หญิงมีโปรแกรมแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก รวมถึงฟุตซอลอายุไม่เกิน 20 ปีชิงแชมป์เอเชีย

นี่คือทัวนาเมนต์หลักๆเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” รวมถึงเกม “ฟีฟ่าเดย์” ทั้งของชุดใหญ่และอายุไม่เกิน 23 ปีให้ตามลุ้นตามเชียร์กันอีก

ต้องบอกว่าปี 2017 แฟนบอลไทยมีอะไรให้ได้ลุ้นได้เชียร์กันทั้งปีเลยทีเดียว ส่วนใครจะสมหวังหรือผิดหวังบ้างก็ตามลุ้นกันเอา ฟุตบอลลูกกลมๆกระเด้งกระดอนไปได้ทุกทิศทาง ลุ้นกันต่อไปครับผม

“บับเบิ้ล”

kiroto, zerossi, Xhaka, supassra_sp, van.Nistelrooij