จากแมตช์สุดมันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมื่อ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี โชว์ความเหนือชั้นบุกไปสอนบอล “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ขาดลอย 3-1 ประกาศศักดาว่าปีนี้พวกเขาลุ้นแชมป์แน่นอน มาถึงสัปดาห์นี้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกยังมีเกมบิ๊กแมตช์ให้ชมกันต่อเนื่องไม่มีหยุดพัก

สัปดาห์นี้เกมที่ต้องจับตาอยู่ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในการพบกันระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์

กับเกมที่อาจจะชี้อนาคตของ “The Special One” โจเซ่ มูรินโญ่ ว่าเขาจะได้อยู่คุมกองพลอสูรแดงไปอีกนานแค่ไหน


จอมอหังการสิ้นลาย?

ดูเหมือนว่าราศีของ The Special One จะหม่นหมองลงไปมากนับตั้งแต่ปีที่แล้วที่โดนปลดจากเชลซี ทีมที่เป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของเขาในอังกฤษ ต่อเนื่องจนมาถึงปีนี้กุนซือจอมอหังการก็ดูจะยังหาทางกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมไม่เจอ

ทั้งๆที่ปีนี้เขาได้นักเตะระดับสุดยอดอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เฮนริค มคิตาเรียน, เอริค ไบญี่ และนักเตะเจ้าของค่าตัวสถิติโลกอย่าง ปอล ป็อกบา จนทำให้ดูน่าเกรงขามมากที่สุดทีมหนึ่งในช่วงเปิดฤดูกาล แต่ไปๆมาๆก็อย่างที่เห็นอยู่ว่ามีแต่ทรงกับทรุด

มูรินโญ่ ถูกวิจารณ์เรื่องแท็คติกส์การเล่นที่ล้าสมัย การจัดตัวผู้เล่นที่ไม่สอดคล้องกับระบบและทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นกันได้ไม่เป็นโล้เป็นพาย ไหนจะเรื่องการบริหารจัดการผู้เล่นที่เคยเป็นจุดเด่นในการทำให้ลูกทีมรัก เคารพ และเชื่อในสิ่งที่เขาสั่งมาในวันนี้สิ่งเหล่านั้นแทบไม่เหลือให้เห็น

ที่ผ่านมา มูรินโญ่ เองไม่ใช่ไม่แก้ปัญหา เขาเองก็พยายามทำมาทุกอย่างแล้วไม่ว่าจะปรับระบบ เปลี่ยนคน ใช้เด็กเล่น ใช้ตัวเก๋าเล่น เรื่อยไปจนถึงขั้น “ยอม” ใช้นักเตะที่มีปัญหากันมาก่อนอย่าง มคิตาเรียน และบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ลงสนามในช่วงที่ผ่านมา

แต่ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น แถมล่าสุดยังมีช็อตประทับใจในการส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ ลงสนามและไปทำเสียจุดโทษจนโดนเอฟเวอร์ตัน ตีเสมอในเกมล่าสุด (และทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติที่แย่มากกับการเสียประตูช่วงท้ายเกมและเสียแต้มเป็นว่าเล่นในฤดูกาลนี้) จนโดนแฟนบอลสับเละ และในภาพรวมแล้วผลงานของทีมในเวลานี้แย่กว่ายุคของเดวิด มอยส์ และ หลุยส์ ฟาน ฮาล เสียอีก
มันช่วยไม่ได้ที่ทุกคนจะเริ่มเกิดความสงสัยในตัวกุนซือรายนี้ขึ้นมาว่ายัง Special เหมือนเดิมหรือเปล่า
และเขายังไหวหรือไม่กับภารกิจการนำ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

90 นาทีที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดจบลง เราคงได้รู้ว่า มูรินโญ่ จะยัง “ไว้ลาย” หรือ “สิ้นลาย”


ศึกจ้าวพายุ ‘สลาตัน’ ปะทะ ‘เฮอร์ริเคน’

ฟังดู “ฟงอวิ๋น” ชอบกล แต่การพบกันของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ แฮร์รี่ เคน ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

คนหนึ่งเป็นนักเตะระดับโลกมายาวนานและยังคงรักษามาตรฐานการเล่นเอาไว้ได้แม้วัยจะล่วงเข้า 34 ปี อีกคนอายุน้อยกว่าเกือบ 1 รอบ และกำลังเริ่มไต่เต้าไปสู่มาตรฐานการเล่นในระดับอินเตอร์

เวลานี้ทั้งสองกำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี โดย ซลาตัน แม้จะมีช่วงที่ดร็อปไปบ้างแต่เริ่มกลับมาทำประตูได้ในระยะหลัง เป็นหนึ่งในคนที่ประคับประคองทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่เป็นโล้เป็นพายในช่วงนี้ และน่าจะเป็นคนเดียวที่แฟนผีรู้สึกว่าพอจะ “เสก” อะไรให้เกิดขึ้นในสนามได้ด้วยการเล่นที่มหัศจรรย์ของเขาเอง

ด้าน เคน หลังหายจากอาการบาดเจ็บที่ทำให้ต้องพักการเล่นนานถึง 7 สัปดาห์ มาก็ยังทำประตูไม่หยุด และฟอร์มการเล่นน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆดูคล้ายจะเข้าฟอร์มเครื่องจักรการถล่มประตูที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีในช่วง 2 ฤดูกาลหลัง ซึ่งก็ทำให้ฟอร์มโดยรวมของ สเปอร์ส ดีขึ้นตามไปด้วยเพราะก่อนหน้านี้ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เล่นดีแต่ไม่มีสกอร์ทำให้ผลงานดร็อปลงเล็กน้อย

เกมนี้จะเป็นการวัดกันของสองสุดยอดกองหน้าที่น่าติดตามอย่างยิ่ง

พายุไหนจะแรงกว่ากัน เกมนี้เราน่าจะได้คำตอบ


One for all หรือ All for one

นอกเหนือจาก 2 ซูเปอร์สตาร์กองหน้าแล้ว อีก 2 ซูเปอร์สตาร์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันคือจอมทัพอย่าง ปอล ป็อกบา และ คริสเตียน เอริคเซ่น

เพียงแต่คนพูดถึงสองคนนี้ต่างกันค่อนข้างมาก

ป็อกบา อย่างที่รู้ว่าตั้งแต่ย้ายมาจาก ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เล่นได้ดีที่สุดเกมเดียวคือเกมที่ถล่ม เลสเตอร์ 4-1

ประเด็นของสตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสที่เป็นปัญหาพูดถึงกันอยู่คือเรื่องตำแหน่งและบทบาทในทีมว่านี่คือบทที่ดีที่สุดของเขาแล้วจริงหรือกับการยืนตรงกลางสนาม ที่ไม่ว่าจะยืนเป็นตัวรับในระบบ double pivot มิดฟิลด์กันชนคู่กับใครก็ไม่เวิร์ค จะขยับไปยืนตัวรุกสูงก็ยังไม่สามารถสร้างประโยชน์อะไรได้อยู่ดี

แต่อีกเรื่องที่เป็นปัญหาของตัว ป็อกบา เองก็คือการพยายามที่จะเล่นเพื่อตัวเองมากจนเกินไป ซึ่งก็อาจจะเพราะต้องการพิสูจน์ตัวเอง ทำให้เล่นเพื่อทีมน้อยมาก เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเขาเองทำผลงานได้แย่ และพาลไปถึงทีมที่ทำผลงานได้แย่ตามไปด้วย

ล่าสุดแม้ มูรินโญ่ จะยังปกป้องอยู่ แต่นายใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศสอย่าง ดิดิเย่ร์ เดชองป์ส ก็ออกโรงเตือนว่าเขาควรที่จะเล่นเพื่อทีมบ้าง ไม่ใช่คิดจะเล่นเพื่อตัวเองอย่างเดียว

ตรงนี้เป็นจุดที่ต้องดูว่า ป็อกบา จะปรับตัวหรือไม่?

ขณะที่ เอริคเซ่น เป็นภาคตรงข้ามกับป็อกบาเลย สตาร์ชาวเดนมาร์ก ถึงจะไม่เด่นไม่ดังเท่าแต่กับบทตัวทำเกมของเขาแล้ว ดีไม่แพ้ใครในอังกฤษ หรืออาจจะพูดได้ว่าดีไม่แพ้ตัวท็อปของยุโรปคนอื่นๆเลย

ผลผลิตจากอคาเดมี่ของไอแอ็กซ์ ถึงจะมีทักษะดีไม่แพ้ใครไม่ว่าจะการครองบอล การเลี้ยงบอล การผ่านบอล หรือการทำประตู แต่ก็เลือกจะเล่นง่ายๆเพื่อทีมมากกว่า

แต่การเล่นง่ายๆของเอริคเซ่น นั้นเต็มไปด้วยประสิทธิภาพและช่วยทำให้ทีมทั้งทีมเล่นกันได้ดีตามไปด้วย

จุดนี้ก็รอดูกันว่า One for All หรือ All for one ใครจะทำได้ดีกว่ากัน ในการถ่ายทอดสดคืนวันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค. เวลา 21.15 น. ทางช่อง beIN Sports 1

เทคนิคดูบอลสดจอใหญ่ผ่านคอมพิวเตอร์ แบบฟรีๆ

คอลูกหนังตัวจริงอย่างพวกเรา วันนี้การดูฟุตบอลเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงสมัครแพ็คเกจ True Super Soccer ดูบอลผ่านมือถือ(29บาท/เดือน) ตอนนี้ แถมฟรี!! ดูบอลสดจอใหญ่ผ่านคอมพิวเตอร์

ดูได้ทั้งพรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา, กัลโช่ เซเรีย อา, ลีก เอิง, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รวมถึงฟุตบอลไทย แบบนี้พลาดไม่ได้แล้ว

ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม: http://bit.ly/tssweba

หรือสมัครเลยผ่านแอพ TrueID : https://goo.gl/NWLjTf

อ่านแล้วชอบหว่ะ

อ่านแล้วไม่ชอบหว่ะ

กองแช่ง แข็งขัน


แต่เอาจริงๆผมว่า มู จัดทีมโอเคแทบทุกนัดนะ เรียกว่าเอาจริงแม่มทุกนัดทุกถ้วย (ใครจะคิดว่านักเตะอายุสามสิบกว่าอย่างซลาตันจะลงแม่มเกือบทุกนัดขนาดนี้) เพียงแต่ผลลัพธ์มันยังไม่มา

ที่ผิดพลาดมีอยู่แค่อย่างเดียวคือ ทัศนคติในการเอาชนะ คือ ตั้งใจเล่นเน้นผลลัพธ์จนเกินไป และหลายๆครั้งกดดันจนพลาดเสมอไปเอง กอปรกับ เงินลงทุนที่ใช้ไปเยอะด้วย(ที่มีผลกับการวัดผล)

การเปลี่ยนตัวก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นอ่่ะ

นัดล่าสุดที่ส่งฟูลงไปช่วงท้ายเกม ก็เพื่อไปตั้งรับมือการบอมบ์ใส่ของทอฟฟี่ (แต่ความผิดหรือความโง่ส่วนตัวของนักเตะเพียงเสี้ยววินาทีมากกว่าที่ทำทีมพัง)

สเปอร์สู้ๆ

บทวิเคราะห์โดยใครเหรอครับ

อ่านแล้วไม่เหมือนทีมที่ผมดูมาตั้งแต่ต้นฤดูกาลเลยอ่ะ

ดูเอนเอียงชอบกล

ถ้าขนาดนี้ยังบอกเล่นไม่เป็นระบบ ยุคเดวิด มอยคง.......

ผมว่าต้องใช้เวลาในตลาดซื้อขายนักเตะซัก 3-4 รอบ ใช้เงินอีกเยอะ ให้แกได้นักเตะที่ในแบบที่ต้องการจริงๆ คิดว่าอีก 2 ฤดูกาล แมนยูน่ากลัวแน่นอน (ถ้าน้าแกอยู่ถึงนะ) หรือถ้าสิ้นปีนีโดนเด้งจริงๆ ผมว่าคงกลับไปอินเตอร์ ไปสร้างชื่อใหม่อีกรอบล่ะ

ไก่ยังไม่แพ้ใครในลีกด้วยดิ

พักก็มากกว่า แถมเล่นในลอนดอน

ผีพักน้อยกว่า แถมเดินทางไกล

แถมมูไม่ค่อยโรเตชั่น

กลัวมูจะเสมออีกอะดิ 1-1

แพ้เชลซีแล้วครับ

ลืมไป

อายยยยยยยยยย

ถ้าดูบอลแล้วเขียน ไม่มั่วเอาสีสัน ปั่นดราม่า
ก็จะเห็นว่ามูมันไม่ได้รีบไปขนาดนั้นหรอก
ส่วนป็อกนั่นมีส่วนถูกอยู่

ที่ผมดูมาเลยนะ มูมีวิธีแก้พวก เพลสซิ่งเร็วๆแล้วนะ คือผมดูยูไนเต็ด นัดเจอเรือใบ หรือ เฟเนยอร์ดเอาที่เห็นชัดๆนัดเจอเรือเลยในคาริ่งคัพ ที่ชนะมาได้ แกเล่นกว้าง คือวัดคมกันไปเลย เน้นทำชิ่ง1-2 แล้วก็บีบเร็วคืนเหมือนกัน ผมว่าเกมนี้ ใครคมกว่าชนะไปแน่นอน สกอร์ไม่น่าสูง 2-1 ราวๆนี้ มีเยี่ยวเหนียว

วิเคราะห์ได้...มาก 555

ข้อความไร้สาระ เจตนาปั่นยอดเม้นท์ล้วนๆ

จะรอชมเลยฮะ

แพ้แล่้วไง

ขอบใจจ้า

ถ้าไล่มูออกอีกในฤดูกาลนี้ แมนฯยูก็ไม่ต้องหวัง Top4 อีกไปอีกทั้งปีนี้ ปีหน้า ปีถัดไปได้เลย คนใหม่มาก็ซื้อใหม่แผนใหม่อีกที สู้ปล่อยให้มูทำทีมต่อ ปีหน้าทุ่มสร้างทีมใหม่อีกทีดีกว่า ยอมโดนล้อเรื่องใช้เงินสร้างทีมไปซะ ทำใจเลยในเมื่อตัดสินใจเลือกโค้ชที่ช้อปปิ้งเก่งก็ต้องรอให้ใช้จนหนำใจซะ

เจอกันหลังจบแมท ตัวจาิงไปทุ่มกับยูโรป้า ในลีคคงฟอร์มเดิมแน่นอน

เขียนไม่ถูกใจ ก็หาว่าวิเคราะห์ไม่ดี
ยากเน๊อะกับการเอาใจเด็กผี

เม้นบน

แขวะได้คลาสสิค แต่มาช้าไปนะ ไม่ทันหน้าแรก

หลายนัดป็อกบาเล่นดีนะ ไม่ใช่แค่นัดเจอเลสเตอร์สักหน่อย

ความเห็นส่วนตัว มีแค่นัดเดียวที่มูสู้ไม่ได้จริงๆ คือนัดแพ้เชลซี

ส่วนนัดอื่นแท็กติคที่แกวางยังขั้นเทพอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่นักเตะยังไม่ลงตัวและมีความผิดพลาดส่วนบุคคล รวมถึงโชคที่ไม่มีเลย แผนแกทั้งก่อนเริ่มและแก้ระหว่างเกมยังดีเหมือนเดิม เจอแมนซิช่วงกำลังฮ็อตครึ่งหลังเล่นจนแมนซิไปไม่ถนัด หรือนัดเจอลิเวอร์พูลที่กำลังฮ็อตมากทีมของคล็อปปก็เล่นไม่ได้ตามแบบที่เคยเป็น

รอนักเตะลงตัวอย่างเดียว ซึ่งตอนนี้หวังกับ MK มาก เพราะทีมขาดตัวที่จะพาบอลไปแดนสุดท้ายให้สลาตัน บอลพาไปหน้าบ่อยๆ ความมั่นใจสลาตันคงกลับมา (ขนาดเล่นฟอร์มแย่ๆ แกยังยิงอยู่ตลอด)

คนจริงเครื่องแฟ๊กคงไม่พังและไม่โยนขี้ด้วยครับท่านประธาน

ประเด็นมันไม่ใช่เขียนไม่ถูกใจ เขียนเหมือนจะลำเอียง แต่คุณเขียนบทความโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่คุณรู้มาไม่หมดนะครับ
ใช่ผมบอกตรงๆว่า โดยเฉพาะประโยคที่เกี่ยวข้องกับฝั่งแมนยู คุณอาจจะอ้างอิงจากข่าวใน ss ต่างๆ แต่ผมอยากให้ศึกษาข้อมูลในเชิงลึกมาก่อนที่จะมาเขียนวิจารณ์ในเชิงที่ใส่ทัศนคติของตัวเองลงไปแบบนี้ ตรงไหนที่ผมบอกว่าคุณรู้มาไม่หมด ? เช่นตรงที่คุณบอกว่า "มูถึงกับ [ยอม] ใช้นักเตะที่มีปัญหากันมาก่อน" ผมขอชี้แจงให้ฟังนะ เหตุผลต่้างๆที่มูเคยออกมาสัมภาษณ์ที่ออกมาจากสื่อ/บอร์ดหลักของสโมสรในต่างประเทศ/หรือสื่อต่างๆที่ไม่ใช่มาจากใน ss
- ในรายของ MK ทั้งมูและฟาเรียเคยออกมาสัมภาษณ์แล้วครับว่ามันไม่ใช่ปัญหาอะไรส่วนตัวเลย แต่เหตุผลที่ดรอปมาจาก 1. นักเตะต้องปรับตัวให้เข้ากับทีม (ถ้าคุณดูแมนยู คุณจะเห็นเลยว่า มาคิเด่นก็จริง แต่ในเชิงระบบกับทีมเขายังสอบไม่ผ่าน ณ ตอนนั้น) 2.อาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายขาด 2 เหตุผลนี่มันคือเหตุผลเชิงฟุตบอลล้วนๆไม่ใช่ปัญหาส่วนตัวอะไรเลย สุดท้ายตัว MK เองก็เคยให้สัมภาษณ์ด้วยซ้ำ ใน ss ก็เอามาลงว่าเขาเจ็บและกำลังพยายามปรับตัว >>>> นี่ไม่ใช่ปัญหาอะไรที่ "มูถึงกับต้องยอมใช้นักเตะที่เป็นปัญหากันมาก่อน" อย่างที่คุณกล่าวถึงเลยครับ

- ในรายของ บาสเตียน นั้นอันนี้ผมบอกตรงๆผมก็ไม่ค่อยเข้าใจมูเหมือนหลายๆท่านและแฟนบอลในบอร์ดหลักของสโมสรเช่นกัน แต่มันมีแนวคิดนึงที่มีความน่าจะเป็น คือ บาสเตียน นั้นคือสัญลักษณ์ของฟาน กัล ถ้าคุณจะเข้ามาล้างบางคุณจำเป็นต้องลบล้างสัญลักษณ์นั้นก่อน เพื่ออนาคตของคุณและสโมสรเอง ... เหตุผลนี้แฟนบอลจริงๆของแมนยูเลย"แค่แสดงออกว่าอยากให้บาสเตียนลงบ้าง ในท่าทีที่ธรรมดา ไม่มีชูป้าย ไม่มีการด่าทอมู" แล้วสุดท้ายที่มูส่งลงก็ไม่ใช่การ [ยอม] เลยครับมันคือเทคติกนึงเท่านั้น ช่วงที่ส่งบาสเตียนลงนั้น คือช่วงที่ นักเตะแกนกลางเราเจ็บ ไว้ใจ้ไม่ได้ ส่งมาแค่ 10นาทีได้มั้งถ้าจำไม่ผิด เพื่อกู้ศรัทธาจากแฟนบอลก็เท่านั้น ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับมูเลยด้วยซ้ำ

แค่นี้พอละหลักๆคือ ผมอยากจะบอกว่า การเขียนวิจารณ์ในบอร์ดแบบนี้มันเป็นเรื่องที่บอบบาง เพราะฉะนั้นสมควรจะศึกษาข้อมูลมาในเชิงลึกซะก่อน แล้วค่อยใส่ทัศนคติของตัวลงไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมชื่นชมคุณนะ ลีลาในการเขียน[ดี]เลยครับน่าสนใจ น่าอ่านดี ชื่นชมครับ หวังว่าจะเห็นผลงานต่อไป

#วันหยุดว่าง ร่ายซะยาวเลยห๊ะๆ

ที่ท่านกล่าวที่ผิดพลาดอย่างเดียวคือทัศนคติ โดยการเน้นผลการแข่งขันมากจนเกินไปจริงๆ ทำให้เเกเเละแฟนๆเจ็บมาหลายครั้งเเละก็ประสบความสำเร็จมาก็มากผมว่าข้อนี้เป็นข้อที่เเกเปลี่ยนไม่ได้จริงๆ แฟนเชลซีเองจะรุ้ว่าฤดูกาลแชม รอบสองของมูที่ตกรอบชปล. ก็เพราะตีหัวเข้าบ้านแบบนี้เเละมีอีกหลายๆเกมที่เสียแต้ม

เอาหน่อยโว้ยเอาหน่อยย

อ่านเนื้อหาบทความแล้วยังไม่เลื่อนลงมาดูคอมเม้นต์ คิดในใจ "สงสัยจะมีโรงทานเลี้ยงมาม่าแน่นวล" แล้วก็เป็นเช่นนั้นเมื่อเลื่อนลงมาอ่านคอมเม้นต์

ผมเด็กปืนนะ ตามดูมาหลายนัดละมูคุมแมนยูดีมากๆนะอยากให้คุมไปอีกหลายๆปีเลย

แมทเจอสเปอนี่น่าจะยังไม่ชี้ชะตาหรอกครับ ส่วนเรื่องป็อกบาผมชอบที่เดช็องออกมาพูดนะ และสิ่งที่เดช็องพูดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตรงข้ามกับการจัดการของมูพอสมควร เพราะมูมักจะสปอยนักเตะตัวหลักที่แกชอบ ที่ผมพูดแบบนี้เพราะดูจากตำแหน่งของป็อกบาเลยครับ นัดล่าสุด เมื่อมีการเปลี่ยนตัว ก็ดันป็อกขึ้นไปเล่นกลางรุก ซึ่งถ้าดูจากผลงานมันก็โอเคที่แอสซิสให้อิบรายิงได้ แต่ถ้าดูฟอร์มรวมผมว่ามันไม่ได้ดีเต็มร้อย เหมือนกับตำแหน่งนั้นมันไม่สามารถดึงศักยภาพนักเตะออกมาได้หมดจริงๆ

โดยส่วนตัวผมยังมองว่าป็อกเหมาะยืนตัวกลางเหมือนเดิม ด้วยรูปร่างและทักษะในการเอาตัวรอดแล้วมันควรจะเป็นแบบนั้น แถมยังแย่งบอลได้บ่อยครั้งลองไปสังเกตุกันดูนะครับ ป็อกมีคุณสมบัติแบบวิเอร่าจริงๆ(เพียงแต่ใจมันอาจจะอยากเล่นเกมรุกมากกว่า เพราะเจ้าตัวเหมือนเคยออกมาพูดว่าถนัดเล่นมิดฟิลตัวรุกมากกว่า) คือเกมรับดี และเกมรุกได้ ถ้ามันไม่เล่นหลายจังหวะ หรือดึงจังหวะมากจนเกินไป

ซึ่งเคสป็อกบาก่อนหน้านี้ก็เคยมีที่มูให้ลงตัวจริงแล้วไปเล่นกลางรุกเลย แต่สุดท้ายแมทนั้นฟอร์มป็อกไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะพื้นที่ให้เล่นมันมีน้อยไป แล้วมันเลยกลายเป็นเหมือนนักเตะมันขี้เกียจไม่ค่อยลงมาช่วยเกมรับ พอได้หน้าที่ไปเล่นเกมรุก เป็นอีกจุดนึงที่ลองสังเกตุกันเองละกันครับ อิบรายังวิ่งเพรซมากกว่าป็อกเลยซะด้วยซ้ำ เวลาป็อกไปยืนกลางรุกมักไม่ค่อยช่วยเพรซเกมรับ

บอกตามตรงผมว่าถ้ามูกล้าหมุนเวียนนักเตะและให้โอกาสพอๆกัน อาจจะเจอทีมที่ลงตัวได้เร็วกว่านี้แน่ๆ แต่ตอนนี้เหมือนพยายามจัดทีมเพื่อนักเตะที่ตัวชอบมากกว่าที่จะมองผลงานแบบจริงๆจังๆ และให้โอกาสกับนักเตะบางคนน้อยเกินไปซะด้วยซ้ำ

นี่ยังไม่รวมถึงการที่แกพยายามอัดให้อิบราลงเต็มเวลาบ่อยๆนะ ผมว่าอิบราให้เล่นบ้างพักบ้างน่าจะทำผลงานได้ดีกว่านี้เยอะ ไม่จำเป็นต้องให้แกลงเต็ม90นาทีก็ได้ ถ้าสกอร์นำ2ลูกขึ้นไปก็น่าจะเปลี่ยนแกกับแรซให้พักเพื่อให้สดได้ลงแมทสำคัญๆน่าจะดีกว่า(เหมือนแมทที่เจออาเซนอล เราควรจะมีอิบราเพราะแมทก่อนหน้านั้นเจอสวอนซีสกอร์เรานำแต่มูไม่เปลี่ยนอิบราจนแกโดนเหลือง แล้วสุดท้ายก็อดลงแมทเจอปืน ซึ่งมันน่าเสียดายนะผมว่า มันคงจะดีถ้าเรามีอิบราเวลาเจออาเซน่อล)

ศึกจ้าวพายุ

ปกติ สเปอร์ นี่แพ้ทาง แมนยู นะ

ปี้นี้ขอ ผิดปกติ ละกัน

One for all , All for one มาเป็นmy hero academia เลย

จริงๆมันก็เป็นสูตรทั่วไป แทคติคพื้นฐานทั่วไปที่ทีมนั้นๆพยายามจะแก้เกมที่ตัวเองโดนเพรสซิ่ง
แต่ความไวและความแม่นในการต่อบอล มันเป็นเรื่องสัมพัทธ์ คือมันขึ้นอยู่กับคู่แข่งนัดนั้นๆด้วยว่า ทีมของตัวเอง เล่นไว เล่นแม่นกว่าการเพรสซิ่งของคู่แข่งไหม หรือในทางกลับกัน ทีมของตัวเองไปเพรสซิ่งใส่คู่แข่งแล้ว ไวพอ แข็งแกร่งพอ ฟิตพอ ที่จะไล่เขาไหม

ซึ่ง 2 นัดที่ว่ามาก็ไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดีเท่าไหร่ แมนซิไม่ใช่ทีมชุดใหญ่ อีกทีมก็ขนาดทีมด้อยกว่าพอสมควร

ก็ต้องรอดูกันไป

มูทำงานหนักอยู่นะ นักเตะที่อยู่ในความดูแลของฟานกัลยังติดเล่นบอลเซฟอยู่บ้าง ค่อยๆแก้ ยังมีนักเตะที่ยังไม่เข้ากับทีมด้วย ฤดูกาลนี้ยังต้องปรับอีกเยอะ ปัญหาทำประตูนี่น่าเป็นห่วง บุกเยอะยิงน้อย พอๆกับการเสียประตูวินัยเกมส์รับแย่เหมือนกัน

สถิติมูอาจดูแล้วปวดใจ แต่ทำไมผมดูบอลมันกว่ายุคมอยส์ ฟาน กัล