16 November 2016 02:50 PM by jedi
1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”



ประทับใจไทยทั้งชาติกับผลงานของนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่เสมอ “ออสซี” ออสเตรเลีย 2-2 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย กลุ่มบี นัดที่ 5

นี่คือแต้มแรกของ “ช้างศึก” ในรอบนี้ ถือเป็นแต้มที่รอคอยมานานพอสมควร และเป็นการได้แต้มแรกจาก “ทีมอันดับที่ 40 ของโลก” และ “แชมป์เอเชีย” ทีมล่าสุด แม้นักเตะไทยจะไม่ชนะในเกมแต่ชนะใจคนไทยทั้งโลก

แน่นอนครับว่าเครดิตตรงนี้ต้องมอบให้กับทัพ “ช้างศึก” ที่ทำงานกันอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นทีมงานผู้ฝึกสอน นักฟุตบอล ตลอดจนแฟนบอลไทยที่ไม่สิ้นศรัทธา ทุกคนคือ “นักเตะคนที่ 12” ที่ยังยืนเคียงข้างทีมฟุตบอลชาติไทยตลอดไป

เชื่อว่าก่อนเกมคงมีน้อยคนมากหรือแทบไม่มีเลยที่จะกล้าฟันธงว่าเกมระหว่าง ไทย ทีมอันดับ 146 ของโลกที่แพ้มา 4 นัดรวดจะต่อกรกับ ออสเตรเลีย ที่เก็บไปแล้ว 8 แต้มจาก 4 นัดได้อย่างสนุกสูสีจนใช้คำว่า “เกือบชนะ” ได้เลย

ปรบมือชื่นชม “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ปรับกลยุทธ์ให้ทีมชาติไทยได้ไฉไล นี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากจะเห็นมานานแล้วในเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นและวิธีการเล่น ไม่ใช่ว่าเล่นแบบเดิมๆผู้เล่นชุดเดิมๆเหมือน 2 นัดก่อนหน้านี้

ตัวของ “ซิโก้” น่าจะกดดันไม่น้อยหลังโดนกระแสโซเชียลกระหน่ำอย่างหนัก ทว่าผลงานจากเกมล่าสุดกับ ออสเตรเลีย ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่จะกลับมาเป็นที่ครองใจมหาชนดั่งเดิมเลยหรือไม่ยังต้องติดตามกันต่อไป

ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาครับเวลาทีมชาติไทยทำผลงานได้ดีย่อมมีแต่ “ดอกไม้” เสียงคำชื่นชมเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าวันไหนฟอร์มออกทะเลหรือไม่ได้ดั่งใจย่อมโดน “ก้อนอิฐ” หรือเสียงวิพากษ์จวกบ้างเป็นธรรมดา

การวิพากษ์วิจารณ์เป็นของคู่กันกับเกมกีฬา แต่เชื่อเถอะว่าทุกคนหวังดีต่อ “ช้างศึก” ทั้งนั้น ที่สำคัญคือคนส่วนใหญ่ไม่ได้หลับหูหลับตาเชียร์ อะไรดีก็ต้องชม อะไรแย่ก็ต้องติ ถ้า “อวย” กันอย่างเดียวจะเหมือนผลงาน 4 นัดก่อนหน้านี้

ย้อนกลับไป 2 เกมที่เยือน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และ อิรัก จะให้ชื่นชมยังไงไหว “ซิโก้” ขอหยุดโปรแกรมลีกเอาเวลาไปซ้อม 10 วัน แต่ไม่เห็นความแตกต่างใดๆเลย ทั้ง 2 นัดเล่นแบบเดิมๆใช้นักเตะเดิมๆแค่ 14 คน สุดท้ายผลงานการแข่งขันคือแพ้รวด

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมกับ ออสเตรเลีย มันไม่ใช่ ทีมชาติไทยมีเวลาฝึกซ้อมกว่า 2 สัปดาห์เศษที่ “กิเลน วัลเลย์” แล้วกลับมาสู้กับ “ออสซี” ด้วยรูปโฉมใหม่ ตัวผู้เล่นใหม่ ระบบการเล่นใหม่ วิธีการใหม่ไม่ถอยไปรับต่ำเหมือนตอนเจอ ญี่ปุ่น กระทั่งได้แต้มแรกที่รอคอย

แบบนี้สิครับต้องชื่นชมและปรบมือให้ “ซิโก้” ร่วมถึงทีมงานทุกคน ต่อให้แพ้ ออสเตรเลีย ก็ไม่น่าจะโดนวิพากษ์หนักเหมือนหลายๆนัดที่ผ่านมา เพราะทีมได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขและ “ทำการบ้าน” มาดี

1 แต้มจาก ออสเตรเลีย คือผลตอบแทนจากการทำงานอย่างหนัก ก่อนแข่งหลายคนอาจไม่มั่นใจในระบบการเล่นแบบ 3-4-1-2 หรือ 3-5-2 ตามตำแหน่งที่ “ซิโก้” วางหมากลงไป แต่นั้นคือสิ่งที่พวกเขาซุ่มซ่อมอยู่ที่ กิเลน วัลเลย์ มาตลอด

ตรงนี้ต้องชม “ซิโก้” ที่มีความละเอียดตั้งแต่การ “ปิดสนามซ้อม” อนุญาตให้คนภายนอกดูการฝึกซ้อมได้แค่ 15 นาทีทำให้ไม่มีใครรู้เลยว่า “ช้างศึก” จะปรับกลยุทธ์ใหม่ เชื่อว่า “ออสซี” เองคงทำการบ้านมาว่าไทยเล่น 4-3-3 เหมือนเดิม

การปิดสนามซ้อมแบบนี้จริงๆแล้วฟุตบอลไทยเคยทำกันมาตั้งแต่สมัย ไบรอัน ร็อบสัน แล้วครับ และการห้ามให้คนนอกไม่วุ่นวายมากมายกับทีมนี่มีมาตั้งแต่ยุค ปีเตอร์ ลีด แล้ว แต่มาเริ่มผ่อนปรนตอน วินฟรีด เชเฟอร์ เข้ามาทีมชาติไทย

ถึงตรงนี้ “ซิโก้” กลับมาวางระบบแบบนี้ก็ขอยกมือสนับสนุนเต็มที่ ไม่ใช่ว่าทีมชาติไทยซ้อมอยู่แต่ริมสนามมีใครต่อใครเดินวุ่นวายกันไปหมด ตรงนี้ทำดีแล้วขอให้ทำต่อไป

ส่วนระบบการเล่น 3-5-2 หรือ 3-4-1-2 หรือจะมองว่าเป็น 5-3-2 นี่ไม่ใช่ของใหม่ของทีมชาติไทย สมัย ปีเตอร์ วิธ พาทีมลุย “ฟุตบอลโลก 2002” รอบ 10 ทีมสุดท้ายทีมี “ซิโก้” เป็นกองหน้าก็ใช้สูตรนี้ต่อกรกับยอดทีมของเอเชียมาก่อน

ว่าไปแล้ว “ช้างศึก” ยึดระบบการเล่นแบบนี้มานานเหมือนกัน แต่โลกฟุตบอลที่หมุนไม่หยุดเลยต้องปรับเปลี่ยนตามกาลเวลา ถึงตรงนี้ระบบกองหลัง 3 คนกำลังเป็นเทรนด์กลับมาอีกครั้ง ถ้าทีมชาติไทยจะกลับมาเล่นแบบเดิมก็ไม่ผิดกติกา

“ซิโก้” ไม่น่าจะหมดมุกเหมือนก่อนแล้วพร้อมยืนยันว่าถ้าเป็นระดับอาเซียนใน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” คงต้องกลับมาเล่นกองหลัง 2 คนเป็น 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 แต่ถ้าระดับเอเชียอาจจะปรับเล่นกองหลัง 3 คนเป็น 3-4-1-2 อีก 1 กลยุทธ์

ตรงนี้ต้องเห็นด้วยกับ “ซิโก้” ละครับ เพราะสถานการณ์ของเกมแตกต่างกัน ดังนั้นจะเล่นแบบ “หน้าเดียว” เหมือนที่ผ่านๆมาไม่ได้ ในอาเซียนต้องเน้นรุกเป็นหลัก แต่ถ้าเอเชียคงต้องปรับเน้นหลังบ้านให้เน้นไว้ก่อน

บทเรียนจากหลายๆเกมที่มีทั้ง “ดอกไม้” และ “ก้อนอิฐ” จะทำให้ “ซิโก้” และนักเตะทีมชาติไทยมีความแข็งแกร่งขึ้นและเรียนรู้เพื่อสู้ต่อไปอย่างดุดันมากขึ้น ต้องบอกว่า 1 แต้มที่ได้จาก ออสเตรเลีย เป็นการปลุกชีพให้ “ช้างศึก” อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามทีมชาติไทยยังมีสิ่งที่ต้องแก้ไข อย่างผู้เล่นบางคนที่ยังสอบไม่ผ่าน หรือตัวทดแทนหากตัวหลักหรือ 11 คนแรกเจ็บจะทำอย่างไร รวมถึงองค์ประกอบอื่นในการทำทีมที่ต้องเตรียมการแบบระยะยาวเพื่อสู้กันต่อไป

แต่เป้าหมายระยะใกล้ของทีมชาติไทยตอนนี้คือป้องกันแชมป์ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” เอาไว้ให้ได้สถานเดียวเท่านั้น แล้วปี 2560 มาลุ้นกันต่อในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย ในอีก 5 นัดที่เหลือ

สู้ต่อไปทีมชาติไทย….Thailand Never Give Up

“บับเบิ้ล”
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1184
ที่อยู่: anfield
โพสเมื่อ: Wed Nov 16, 2016 3:10 pm
[RE: 1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”]
ขอบคุณสำหรับบทความดีดีคับผม เชื่อว่าประสบการณ์ในเกมส์ใหญ่ๆจะทำให้ทีมชาติไทยเรียนรู้อะไรมากขึ้น มีบทเรียนให้เอามาปรับปรุงแก้ไข และจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไป เราเพิ่งก้าวขึ้นมาระดับที่สูงขึ้น ทีมชุดนี้ยังเล่นกันได้อีกหลายปี วางระบบดีดี กล้าเล่น อนาคตต้องดีกว่านี้แน่นอนคับ เอาใจช่วยและจะตามเชียร์ตามให้กำลังใจทุกๆนัดครับ
0
0
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 8167
ที่อยู่: JJPEREZ คนเดิม ที่เพิ่มเติมคือความห่วงใย
โพสเมื่อ: Wed Nov 16, 2016 3:10 pm
[RE: 1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”]
สนับสนุนกันต่อไปครับ
1
0
เข้าร่วม: 01 Dec 2008
ตอบ: 1955
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 16, 2016 3:19 pm
[RE: 1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”]
เล่นสไตล์นี้แจ่มแล้วครับ ปิดจุดอ่อนเรื่องโดนบอมบ์ได้เนียนเลย

เพราะกองหน้าเขายักกว่าเรา มีกองหลังตรงกลาง 3 คน ช่วยเบียดได้เยอะ มีตัวชนก่อนแล้วคอยให้ตั้มดักเก็บจังหวะ 2 ได้เกือบตลอด แบ๊ค 2 ฝั่งเราก็เร็วแถมมีกลางช่วยซ้อนไล่บีบอีกชั้นป้องกันการโยนจากปีกของเขาได้ดี

0
0


เข้าร่วม: 03 Dec 2010
ตอบ: 181
ที่อยู่: ทีมโคขาว
โพสเมื่อ: Wed Nov 16, 2016 3:48 pm
[RE]1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”
ต่อไปถ้าพัฒนาความฟิต. ได้. จนวิ่ง ครบตามเวลา. น่าจะบินได้สูงกว่านี้ครับ.
เป็นตัวอย่างเป็นแรงบัลดาลใจให้กับนักฟุตบอลและกองเชียร์ไทยได้ดีมากครับ.

1 แต้มที่ใหญ่กว่าที่คิด
1 ล้านแรงใจที่จะร่วมสู้ไปด้วยกัน

ขอบคุณฟุตบอลไทยครับ
0
0
คาถาปลัดขิก

ใช้ภาวนากำกับในทางคงกระพันป้องกันตัวโดยใช้คาถานี้

เข้าร่วม: 08 Feb 2006
ตอบ: 2626
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 16, 2016 3:57 pm
[RE: 1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”]
ต้องชื่นชมนักเตะของเราทุกคนช่วยกันเล่นได้ดีโดยเฉพาะกองหลังต้องวิ่งตามแบบไม่คิดชีวิต ออสซี่ตัวใหญ่ขายาวแถมสปีดไม่ได้เชื่องช้าเลย
0
0
เข้าร่วม: 28 Oct 2008
ตอบ: 3348
ที่อยู่: บอร์ดบอลไทย
โพสเมื่อ: Wed Nov 16, 2016 4:01 pm
[RE: 1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”]
วิธีตั้งเกมส์รับเราต้องเหนียวแน่นกว่านี้ครับ เก๋ากว่านี้ พอเจอพวกมืออาชีพเต็มสตรีม

ลูกเล่นมันแพรวพราวกันทั้งนั้น จุดนี้ต้องเสริมประสบการณ์เพิ่มเยอะ ๆ มีโอกาสพัฒนาได้
0
0
เชียร์ลิเวอร์พูล ชอบมูรินโญ่ รักเจอร์ราด DNAฟุตบอลไทย
เข้าร่วม: 09 Sep 2009
ตอบ: 2923
ที่อยู่: FrozenStar
โพสเมื่อ: Wed Nov 16, 2016 4:04 pm
[RE: 1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”]
ณ เวลานี้ด้วยความสามารถของผู้เล่นและโค้ชพาไทยมาไกลได้ขนาดนี้ถือว่าดูดีที่สุดแล้วครับ

อาจจะแพ้หลุดฟอร์มไปบ้าง แต่บางนัดเราไม่ควรแพ้จริงๆ นัดนี้ซิโก้แก้เกมส์มาดียอมเปลี่ยนแผนทำให้ไทยได้แต้มแรกซะที

ก็หวังว่าแฟนบอลจะร่วมด้วยช่วยกันเชียร์ต่อไป ให้เราได้ชัยชนะแรกในบอลโลกด้วยนะ
0
0
เข้าร่วม: 01 Jun 2014
ตอบ: 1289
ที่อยู่: สังคมก้มหน้า
โพสเมื่อ: Wed Nov 16, 2016 9:07 pm
[RE: 1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”]
ไม่ต้องหวัง จะได้ไม่ผิดหวัง
0
0
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 26974
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Nov 17, 2016 12:04 am
[RE: 1 แต้มปลุกชีพ “ช้างศึก”]
เสียดายไม่ได้ 3
0
0