แต่ก่อนสองทีมนี้ระดับไม่ต่างกัน เลเวลเดียวกัน นิวอาจจะเหลื่อมนิดๆด้วยซ้ำ โชคดีของซิตี้ ที่มีมหาเศรษฐีมาฮุบทีม ไล่จากทักษิณมาเป็นอภิมหาเศรษฐีอาหรับ จนปัจจุบันกลายเป็นยักษ์ใหญ่แซงหน้าหลายๆทีม ส่วนนิวคาสเซิ่ลกลับดิ่งลงเหวซะงั้นเพราะเจ้าของ ไมค์ แอชลี่ ก็รวยนะแต่รวยไม่สุด สุดท้ายตกชั้นซะงั้น!!!ถ้าไม่มีเหตุเศรษฐีมาอุ้ม ซิตี้ก็คงไม่ต่างจากนิว ดีสุดคงได้ลุ้นพื้นที่ยุโรป คงไม่มีโอกาสได้เตะ ucl วัดกะบาซ่า คงเวียนวนอยู่กลางตาราง เป็นเบี้ยล่างยูไนเต็ดต่อไป คงไม่มีนักเตะระดับอเกวโร่ ซิลบา ยาย่า ตูเร่ เดอบรอยด์ หรือกระทั่งกุนซืออย่างเป๊บ ก็คงไม่มีวันได้มาคุม สรุปคือเงินซื้อทุกอย่างได้จริงๆ ซื้อได้กระทั่งประวัติศาตร์ที่ซิตี้ไม่เคยมี อยากให้นิวได้มหาเศรษฐีอาหรับมาฮุบทีมบ้าง อยากเป็นยักษ์เกิดใหม่อีกซักทีม!!!

จากใจ toon army.

เดวเทพราฟาก็พาขึ้นมาใหม่ครับ

ผมว่านิวคาสเซิ่ล คือตัวอย่างของการบริหารการเงินที่ล้มเหลวเลยล่ะ

จากกระทู้นี้

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1383925

เราจะเห็นได้ว่านิวลงทุนไปมาก
เป็นอันดับ 5 ของลีก นับตั้งแต่พรีเมียร์ก่อตั้งมาก
สูงกว่าทีมแชมป์พรีเมียร์อย่างอาร์เซน่อล,เลสเตอร์

อันที่จริง มองจากมุมนี้ ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก
เพราะก็มีอันดับ 7-13 เป็นเพื่อน คือลงทุนมากกว่าเลสเตอร์ แต่ไม่เคยได้แชมป์ลีก










ถ้าดูจากอันดับ อาจดูเหมือนแค่แย่
แต่ไม่ถึงกับหายนะ เพราะอันดับนี่มันก็คือกลางตาราง

แต่พอดูจริงๆ อันดับ 10 ก็ไม่ได้ได้ต่างกับ 20 เลย คือปริมาณถ้วย = 0
ไม่ว่าจะพรีเมียร์ เอฟเอ หรือว่าลีกคัพ อันดับ 10-20 นี่คือไม่ได้ต่างกันเลย 0 เท่ากัน





ประการสุดท้าย แต่เป็นประเด็นสำคัญที่สุด
นิวใช้เงินไปมากกว่าอาร์เซน่อล,แอสตันวิลล่า,สเปอร์ และเอฟเวอร์ตัน

แต่เอาตัวรอดบนลีกสูงสุดไม่ได้ วิลล่าที่ใช้เงินน้อยกว่า
พึ่งตกชั้นลงไปครั้งแรกนับแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ในปีนี้

ส่วนปืน ไก่ เอฟ ไม่เคยตกชั้น อยู่รอดมาตลอด
ทั้งๆที่ใช้เงินน้อยกว่าสาลิกา


ผมเลยมองว่า กรณีนิวคาสเซิ่ลนี่
อาจเป็นกรณีศึกษา เรื่องการบริหารการเงินที่ล้มเหลว

และชวนให้ตั้งคำถามว่า แล้วเงินมันหายไปไหนหมด ????????

ก็น่าเห็นใจนะ เอาใจช่วยให้กลับมาได้ไวไวครับ
อย่าไปคิดน้อยใจอะไรแบบนั้นเลยครับ บั่นทอนจิตใจปล่าวๆ

เชียร์เพราะรัก กับ เชียร์เพราะเเชมป์ มันต่างกันใหญ่หลวง เเต่คำพูดมันบางนิดเดียว
ไม่เชื่อถามคุณปู่ คุณย่า ที่เขาเข้ามาเชียร์ทีมรักกันดูสิ
ปีหน้าก็กลับมาโลดเเล่นละใจเย็นๆ

บริหารการเงินผิดพลาดนานไปไหม ตั้งแต่เจ้าของคนเก่ามาถึงมือ ไมค์ แอชลี่
เหมือนทีมโดนสาป ทั้งที่ก็เป็นทีมถือว่าใหญ่ทีมนึง มีแฟนนบอลเต็มทุกนัดที่ลงแข่ง ก็ได้แต่หวังว่า ราฟาผู้กอบกู้ จะดึงสาลิกามาไต่ระดับไกล้เคียงบรรดาบิ๊กทีมใน EPL อย่างน้อยได้ลุ้น1ใน4 ก็ยังดี แม้อาจจะหวังเร็วไปก็ตามที สาธุ!!!

ทุ่มเงินมันต้องมาพร้อมกับการบริหารที่ดีด้วยครับ

ไม่ใช่ว่าสักแต่โยนเงินอย่างเดียว

พวกโดนเทคแล้วล้มเหลวมีตัวอย่างให้เห็นเยอะแยะ QPR เอย, อันชี่ เอย



ปล. แมนซิก่อนเทคก้เคยได้แชมป์ลีค 2 สมัยนะ

ใครว่าระดับเดียวกัน เมื่อก่อนซิตี้นี่ทีมหนีตกชั้นนะ ส่วนนิวทีมลุ้นไปยุโรป

แต่ซิตี้ได้คนรักฟุตบอลมาทำทีมและบริหารทีมได้ดีทีมเลยไปได้สวย ไม่เหมือนนิวที่พอมีคนยื่นเงินมาเยอะๆเพื่อซื้อตัวหลักนี่คือปล่อยเลย

ผมเชียร์แมนซิมาตั้งแต่ปี 2003 บอกได้เลยว่าสมัยก่อนนิวคาสเซิลนี่ระดับสูงกว่าแมนซิเยอะครับ ช่วงนั้นนี้แพ้เป็นเรื่องธรรมดา เสมอเห็นจนชิน นานๆจะชนะสักที เป้าหมายของทีมทุกฤดูกาลคือยูโรป้า UCLคือฝันกลางวัน แชมป์EPLไม่เคยอยู่ในหัว จบฤดูกาลก็กลางตาราง มีหนีตกชั้นบ้างให้เสียวเล่น

โชคดีที่แมนซิมีเจ้าของมีทุนหนามาเทคโอเวอร์ แต่แค่เงินอย่างเดียวมันไม่พอครับ มันต้องมีการบริหารจัดการโดยรวมที่ดีด้วย ไม่งั้นจะเป็นแบบหลายๆทีมที่ทุ่มซื้อนักเตะไปเยอะมาก แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย

ถ้าตามข้อมูลที่ให้มาก็เถียงไม่ได้จริงๆและน่าจะเรียกได้ว่าล้มเหลวเลยนะสำหรับนิว

แต่การที่นิวเป็นทีมเดียว(ในเมืองนิวคาสเซิล)และแฟนคลับหนาแน่นทำให้มีเงินค่อนข้างเยอะ
แต่เพราะการบริหารทีมแบบบ้านๆที่ขอแค่คนมีชื่อเสียงก็ยอมทุ่มแล้ว
ตั้งแต่สมัยเควิน คีแกนก็ใช้เงินไปเยอะมาก ตั้งแต่ดาวิด ชิโนล่าเป็นต้นมา
คือซื้อแต่ละคนส่วนใหญ่เรียกได้ว่าเอาใจแฟนบอลเป็นหลัก
ที่น่าผิดหวังคือนักเตะที่ทุ่มซื้อแทบจะไม่ตอบโจทย์และทำให้ระดับของทีมสูงขึ้น(ยกเว้นเรตติ้ง)
จนตอนนี้ผมก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าเป็นที่อะไรกันแน่ระหว่างผู้จัดการทีม นักเตะ หรือผู้บริหาร