“วัน 13 ตุลาฟ้าดับ พ่อนอนหลับลาจากเราไป น้ำตาลูกท่วมท้นเมืองไทย สุดอาลัย..พ่อภูมิพล” คำร้องท่อนหนึ่งจากบทเพลง “พ่อภูมิพล” ของศิลปินแห่งชาติ “แอ๊ด คาราบาว” บรรยายถึงความรู้สึกของคนไทยได้อย่างชัดเจน

ช่วง 7 วันตั้งแต่การสวรรคตของ “ในหลวง รัชกาลที่ 9” ผมเลือกที่จะไม่เขียนวิพากษ์การทำงานของ “สมาคมกีฬาฟุตบอล” เพราะต้องการไว้ทุกข์และไม่อยากให้เกิดประเด็นขัดแย้งใดๆในช่วงที่คนไทยอยู่ในอารมณ์เปราะบาง

ความเศร้าโศกยังปกคลุมทั่วเมืองไทย แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป วันนี้ถึงเวลากลับมาทำหน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” อีกครั้งหลังจากอดกลั้นมาหลายวัน และต้องขอตำหนิการตัดสินใจของ “สมาคมกีฬาฟุตบอล” ที่สั่งยุติการแข่งขันทุกลีกในปี 2559 ดั่งที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันมาตลอดสัปดาห์

ไม่ว่าจะเป็น “มติ” หรือความคิดใดๆจาก “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมและเหล่าสภากรรมการบริหาร แต่การสั่งเลิกทุกลีกที่เหลืออยู่ในมุมมองของผมถือเป็นการ “ตัดปัญหา” ไม่ใช่แก้ปัญหา

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯพลาดตั้งแต่การรีบประกาศออกมาตอนแรกว่าจะยกเลิกการแข่งขันทุกลีกแล้ว ทั้งที่สถานการณ์ตอนนั้นยังไม่มีใครมองไปถึงทางออกทางนี้ หลังจากนั้นก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายทั้งเห็นด้วยและเห็นค้าน

ประเด็นตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก แต่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กลับรีบด่วนตัดสินใจ แทนที่จะใช้เวลาคิดและใช้ปัญญาไตร่ตรองให้ละเอียดเพื่อทำให้สถานการณ์คลี่คลายกลับกลายเป็นสร้างประเด็นให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในช่วงที่สังคมไทยควรจะนึกถึงคำว่า “รักกันไว้เถิด” แท้ๆ

เมื่อ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ดัน “ตั้งธง” ว่าจะยุติทุกลีก ทีมสโมสรจึงเริ่มมีแอคชั่น เห็นด้วยหรือเห็นค้านก็ว่าไป ตรงนี้ทำให้เห็นมุมมองของแต่ละสโมสร บางสโมสรยืนยัน “หลักการ” ชัดเจน ส่วนทีมที่ “ลอยตัว” หลายทีมเลือกนิ่งไว้ก่อน แต่บางทีเริ่มคิด “เอาแต่ได้” !!!

สุดท้ายแม้จะเปิดโอกาสให้ตัวแทนสโมสรเข้ามาชี้แจงเพื่อคิดทบทวนคำสั่งใหม่ แต่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ได้บทสรุปตามเดิมคือการยุติทุกลีกที่เหลืออยู่ในปี 2559 ตามที่ตั้งธงให้เป็นแนวทางไว้ตั้งแต่แรก

เหตุและผลหลายๆอย่างที่ยกมากล่าวอ้างดูไม่ค่อยจะเข้าท่าที่เข้าทางเท่าไรครับ ตั้งแต่การอ้างถึง “ความจงรักภักดี” เพราะเชื่อว่าคนไทยทุกคน “เรามีพ่อคนเดียวกัน” และทุกคนมีความจงรักภักดีไม่ได้น้อยไปกว่าผู้บริหาร สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

สถานการณ์ตอนนั้นไม่มีทีมไหนที่อยากจะลงเตะฟุตบอลในช่วงที่น้ำตายังท่วมประเทศไทยหรอกครับ แต่มันควรมีทางออกที่ดีกว่านี้นั่นคือการเลื่อนออกไปก่อน รอให้ “รัฐบาล” กำหนดแนวทางที่ชัดเจนถึงความเหมาะสมก่อนแล้วค่อยฟันธงยังได้

แต่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ดันรีบร้อนสั่งยุติการแข่งขันไปก่อนซะดื้อๆ แม้รัฐบาลประกาศในภายหลังยืนยันว่าการกีฬาสามารถแข่งขันได้ตามปกติเพราะไม่ใช่การรื่นเริงแต่สมาคมลูกหนังดันไม่ยอมเปลี่ยนใจอยู่ดี อ้างนู้น นี่ นั่น ไปเรื่อย

จริงๆแล้วทางออกไม่ใช่ว่าไม่มี มีการเสนอแนวทางไปมากพอสมควร ทั้งขอให้แข่งขันไปแบบไม่มีคนดู เตะแบบไม่ต้องมีถ่ายทอดสด เลื่อนไปรอเตะหลังครบ 30 วันที่รัฐบาลประกาศให้ไว้ทุกข์ หรือแม้กระทั่งแนวทางให้ส่งทีมชาติไทยอายุไม่เกิน 21 ปีไปเตะ “เอเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” เพื่อให้ลีกได้มีเวลาเตะให้จบในเดือนพฤศจิกายน

หลายๆข้อเสนอเป็นทางออกให้ระบบของลีกเดินต่อไปจนจบอย่างที่ควรจะเป็น แน่นอนว่าทุกทางออกมันต้องมีทั้งได้และเสียผลประโยชน์ ไม่มีดีหรือแย่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่การสั่งยุติทุกการแข่งขันเป็นการตัดปัญหาที่ดูจะมี “ข้อเสีย” มากกว่าหรือเปล่า

โดยเฉพาะประเด็นของทีมที่ต้องตกชั้นเลยอย่าง อาร์มี ยูไนเต็ด กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล น่ะถามว่าผิดอะไรทำไมต้องมัดมือถ่วงน้ำดื้อๆแบบนี้ ที่อ้างว่าเลือกทางนี้เพราะมีทีมได้รับผลเสียหายแค่ 2 ทีมยิ่งแย่หนัก “ไม่แฟร์” เหมือนสโลแกนตอนหาเสียงที่บอกว่า “แฟร์” ทุกทีมต้องได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน

หาก สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เลือกที่จะเลื่อนการแข่งขันออกไปก่อน แน่นอนว่าทั้ง 18 ทีมต้องมีภาระจ่ายเดือนนักเตะอีก 1 เดือน แต่นั่นคือความรับผิดชอบร่วมกัน “ทั้งลีก” ไม่ใช่หรือ ไม่ใช่โยนภาระให้แค่ 2 ทีมที่จะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในการตกชั้น

ทั้ง อาร์มี และ ชัยนาท ไม่ใช่ทีมใน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หรือครับ ทำไมไม่ “แฟร์” ต่อทั้ง 2 สโมสรนี่ละ ไม่เหมือนตอนหาเสียงเลย หรือลืมกันไปหมดแล้ว เหมือนกับที่ลืมคำสัญญาที่ว่าจะสนับสนุนค่าเดินทางทีมดิวิชั่น 2 นั่นด้วยหรือเปล่า

เอ่ยถึงดิวิชั่น 2 แล้วก็เจ็บปวดแทนแฟนบอล “สุราษฏร์ธานี” เตะมาแทบตายแค่ดันไม่ได้เลื่อนชั้นเพราะ “จับสลาก” ทำอย่างกะฟุตบอลคัพสนามเช่าที่แต้มเท่าแล้วใช้วิธีจับสลากเข้ารอบ !!!

นี่ยังไม่รวมถึงทีม “ดิวิชั่น 3” ที่ทุ่มเตรียมทีมกันมาเต็มที่แล้วจะไม่ได้เตะอีก การที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะคืนค่าสมัครและค่าใช้จ่ายต่างๆแค่หมื่นบาทให้ทุกทีมน่ะเทียบไมได้กับการลงทุนของ แต่ละทีมที่ทุ่มเตรียมทีมกันมาเป็นหลักแสนต่อเดือนมาหลายเดือนแล้วหรอกครับ

ส่วน “ฟุตซอลลีก” ก็ได้รับผลกระทบเต็มๆทั้งที่เลก 2 เพิ่งจะกลับมาเตะกันยังไม่ทันไร สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สั่งยกเลิกไปอีก ฟุตซอลแข่งในร่มในสนามปิดนะครับ รัฐบาลบอกด้วยซ้ำว่าสถานบริการใน “อาคารปิด” สามารถดำเนินกิจการได้ แล้วไฉนฟุตซอลที่เป็นกีฬาเล่นในอาคารปิดถึงแข่งขันต่อไม่ได้

รัฐบาลเน้นย้ำตลอดว่าในความอาลัยในการไว้ทุกข์แต่หลายๆอย่างต้องดำเนินต่อไป ลองเปิดโทรทัศน์ดูสิครับหลายๆอย่างก้าวเดินไปข้างหน้า ตระกร้อชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ยังคงแข่งขันอยู่ “ลีกเยาวชน” จะกลับมาเตะแล้ว ทีวีมีถ่ายทอดดสดฟุตบอลจากต่างประเทศให้ได้ดู

แต่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กลับสั่งยุติทุกอย่าง ไม่รู้ว่านายก “บิ๊กอ๊อด” คิดเอง หรือมี “กุนซือ” คอยให้คำแนะนำอยู่เบื้องหลัง ที่แน่ๆเสียราคาไปเยอะ หลายๆคนบอกไปทางเดียวกันว่าเป็นเพราะ “ไม่ได้คนฟุตบอลจริงๆมาเป็นนายก” !!!

อย่าไปโกรธคนที่บอกว่าเลือกตั้ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คราวหน้าให้ใช้วิธี “จับสลาก” เลยครับ เพราะจากการแก้ปัญหาที่เห็นตรงนี้บอกเลยว่าจับสลากได้มาคงไม่แตกต่างกัน !!!

“บับเบิ้ล”

เห็นด้วยครับ มันเป็นการ ตัดปัญหา ไม่ใช่ แก้ปัญหา ปีหน้าก็ไม่ต้องแข่งละครับ จับฉลากเอา ไม่ต้องเปลืองเวลาเปลืองเงิน แฟร์ๆ บรัยยยย สมเยศ

ไม่แข่งเฉยๆ แต่นักเตะเขายกเลิกซ้อมกันด้วยเหรอครับ? เหมือนจะเห็นแต่ละคนว่างเลยช่วงนี้

พูดไปเยอะจนขี้เกียจพูดแล้ว พี่บับเบิ้ลพูดตรงใจทุกอย่าง แต่ก็ทำไรไม่ได้นอกจากทำใจ รอรับผลกระทบที่เกิดขึ้น

หวังว่าถึงวันนั้นใครที่บอกว่าจะรับผิดชอบจะไม่ลืมคำพูด

ก็ปิดฤดูกาลแล้ว เค้าปล่อยนักเตะพักยาวหมดแล้วครับ

อ้าว แล้วบอลโลกที่จะต้องแข่งก็คือปล่อยไปยาวๆ ค่อยกลับมาซ้อมตอนเรียกไปติดทีมชาติแบบนั้นเหรอครับ? ก่อนหน้านี้เห็นมีข่าวสักชุดจะเรียกไปเก็บตัวก่อนตอนยังว่างๆก็ยกเลิกไป

สรุปตอนนี้คือนักเตะพักยาวๆเลยเหรอครับ? ถ้าจริงก็แปลกดีบอลไทย

เห็นมีข่าวว่าซิโก้จะเรียกเก็บยาว 15 วันตอนต้นเดือนครับ

ช่วงนี้ก็พักๆกันไป แล้วแต่วินัยของแต่ละคน

แฟร์ ไหมละฮะ ท่านผู้ชม

ถ้าใช้มาตรฐานนี้ บอลโลกควรยกเลิกเตะครับ
เพราะไม่มีกระจิตกระใจเชียร์ นักบอลเองก็เศร้าอยู่ด้วย

บอลในประเทศเหลืออีกแค่ไม่กี่นัดเอง ช่วงหลังวันที่ 5 ธันวา หากทีมชาติยังแข่งอยู่ก็จัดแข่งนัดตกค้างแบบคู่ขนานไป เพื่อความเป็นธรรมต่อทีมที่เสียประโยชน์ จับฉลากหาทีมดวงดีง่ายๆแบบนี้ก็เกินไป
แต่ก็ช่างเถอะ การตัดสินเป็นที่สิ้นสุดแล้ว

แต่ทีมชาติ "ตัวแทนของประเทศ" ควรจะเดินหน้าต่อไป เก็บชัยชนะให้ได้เพื่อพ่อหลวงของเรา

บอลไทยวัดดวง

เสี่ยอ้วนยั้งมือไว้ไมตรีไปนิด ถ้าผมเขียนเองล่ะ "ยับ"

หรือจะซ้ำรอยจากวิจิตรมาเป็นบังยี จากบังยีมาเป็นสมยศ

วิธีแก้ปัญหา โคตรห่วย

แฟร์ แฝ่ แฟ่ แฟ้ แฝ๋ ๆๆๆๆๆๆ


รอดูปัญหาที่จะเกิดได้เลย มีแน่นอน และเยอะด้วย

แสดงถึงความอัจฉริยะของ นาย สมยศ พุ่มพันม่วง และทีมงาน

ไว้อาลัยให้สมาคมด้วยครับ

ท่านนายกสมาคม เค้ารู้เรื่องฟุตบอลบ้างหรือเปล่าครับ

มาตรฐานยิ่งแย่ลงไปอีก เห้ออออ

นี่ละครับ การแก้ปัญหาแบบไทยแท้ของจริง

เอาง่ายๆ เอาสบาย เอาปลอดภัย ใครมีปัญหาช่างมันไม่เกี่ยวกับตรู

คือเอาตรงๆนะ ทำแบบนี้จ้างเด็กจบม.ปลายมาเป็นยังแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้เลย

ปีหน้าก็เอาเลยยังเศร้าต่อ จับฉลากยกลีคไปเลยประหยัดงบประมาณด้วย

กองเชียร์ก็ได้ไว้อาลัยต่ออีกปีด้วย

แต่เจ๋งๆจริง ช่วยถอนทัพจากบอลโลกด้วย

แต่ไม่กล้าหรอก บอกเหตุผลฟีฟ่าเรื่องนี้ไปเค้าจะได้ขำกันตาย

จากนโบายตอนหาเสียงกับคำว่า Fair

แต่ตอนนี้สิ่งที่หลาย ๆ ทีมได้รับมันคือ Unfair

เอาเฉพาะลีคสูงสุดทีมที่เสียผลประโยชน์มี 2 ทีมแต่ทีมที่ลอยตัวแล้วมีหลายทีม ทีมที่ต้องลุ้นตกชั้นไม่ต้องสืบว่าจะลงมติไปทางไหน ไม่ว่าใครก็เอาตัวเองรอดทั้งนั้นไม่คิดถึงผลประโยชน์ของทีมอื่นหรอก ขอปรบมือให้ ชลบุรี เอฟซี ทีมที่ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องแค่ทีมเดียวเท่านั้น และขอยกความห่วยแตกให้การบริหารของสมาคมมา ณ ที่นี้ด้วย

ถ้ากลัวว่าโปรแกรมมันจะเยอะ ก็สามารถยุบการแข่งประเภทบอลถ้วย
เหลือแต่บอลลีกก็ได้นี้ วิธีจัดการมีเยอะ แต่ดันเลือกจบซะดื้อๆ

บอลอาชีพนะฮะ ไม่ใช่บอลสมัครเล่น ทำงานแบบมืออาชีพ จับสลากง่ายดี

การจับสลากคือการแก้ปัญหาที่มักง่ายที่สุดแล้ว

ทีมลงทุนกันเป็นล้าน มาวัดดวงกับการจับสลาก

เห็นด้วยกับประธานสุราษฎร์ ที่บอกถ้าเลือกนายกสมาคมใช้วิธีจับสลาก จะรับกันได้มั้ย

สมาคมชุดนี้เอาไป 3 คํา "หมดศรัทธา" ครับ