29 September 2016 04:15 PM by Zaine_R
“บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าวงการฟุตบอลอังกฤษจะเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาและหนึ่งในบุคคลที่ถูกแฉแบบหมดเปลือกก็คือแซม อัลลาร์ไดซ์อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษที่ลงทำหน้าได้แค่เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้นเอง

ได้มีการเปิดเผยจากสื่อเมืองผู้ดีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าทั้ง อัลลาร์ไดซ์ และสมาคมฟุตบอลอังกฤษมีการตกลงแยกทางกันด้วยดี หลังจากที่อดีตกุนซือเวสต์แฮมถูกบันทึกภาพขณะกำลังเจรจาต่อรองข้อเสนอเพื่อรับเงิน 400,000 ปอนด์เป็นการแลกเปลี่ยนกับการชี้ช่องโหว่ทางกฏระเบียบของเอฟเอในการซื้อ-ขายนักเตะ

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กุนซือวัย 61 ปีเพิ่งจะปลาบปลื้มกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตการคุมทีมของเขา เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายใหญ่ของทัพ “สิงโตคำราม” แทนที่รอย ฮอดจ์สันที่ไขก๊อกหลังทำผลงานล้มเหลวในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส

แต่เวลาอันแสนสุขของเจ้าตัวกลับหดสั้นเหลือเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น หลังจากถูกนักข่าวของสำนักข่าว Telegraph ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจจากต่างแดนเพื่อที่จะเข้ามาขอร่วมธุรกิจดั่งที่ได้กล่าวไปข้างต้น จนสุดท้าย “บิ๊กแซม” ต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งที่ครั้งหนึงเขาเคยพูดไว้ว่า “รอมาทั้งชีวิต” ไป

เรื่องของอัลลาร์ไดซ์คงต้องไปว่ากันอีกทีตามกฏระเบียบที่มีของทั้งสมาคมฟุตบอลอังกฤษและในแง่ของกฏหมายแห่งเมืองผู้ดี แต่ตอนนี้อีกประเด็นที่น่าสนใจและสำคัญไม่แพ้กันก็คือ ใครที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของอังกฤษกัน ?

แม้ว่าในตอนนี้แกเร็ธ เซาธ์เกทซึ่งเป็นผู้จัดการทีมชุด ยู 21 ของทีมชาติอังกฤษจะเข้ามาทำหน้าที่ก่อนในช่วง 4 เกมข้างหน้านี้ แต่แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแผนขัดตาทัพเท่านั้น

หากเจ้าตัวสามารถทำผลงานได้ดีก็ไม่แน่ว่าทางเอฟเออาจจะยื่นข้อเสนอที่เป็นชิ้นเป็นอันให้ แต่ถ้าไม่แล้วล่ะก็ เราก็จะมาดูกันว่ามีใครบ้างที่เป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆของสมาคม จากการวิเคราะห์ของ BBC

อลัน พาร์ดิว

สัญาชาติ : อังกฤษ อายุ : 55

ตำแหน่งปัจจุบัน : ผู้จัดการทีมคริสตัล พาเลซ




ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งเลยก็ว่าได้สำหรับพาร์ดิว แต่ก็คิดอยู่กับว่าเจ้าตัวจะเปลี่ยนใจหรือยัง หลังจากเคยเปรยเอาไว้เมื่อช่วงซัมเมอร์ว่า ตัวเขาเองยังไม่พร้อมสำหรับการเป็นกุนซือทีมชาติอังกฤษ ?

ประวัติ : คล้ายกับอัลลาร์ไดซ์ในแง่ของการที่ไม่ได้มีผลงานโดดเด่นมากในช่วงเวลาการคุมทีม 17 ปีที่ผ่านมา แต่จะหนักไปทางด้านขึ้นๆลงๆซะมาก กับเวสต์แฮม, ชาร์ลตันและนิวคาสเซิ่ลลงเอยด้วยการโดยปลดทั้งสิ้น

ปัจจุบันกับพาเลซนั้นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2015-16 เขาพาทีมเก็บชัยชนะได้แค่ 2 เกมเท่านั้น แต่ในทางตรงกันข้ามก็พาทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพอีกเหมือนกัน ซึ่งนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาทำได้

แผนการเล่น : พาร์ดิวมักจะใช้แผน 4-3-3 ซึ่งมักจะใช้นักเตะที่ “แกร่งและถึก” ยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางอย่างที่เราได้เห็นกับชีค ทีโอเต้ที่นิวคาสซ่ลและเจมส์ แม็คอาร์เธอที่พาเลซ ก่อนจะใช้ปีกจี๊ดๆสองข้างในการทะลวง

การจัดการและความสัมพันธ์กับนักเตะ : ดไวท์ เกยล์อดีตศูนย์หน้าของทีม “ปราสาทเรือนแก้ว” เคยพูดเอาไว้เมื่อตอนที่ทีมชนะติดๆกัน 3 เกมเมื่อมกราคม ปี 2015 หลังเข้ามาคุมทีมได้เดือนเดียวว่า

“เขาช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้น เขาสนับสนุนพวกเราทุกคน พูดคุยกับเราเป็นรายคน เขาทำให้เรามุ่งมั่นที่จะไปต่อ” เกยล์กล่าว

แต่ที่ตลกร้ายก็คือหลังจากนั้นเขาก็ทำทีมลุ่มๆดอนๆอย่างที่แจ้งไปไว้เบื้องต้นนั่นแล …

---------------------------------------------------------------------------

สตีฟ บรูซ

สัญชาติ : อังกฤษ อายุ : 55 ปี

ตำแหน่งปัจจุบัน : ว่างงาน




อดีตกุนซือฮัลล์ ซิตี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษเคยเล็งเอาไว้ว่าจะเข้ามาทำหน้าที่แทนฮ็อดจ์สัน ก่อนที่สุดท้ายจะเลือกแต่งตั้งอัลลาร์ไดซ์

บรูซลาออกจากตำแหน่งกุนซือฮัลล์หลังจากการประกาศเรื่องตำแหน่งกุนซือทีมชาติไม่นานและก็ว่างงานแต่นั่นมา ซึ่งก็มีสายข่าวแว่วมาว่า

ประวัติ : ถ้าจะให้เปรียบเทียบตัวเลขเปอร์เซ็นต์การทำทีมคว้าชัยชนะของบรูซในพรีเมียร์ ลีกกับกุนซือที่เป็นตัวเลือกคนอื่นๆแล้วนั้นทำได้เพียงแค่ส่ายหน้าเท่านั้นเลย เพราะจากสถิติที่เก็บกันมาจนกระทั่งถึงฤดูกาลที่แล้ว บรูซคุมทีมเก็บชัยชนะเพียงแค่ 28.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เรียกว่าห่วยกว่าทั้งพาร์ดิวและอัลลาร์ไดซ์เสียอีก แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ทำผลงานแจ่มๆด้วยการพาทั้งเบอร์บิงแฮมและฮัลล์เลื่อนชั้นจากแชมป์เปี้ยนชิพมาแล้ว รวมทั้งการพาทีมฮัลล์ทะลุถึงรอบชิงเอฟเอ คัพเมื่อปี 2014 อีกด้วย

แผนการเล่น : บรูซใช้แผน 3-5-2 ในการคุมทีมฮัลล์ซึ่งดูแล้วน่าจะเหมาะกับอังกฤษที่มีฟูลแบ็คตัวรุกอย่างไคล์ วอล์คเกอร์, แดนนี่ โรสและลุค ชอว์ในทีม

การจัดการและความสัมพันธ์กับนักเตะ : เป็นที่รู้กันว่าบรูซนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเตะในทีมของเขาเอง โดยสตีฟ ฮาร์เปอร์อดีตผู้รักษาประตูของฮัลล์เลยให้สัมภาษ์เอาไว้ บรูซมีวความละม้ายกับเซอร์ บ๊อบบี้ ร็อบสันอดีตกุนซือของนิวคาสเซิ่ล

“เขาเป็นคนไม่ถือตัวเลย” นายด่านซันเดอร์แลนด์กล่าวไว้เมื่อปี 2013

---------------------------------------------------------------------------

เอ็ดดี้ ฮาว

สัญชาติ : อังกฤษ อายุ : 38 ปี

ตำแหน่งปัจจุบัน : ผู้จัดการทีมบอร์นมัธ




ฮาวได้รับการยกย่องว่าเป็นกุนซือชาวอังกฤษที่มีอนาคตไกลมากที่สุดคนนึง เพียงแต่ประสบการณ์ของเขาจะเพียงพอต่อการโน้มน้าวให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษสนใจไหมเท่านั้นเอง ?
ถึงอย่างนั้น กุนซือหนุ่มก็ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย หลังจากพาทีมบอร์นมัธขึ้นมาโลดแล่นในเวทีพรีเมียร์ ลีก แถมไม่เหมือนกับทีมเล็กทีมอื่นที่ปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเอง ยังคงเอาไว้ซึ่งการเล่นอันน่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย

แผนการเล่น : แทบจะตรงกันข้ามกับอัลลาร์ไดซ์เลยก็ว่าได้ สำหรับฮาวนั้น เขาเน้นไปที่การเล่นเกมบุก การจ่ายบอลทำเกมตั้งแต่แดนหลังไปยังพื้นที่สุดท้ายในแดนหน้า แต่ก็มีที่เหมือนอัลลาร์ไดซ์ตรงที่เขาเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับทีมแล้ว

การจัดการและความสัมพันธ์กับนักเตะ : ในการให้สัมภาษณ์เมื่อ ปี 2014 ทำให้เรารู้ว่าฮาวนั้นเน้นหนักในเรื่องของรายละเอียดและความตรงไปตรงมาในการทำงาน

“ผมคิดอยู่เสมอว่าการให้ฟีดแบ็คกับนักเตะนั้นเป็นเรื่องสำคัญนะ” เขากล่าว

“คือผมไม่เคยเข้าถึงให้เรื่องของการที่ปล่อยให้นักเตะลงเล่นไปในทุกๆเกม โดยที่พวกเขาหวังว่าจะทำผลงานได้ดี แต่กลับไม่เคยได้รับคำติชมใดๆเลย แบบนั้นมันไม่ใช่ ผมมักที่จะพูดคุยกับนักเตะเป็นการส่วนตัวเสมอ”

“มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเสียเวลาไปซะมาก แต่ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดอย่างนึงเลยล่ะ”

สถิติ : เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ลูกทีมของฮาวเสียประตูจากลูกตั้งเตะไปทั้งหมด 40 ลูก ซึ่งนับเป็นสองเท่าของอาร์เซนอลภายใต้การนำทีมของอาร์แซน เวนเกอร์

---------------------------------------------------------------------------

แกเร็ธ เซาธ์เกต

สัญชาติ : อังกฤษ อายุ : 46

ตำแหน่งปัจจุบัน : ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ยู 21




อดีตปราการหลังทีมชาติอังกฤษถือว่าเป็นหนึ่งในทีมงานของสมาคมฟุตบอลอังกฤษอยู่แล้ว หลังจากดูแลจัดการทีม ยู 21 มาตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งนั่นทำให้เขาคุ้นเคยดีกับนักเตะในทีมชุดใหญ่หลายๆคน

แต่เดิมนั้น เซาธ์เกตไม่ได้คิดถึงเรื่องการเข้ามารับงานแทนที่ของฮ็อดจ์สันในช่วงซัมเมอร์ ไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือยาว แต่อย่างไรก็ตาม กับการที่เขาได้มีโอกาสคุมทีม 4 เกมเพื่อขัดตาทัพ ก็ไม่แน่ว่าเจ้าตัวอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ ?

ประวัติ : งานแรกในฐานะกุนซือของเขาเริ่มต้นกับมิดเดิ้ลสโบรห์ในปี 2006 ซึ่งเขารับหน้าที่ต่อจากสตีฟ แม็คคลาเรน แม้ว่าจะยังไม่ได้มีใบประกาศการเป็นโค้ชก็ตาม โดยเขาพาทีมโลดแล่นอยู่ในระดับท็อปอยู่ 2 ฤดูกาล ก่อนที่จะนร่วงตกชั้นในเวลาต่อมา เซาธ์เกตถูกปลดในเดือนตุลาคม ปี 2009 แม้ว่าเขาจะเริ่มต้นงานในลีกแชมป์เปี้ยนชิพได้ดีก็ตาม

กับทีมชาติอังกฤษ ยู 21 นั้นเขาก็ไม่สามารถพาทีมไปได้ไกลเกินกว่ารอบแบ่งกลุ่มในเกมชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบสุดท้าย

แผนการเล่น : เซาธ์เกตได้มีโอกาสทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางผู้อำนวยการทางเทคนิคของเอฟเออย่างแดน แอชเวิร์ดซึ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2012 โดยแอชเวิร์ดนั้นต้องการให้ทีมชาติอังกฤษตั้งแต่ชุด ยู 15 จนถึง 21 ใช้แผน 4-3-3 ในการเล่นทั้งหมด โดยใช้การคุมเกมและโต้กลับเป็นหลัก

ครั้งหนึ่งแฮร์รี่ เร้ดแนปป์เคยถูกถามว่า เซาธ์เกตนั้นเข้าใจถึงระบบการเล่นของอังกฤษใช่หรือไม่ เขาก็ตอบว่า “รู้จักระบบอะไร? ระบบที่มีแต่แพ้นั่นหรอ? เขารู้จักรูปแบบที่แพ้น่ะหรอ?”

ว่าแต่กุนซือของทีม ยู 21 จะได้มีโอกาสจัดแจงแผนด้วยตัวเองหรือไม่ หากว่าเขาได้รับโอกาสคุมทีมชุดใหญ่จริง ?

---------------------------------------------------------------------------

เกล็น ฮ็อดเดิ้ล

สัญชาติ : อังกฤษ อายุ : 58 ปี

ตำแหน่งปัจจุบัน : นักวิเคราะห์เกมการแข่งขัน




ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องการดวลจุดโทษกับอาร์เจนติน่าและการให้สัมภาษณ์ของเขาหลังจากนั้นกับการไปพาดพิงเกี่ยวกับคนพิการแล้วล่ะก็ บางทีเราอาจจะได้พูดถึงเขาในแง่ที่พาทีมชาติอังกฤษบินสูงมากเพียงใดในเกมระดับชาติแล้วก็ได้

ฮ็อดเดิ้ลถือว่าเป็นหนึ่งในกุนซือทีมชาติอังกฤษที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนนึงในแง่ของผลงาน แต่เขากลับทำให้ตัวเองต้องตกที่นั่งลำบาก หลังจากไปให้สัมภาษณ์กับสื่อในเรื่องของคนพิการว่าเป็นกรรมแต่ชาติปางก่อนทำให้ต้องมาทนทุกข์ในชาตินี้ จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต จนสุดท้ายเจ้าตัวต้องลาออกไปในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 1999

ภายหลังจากเขาออกจากตำแหน่งกุนซือเมื่อครั้งนั้น เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ ถ้าผมถูกขอให้คุยกับเอฟเอ คำตอบของผมคงจะเป็น ‘ไม่ว่าชนชาวอังกฤษคนใดก็คงหวังที่จะได้พูดคุยเกี่ยวกับโอกาสอันแสนภาคภูมิใจของตน’ ผมพร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอและรับฟังสิ่งที่เอฟเอพูดเสมอ”

การเตรียมทีม : ฮ็อดเดิ้ลชอบที่จะเข้าไปร่วมซ้อมอยู่เสมอ โดยมีบางคนแอบกระซิบมาว่านั่นเป็นเพราะเขาอยากโชว์ของว่าตัวเองยังเจ๋งอยู่นั่นเอง !

นอกจากนั้นยังมีการเปิดเผยถึงความเชื่อแปลกๆของฮ็อดเดิ้ล โดยก่อนเกมกับอาร์เจนติน่าในฟุตบอลโลก 1998 รอบ 16 ทีมสุดท้ายกับอาร์เจนติน่านั้นเขาได้สั่งให้สต๊าฟโค้ชในทีมเดินทวนเข็มนาฬิการอบสนามเพื่อเพิ่มพลังให้กับทีม รวมทั้งการให้นักเตะในทีมเอามือแตะที่บริเวณเหนือหัวใจก่อนลงสนามอีกด้วย

แผนการเล่น : ในการให้สัมภาษณ์กับทาง ESPN หลังจากที่อังกฤษกระเด็นตกรอบ ยูโร 2012 นั้น ฮ็อดเดิ้ลกล่าวว่าเขาชื่นชอบที่จะให้มิดฟิลด์ไล่บอลสูงตรงกลางสนาม

ส่วนมิดฟิลด์ตัวรุกนั้นเขาชอบที่จะให้เก็บบอลเอาไว้กับตัวมากกว่าการจ่ายจากแนวลึกเพื่อเข้าไปยังพื้นที่สุดท้าย นอกจากนั้นแล้วเขายังชื่นชอบการใช้ระบบ สวีปเปอร์ อีกด้วย ซึ่งเคยลองใช้เจมี่ เร้ดแนปป์ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ในตำแหน่งตัวรับมาแล้ว

แล้วแบบนี้เขาจะมีนักเตะที่เหมาะสมกับปรัชญาการทำทีมของเขาในทีมชาติอังกฤษชุดนี้ไหมนะ ?

สถิติ : ฮ็อดเดิ้ลเก็บชัยชนะในการทีมทัพ “สิงโตคำราม” ได้คิดเป็น 60.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุดรองจากฟาบิโอ คาเปลโล่และเซอร์ อาล์ฟ แรมซี่ย์เลยทีเดียว

---------------------------------------------------------------------------

เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์

สัญชาติ : เยอรมัน อายุ : 52 ปี

ตำแหน่งปัจจุบัน : ผู้จัดการทีมชาติสหรัฐ อเมริกา




อดีตนักเตะพรีเมียร์ ลีกผู้ซึ่งเคยคว้าแชมป์โลกมาแล้วและก็ยังเป็นอดีตกุนซือของทีมชาติเยอรมันอีกด้วย เรียกได้เลยว่าโปรไฟล์ของคลิ้นส์มันน์นั้นมาเต็มจริงๆ

การเตรียมทีม : ในการให้สัมภาษณ์กับ BBC เมื่อ ปี 2009 ตอนที่เขาคุมทีมบาเยิร์น มิวนิคอยู่นั้น คลิ้นส์มันน์นำเสนอแผนการแบบ “องค์รวม” หรือจะให้พูดกันง่ายๆก็คือการจัดการทุกอย่างตั้งแต่รากฐานของระบบจนกระทั่งถึงยอดสุดในการเตรียมทีม แม้ว่าเจ้าตัวจะไปได้ไม่สวยเท่าไหร่นักกับทาง “เสือใต้” ก็ตาม

โดยเขานำเอาแผนดังกล่าวมาใช้กับทางทีมชาติอเมริกา โดยรวมลัพธ์ที่ออกมาก็คละเคล้ากันไป แต่นอกจากนั้นเขายังพยายามที่จะสร้างพื้นฐานอันมั่นคงให้กับอนาคตของชาติด้วยการพัฒนาผู้เล่นตั้งแต่ระบบเยาวชนอีกด้วย

ภายใต้การทำทีมของคลิ้นส์มันน์ ทีม “ลุงแซม” ทะลุเข้าถึงรอบน็อคเอ๊าท์ฟุตบอลโลก ปี 2014 และในปี 2016 พาทีมเข้าไปเล่นในรอบ 4 ทีมสุดท้ายโคปา อเมริกาอีกด้วย

แผนการเล่น : คลิ้นส์มันน์นั้นค่อนข้างจะถูกวิจารณ์ในแง่ของการวางแท็คติกที่ไม่ได้มีความซับซ้อนหรือพิเศษมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการให้สัมภาษณ์ของฟิลิปป์ ลาห์มอดีตฟูลแบ็คของทัพ “อินทรีย์เหล็ก” เมื่อ ปี 2011

“การลองร่วมงานกับคลิ้นส์มันน์ของพวกเรานั้นถือเป็นความล้มเหลว พวกเราแค่ฝึกในเรื่องของการฟิตเนสเทรนนิ่ง เขาไม่ค่อยแคร์เรื่องการวางแท็คติกการเล่นสักเท่าไหร่ มันอยู่ที่ว่านักเตะจะมาคุยกันก่อนเกมแล้วตกลงกันว่าจะเอายังไงมากกว่า”

สถิติ : คลิ้นส์มันน์พาทีมชนะคิดเป็น 57 เปอร์เซ็นต์ในการคุมทีมสหรัฐ อเมริกา

---------------------------------------------------------------------------

อลัน เชียร์เรอร์

สัญชาติ : อังกฤษ อายุ : 46 ปี

ตำแหน่งปัจจุบัน : นักวิเคราะห์เกมการแข่งขัน




อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษได้เปิดเผยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า เขาเคยติดต่อไปยังเอฟเอเมื่อสัก 4-5 ปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าต้องการที่จะรับงานคุมทีมชาติอังกฤษ แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า ประสบการณ์ของเขายังน้อยนิดเกินไป

สถิติ : เชียร์เรอร์ได้มีโอกาสคุมทีมเพียงแค่ 8 เกมเท่านั้นและพ่ายไปถึง 5 จากจำนวนดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นที่นิวคาสเซิ่ลโดยเขาไม่สามารถช่วยให้อดีตต้นสังกัดของตนรอดพ้นจากการตกชั้นไปเล่นในแชมป์เปี้ยนชิพเมื่อฤดูกาล 2008-2009 นั่นเอง

---------------------------------------------------------------------------

อาร์แซน เวนเกอร์

สัญาชาติ : ฝรั่งเศส อายุ : 66 ปี

ตำแหน่งปัจจุบัน : ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล




กุนซือวัย 66 ปีถือว่าเป็นอีกคนนึงที่ตกเป็นข่าวกับทีมชาติอังกฤษมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงหลังที่เจ้าตัวทำท่าว่าจะพาทีมร้างความสำเร็จเนิ่นนานกว่าที่แฟนบอลจะรอได้และอาจจะทำให้เขาพร้อมพิจารณาข้อเสนอนี้ หากเพียงแต่มันจะต้องเกิดขึ้นหลังจากสัญญาของเขากับต้นสังกัดหมดลงในซัมเมอร์ปีหน้า

สถิติ : แชมป์พรีเมียร์ ลีก 3 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 6 สมัยและการเข้าไปเล่นในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้ติดต่อกันถึง 19 ครั้งนั้นเป็นเครื่องการันตีคุณภาพในการคุมทีมของเวนเกอร์ได้เป็นอย่างดี เขาคือตัวเลือกที่มีสถิติดีที่สุดในบรรดาตัวเลือกที่กล่าวมาทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย

การเตรียมทีม : กุนซือชาวเฟร้นช์แมนมักจะโดนวิจารณ์ในเรื่องของการซ้อมที่เป็นผลทำให้มีนักเตะอาร์เซนอลหลายคนบาดเจ็บ แต่อย่างไรก็ตามจากสถิติในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกของ “ปืนใหญ่” เผยตัวเลขจำนวนนักเตะบาดเจ็บที่น้อยกว่าของทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“ไอเดียในการซ้อมนั้นก็เหมือนกับการแข่งขันจริงหรือบางทีอาจจะเข้มข้นกว่า” เวนเกอร์เผยเมื่อปี 2015

“แต่บางวันคุณก็ต้องรีแล็กซ์กับทุกสิ่งและพักบ้าง เพราะคุณจำเป็นต้องฟื้นฟูร่างกายตัวเองหลังเกม แต่โดยปกติแล้วคุณต้องให้นักเตะได้ลงซ้อมในสภาพเดียวกันกับที่พวกเขาจะได้เจอในการแข่งขันจริง”

แท็คติก : แน่นอนว่าต้องเป็นการครองบอลที่ลื่นไหล การจ่ายทะลุช่อง สอดรับ-ส่งถึงกันได้เหมือนอย่างที่อาร์เซนอลทำ คำถามก็คือนักเตะอังกฤษมีความสามารถถึงขั้นที่เวนเกอร์ต้องการหรือไม่ต่างหาก ?

ความสัมพันธ์และการจัดการกับนักเตะ : ในการให้สัมภาษณ์ถาม-ตอบที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2013 นี่คือสิ่งที่เวนเกอร์เผยกับสื่อถึงวิธีการที่เขารับมือกับบรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์

“คุณแน่ใจก่อนว่านักเตะคนนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นสุดยอดสตาร์มาจากไหน พร้อมที่จะรับฟังในสิ่งที่คุณพูดและตัวเขาเองจำเป็นต้องรู้ มันเป็นสภาพการณ์ที่เขาต้องรู้ว่าคุณจะสามารถเข้าถึงในสิ่งที่เขาต้องการเพื่อเป็นการทดสอบขั้นแรกของตัวคุณเองได้หรือไม่ว่า ผู้จัดการทีมคนนี้จะสามารถทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่เขาอยากเป็นได้หรือไม่”

นั่นคือตัวเลือกทั้งหมดที่มีในลิสต์ของ BBC ในขณะนี้ ซึ่งถือว่ามีความเป็นไปได้ทั้งมากและน้อยในขณะนี้ ว่าแต่ท่านผู้อ่านคิดว่าใครล่ะครับที่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะพาทีมชาติอังกฤษบินสูงได้อย่างใจกับเขาจริงๆเสียที ?



------------------------------------------------------------------------------


ปล.ผมแปลคอลัมน์นี้ในแง่ของแคนดิเดตและข้อมูลมาจากเว็บไซต์ BBC นะครับ ก่อนจะเสริมเติมแต่งตามสไตล์ หวังว่าทุกท่านจะชอบ ขอบคุณครับ
เข้าร่วม: 14 Sep 2010
ตอบ: 5859
ที่อยู่: แคร์ริงตัน
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 4:18 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
แปลกมากที่ไม่มีคนพูดถึง แฮรี่ เรดเแนป

ผมว่าแกเก่งสุดละในหมู่กุนซืออิงลิส
เข้าร่วม: 08 Jun 2007
ตอบ: 4278
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 4:34 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
ผมว่าถึงจุดนี้ อังกฤษต้องใช้ ผจก ต่างชาติละล่ะ

เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 1449
ที่อยู่: liverpool football club, anfield road, liverpool L4 0TH
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 4:43 pm
“บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?
ลิสต์ด้านบน มีเพียง "ฉลามล้อคลื่น" เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ กับเวนเกอร์ดูดีสุดละ
0
0
YES! i've been the kop since 1987.
เข้าร่วม: 22 Jan 2011
ตอบ: 1431
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 4:46 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
สนับสนุนแฮรี่
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2542
ที่อยู่: Geneva, Switzerland
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 4:49 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
McDalglish168 พิมพ์ว่า:
ลิสต์ด้านบน มีเพียง "ฉลามล้อคลื่น" เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ กับเวนเกอร์ดูดีสุดละ  


ถ้าคลินชี่ มาผมเชียร์เต็มที่เลยย ทำเมกา ไม่มีอะไรให้น่ากลัวได้ อังกฤษน่าสนใจเลย

แต่ถ้าเจ้มาจริงๆ ผมก็เชียร์นะะะะ
I'm much more me when I'm with you

YNWA
เข้าร่วม: 08 Jul 2008
ตอบ: 1090
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 4:50 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
อยากได้ ฮาว หรือไม่ก็ ฉลามขาว
0
0
เข้าร่วม: 10 Dec 2006
ตอบ: 4128
ที่อยู่: เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 5:02 pm
[RE]“บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?
เทอรี่ เวนาเบิ้ล
0
0
อาร์เซนอลเข้าสายเลือด ไม่ว่าสำเร็จรึล้มเหลว...
เข้าร่วม: 22 Nov 2009
ตอบ: 2836
ที่อยู่: OPZ .. FM-Thai
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 5:14 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
ฟาน กัล ไหมละ เสียดายไม่มีในลิสต์
0
0
เข้าร่วม: 06 Jan 2015
ตอบ: 25371
ที่อยู่: AOMG & H1GHR MUSIC
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 5:15 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
เจอร์เก้น เท่านั้น เราจะเอาเจอร์เก้น
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 98
ที่อยู่: Khon Kaen and Kungtep
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 5:18 pm
[RE]“บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?
McDalglish168 พิมพ์ว่า:
ลิสต์ด้านบน มีเพียง "ฉลามล้อคลื่น" เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ กับเวนเกอร์ดูดีสุดละ  

"ฉลามล้อมคลื่น" นี้รู้สึกจะเป็นฉายา ของ คาร์ล-ไฮนซ์ รีด เล่ นะครับ ส่วนเจอเก้น คลินซ์มัน นี้ "ฉลามขาว" ครับ
I'm a Structure Engineer
Design a Building,
Earthquake Building Resistant or ETC
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 494
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 5:55 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
แฮรี่ เรดเแนป เลยครับ
0
0
เข้าร่วม: 20 Oct 2008
ตอบ: 264
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 29, 2016 8:32 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
แฮรี่ เรดเนป ดีสุดในบรรดากุนซืออังกฤษตอนนี้
0
0
เข้าร่วม: 09 Jun 2009
ตอบ: 1551
ที่อยู่: https://www.facebook.com/amornpod.hantragool
โพสเมื่อ: Fri Sep 30, 2016 1:22 am
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
ถ้าสัญชาติก็ เรดแนปเถอะครับ หรือถ้าขนาดบิ๊กแซม ยังแต่งตั้งได้ ให้โอกาส ฮาว เลยก็ดีนะ

จะเปลี่ยนเป็นนอกประเทศ เวนเกอร์ก็เหมาะสม ผมว่าเวนเกอร์จะพาทีมไปเตะบอลโลก กับบอลยุโรปได้สบายๆ แต่ถ้าอยากประสบความสำเร็จในรายการใหญ่ๆหรือได้เข้ารอบลึกๆ
คลินส์มัน นี่แหละคือคำตอบ
0
0
เข้าร่วม: 09 Oct 2005
ตอบ: 11406
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 30, 2016 2:29 am
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
ผมไม่คิดว่าแฮรี่จะดีหรอกครับ ดีไม่ดีก็เหมือนพวกทั่วไป คือทำได้ไม่ดีเด๋วก็ด่าไปเรื่อย ขนาดเขาไม่ได้คุมยังทำเลย
เครดิตอยู่ที่ทำทีมพวกหนีตกชั้น ซึ่งมีทั้งเคยทำกับทำไม่ได้แล้วซื้อตัวมาเพียบ ทิ้งให้ปอร์ทสมัธเป็นงี้
กับสเปอร์ ซึ่งก็แล้วแต่มุมมองตามเครดิต
ยอมเสี่ยงกับพวกแนวรับแล้วโต้ดีๆกับทีมใหญ่ๆดีกว่า เพราะเกมทีมชาติผลนัดเดียวมันก็ต้องควรโฟกัสกันแบบนี้
0
0
เข้าร่วม: 30 Aug 2006
ตอบ: 3
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 30, 2016 7:36 am
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
แฮรี่ เร้ดแนปไม่ถูกกับบอร์ด FA ครับ ไม้เบื่อไม้เมากัน น่าจะอด
0
0
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 69
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 30, 2016 9:05 am
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
แฮรี่ เรดแน้ป มีปัญหาอะไรกับเอฟเอหรือป่าวคับ? ทำไมไม่มีชือแกเลย ผมว่าแกเป็นคนอังกฤษที่ฝีมือดีที่สุดเท่าทีหาได้ตอนนี้แล้วนะ อายุถึงจะมากไปหน่อยแต่ก็ทำให้คุมลูกทีมได้อยู่ ประวัติก็ไม่ได้แย่เลย
0
0
เข้าร่วม: 04 Oct 2010
ตอบ: 7847
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 30, 2016 10:47 am
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
ผมเชียร์ อาเซน เเวนเกอร์ครับ
0
0


เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 4791
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 03, 2016 5:31 pm
[RE: “บิ๊กแซม” ชะตาขาด แล้วใครจะกุมบังเหียนทัพสิงโตคำราม ?]
ใครก็ตาม ผมว่าสื่ออังกฤษแหละ ควรจะหยุดแฉอะไรไม่เข้าเรื่องทำลายชื่อเสียงทีมชาติตัวเองซะก่อนเถอะ ที่อ่านมาบางเรื่องก็นานมากเหลือเกิน แต่ถ้ามันเสื่อมจริงก็เอาเถอะครับ
0
0