[RE: ที่มาของว่าที่เมสซี่แห่ง Bangkok FC]
BlaCKWarrioR พิมพ์ว่า:
jojoyim พิมพ์ว่า:
สวนป่าเขาชะอาง ยังไม่ได้ผูกกับที่ไหนครับ
ป้อนมาเรื่อยที่ไหนสนใจก็ดึงไปครับ
ตอนนี้ก็มีที่เล่นให้ ฉะเชิงเทรา 2หรือ3ตัวหรือไม่แน่ใจ
มีติดทีมชาติ U14 ไป2ตัว
จริงๆ ร.ร.สวนป่าเขาชะอาง มาแรงซักพักแล้วในวงการบอลเด็ก
อีกทีมในชลบุรีที่กำลังมาแรงเหมือนกัน ก็ ร.ร.สุรศักดิ์วิทยาคม ของพัฒนาFC
แล้วก็ พลูตาหลวง ได้ ราชนาวีมาสนับสนุนให้
ยังมีอีกทีมที่เด็กทำผลงานดีๆรายการใหญ่ก็พอได้มาตลอด ก็ ประเทืองทิพนี้ละ
แต่จะโดนมองข้ามมาตลอด
สมัยนี้ฟุตบอลกำลังบูม ร.ร.ต่างๆ ก้เริ่มมาทำฟุตบอลกันเยอะแล้ว
ร.ร.ที่สนับสนุนจริงๆจังก็มีผลงานให้เห็นตลอดเป็นผลดีกับเด็กได้พัฒนาเรื่อยๆ
ร.ร.ใหม่ๆที่ผมคิดว่าในอนาคตจะดีๆแน่ถ้าร.ร.ทำต่อไป ก็มี
ร.ร.สุริยวงศ์ ได้โค้ชดี อย่าง อ.สุวิทย์ มาเป็นโค้ช ร.ร.ผาณิตวิทยา
ผมก็คิดอยู่ว่าโรงเรียนอะไรเนี่ย ทำไมมันเก่งจิง ติดทีมชาติก็มี
ประเทืองทิพย์ ผมคิดว่าผูกกับโอสถซะอีก
ส่วนใหญ่ โรงเรียนพวกนี้ พัฒนาไปในทางที่ถูกต้องมั้ยครับเนี่ย
พอแข่งกับระดับเอเชียจริงๆ ทำไมยังสู้เขาไม่ค่อยจะได้เลย
ประเทืองทิพเมื่อก่อนร่วมกับโอสถครับ ตอนนี้ไมไ่ด้ทำร่วมกันละครับ
ประเทืองทิพบอลยูสลีคน่าจะใช้เกร็กคูลูกทัพฟ้ามั้งถ้าผมจำไม่ผิดนะ
ส่วนโอสถตอนนี้คัดเด็กมาส่งแข่งเอง
เรื่องพัฒนา ต้องแบ่งเป็น2อย่างครับ 1.เรื่องทักษะฟุตบอลต่างๆ 2.เรื่องสมรรถภาพทางกาย
1.เรื่องทักษะต่างๆของฟุตบอล มันก็จะมีแต่ ร.ร.ใหญ่ๆ ร.ร.ที่มีงบในการทำทีม
ซึ่ง ร.ร.พวกนี้ โค้ช ทีมงานมีครบ โค้ชผ่านการฝึกอบรมต่างๆมา พัฒนาการของเด็กก็ดีตาม
ซึ่งก็เท่าๆที่เห็นกันละครับ มันก็มีไม่กี่ ร.ร.ในตอนนี้เด็กเก่งๆมันเลยไปกระจุกอยู่ไม่กี่ ร.ร.
ส่วน ร.ร.ที่มีงบจำกัดไม่เยอะมาก ก็ใช้โค้ชทีมงานที่เป็นอดีตนักฟุตบอลบ้าง พอมีโปรไฟล์
ในการเล่นบอลอาชีพ แต่ทีมงานฝึกสอนต่างอาจจะไม่เยอะเท่า ร.ร.ใหญ่ๆ
ส่วน ร.ร.ที่มีงบน้อยหน่อยก็ใช้ ครูใน ร.ร.กันไปก็มี เยอะแยะ
แล้วเรื่องการฝึกซ้อม บางร.ร. ไม่มีสนามซ้อมก็ต้องไป ขอซ้อมตามสนามต่างๆกันไป
2.เรื่องสมรรถภาพทางกาย เรื่องนี้ละสำคัญเลย ร.ร.ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆที่ช่วยส่งเสิรมร่างกายต่างๆ
มันมีไม่กี่ ร.ร.ที่จะมีพวกห้องฟิตเนส หรืออุปกรณ์ออกกำลังกายที่ครบครันให้ออกกำลังกายส้รางกร้ามเนื้อได้
ก็ต้องออกกำลังกายกันไปตามเท่าที่มีอุปกรณ์กันไป เรื่องนี้จะเห็นกันชัดๆเวลามีแข่งเลยว่าเด็กอายุเท่ากัน
แต่ ร.ร.ที่มีงบพอที่จะสนับสนุนเรื่องนี้เด็กมันจะตัวใหญ่กว่า รุ่นเดียวกันแบบเห็นได้ชัดเลยครับ
ในความคิดผมผมอยากให้ กรมพละจับมือกับสมาคมฟุตบอลเลย ร.ร.ที่จะส่งแข่งขันพวกรายที่กรมพละรับรองหรือที่สมาคมรับรอง
ต้องมีใบรับรองการฝึกอมรมต่างๆมา ถ้าไม่มีก็ให้สมาคมหรือกรมพละจัดอบรมไปเลย มันจะได้ช่วยกันพัฒนาตั้งแต่ระดับผู้ฝึกสอน
ผู้ฝึกสอนมีความรู้ต่างๆก็ได้ช่วยไปพัฒนาเด็กได้ถูกต้อง
แล้วรายการแข่งขันสำหรับ ร.ร.เล็กที่จะได้พัฒนาเด็กผมว่ามันมีน้อยเกินไป บาง ร.ร.ส่งถ้วย ค ข
ถ้าตกรอบแรกแล้วก็แข่งไปแค่ 2-3 นัด รายการอื่นถ้าใน ต่างจังหวัดมันก็มีไม่เยอะเท่าใน กทม
ผมละอยากให้ บอลยูสลีคเนี้ยมันควบรวมกับ พวกบอลกรมพละไปเลย
แข่งกันแบบเก็บคะแนนถ้วย ก.ไปเลย ถ้วย ค.ทีมเยอะใครจะส่งก็มาเริ่มถ้วย ค.
ถ้วย ค ก็แบ่งกันไป แต่ละภาค เก็บคะแนน ภาคใต้ อีสาน ออกตก ว่ากันไป
ละเอาแชมป์กับรองแชมป์กลุ่ม มาแข่งน็อคเอ้า ร.ร. เล็กๆจะได้มีแมทแข่งที่มากขึ้น
ได้พัฒนาเด็กไปด้วย ไม่งั้นปีนึงแข่งกันไม่กี่แมตมันก็พัฒนายากนะผมว่า
เพราะบอลยูสลีคเอาเท่าที่ผมตามมาเลยนะ บางทีมยังใช้อคาเดมี่ข้างนอกมาแข่งในนามทีมตัวเอง
บางทีมก็ซ้อมกันเสาอาทิตย์ เพราะวันปกติเด็กอยู่คนละ ร.ร.กัน
บางคนก็แทบไมไ่ด้ซ้อมไปแข่งอย่างเดียว เพระา เรียน ร.ร.นึงแต่ทีมที่เล่นให้อยู่จังหวัดไกลๆ ซ้อมกันแค่2-3วันมันก็เกิดการพัฒนายาก ผมว่ายูสลีคมันยังไม่ใช้คำตอบที่ตรงเป้า
เพราะน้องที่ผมรู้จัก เรียน ร.ร.ในกทม แต่ไปเล่นยูสลีคให้ทีมในโซนเหนือทีมนึง
ผมก็ยังงงเรียน 5วันแข่งเสาทิตย์มันซ้อมกันตอนไหนเพราะมันไปเล่นให้ที่นั้นแค่2คน
เด็กคนอื่นก็มารวมๆกัน คืองงเลย 555
ผมก็ลองคิดเล่นๆ ถ้าสมาคมร่วมมือกับกรมพละละละมีลีค ก ข ค แบบที่ผมบอกด้านบน
ก็คงดีเพราะ สโมสรที่อยากส่งไม่มีอคาเดมี่ก็ต้องไปร่วมมือกับ เวลาส่งก็ส่งในนาม ร.ร
แล้ววงเล็บชื่อสโมสรกันไป ถ้า ร.ร.ไม่มีสโมสร ก็ส่งในนาม ร.ร.แข่งกันไป เพราะ
ฟุตบอลเด็กในไทย มันเริ่มมากจากระดับโรงเรียน
ผมเพลินเลย ยาวเลยท่าน 5555
จริงๆมันมีอีกเยอะ เรื่องบอลเด็กแต่แค่นี้ก็ยาวละ
U16 ผมไม่แปลกใจหลอกกับทัวนาเม้นนี้ 5555