[/url]

...ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเชื่อว่าบรรดาแฟนผีใจ
หายไม่ทั่วท้อง ตุ๊มๆ ต่อมๆ เป็นว่าเล่นแน่นอนการรอ
เจอกับ "แชมป์เก่า" เลสเตอร์

...ผลงานก่อนหน้านี้ที่แพ้ 3 เกมรวดทุกรายการในรอบ
สัปดาห์ก่อนมาเอาชนะ นอร์ธแฮมป์ตัน ทีมจากลีก วัน
ในบอลถ้วยต้องถือว่าไม่โสภา และค่อนข้างน่าเป็นห่วง

...ผมเห็นด้วยกับที่หลายๆ คนบอกว่า การเจอกับ เล
สเตอร์ ในสุดสัปดาห์นี้ไม่สำคัญว่าจะชนะยังไง แต่มัน
"ต้อง" ชนะไว้ก่อนเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา

...กระนั้นเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมันเป็นชัยชนะที่
ได้มาพร้อมกับรูปแบบการเล่นที่หวือหวาเร้าใจโดย
เฉพาะในช่วง 45 นาทีแรก

...เป็นไปอย่างที่หลายคนเรียกร้อง ทั้งฟอร์มการเล่น
และสถิติต่างๆ ที่ฟ้องชัดเจน กัปตันสามแสนไม่ควรมี
ชื่ออยู่ใน 11 ตัวแรก เพราะเขาคือ "ตัวถ่วง" อย่างไม่
ต้องสงสัย

...อย่างไรก็ตามจากทีมชีทที่ออกผม ผมค่อนข้างแอบ
เป็นห่วงแม้จะไม่มีชื่อของ รูนี่ย์ แต่กองกลาง 2 คนกลับ
กลายเป็น ป๊อกบา คู่กับ เอร์เรร่า ซึ่งไม่มีใครเป็นตัวรับ
สักราย

...แม้จะเปิดตัวได้ตามจังหวะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปๆ
"ฟุตบอลที่ไม่มีรูนี่ย์" เริ่มค่อยๆ เผยโฉมหน้ามันออกมา
เรื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน "พื้นที่สุดท้าย"

...ไม่มีการชะลอเกม ไม่มีการขวางสนาม ไม่มีการวิ่ง
ทับตำแหน่งพื้นที่กันให้มั่วทั้งตรงกลาง และแนวรุก

...เพราะนั่นไม่มี รูนี่ย์ อีกแล้ว

...ส่วน เลสเตอร์ ก็ต้องรับชะตากรรมที่มันเป็นวันซวยๆ
วันหนึ่งของพวกเขากับการที่พลาดโดย 3 ประตูติดๆ
ในช่วงเวลาไม่กี่นาที และนั่นแทบปิดประตูที่จะกลับมา
ทันที

...เกมนี้ทั้ง ป๊อกบา กับ เอร์เรร่า ถอยมาคุมจังหวะเกม
ของตัวเองในระนาบเดียวกัน ซึ่งก็ทำได้ดีทีเดียว เพราะ
ทั้งคู่ให้บอลง่ายมากขึ้น และที่สำคัญออกบอลเร็ว โดย
เฉพาะ ป็อกบา ที่โดนวิจารณ์พอสมควร

...แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นที่ทำให้เกมสมดุล เพราะทั้งคู่ไม่ได้
โดดเดี่ยวตรงกลางสนาม เนื่องจากทั้ง 4 แนวรุกสลับ
หน้ากันถอยลงมาต่ำเพื่อเล่นเกมด้วยกัน

...ในภาษาโค้ช ผมเรียกสิ่งนี้ว่า "Group Tactic" ครับ
...นั่นคือการเล่นเกมแบบเป็นกลุ่มเล็ก ไปไหนไปด้วย
ไปด้วยกัน ไม่ได้มีทางเลือกแค่ 2 แต่มันมากถึง 4 ทาง
เลือกด้วยซ้ำในแต่ละช็อต

...ยิ่งกับ มาต้า สถิติ Opta หลังเกมออกมาว่า เขาคือนัก
เตะที่วิ่งมากที่สุดในสนามทั้งๆ ที่ออกก่อนเกมจบด้วย
ซ้ำที่ 11 กิโลเมตรเต็มๆ

...ในเกมรุกถ้ามองการยืนเราจะเห็นว่า แรชฟอร์ด ยืนขวา
มาต้า ยืนตำแหน่งหมายเลข 10 ลินการ์ด ยืนด้านซ้าย
โดยมี ซลาตัน ยืนเป็นหน้าเป้า

...แต่ทุกครั้งที่ เอร์เรร่า หรือ ป๊อกบา ได้บอล จะมีอย่าง
น้อยๆ 2 คนที่เข้ามาร่วมวงเล่นด้วย และทั้ง 4 แนวรุกไม่
มีใครยืนตายตัว

...หลายจังหวะเราเห็น ซลาตัน ดึงตัวเองลงมาต่ำ เพื่อ
เล่นกับ ป๊อกบา โดยมี มาต้า ถ่างออกไป ขณะที่ แร
ชฟอร์ด ขยับเข้ามายืนตัวเป้าแทน

...บางจังหวะเราเห็นทั้ง แรชฟอร์ด ซลาตัน และป๊อกบา
เล่นด้วยกัน โดยมี ลินการ์ด ขยับขึ้นไปสูงแทน ทั้งหมด
เกิดขึ้นจากความเข้าใจเกม และการซ้อมร่วมกัน รวมถึง
สิ่งที่เรียกว่า "เซนส์บอล"

...มาต้า เล่นบอลง่าย เห็นแล้วให้ๆ เช่นเดียวกับ ซลาตัน
ขณะที่ ลินการ์ด ก็เล่นเป็นทีม และรอจังหวะที่จะทำเอง
ส่วน แรชฟอร์ด ก็อยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ

...ประตูที่ 2 จาก มาต้า เป็นการบ่งบอกคำตอบของรูป
แบบการเล่นได้ดีที่สุด

...จังหวะนั้นไม่ใช่ เลสเตอร์ ยืนกันไม่ดีนะครับ ยืนดีแล้ว
โซนเต็มพื้นที่ แต่การ "เข้าทำเร็ว" ของ ยูไนเต็ด ทำให้
ตัวที่ต้องวิ่งตาม มาต้า เผลอไปแค่เสี้ยววินาที

...ยิ่งกับจังหวะหนึ่งในช่วงท้ายครึ่งแรก ถ้าใครยังจำกัน
ได้ ซลาตัน หนีออกไปเล่นด้านซ้ายอยู่ท่ามกลางวงล้อม
นักเตะเลสเตอร์ โดยมีเพื่อนร่วมทีม ยูไนเต็ด อีก 4 คน
รอบล้อมเค้าเพื่อเล่นด้วยกัน

...นี่ไงครับ ! การยืนตำแหน่ง และเคลื่อนไหวแบบง่ายๆ
ที่ผมพยายามพูดถึงมาตลอดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล

...แทบไม่ต้องไปดูสถิติด้วยซ้ำ เพราะผมเชื่อว่า 45 นาที
แรก คือ 45 นาทีที่นักเตะของ ยูไนเต็ด วิ่งมากกว่าทุก
เกมนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลแน่นอน

...แถมบางช่วง บางเวลาของเกม มีการเข้าเพรสซิ่งเป็น
ระยะๆ อีกด้วย ซึ่งนั้นแปรผกผันมาจากความหื่น
กระหายในการเล่น การอยากแก้ตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟน
บอลทุกคนอยากเห็นนักเตะตอบสนองแบบนี้ออกมา

...ทุกคนวิ่งเข้าหาบอล ทุกคนวิ่งเข้าใส่ ไม่มียืนรอบอล
จังหวะเล่นก็เล่นกันง่ายๆ พอถึงพื้นที่เข้าทำก็อาศัย
ความรวดเร็ว ผิดกับที่เล่นมาตลอด 3-4 เกมหลังสุดโดย
สิ้นเชิง

...นอกจากนี้การไม่มี รูนี่ย์ ตรงตำแหน่งหมายเลข 10
เปิดโอกาสให้ ซลาตัน ได้ยืนใกล้ๆ ป๊อกบา มากขึ้น เปิด
โอกาสให้ มาต้า ที่เล่นบอลง่ายๆ ได้โชว์ฟอร์ม นั่นทำให้
เกมไหลลื่นทีเดียว

...เหนือสิ่งอื่นใด มันช่วยเค้นศักยภาพของ ป๊อกบา ออก
มาเช่นเดียวกับนักเตะรายอื่นๆ เพราะไม่มี "ลูกเกรงใจ"
ต่อกัปตันอีกแล้ว

...อย่างที่ผมเคยว่าไว้ด้วยสไตล์ ป๊อกบา กับ รูนี่ย์ ต้อง
เลือกเพียงคนเดียวเท่านั้น และต้องเป็น ป๊อกบา !!!

...ศูนย์กลางของเกมแดนหน้า คือ ซลาตัน เช่นเดียวกับ
ศูนย์กลางตรงกลางสนาม คือ ป๊อกบา แค่นี้ก็เพียงพอ
แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องมีนักเตะที่หมดสภาพมาเป็นตัว
เชื่อม

...ตลอดมา รูนี่ย์ เป็นนักเตะที่ไม่ได้มีเทคนิคแพรวพราว
มากมายอยู่แล้ว ไม่ได้มีความเร็วความคล่องตัวในพื้นที่
แคบๆ ที่สำคัญเป็นนักเตะที่ให้บอลช้า เล่นบอลจังหวะ
เดียวไม่เป็น

...นั่นหมายความว่า ถ้า 45 นาทีแรก คือ รูปแบบการเล่นที่
มูรินโญ่ จะใช้นับตั้งแต่บัดนี้ รูนี่ย์ ไม่มีความสามารถพอ
ที่จะเล่นให้เข้าระบบได้อย่างแน่นอน

...แหม่ ! เห็นการเล่นในช่วง 45 นาทีแรกแล้ว มคิทาร์ยาน
คงรู้สึกคันง่ามเท้าเป็นแน่แท้ เพราะนี่คือฟุตบอลที่ มคิ
ทาร์ยาน เคยเล่นมาที่ ดอร์ทมุนด์

...ส่วนครึ่งหลัง แทบไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะถ้าคุณจบ
ครึ่งแรกด้วยสกอร์ที่ตามหลัง 4 ลูก แถมถอด 2 คีย์แมน
อย่าง มาห์เรซ กับ วาร์ดี้ ออกจากสนาม นั่นหมายความว่า
รานิเอรี่ ยอมแล้ว

..ที่เหลือคือทำให้ดีที่สุดเท่านั้น เช่นเดียวกับ มูรินโญ่ ที่
เน้นปลอดภัย และผ่อนเกมตั้งแต่ออกสตาร์ตครึ่งหลัง

...สิ่งดีๆ อีกสิ่งหนึ่งที่เราเห็นจากการไม่มี รูนี่ย์ คือ ลูก
เซ็ตพีซ อย่างเตะมุม หรือ ฟรีคิก ที่เห็นๆ โดยไม่ต้องมา
นั่งวิเคราะห์ว่า บลินด์ กับ มาต้า เล่นได้อันตรายกว่า รูนี่ย์

...ทุกอย่างดูเหมือนสวยงามหมดเมื่อไม่มี รูนี่ย์...

...อย่างไรก็ตามนักเตะอย่าง รูนี่ย์ ยังคงมีประโยชน์อยู่ใน
แง่ของประสบการณ์ เพียงแต่ไม่ใช่ในชั่วโมงนี้ ที่ทีมซึ่ง
ไม่มีเขา สามารถไปด้วยกันได้ดีกว่า

...สิ่งที่ รูนี่ย์ ต้องทำคือ อดทน ก้มหน้าก้มตาซ้อม เรียก
ความมั่นใจ และความกระหายกลับมาอีกครั้งให้ได้
รวมถึงรอเวลาของตนเอง

...ไรอัน กิ๊กส์ กับ พอล สโคลส์ ในช่วงท้ายอาชีพก็เป็น
ตัวสำรองจำได้มั๊ย ? และเมื่อถึงเวลาที่ทีมต้องการทั้งคู่ก็
เป็นมืออาชีพ และสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้

...ถึงเวลาที่ รูนี่ย์ ต้องพิสูจน์ตัวเองบ้างแล้ว

...แฟนผีทุกคนไม่มีใครลืมคุณงามความดีที่ทำมาของ
คุณหรอก การเปิดตัวสวยๆ ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก การถล่ม
ประตูแบบสม่ำเสมอ การพาทีมเป็นแชมป์ยุโรป รวมถึง
ลูกตีลังกาใส่พวกซิตี้ดอกนั้น

...แต่ตอนนี้มันไม่ใช่...มันไม่ใช่เวลาของ รูนี่ย์ อีกแล้ว

...สิ่งที่ทำได้คือแค่ยอมรับมัน และปล่อยให้ทีมเดินหน้า
ไปอย่างถูกทางแบบนี้...

by โยอันน์

https://www.facebook.com/yoannboat/posts/1867376830157355:0[url= target="_blank" href="http://upic.me/show/59425043]">http://upic.me/show/59425043]

หมูออกละทุกอย่างมันดันเด่นขึ้นมานี่ละนะ เลยยิ่งกลายเป็นว่าความเน่าของมันยิ่งเด่นขึ้นมา

อย่างแรกที่มันซวยเลยคือ ป็อกแมงกลับมาร่างเล่นง่ายนี่ละ กองกลางเลยดีขึ้นเห็นๆ

ต่อมาคือคนที่ลงเมื่อวานทำได้ดีในหน้าที่ตัวเองหมดเลย แรชสายทะลุทะลวง ลินกาดสายแทคติค ตามคำสั่ง มาต้าขับเคลื่อนเกมในหน้าต่ำ ป็อกช่วยซัพพอร์ต+ทำเกมบ้าง เอเรร่าเล่นแบบคาริค

เท่านี้ยังไม่พอ ไอลูกเซ็ตพีซบลินด์ดันเตะดีอีก จบแล้วละสำหรับหมู

ประเด็นสำคัญคือ มันลงมาตอนท้ายดันโชว์ฟอร์มแบบเดิมๆอยู่นี่ละนะ เลยยิ่งแสดงออกเลยว่าเน่า

ปล. มีช็อตนึงที่ป็อกโยนออกข้างปะ ข้ามฟากแบบหมู แต่ที่ต่างกันเห็นได้ชัดเลยคือ ลูกแมงพุ่งเร็วกว่าเยอะ วาเลนเซียเลยมีพื้นที่เยอะกว่า ทำให้เห็นเลยว่าไอที่คนบอกว่าหมูวางข้ามฟากแม่น ดีเนี่ย แมงไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้นร้อก ไม่ได้ครึ่งสโคลเลยมั้ง

เดี๋ยวเกมยุโรปกลางสัปดาห์ พี่หมูรีเทิร์นแน่นอนพี่น้องง

หมูลงยูโรป้าไปวินๆระดับหมูต้องบอลยุโรป

เห็นด้วยนะ

MK ยิ้มเลยเล่นแบบนี้

แต่ชื่อแกหายจากทีมยาวเลยอะดิ

ดีแล้วครับ บอลถ้วยให้ลงตัวจริงไปเลย
แต่บอลลีกให้มันนั่งต่อไปยาวๆ

ชนะมาก็ดีครับช่วยให้กำลังใจทีมได้เยอะแต่ก็ต้อง ไม่ประะมาทเพราะได้ประตูมาเนี่ยจากเตะมุมล้วนๆ3ลูก ถ้ามองจากเกมส์ก่อนจะไหล แมนยูโดนบดแย่เหมือนกัน เกมส์ไม่ได้เป็นต่ออะไรมากมายเลยแต่เพราะประตุที่ขาดทำให้่เลสเตอร์เล่นเหมือนเดิมไม่ได้ พอได้ประตูเตะมุมมารัวๆเลสเตอร์ก็รวนถอดใจ ถ้ายังแค่1-0 ผมว่าแมนยูก็เป๋เหมือนกัน โชคดีที่grayไม่ได้ลงแต่แรกผมว่าตัวนี้มันโคตรน่ากลัวเลยบอกตรงๆ ป็อกบาก็หันมาเล่นง่ายๆเลิกแอ็ค ที่สำคัญคือแมนยูไม่ใช้ตัวรับกลับไปใช้โฮลดิ้งเหมือนสมัยคาริคก่อนหน้านี้ มันทำให้เกมส์รุกไหลลื่น แต่ก็ต้องระวังเมื่อวานเลสเตอร์ไม่มีคุณภาพเองในการเข้าทำไม่งั้นเกมส์ไม่ออกมาแบบนี้แน่ๆ

เสี่ยบอกวันพหัสเจอกันแฟนผี

จริงๆยูโรป้าผมก็อยากได้นะ แต่ถ้าส่งตัวจริงลงแม้งสองถ้วยติดจะเหนื่อยมั้ยนิ
เพราะถ้าเอาสำรองลงแล้วมีรูนีย์ มันก็ไม่ต่างกับเจอทีมลีควันอะ การเข้าทำไม่มี
ใจจริงยูโรป้าก็อยากได้ พรีเมียร์ก็อยากลุ้น

สบายๆครับ นี่คือชุดสำรองที่ดีที่สุดเท่าที่เรามี

-----------โรเมโร่---
ดาเมี่ยน--สมอลลิ่ง--ทิมมี่--โรโฮ
-----ฟูorชไน--คาริค---
ยัง----------ลินกาด------------เดปาย
--------------หมู--------

แพ้แน่

แต่ถ้าเอาจริงๆ จัดสำรองแบบหวังชนะคงแบบนี้

---------------เด
ดาเมี่ยน---บลิน--สมอลลิ่ง----โรโฮ
---------คาริค-----ชไน
ลินกาด-------MK---------ยัง
-----------แรชฟอด---------

คือจริงๆตัวเลือกเราไม่เยอะนะ เพราะมีตัวเจ็บด้วย MKผมยังไม่มั่นใจเลยว่าลงได้ยัง อันนี้คือพยายามจัดแบบหมูไม่ลงนะ ไอตำแหน่งโรโฮนี่ผมคิดหนักเลยนะ แบค2ข้างเนี่ย ถ้าจะเอาเมี่ยนลงซ้าย ทิมมี่ขวา เห็นนัดลีคคัพแล้วก็ปวดกบาล แต่โรโฮลงเลยก็ปวดกบาลกว่า

คือลูกโยนยาวข้ามฟาก กับลูกตั้งเตะหมูโยนไม่ได้ลุ้นอะไรจริงๆ เตะโด่งๆย้อยๆช้าๆ โดนแนวรับเก็บกินหมด ไม่ก็ลงมาเตรียมซ้อนหมดละ ดูป๊อกโยนข้ามฟาก ดูบลินเตะมุมเมื่อคืนspeedบอลมันต่างกันจริงๆ ถึงจะเตะมุมแป้กครึ่งหลังไปครั้งนึงก็เถอะ

3 ประตูจากเตะมุม ถ้าเมื่อวานรูนี่ยลงก็คงเป็นคนเตะ ซึ่งก็เห็นๆกันอยู่ว่า
เตะไม่เข้าหัวใครเลย ทั้งทีมตัวเองทั้งคู่ต่อสู่

อีกอย่างในบทความก็เขียนไว้ว่า การจับกลุ่มเล่น 3-4 คน ซึ่งถ้ามีรูนี่ยอยู่
เราไม่มีวันได้เห็นแบบนี้

ในตอนรูนี่ยลง เวลาอิบราจะเอาบอลลง โคตรยาก เพราะรูนี่ยไม่รู้ไปยืนอยู่ที่ไหน
แต่เมื่อคืน อิบราโหม่งชงเอาลงได้สบาย เพราะมีตัวยืนตําแหน่งใกล้ๆ

ป๊อกบ๊า ไม่ต้องพะวง อยากปล่อยของเท่าไรเอาเลย ไม่มีตัวดึงเกมช้า

เฮเเรร่าตัดบอลได้เกือบ10ลูก และเชื่อมเกมดี และมีเกมโต้กลีบ

ในเกมที่ไร้รูนี่ยสุดที่รักของคุณไม่คิดจะชมนักเตะคนอื่นๆบ้างเหรอ
ที่ลงมาแล้วทําผลงานดี

ว่าแต่หายหน้าไปนานเลยนะเซียนหลังเกม ที่บอกรูนี่ยไม่ลง แล้วจะรู้สึก
จะไม่มีบอกลักไก่ ไม่มีตัวมาเอาบอลตรงกลาง อวยกันเข้าไป
ไม่ได้สนเลยว่า ทีมโดยรวมมันจะต่อกันติดมั้ย

มูจ๋า ขอยาวๆนะจ๊ะ

หลายคนบอกป๊อกเล่นยาก หลายนัดที่ผ่านมาผมว่ามันไม่รู้จะส่งให้ใครมากกว่า โดนบีบด้วยต้องเอาตัวรอดเอง พอมีมาต้า อาราเร่ที่วิ่งเยอะมาก็มีตัวให้ส่งถ่ายบอลได้+กับเลสเตอร์ไม่ไล่บีบด้วยละ ปัญหาของทีมคือการเคลื่อนตัวเวลาไม่มีบอลแล้วหน้าต่ำเบอร์10

เมื่อวานดูครึ่งแรก ผมว่าเลสเตอร์เพรสไม่ดีเลย ถ้าเทียบกะเกมวัตฟอร์ต

ผู้เล่นผีได้บอลนักเตะพุ่งถึงตัวแล้ว เอาตรงๆผมว่าครึ่งแรกสกอร์เกินจริงไปหน่อย(ไม่ใช่ว่าผมเด็กเป็ดแล้วจะมาพูดนะครับ)

ผมมองว่ามันคือแทคติคนะครับ..จากพวกลูกนิ่งแล้วได้ประตู ผมบอกเลยว่าทีมนั้นอันตราย

เพราะเวลาเกมมันตันๆ ตื้อๆ ก็มีลูกนิ่งมาทำให้ทีมยิงประตุได้อ่ะครับ

ผมว่าครึ่งแรกเราชนะ TKO ได้เลยนะครับ มีจังหวะสวยๆตั้งกี่จังหวะให้ลุ้นกันครับ

เรื่องโดนฝั่งตรงข้ามบด มันก็ปกตินะครับ มีรุกมีรับ กันเป็นปกติของฟุตบอล

ป.ล. ให้เครดิตทีมตัวเองหน่อยครับ เล่นดี ผมก็ชม เล่นห่วย ผมก็ด่า

มันก็ใช่มีจังหวะสวยๆ แรชฟอร์ดยิงออก สลาตั้น ยิงข้ามคาน ก็ไม่มีแล้วมั้ง เลสเตอร์บุกมาได้ตลอดผ่านหน้าปากประตูไปหลายดอก น่าจะเยอะกว่าแมนยูด้วยซ้ำแต่ไปพลาดตรงเตะมุมแบบนั้น เกินไป ระดับแมนยูจะมาหวังแต่จากลูกตั้งเตะก็คงไม่ได้หรอก แล้วผมก็ไมไ่ดด่าทีมตรงไหนสักนิด ก็แค่อย่าให้สกอร์มันหลอกตาก็แล้วกัน

โธ่ๆ ป๊ออกกี๊ซ่า ผู้ไม่ยอมให้เครดิตใครนอกจากรูนี่ย ที่เป็นขวัญใจ

นิขนาดเล่นกันขนาดนี้ ยังจะ...

พอไอ้รูนี่ย ม้วนซ้ายม้วนขวาทําเสีย เจือกบอกมีประโยชน์

555 เทพ fol3 เอาเฮ้ย เอาด้านสว่างมาเม้นท์

เห็นปกติ ซ่า ในมู้ไลฟ์ แต่ช่วงนี้หดหัว

ไปตอบแต่มู้เกม ไม่ได้แลกเปลี่ยนทัศนคติกันเลย

ยูสนี้เค้าไม่ให้เครดิตใครนอกจากรูนี่ยหรอกครับ ปีที่แล้วมาซิอัลเล่นดีๆ
เค้ายังบอกกาก สู้รูนี่ยไม่ได้เลย

ขนาดผมบอกว่า...ถ้าเกมมันตันๆตื้อๆ อึดอัดยิงกันไม่ได้

ก็วัดกันที่ลูกนิ่ง ก็ยังคิดว่ากลายเป็นผีหวังจากลูกนิ่งซะงั้น