5 อาการ เสี่ยงเป็น “โรคซึมเศร้า”
โรคซึมเศร้า เป็นโรคทางจิตเวชที่มีผู้เป็นจำนวนไม่น้อยโดยอัตราการเสียชีวิตของหนุ่มสาวที่สูงขึ้นนั้นส่วนหนึ่งก็เกิดจากการที่ตัวเองอยู่ในภาวะซึมเศร้านั่นเองโรคนี้บางคนเป็นโดยที่ตัวเองไม่ทราบ คิดว่าเป็นเพราะตนเองคิดมากไปเองก็มีทำให้ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมากการเปลี่ยนแปลงหลักๆ จะเป็นในด้านอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด พฤติกรรมร่วมกับอาการทางร่างกายต่างๆ ซึ่งสามารถสังเกตอาการที่เปลี่ยนแปลงได้ดังนี้
1. อารมณ์เปลี่ยนแปลงไปจะกลายเป็นคนเศร้า หดหู่ สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ดูเหมือนจะอ่อนไหวไปหมดบางคนอาจมีความรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมดทุกสิ่งทุกอย่างสิ่งเดิมที่ตนเคยทำแล้วเพลินใจหรือสบายใจ เช่น ฟังเพลง พบปะเพื่อนฝูงเข้าวัด ก็ไม่อยากทำ หรือทำแล้วก็ไม่ทำให้สบายใจขึ้นบ้างก็รู้สึกเบื่อไปหมดตั้งแต่ตื่นเช้าบางคนอาจมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย อะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปหมดกลายเป็นคนอารมณ์ร้าย ไม่ใจเย็นเหมือนก่อน
2. ความคิดเปลี่ยนไปมองอะไรก็รู้สึกว่าแย่ไปหมด มองชีวิตที่ผ่านมาในอดีตก็เห็นแต่ความผิดพลาดความล้มเหลวของตนเอง ไม่เห็นทางออก มองไม่เห็นอนาคตรู้สึกท้อแท้หมดหวังกับชีวิต บางคนกลายเป็นคนไม่มั่นใจตนเองไปจะตัดสินใจอะไรก็ลังเลไปหมด รู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถ ไร้คุณค่าเป็นภาระแก่คนอื่นและจากความรู้สึกเหล่านี้อาจทำให้เจ้าตัวคิดถึงเรื่องการตายอยู่บ่อยๆ แรกๆก็อาจคิดเพียงแค่อยากไปให้พ้นๆ จากสภาพตอนนี้ต่อมาเริ่มคิดอยากตายแต่ก็ไม่ได้คิดถึงแผนการอะไรที่แน่นอนเมื่ออารมณ์เศร้าหรือความรู้สึกหมดหวังมีมากขึ้นก็จะเริ่มคิดเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะทำอย่างไรในช่วงนี้หากมีเหตุการณ์มากระทบกระเทือนจิตใจก็อาจเกิดการทำร้ายตนเองขึ้นได้จากอารมณ์ชั่ววูบ
3. สมาธิความจำแย่ลงจะหลงลืมง่าย โดยเฉพาะกับเรื่องใหม่ๆ วางของไว้ที่ไหนก็นึกไม่ออกญาติเพิ่งพูดด้วยเมื่อเช้าก็นึกไม่ออกว่าเขาสั่งว่าอะไร จิตใจเหม่อลอยบ่อยทำอะไรไม่ได้นานเนื่องจากสมาธิไม่มี ดูโทรทัศน์นานๆ จะไม่รู้เรื่องอ่านหนังสือได้เพียงไม่นาน ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทำงานผิดๆ ถูกๆ
4. ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไปผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะดูซึมลง ไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนก่อนจะเก็บตัวมากขึ้น ไม่ค่อยพูดจากับใคร บางคนอาจกลายเป็นคนใจน้อย อ่อนไหวง่ายซึ่งคนรอบข้างก็มักจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปบางคนอาจหงุดหงิดบ่อยกว่าเดิม
5. อาการโรคจิตจะพบในรายที่เป็นรุนแรง ซึ่งนอกจากผู้ที่เป็นจะมีอาการซึมเศร้ามากแล้วจะยังพบว่ามีอาการของโรคจิตได้แก่ อาการหลงผิดหรือประสาทหลอนร่วมด้วยที่พบบ่อยคือ จะเชื่อว่ามีคนคอยกลั่นแกล้ง หรือประสงค์ร้ายต่อตนเองอาจมีหูแว่วเสียงคนมาพูดคุยด้วยอย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้มักจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้นเมื่อได้รับการรักษา อารมณ์เศร้าดีขึ้น อาการโรคจิตก็มักทุเลาตาม
อย่างไรก็ตาม การรักษาผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้านี้ ครอบครัว และญาติพี่น้องถือเป็นคนสำคัญที่สุด หากครอบครัวมีความรู้ ความเข้าใจก็เป็นส่วนสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วยและช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจในการดูแลรักษาตัวเองต่อไป
นอกจากนี้ สสส.ยังได้แนะนำพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือการดำเนินชีวิตด้วยหลัก “3 อ.” คืออาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์ ซึ่งการมีพฤติกรรมสุขภาพทั้ง 3 อ. นี้หากปฏิบัติให้เหมาะสมและสมดุลกันแล้วก็เป็นปัจจัยสำคัญต่อการมีสุขภาพดีหรือไม่ดีของคนในทุกเพศทุกวัยได้อีกด้วย
ที่มา
http://likezara.blogspot.com/2016/09/5_21.html