“บิ๊กอ๊อด” ประกาศกร้าวพร้อมเปลี่ยนโค้ชและนักเตะทีมชาติทุกคนถ้าไม่มีความสามารถและระเบียบวินัย
.................................................................................
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ ออกมาเปิดเผยข้อมูลกรณีนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ขาดระเบียบวินัยและมีพฤติกรรมเสื่อมเสีย ว่า
“เรื่องนี้ผมเคยหารือคุณวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายเทคนิค มาก่อนแล้วว่าถึงเวลาที่เราต้องสังคายนาวิธีการเลือกหัวหน้าผู้ฝึกสอน และนักเตะทีมชาติเสียใหม่จากเดิมที่ทีมชาติต้องพึ่งพาโรงเรียน หรือสโมสรที่เป็นต้นสังกัดนักเตะ ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงทำให้นักเตะทีมชาติไม่ใช่นักเตะที่มีความสามารถดีที่สุดหรือเก่งที่สุด สมาคมต้องพึ่งพาตนเองให้มากกว่านี้”
“ผมเสนอแนะว่าถึงเวลาแล้วที่สมาคมฯ ต้องสร้างนักเตะเยาวชนของตนเอง โดยต้องเริ่มตั้งแต่ U-16 U-14 และ U-12 ทำการคัดเลือกนักเตะเข้ามาฝึกหัดในอะคาเดมีของสมาคมฯ ด้วยความสมัครใจ นั่นก็คืออนาคตทีมชาติ และสมาคมฯ จะเข้าไปดูแลรับผิดชอบทุกเรื่องของนักเตะ นักเตะจะต้องกินอยู่หลับนอนและฝึกซ้อมอยู่ด้วยกัน เราจะรับผิดชอบเรื่องการศึกษาและค่าตอบแทน นักเตะคนไหนไม่พัฒนาหรือขาดระเบียบวินัยก็ตัดออกไปและคัดนักเตะที่ดีมีคุณภาพมาเสริมแทนจะทำให้เกิดการแข่งขันและทำให้นักเตะมีความมั่นใจในอนาคต สมาคมฯ จะสามารถควบคุมพัฒนานักเตะได้อย่างเต็มที่ทั้งด้านการฝึกซ้อม โภชนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และอื่นๆ อย่างแท้จริง คือต้องมีอะคาเดมีของสมาคมให้ได้”
“หัวหน้าผู้ฝึกสอน ก็เช่นกันถ้าโค้ชไทยไม่มีคุณภาพไม่มีความสามารถ เราก็ต้องเอาโค้ชต่างชาติ เข้ามาเสริมและโค้ชทุกคนก็ต้องมีแนวทางการฝึกสอนไปในทิศทางเดียวกันภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายเทคนิคอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รูปแบบและสไตล์การเล่นเหมือนกัน การรับช่วงของแต่ละทีมมีความต่อเนื่องและเป็นระบบ”
“ผมยอมรับว่าผมใหม่ต่อวงการฟุตบอล และมีความรู้เรื่องฟุตบอลและรู้จักคนในวงการฟุตบอลไม่มาก แต่เวลาผ่านไป 6 เดือน ผมได้พยามศึกษาและเรียนรู้ฟังคำแนะนำจากคนที่รู้ทุกเรื่องอย่างเต็มที่ และถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องคิดจะต้องตัดสินใจจะต้องทำและรับผิดชอบ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะฉะนั้นผมจึงต้องการคนที่มีแนวคิดและพร้อมที่จะร่วมงานและพร้อมที่จะรับผิดชอบร่วมกับผมเท่านั้น”
“สำหรับเรื่องที่เป็นข่าวเกิดขึ้นจะต้องเป็นความรับผิดชอบของโค้ชและทีมงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นายกสมาคมกล่าว

credit เพจ Fair

เรื่องอคาเดมี่ของสมาคมเห็นด้วยสุดลิ่มทิ่มประตู

ผมเห็นด้วย

สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดยอด

ถ้าจับมาเก็บตัวรวมกัน แยกจากรร. หรือสโมสร นี่มันจะต่างกับทำชุดดรีมทีมมะครับ

ไม่เห็นด้วยเรื่องอะคาเดมีให้เด็กกินอยู่หลับนอนด้วยกันนั่นมันสมัยเก่า

เราควรพึ่งพาลีค พึ่งพาสโมสรในการพัฒนาเด็กและดาวรุ่ง ให้เป็นไปตามระบบแบบนี้มากกว่า

ดรีมทีม ข้อดีก็มี ข้อเสียก็หลายอย่างเห็นมาแล้ว

แบบนี้จะเวิคไหมครับ ลองคิดเล่นๆ

กำหนดสัก2เดือนใน รอบ1ปี ให้ไม่มีรายการแข่งของเด็กๆ เช่นสสมติเดือน 1 กับ เดือน7

2เดือนนี้ก็เรียกนัดเตะที่มีแวว ที่สเก้าท์มาได้ทั้งหมด มารวมทีมกัน กินอยู่ด้วยกัน ซ้อมด้วยกัน แล้วก้อุ่นเครื่องบ้าง รอบหน้าใครดีก็เก็บไว้ ใครไม่ดี(ไม่ว่าจะวินัยหรือฝีมือ)ก็เอาออก ใครฟอร์มร้อนแรงก็ดึงเข้ามา แล้วก็ใช้ชุดพวกนี้แข่งไรงี้ จะwork กว่าไหมครับ

ลองถกๆกันดูเผื่อมีใครที่อยู่ข้างในนั้นอ่านเห็นแล้วเป็นไอเดียให้พัฒนากันต่อไปครับ

Edit ปล. ถึงแค่ยู 16 หรือ ยู18 ก็พอ ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นระบบลีคไป

ใช่ๆ ไม่เห็นด้วยเรื่องสร้างดรีมทีม แต่เอาอะคาเดมี่ที่จะสร้างไปสร้างศูนย์อบรมโค้ชเถอะ
โค้ชพวกนี้แหละจะเป็นแมวมองเด็กเก่งๆให้เอง

อะคาเดมี่สมาคมดีนะเพิ่มโอกาสให้เด็กมีที่ฝึกเพิ่ม
แต่ถ้าเอาเด็กกลุ่มนั้นติดทีมชาติยกทีมโดยไม่เอาเด็กทีมอื่นอันนี้ไม่เห็นด้วยปิดกั้นโอกาสกันเกินไป
รอดูล่ะกัน

หน้าบิ๊กหอย ลอยมาเลย 5555

น่าจะเป็นโมเดลจากเยอรมันนะครับ เค้ามีศูนย์ฝึกเยาวชนของประเทศ พออายุครบก็ส่งไปเล่นตามสโมสร เข้าใจว่าเวลาเรียกทีมชาติก็จะใชเด็กผสมๆกัน ไม่ได้เรียกแค่ตัวของสมาคม แต่ไม่รู้รายละเอียดยังไงนะ

ว่าแต่ศุนย์ฝึกเราโอเคแล้วเหรอ

อย่างนี้นี่เองรอฟังรายละเอียดอีกที

ฝรั่งเศสก็มีแกลร์กฟงแตงไงที่ดังๆ

เห้นด้วยครึ่งเดียวเรื่องอคาเดมี่ ก็ทำขนานกันไป
ของสมาคม ก็มีสถานะเป็นโรงเรียนฟุตบอล ที่สนับสนุน เงิน บริหาร โดยสมาคม ให้รีบทำโดยด่วน
แต่ ห้าม บอกว่า อคาเดมี ของสมาคม คือทีมชาติเด็ดขาด
โค้ชทีมชาติต้องเป็นคนละทีมกับ อคาดเมี และโค้ชต้องสามารถเลือกเด็กจากทุกที่โดยเท่าเทียมกัน
ตามฟอร์มในขณะนั้น โดยไม่สนสังกัด แม้ว่าจากสมาคม สโมสร หรือเด็กตามต่างอำเภอ เด็กในโรรงเรียนที่ไม่มีสังกัด
ต้องมีดอกาสเท่ากัน
โดยส่วนตัวเห็นว่า เด็กแต่ละคนนั้นจะแสดงความสามารถออกมาได้ในเวลาที่ไม่เหมือนกัน
บางคนอายุ 10 ปี เห็นแวว บางคน 11 ปี บางคน 15 ปี บางคน 17 ปี บางคน 19 ปี
บางคน อาจจะถึง 30 ถึงจะโดดเด่นออกมา

ดังนั้นการคัดคนกลุ่นนึงไม่เกิน 100 คน มันไม่มีทางเป็นคนที่ดีที่สุดได้หรอกครับ
คือมันจะดีที่สุดเฉพาะวันคัดเท่านั้น มันไม่มีทางยั่งยืนไปได้

แต่อคาเดมี ของสมาคม ก็จำเป็น ในแนวทางการสอนพื้นฐานให้ไปในทิศทางเดียวกัน
แต่ย้ำให้เป็นแค่โรงเรียรฝึกฟุตบอลของสมาคมเท่านั้น ขีดเส้นใต้ไว้เลย

ผมให้กำลังใจนะ แต่ขอคิดต่างนิดนึง
ไม่เห็นด้วยที่สมาคมจะมาทำศูนย์ฝึกเอง ปีนึงสมาคมจะฝึกเด็กได้ซักกี่คน ?
ถ้าเปลี่ยนเป็นสร้างศูนย์ฝึกผู้ฝึกสอนหล่ะ สร้างโค้ชที่มีคุณภาพ
แล้วกระจายโค้ชเหล่านั้นออกไปฝึกเด็กในพื้นฐานแบบเดียวกัน นั่นจะฝึกเด็กได้กี่คน ?
หลังจากนั้นสมาคมก็จัดระบบลีคเยาวชนที่มีมาตรฐานให้เด็ก ๆ เหล่านั้นมาแข่งกัน
ทีมชาติก็รอเลือกเด็กที่ฝีเท้าถึงขั้นเข้าทีมชาติ
แบบนี้น่าจะเป็นการพัฒนาฟุตบอลจากโครงสร้าง และกระจายไปในวงกว้างมากกว่า
มีเด็กได้เข้าร่วมมากกว่า มีตัวเลือกมากกว่า มีการแข่งขันมากกว่า น่าจะมีการพัฒนาที่ยั่งยืนกว่านะคับ

ผมว่ามันก็มีส่วนดีนะ พอเด็กอายุ16ขึ้นไป ก็ไปหาสโมสรลงไรแบบนี้ ถ้าเจ๋ง แต่มันก็ดูงงๆอยู่ดี -.-

ถ้าจะทำแบบมาเลย์ สร้าง Harimau A B C คงไม่เวิร์ค

ผมชอบโมเดลแบบ Christ FC นะ เอาโค้ชไปกระจาย อาจผูกกับโรงเรียนตำบล อำเภอก็ว่ากันไป อย่างน้อยๆ 1000 คนอาจได้ระดับชาติมา 1 คนก็ได้

ก่อนอื่นเลยลีกเยาวชนแข่งกันไปหลายนัดแล้ว....ระบบนี้คือเอาเด็กจากแต่หล่ะสโมรสรมาฝึกด้วยกันอย่างแต่หล่ะทีมส่งมา2คนที่ไม่ค่อยได้ลงเล่นให้ทีมแม่ 18 ทีมในลีกสูงสุดก็ได้ 36 คนหล่ะเหมือนเป็นการจูนระบบมากกว่า ถึงกำหนดก็ปล่อยกลับ สโมสรแม่ อย่างสมาคมญี่ปุ่นก็ทำแบบนี้เลยคือไปเอาพวกดาวรุ่งแต่หล่ะทีมมาร่วมกันกินอยู่ฝึกที่ศูนย์ฝึกเเล้วส่งแข่งในลีกล่างถึงกำหนดก็ส่งกลับ ใช้ระบบการเล่นแบบแนวเดียวกับทีมชาติเลยโพถึงเวลาเด็กคนไหนได้ติดทีมชาติก็จูนระบบแท็กติ๊กต่างๆไม่นานใช้ได้เลย ที่จริงนี้นโยบายหาเียงเลยน่ะถ้าใครจำกันได้ 55

ลีกก็มีแล้ว ผมว่าทุ่มงบให้บุคคลากรสเก๊าท์นักเตะตามลีก และตามการแข่งขันต่าง ๆ ทั่วประเทศจะดีกว่า ช่วยพัฒนาบุคคลากรสรรหา แบบนี้จะได้นักเตะที่ดีกว่าเยอะครับ เอามาเลี้ยงเอามาอยู่เดี๋ยวก็มีข้อติด่าได้เรื่อยตามนิสัยคนไทย

academy สมาคมจะเป็นจุดเริ่มต้นของเเด็กเส้นรึเปล่า? สมาคมมีนโยบายให้ทีมไทยลีกมีชุดเบ มีการฝึกเยาวชนแล้วทำไมไม่ใช้ประโยชน์ตรงนั้น นักบอลเก่งๆนั้นรวมทีมไม่นานเขาก็เล่นกันได้แล้ว ซ้อมกันบ่อยๆแล้วยังไง โตไปมันจะเก่งหรือไม่ สุดท้ายเราต้องโพกัสที่ชุดใหญ่ครับ

คนที่บอกไม่เห็นด้วยผมเข้าใจนะ

แต่เค้าก็บอกอยู่ สโมสร หรือตามโรงเรียนไม่ค่อยปล่อยออกมา

งั้นก็ต้องเพิ่มทางเลือกด้วยชุดดรีมทีมนี่แหละ

เรื่องแบบนี้ต่างประเทศเขาก็ทำหมดนะครับ ญี่ปุ่นกับเยอรมันจะคล้ายกันคือรับเด็กที่คัดจากสโมสรแม่และรวมกับเด็กที่ไม่ได้โอกาสจากสโสรแต่คัดผ่านแมวมองของศูนย์ฝึกเยาวชนแห่งชาติ ฝึกกันยาวตามกำหนดและส่งกลับสโมสร

ส่วนอังกฤษจะเป็นการคัดเด็กเข้ามาบ่มเพาะฝึกฝน พอถึงช่วงอายุหรือฝีเท้าที่เหมาะก็เปิดให้แมวมองหรือเอเยนต์ของทีมต่างๆมาดูฟอร์มและดึงตัวกันไป แลมพาร์ด โจโคล เทอร์รี่ เฟอร์ดินาน พวกนี้ก็มาจากวิธีการแบบนี้นะครับ


ส่วนของไทยผมสนับสนุนเรื่องอยู่กินหลับนอน ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาเรื่องการเดินทาง อย่าลืมนะครับประเทศไทยเราล้าหลังในเรื่องช่องทางการเดินทาง ไม่งั้นเด็กที่อยู่ต่างจังหวัดก็ลำบากสิ

และอาคาเดมี่ของสมาคมหรือจะเรียกศูนย์ฝึกเยาวชนแห่งชาติ หลักๆเขาก็มีเพื่อให้เด็กที่พลาดโอกาสจากสโสรนั่นแหละครับ ถ้านึกไม่ออกลองไปเล่นเกม FIFA 17 โหมดของอเล็กซ์ ฮันเตอร์ ก็น่าจะเห็นมุมมองเยอะขึ้นนั่นเป็นระบบของอังกฤษเลยครับ

เยี่ยมมากครับ ผมเห็นด้วย

ท่านเคยเล่นโหมดนี้เเล้วหรอครับ ???

มันเพิ่งออก DEMO เองนิ

มันเล่นได้ไม่จบอะครับ ของผมที่เล่นมันกำลังจะปล่อยยืมตัวผมออกไป แล้วมันก็จบที่ตรงนั้นแหละครับ

มันจะเล่นได้จนถึงเลยปรีซีซั่นมาสัก 3-4 เกมนี่แหละ แต่รออีกไม่กี่วันก็ได้เล่นตัวเต็มแล้ว

ดิวิชั่น3 ญี่ปุ่นยังมีเลย ทีมเจแปน U23
ผมแทงสวนบ่อย

รักนายกสมาคมชุดนี้ก็ตรงนี้่แหละ

มีปัญหาเมื่อไรก็แก้ทันที

อาจจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างอะไรมากมาย แต่ก็ดีกว่าไม่ปล่อยไว้และไม่ทำอะไรเลย

ทำแบบสมัครเล่นก็ดีนะ
อาจจะเป็นช่วงปิดเทอม ก็เปิดคอร์สฝึกอบรม คัดกันสัก2-3วัน ใครมีแววก็อยู่ต่อ สมาคมก็ดูแลแค่ช่วงเวลาสั่นๆ หรืออาจจะเปิดช่วงเสาร์-อาทิตย์ในช่วงเปิดเทอม
จะเอาแบบดรีมทีมเลยผมก็ว่าอาจจะปิดกั้นกันเกินไป แต่อย่างน้อยก็ต้องมีเด็กของตัวเองบ้าง ไม่งั้นถ้าเจ้าของเขาไม่ปล่อย ก็จะไม่เหลือตัวเลือกอื่นเลย
ทำควบไปก่อนจนกว่าลีกเยาวชนจะตั้งตัวได้

ก็นะ