ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 225
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:44 pm
ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ
ไม่ได้เจตนา แขวะทีมไหนนะครับ ปี 2012/13 ผมจำนัดตบ ยูเว่และบาซ่าไปกลับแบบถล่มทลายแล้วคิดว่า เท่าที่ผ่านมาคงมีทีมไหนที่แกร่งเท่านี้มาก่อน ( อินเตอร์ 3 แชมป์ ก็อาจเหลื่อมๆครับ ) เลยอยากจะถามคนที่ติดตามบาเยินว่า องค์ประกอบความโหดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรครับ แบบว่าชอบครับ


ปล.ฝากกดติดตามช่องด้วยครับhttps://goo.gl/T9W5CB
เข้าร่วม: 18 Jun 2010
ตอบ: 2417
ที่อยู่: FIFATHAILAND
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:48 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
สั้นๆตรงประเด็นเลยละกัน ไม่อ้อมค้อม
Spoil
เพราะตอนนั้นในทีมมี Emre Can  
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 373
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:51 pm
ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ
แกร่งมากจริงๆ แต่ผมยังเชื่อว่า บาร์ซ่า ของ กวาดิโอล่า คว่ำได้
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 24483
ที่อยู่: ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลก เข้าร่วม: 13 Feb 2005
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:51 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
mrdome พิมพ์ว่า:
สั้นๆตรงประเด็นเลยละกัน ไม่อ้อมค้อม
Spoil
เพราะตอนนั้นในทีมมี Emre Can  
 




0
0
เข้าร่วม: 26 Dec 2009
ตอบ: 23421
ที่อยู่: ʕ•̫͡•ʔ ʕ•̫͡•ʔ Satisfied City ♥ Blissful Land ʕ•͓͡•ʔ•̫͡•ʔ
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:51 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]

อย่างพอเหมาะพอเจาะ เหมือนหำที่เสียบเข้าไปในรูทวาร ก็จะเกิดเสียงดังกังวาล
0
0
เข้าร่วม: 20 Dec 2005
ตอบ: 5530
ที่อยู่: Säbener Straße
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:54 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
จริงๆความโหดสู้บาซ่ายุคเป๊ปไม่ได้หรอก

สไตล์จุ๊ปก็เล่นไดเร็คง่ายๆนี่แหละ ขึ้น-ลงให้เร็ว ไม่ได้มีแท็คติคที่ซับซ้อน

ไม่ได้ตั้งรับเยอะจนโดนพับสนาม และก็ไม่ได้บุกจนหลังบ้านโล่ง

เพียงแต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่นักเตะบาเยิร์นพีคกันเกือบทุกคน

ชไวนี่ กับ มาตี้ ตัดเกม ส่วนแนวรุกมีมุลเลอร์ กับคู่หู รอบเบรี่ ที่เข้าฟอร์มสุดๆ



Danke Jupp
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 902
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:54 pm
[RE]ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ
คหสต. รอบเบ็น ริเบรี่ พีคสุดๆ หรือเปล่าคับ
Y N W A

เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 8121
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:57 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ผมว่านักเตะพีคพร้อมๆกันมากกว่า กลมกล่อมมากๆชุดนั้น
ส่วนตัวผมว่าดูสนุกกว่ายุเป๊ปครับ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 1205
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 12:59 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
โหดจิงชุดนี้ แต่สำหรับผมบาซ่ายุคเป๊ปมันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ


เข้าร่วม: 22 Nov 2009
ตอบ: 2681
ที่อยู่: OPZ .. FM-Thai
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:03 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
เป็นจุดพีคของนักเตะในทีม แล้วบาร์ซ่ายุคนั้นอย่างกาก เกมนั้นรู้สึกติโต้ ก็ไม่ได้คุมเองเพราะป่วยอยู่
0
0
เข้าร่วม: 23 Jan 2011
ตอบ: 1585
ที่อยู่: คือ 1ในปัจจัย4
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:05 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ท็อปฟอร์มกันทุกตัว+บาก&เบนเข้าฟักจริงๆ #ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์

_________
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4398
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:08 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด


เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 41050
ที่อยู่: Anfield ที่รัก ... :3
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:08 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ผมชอบยุคนั้นมาก บอลขึ้นหน้าไวดี เกมสทรุกดุดัน
เรื่องบางเรื่อง ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด เพียงแต่สิ่งที่เราคิดมันต่างกัน
My Liverpool, the Kop will always rule
เข้าร่วม: 29 Oct 2010
ตอบ: 453
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:21 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

0
0
เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 8350
ที่อยู่: ไม่บอก
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:24 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
บาเยิร์น ยุคเทอร์โบไดนามิค บดเเดนกลางคู่เเข่งเเย่งบอลบีบพื้นที่ได้ดี เล่นบอลไม่หลายจังหวะ เล่นเร็ว มีลูกยิงไกลเเถวสอง เกมส์รับเเข็งตั้งเเต่เเดนกลาง ถล่มคู่เเข่ง3ลูกขึ้นไป สวนกลับนี้โครตคมยุคนั้นมันสุดเเล้ว เข้าทำหลากหลายเน้นเข้าทำโจมตีไว นัดไหนบุกไม่เข้ายิงไกลเข้าใส่ คู่เเข่งเละมาหลายทีมช่วงนั้น
images by free.in.th
images by free.in.th
น่าจะเป็นที่เเรกของประเทศไทยเห็นมีคนทำไว้ติดตามกันได้น่ะครับ Facebook Fanpage : RB Leipzig Thailand Fanclub เเละ RB Leipzig Official Fanpage
เข้าร่วม: 27 Sep 2007
ตอบ: 2835
ที่อยู่: สมาคมคนรักครอบครัว
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:24 pm
ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ
ผมว่าบาร์ซ่ายุคเป๊ป ดีที่สุดแล้วครับ ไม่ใช่ดีแค่รุก แต่เกมรับที่เล่นกันตั้งแต่แดนคู่แข่ง มันบ่งบอกว่านี่แหละคือความสมบูรณ์แบบ

แต่ถ้านึกถถึงบาเยิร์นยุคปู่จุ๊ปป์
ผมว่าปีนั้นโหดเพราะทุกคนฟอร์มดี
คู่หู ร็อบเบอรี่ ก็ดันฟิตสุดๆ และพีคทั้งคู่ เป็นปีกที่ยากจะหาใครมาหยุด โดยเฉพาะริเบอรี่ที่ปีนั้นยังไงๆก็ต้องได้ บัลลงดอร์ แต่ดันแพ้การตลาดไปซะได้
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4398
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:27 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม
0
0


เข้าร่วม: 15 Mar 2015
ตอบ: 8966
ที่อยู่: Camp Nou
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:40 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ตอนนั้นโค้ชบาซ่าเป็นใครนะลืม รูร่าป่ะ แล้วบาเยินใช้โคตรโค้ชอย่างไฮเกส
ฟอร์มปีนั้นบาเยินมาดีมาก ประจวบเหมาะกับเมสซี่ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาป่ะจำไม่ได้
ตอนนั้นฟอร์มตกกันละนาว บาเยินมาถุงบุกใส่อย่างเดียว บาซ่าเป๋เลยปีนั้นจำได้
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 16791
ที่อยู่: อยู่เป็นข้ารองใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทในหลวงภูมิพลทุกชาติไป
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:43 pm
[RE]ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 
ผมยอมรับครับ ว่าตั้งแต่ตามเชียร์แมนยูมา หลังคันโตน่า เลิกเล่น มี 2 ทีมที่ เฟอร์กี้ แพ้แบบ rsc out class คือ มิลาน ของ อันเชล๊อตติ เป็นที่มาของ ผีกาก้า กับ บาร์เซโลนา ของเป็บ ที่เฟอร์กี้ ไม่สามารถแก้เกมได้ ไม่ว่าจะปรับหมากอย่างไงแม้สกอร์ไม่ได้ขาดมาก แต่แมนยูไม่มีไอเดียในการทำประตูคืนเลย






เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 3267
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:53 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Schickeria พิมพ์ว่า:
จริงๆความโหดสู้บาซ่ายุคเป๊ปไม่ได้หรอก

สไตล์จุ๊ปก็เล่นไดเร็คง่ายๆนี่แหละ ขึ้น-ลงให้เร็ว ไม่ได้มีแท็คติคที่ซับซ้อน

ไม่ได้ตั้งรับเยอะจนโดนพับสนาม และก็ไม่ได้บุกจนหลังบ้านโล่ง

เพียงแต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่นักเตะบาเยิร์นพีคกันเกือบทุกคน

ชไวนี่ กับ มาตี้ ตัดเกม ส่วนแนวรุกมีมุลเลอร์ กับคู่หู รอบเบรี่ ที่เข้าฟอร์มสุดๆ


 


ยังไม่เคยเจอกันบอกสู้บาซ่ายุคเป๊บไม่ได้ มันจะพิสูจน์ได้ไงครับ อย่าเดือดนะ

อย่างที่บอกครับ ช่วงนั้นพีคทุกคน รอบเบรี่ก็พีค ไม่เจ็บอีก
0
0
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 10016
ที่อยู่: Spion Kop
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:57 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Sigmund•VI พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 
ผมยอมรับครับ ว่าตั้งแต่ตามเชียร์แมนยูมา หลังคันโตน่า เลิกเล่น มี 2 ทีมที่ เฟอร์กี้ แพ้แบบ rsc out class คือ มิลาน ของ อันเชล๊อตติ เป็นที่มาของ ผีกาก้า กับ บาร์เซโลนา ของเป็บ ที่เฟอร์กี้ ไม่สามารถแก้เกมได้ ไม่ว่าจะปรับหมากอย่างไงแม้สกอร์ไม่ได้ขาดมาก แต่แมนยูไม่มีไอเดียในการทำประตูคืนเลย  



ปีนั้นกาก้าเล่นบอลเหมือนไม่ใช่คน

11 ตัวจริงก็เวอร์วังอลังการมาก
I choose to live, not just exist.


เข้าร่วม: 20 Dec 2005
ตอบ: 5530
ที่อยู่: Säbener Straße
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 1:59 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Back2Life พิมพ์ว่า:
Schickeria พิมพ์ว่า:
จริงๆความโหดสู้บาซ่ายุคเป๊ปไม่ได้หรอก

สไตล์จุ๊ปก็เล่นไดเร็คง่ายๆนี่แหละ ขึ้น-ลงให้เร็ว ไม่ได้มีแท็คติคที่ซับซ้อน

ไม่ได้ตั้งรับเยอะจนโดนพับสนาม และก็ไม่ได้บุกจนหลังบ้านโล่ง

เพียงแต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่นักเตะบาเยิร์นพีคกันเกือบทุกคน

ชไวนี่ กับ มาตี้ ตัดเกม ส่วนแนวรุกมีมุลเลอร์ กับคู่หู รอบเบรี่ ที่เข้าฟอร์มสุดๆ


 


ยังไม่เคยเจอกันบอกสู้บาซ่ายุคเป๊บไม่ได้ มันจะพิสูจน์ได้ไงครับ อย่าเดือดนะ

อย่างที่บอกครับ ช่วงนั้นพีคทุกคน รอบเบรี่ก็พีค ไม่เจ็บอีก  


ผมก็ไม่ได้บอกว่าความผมถูกนี่ครับ ถ้าเทียบกับบาซ่ายุคเป๊ปผมก็ว่ายังเป็นรอง ก็แค่นั้น

ส่วนใครจะคิดว่าดีกว่า เทพกว่า ก็แล้วแต่นี่ฮะ

แล้วจะไปเดือดทำไม ผมแฟนบาเยิร์น ถ้าแฟนทีมอื่นยกให้บาเยิร์นดีกว่าบาซ่าก็ดีใจด้วยซ้ำ



Danke Jupp
เข้าร่วม: 29 Oct 2010
ตอบ: 453
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:03 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2406
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:07 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
โหดกว่ายุคเป๊ปป่าวไม่รู้แต่ดูสนุกกว่าเยอะ เล่นไว จบได้ทุกท่า ยิงไกล ครอส มีหมด จำได้ว่าดูสนุกมาก บาเยินชุดนั้น
เข้าร่วม: 26 Oct 2010
ตอบ: 9170
ที่อยู่: ไม่มีที่ไหนนอนสบายเท่าบ้านเราอีกแล้ววววววววว
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:09 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
สำหรับผมนะ

นอกจากร็อบเบรี่จะพีคแล้ว

จุดหลักเลยคือ คู่กลาง บาสตี้ - มาร์ติเนซ


เป็นคู่กลางเข้าขาเข้าล็อค

และที่สำคัญแกร่งเชี่ยๆโดยเฉพาะมาร์ติเนซ

ตอนนั้นผมให้เป็นกลางรับเบอร์ต้นๆเลย เหนียวแน่น แกร่ง สกรีนบอลก่อนถึงหลังดีมาก
คุณอ๊บ
เข้าร่วม: 11 Jan 2014
ตอบ: 2858
ที่อยู่: ทุ่งข้าวสาลี
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:12 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ไม่ได้ดิสเครดิตเป๊ป

แต่คิดว่า ชาบี้+อิเนียสต้า คือ จิ๊กซอสำคัญในแผนของเป๊ป

ถ้าไม่ใช่ 2 คนนี้ ผลงานอาจไม่พลุแตกอย่างที่เคยเป็น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่โหดนะ
0
0

เข้าร่วม: 19 Jun 2009
ตอบ: 2902
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:15 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
นักเตะหลายคนอยู่ในช่วงพีค ร็อบเบน ริเบรี่ ไม่ค่อยเจ็บ ลาห์ม ชไวนี ก็อยู่ในช่วงพีค
แต่คีย์แมนที่ทำให้ทีมลงตัวเลยคือ ดันเต้ กะ มาตี้เนส เกมรับ 2 คนนี้ช่วยไว้เยอะมาก โดยเฉพาะมาตี้เนส
เข้าร่วม: 08 Sep 2013
ตอบ: 3845
ที่อยู่: MARVEL
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:17 pm
[RE]ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ
ชอบปู่จุ๊ป มากก เสียดายรีไท

เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4398
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:22 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง



เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 225
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:23 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Hormones พิมพ์ว่า:
ชอบปู่จุ๊ป มากก เสียดายรีไท  


ชอบเหมือนกันครับ ถามต่อนะครับ ทำไมคุมทีมดีขนาดนี้ถึงออกอ่าครับ เขาออกเองเพราะสังขาร หรือ การเมืองบีบให้หลีกทางกับโค๊ชครับ

ปล.ฝากกดติดตามช่องด้วยครับhttps://goo.gl/T9W5CB
เข้าร่วม: 29 Oct 2010
ตอบ: 453
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:24 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบคือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


เออ ตามนั้น เอาที่พี่สบายจายยยยยยย
เข้าร่วม: 19 Feb 2011
ตอบ: 2294
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:27 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 

ถูกเเล้วเเหละสอนบอล ดูรูปเกมส์ซิ ขนาดเซอร์ยังกำหมัดเลย
- Worlds of DC -
เข้าร่วม: 23 Sep 2013
ตอบ: 1026
ที่อยู่: Russian
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:29 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบคือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


เออ ตามนั้น เอาที่พี่สบายจายยยยยยย  


ตามนั้นแหละปล่อยพี่แกทำตามใจเถอะ

0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4398
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:33 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Joseph_Stalin พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบคือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


เออ ตามนั้น เอาที่พี่สบายจายยยยยยย  


ตามนั้นแหละปล่อยพี่แกทำตามใจเถอะ

 


รูปเกมแบบนั้น ถ้าเข้าใจเกมฟุตบอล มันก็ไม่ต้องอธิบายมากหรอก อ้างตัวผู้เล่นแบบนี้มันไม่ใช่ผู้แพ้ที่ดีเลย


เข้าร่วม: 23 Sep 2013
ตอบ: 1026
ที่อยู่: Russian
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:34 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
Joseph_Stalin พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบคือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


เออ ตามนั้น เอาที่พี่สบายจายยยยยยย  


ตามนั้นแหละปล่อยพี่แกทำตามใจเถอะ

 


รูปเกมแบบนั้น ถ้าเข้าใจเกมฟุตบอล มันก็ไม่ต้องอธิบายมากหรอก อ้างตัวผู้เล่นแบบนี้มันไม่ใช่ผู้แพ้ที่ดีเลย  


ครับผู้ชนะที่ดี

เข้าร่วม: 08 Sep 2013
ตอบ: 3845
ที่อยู่: MARVEL
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:37 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Dangbireley พิมพ์ว่า:
Hormones พิมพ์ว่า:
ชอบปู่จุ๊ป มากก เสียดายรีไท  


ชอบเหมือนกันครับ ถามต่อนะครับ ทำไมคุมทีมดีขนาดนี้ถึงออกอ่าครับ เขาออกเองเพราะสังขาร หรือ การเมืองบีบให้หลีกทางกับโค๊ชครับ  

แกน่าจะอิ่มตัวแล้วออกเองมากกว่าครับ ได้แชมป์แล้วจบแบบสวยๆ ดีกว่า

เข้าร่วม: 06 Jan 2010
ตอบ: 62
ที่อยู่: China
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:37 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ปีก่อนได้สามแชมป์ ทีมปู่จุ้ป ก้อไม่ได้แกร่งขนาดนี้ แถมผลงานตอนปู่คุมมาดริดนี่ สอบตกเลยครับ.. พูดก้อพูดนักเตะบาเยิร์นปีนั้นพีคมากๆ ขนาดดันเต้ยังสุดยอดเลย..แล้วดันเต้ ฟอร์มยุคเป๊ปก้ออย่างที่เห็นลาก่อย
Face off 2010,,You may say i'm a dreamer, but i'm not the only one..韩保龙
http://upic.me/i/td/1to15.gif
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 135
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:43 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ผมว่าโหดกว่ายุคเป๊ปคุมบาเยิรน์นะ

บอลโต้กลับขึ้นเป็นแผง ความฟิตดีมากทั้งทีม ไม่มีหวงบอล บอลไว

ซ้ายปาดมากลางมีตัวเข้าตลอด หากตัวกลางพลาดก็มาถึงตัวขวา

ขวาปาดไปก็ถึงกลาง เลยกลางไปก็ถึงซ้าย

https://www.youtube.com/v/-yxd1xraqEo

ลองดูคลิปนี้ครับ โหดฝุดยอด



เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 5053
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:47 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ผมชอบบาเยินยุคนั้นมากสุดแล้ว


แน่นทุกตำแหน่งจริงๆ โดยเฉพาะคู่กลางโคตรลงตัว


ส่วนรอบเบอรี่ไม่ต้องพูดถึงเลย


ไหนจะมานซูคิสท๊อปฟอร์มอีก
manchester united
germany
bayern munich
เข้าร่วม: 26 Dec 2009
ตอบ: 23421
ที่อยู่: ʕ•̫͡•ʔ ʕ•̫͡•ʔ Satisfied City ♥ Blissful Land ʕ•͓͡•ʔ•̫͡•ʔ
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:47 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


มันไม่ได้อยู่ที่สกอร์หรอกครับ ที่แพ้แมนซิ 6-1 ก็ยังไม่ขนาดนี้เลย(อันนั้นมันก็มีเหตุผลหลายอย่างที่เสีย 6 ลูก) แต่ที่แพ้บาร์ซ่าเนี่ยสู้ไม่ได้เลยจริงๆ นอกจากตัวผู้เล่นแล้วอย่างอื่นก็สู้ไม่ได้ ความรู้สึกว่าเราแพ้มันอยู่ในความทรงจำผมเลยครับ มันสิ้นหวังมากนัดนั้น หาบอลไม่เจอเป็นลิงชิงบอลไร้ทางสู้เลย ได้บอลแล้วก็โดนเพรสเสีย ต่อกันไม่ได้ 2009 ก็เหมือนกัน แมนยูบุกกดบาร์ซ่าอยู่ 11 นาทีแรก กดดันจนกองหลังเตะทิ้งบัลเดสเตะออกข้าง โรนัลโด้ยิงชนเสา กำลังจะฝันหวานเลยอยู่ๆก็โดนฟ้าผ่าบาร์ซ่าโต้กลับมาได้ประตู แล้วหลังจากนั้นอีก 80 นาทีกลายเป็นนรกเลยอ่ะ

จำไม่ได้แล้วว่าที่ป๋ากำหมัดนี่คือปีไหน
0
0
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 2100
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:48 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Spoil
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  
 



คำว่าสอนบอลน่ะเหมาะแล้ว ไม่ใช่แค่แมนยูหรอกยุคนั้นบาซ่าครองโลกของจริง

ฉายาต่างดาวก็มาจากยุคเป๊ปนี้แหละ

ลูกนึงที่คุณว่าก็ล้ำหน้าแบบชัดเจนอีก
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 10981
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:48 pm
[RE]ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  
ตอนนั้นติโต้กลับมาคุมครับ ไม่ใช่รูร่าแล้ว
0
0
เข้าร่วม: 11 Apr 2010
ตอบ: 258
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:51 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
http://www.uefa.com/uefachampionsleague/season=2011/matches/round=2000122/match=2003352/postmatch/statistics/index.html

โอกาสยิง 16-3 ครั้ง
ยิงตรงกรอบ 12-1 ครั้ง

น่าจะถือว่าสอนบอลอยู่นะ

เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 41857
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:56 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
อาวุธหลักคือปีก กับ แบค ครับ

ด้านขวา ปีกคือ รอบเบน แบคคือ ลาม

ด้านซ้าย ปีกคือ ริเบอรี่ แบคคือ อลาบ้า

พวกนี้บุกแบบไปด้วยกัน 2 คน ก้คิดภาพดู ทั้งช่วงพีค ทั้งทีมเวิค เอาไม่อยู่จริงๆ

เกมรับปีนั้นได้ ดานเต้ จากกลัคบัคมาเสริม ตัวนี้ตอนปีนั้น วางบอลจากหลังโครตโหด โหดกว่า บัวเต็ง ฮุมเมลอีกนะ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 10981
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 2:58 pm
[RE]ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ
Azulgranas พิมพ์ว่า:
ตอนนั้นโค้ชบาซ่าเป็นใครนะลืม รูร่าป่ะ แล้วบาเยินใช้โคตรโค้ชอย่างไฮเกส
ฟอร์มปีนั้นบาเยินมาดีมาก ประจวบเหมาะกับเมสซี่ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาป่ะจำไม่ได้
ตอนนั้นฟอร์มตกกันละนาว บาเยินมาถุงบุกใส่อย่างเดียว บาซ่าเป๋เลยปีนั้นจำได้  
โค้ชตอนนั้นติโต้ครับ แต่คนชอบจำเป็นรูร่าเพราะชื่อเสียแก
0
0
เข้าร่วม: 14 Feb 2014
ตอบ: 6819
ที่อยู่: München Deutschland
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 4:15 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]


พีค สุกงอมของทั้งโค๊ชและนักเตะ ประกอบกับแรงผลักดันจากความผิดหวังและเจ็บปวดของปีก่อนหน้า ชนิดที่ว่าไม่สนแล้วว่าใครจะขวางทาง ฮ่า ๆ ๆ



เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 7601
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 4:18 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
เซ่อซ่าท้าเด็กเเร้ป พิมพ์ว่า:
Azulgranas พิมพ์ว่า:
ตอนนั้นโค้ชบาซ่าเป็นใครนะลืม รูร่าป่ะ แล้วบาเยินใช้โคตรโค้ชอย่างไฮเกส
ฟอร์มปีนั้นบาเยินมาดีมาก ประจวบเหมาะกับเมสซี่ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาป่ะจำไม่ได้
ตอนนั้นฟอร์มตกกันละนาว บาเยินมาถุงบุกใส่อย่างเดียว บาซ่าเป๋เลยปีนั้นจำได้  
โค้ชตอนนั้นติโต้ครับ แต่คนชอบจำเป็นรูร่าเพราะชื่อเสียแก  


ไม่ใช่ทั้ง2นัดมั้ง ผมจำได้ว่ามีนัดนึงรูร่าเป็นคุมแน่ๆอะ

edit โทดครับจำผิด ไปดูมาและติโต้2นัดจริงตามที่คุณบอก
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 4528
ที่อยู่: Abbey Road
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 4:19 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
เกมส์บุกจากปีกครับ เอกลักษณ์ยุคนั้นคือการสอดของแบ๊คและปีก จ่ายตัดหลังแต่ละดอก ได้ครอสเกือบตลอด เกมส์ไหนตื้อๆร๊อบเบนก็จัดให้ตลอด
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 9727
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 4:36 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ผมว่าทีมเป็ปตอนบาซ่าดีกว่า แต่ยุคปู่บาเยิร์นเล่นมันส์กว่า

คือแปปๆไม่ต้องจังหวะเยอะ มาหน้าประตูละ ละได้ประตูตลอด

โคตรอิจฉาแฟนบาเยิร์นเลยตอนนั้น ฟินน่าดู ทีมโคตรโหด
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 5591
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 4:54 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Schickeria พิมพ์ว่า:
จริงๆความโหดสู้บาซ่ายุคเป๊ปไม่ได้หรอก

สไตล์จุ๊ปก็เล่นไดเร็คง่ายๆนี่แหละ ขึ้น-ลงให้เร็ว ไม่ได้มีแท็คติคที่ซับซ้อน

ไม่ได้ตั้งรับเยอะจนโดนพับสนาม และก็ไม่ได้บุกจนหลังบ้านโล่ง

เพียงแต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่นักเตะบาเยิร์นพีคกันเกือบทุกคน

ชไวนี่ กับ มาตี้ ตัดเกม ส่วนแนวรุกมีมุลเลอร์ กับคู่หู รอบเบรี่ ที่เข้าฟอร์มสุดๆ


 

เกมรับอย่างแน่นตามทีมเยอรมันอยู่แล้ว ส่วนเกมรุกบุกแต่ละทีสร้างสรรค์โอกาสได้จบบ่อยมาก
แล้วในหลายๆครั้ง จังหวะบอลไม่ได้เยอะเลย ต่อบอลไม่กี่ทีถึงหน้าประตู ยิงหาย โหดมากๆ
0
0
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 1266
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 6:43 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


ผมว่ามันเหนือกว่าจริงๆแต่ใช้คำให้เกียรติคู่แข่งหน่อยก็ดีน่ะครับ สู้ไม่ได้คือสู้ไม่ได้ อะไรก็ว่าไป เก่งกว่าเยอะแทคติคดีกว่าก็ว่าไป

เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 1428
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 7:03 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 

ผมแฟนผีนะ แต่บอกว่าสอนบอลนี่เกินไปจิงนะครับ ทีมระดับแมนยูไม่ต้องสอนหรอกครับ เรียกสู้ไม่ได้หรืออะไรให้ศัพท์มันดูดีกว่านี้หน่อยก็ได้ มันดูหยามเกินไปนะ งั้นบาซ่าคุณที่โดนบาเยินตบไป-กลับ 7-8 ลูกนี่ไม่เรียกโคตรของโคตรสอนบอลเลยหรอครับ ปีนั้นนักเตะบาซ่าก็โคตรเทพ เมสซี่ ชาบี้ อิเนสต้าช่วงพีค ไหนจะบีย่า เปโดรอีก แมนยูดูตรงกลางใคร คาริก เฟรชเชอร์ กิ๊กส์ สโคลตอนแก่ คือเข้าชิงได้ก็บุญละครับ แถมในเกมโอเคสู้ไม่ได้ก็จิง การครองบอลต่อบอลเป็นรองแต่จังหวะจบแมนยูใช่ว่าไม่มี ก็ได้มาตั้ง 1 ลูก แถมจังหวะอื่นอีกที่บัลเดสเซฟก็มี ถ้าแบบมีดวงฟลุคๆยิงเข้าไปอีกสักลูก สองลูกมันก็ไม่ใช่สอนบอลหรอกครับ
เข้าร่วม: 16 May 2010
ตอบ: 3586
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 8:30 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
จังหวะมันพีคพอดีน่ะครับ ตัวเจ็บบ่อยๆหลายตัวก็ไม่เจ็บหรือเจ็บไม่นานในปีนั้นการมาของมาติ

เนสที่หลังจากนั้นก็เจ็บเกือบจะตลอด มีตัวแทนกันได้ หลุย์ กุสตาโว่ปีนั้นก็สำคัฯมาก ดานเต้งี้ มานซูคิชนี่ยังกะสั่งได้ว่าต้องยิง มันเข้าทางหมดอ่ะพูดง่ายๆ ยิ่งปีก่อนนั้นรองแชมป์สาม

รายการรวดอีกยิ่งมีแรงผลักซึ่งคุ้นๆว่าตรงนี้ต้องให้เครดิตปู่แกและทีมงานหลายๆคนที่ปลุกใจ

เพราะบางทีเจอแบบนั้นเป๋ยาวก็มี ว่ากันตรงๆเรื่องแทคติกปู่แกก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นนะ

ออกแนวแพตเทิร์นเดียวพอสมควรประมาณราฟาอ่ะคุมทีมกลางค่อนสูงจะดีแต่ให้คุมบิ๊กจริงๆไม่

เด่นเท่าไหร่ อย่าง2012นัดชิงก็ดันเอามุลเลอร์ออกจนไม่มีกองหน้าไปค้ำเชลซีโดนเลย แต่ใช่พี่เสือปีนั้นผมว่าแกร่งกว่าพี่เสือของเป๊บทุกปีส่วนนึงอาจเพราะลูกทีมเล่นเพื่อแกเยอะด้วย ฟีลแบบอันเช่อ่ะนักเตะรัก
0
0
เข้าร่วม: 23 Aug 2009
ตอบ: 525
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 8:37 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


โทดทีครับ โควทผิด
0
0
เข้าร่วม: 23 Aug 2009
ตอบ: 525
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 8:39 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


แล้วนัดที่แมนยู ชนะ ตอนได้แชมป์ปี 2007-2008 ละครับ เรียกว่าแท็คติคไหม

ปรัชญา บาร์ซ่า มันเป็นที่แต่ละยุคมากกว่าครับ อย่าเอามาพูดเลย
0
0
เข้าร่วม: 10 Nov 2014
ตอบ: 2296
ที่อยู่: -*-
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 9:20 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
Ezart พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


ผมว่ามันเหนือกว่าจริงๆแต่ใช้คำให้เกียรติคู่แข่งหน่อยก็ดีน่ะครับ สู้ไม่ได้คือสู้ไม่ได้ อะไรก็ว่าไป เก่งกว่าเยอะแทคติคดีกว่าก็ว่าไป  


เท่าที่ผมอ่านมา ยูสนี้แกเคยเขวะแมนยู อยู่นิดหน่อยเหมือนกันนะ แต่ก็ชั่งเขาเถอะ บาซ่าเขาเก่งที่สุดในโลกละ 555
เข้าร่วม: 07 Feb 2006
ตอบ: 7016
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 10:32 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
ทีมตัวเองชนะ = สอนบอล

ทีมคนอื่นชนะทีมตัว = โดนสอนบอล??

การแพ้ชนะ องค์ประกอบมีทั้งระบบทีม ฟอร์มตอนนั้น อาการบาดเจ็บ นักเตะ ฯลฯ

ใช้คำซะไม่ค่อยจะดูถูกทีมอื่นเลย ตอนทีมตัวเองแพ้คิดว่าโดนสอนบอลมั้ยอ่ะ?

ใจเขาใจเราครับ



เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4398
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 11:03 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
sorrysorry03 พิมพ์ว่า:
Ezart พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


ผมว่ามันเหนือกว่าจริงๆแต่ใช้คำให้เกียรติคู่แข่งหน่อยก็ดีน่ะครับ สู้ไม่ได้คือสู้ไม่ได้ อะไรก็ว่าไป เก่งกว่าเยอะแทคติคดีกว่าก็ว่าไป  


เท่าที่ผมอ่านมา ยูสนี้แกเคยเขวะแมนยู อยู่นิดหน่อยเหมือนกันนะ แต่ก็ชั่งเขาเถอะ บาซ่าเขาเก่งที่สุดในโลกละ 555  


แขวะแค่เวลาเรื่องโด้ครับ แต่พวกเด็กเป็ดและทีมเป็ดนี่โคตรไม่ชอบแต่พยายามไม่ War เพราะแฟนหง์ที่เชียร์บาร์ซ่าจากใจมันก็พอมี แต่บางคนมาเป็นเห็บเอาทีมผมไปข่มแมนยูนี่แหละที่น่าหงุดหงิด


เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4398
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 11:11 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
PopPuLar พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


แล้วนัดที่แมนยู ชนะ ตอนได้แชมป์ปี 2007-2008 ละครับ เรียกว่าแท็คติคไหม

ปรัชญา บาร์ซ่า มันเป็นที่แต่ละยุคมากกว่าครับ อย่าเอามาพูดเลย  


2008 ตอบว่าใช่บาร์ซ่าไม่สามารถเจาะรถบัสแมนยูได้เลย ในแง่ tactic แมนยูทำสำเร็จครับและเอาชนะบาร์ซ่าได้ จำได้เลยว่าจบเกมชาบี้หัวร้อนไปแขวะแมนยูอยู่

เรื่องปรัญชาฟุตบอลแบบบาร์ซ่ามันถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่นมานานล่ะครับ แต่เป๊ปคือคนที่นำมาปรับใช้จนสมบูรณ์แบบ ถ้าบาร์ซ่าไม่มีปรัญชาที่เป็นเอกลักษณ์ก็คงตอบรับคำขอคุมทีมของมูตอนนั้นแล้วสิครับ แต่บาร์ซ่าเลือกที่จะดึงเป๊ปจากชุดเบมาคุมทั้งๆที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองเท่าไรมาคุม เพราะว่าเป๊ปแกเข้าใจปรัญชาฟุตบอลแบบบาร์ซ่าเป็นอย่างดีไง

0
0


เข้าร่วม: 23 Aug 2009
ตอบ: 525
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 29, 2016 11:55 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
PopPuLar พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 


แล้วนัดที่แมนยู ชนะ ตอนได้แชมป์ปี 2007-2008 ละครับ เรียกว่าแท็คติคไหม

ปรัชญา บาร์ซ่า มันเป็นที่แต่ละยุคมากกว่าครับ อย่าเอามาพูดเลย  


2008 ตอบว่าใช่บาร์ซ่าไม่สามารถเจาะรถบัสแมนยูได้เลย ในแง่ tactic แมนยูทำสำเร็จครับและเอาชนะบาร์ซ่าได้ จำได้เลยว่าจบเกมชาบี้หัวร้อนไปแขวะแมนยูอยู่

เรื่องปรัญชาฟุตบอลแบบบาร์ซ่ามันถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่นมานานล่ะครับ แต่เป๊ปคือคนที่นำมาปรับใช้จนสมบูรณ์แบบ ถ้าบาร์ซ่าไม่มีปรัญชาที่เป็นเอกลักษณ์ก็คงตอบรับคำขอคุมทีมของมูตอนนั้นแล้วสิครับ แต่บาร์ซ่าเลือกที่จะดึงเป๊ปจากชุดเบมาคุมทั้งๆที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองเท่าไรมาคุม เพราะว่าเป๊ปแกเข้าใจปรัญชาฟุตบอลแบบบาร์ซ่าเป็นอย่างดีไง

 


ทีมอย่างแมนยูนี้นะรถบัส 555 ถ้าเล่นแบบรสบัสจริง คงไม่มีแฟนบอลทั่วโลกหรอกมั้ง สไตล์บอลแบบเซอร์ ตอนคุมแมนยูมีเน้นบุกนะครัับ แต่เจอบาร์ซ่านัดนั้น เน้นคุมโซนซะเยอะ

ดีกว่าบาร์ซ่า ยุคริวัลโด้แบกทีมเยอะ อย่าให้ตกต่ำเหมือนสมัยนั้นนะ เดียวจะปรัชญาไม่ออก มีไคลเวิต จอมโหม่งเลยนะ

ซะใจตอนฟิโก้ย้ายทีมชิบหาย เอาแชมป์ฟาดหน้าไปหลายปีเลย ปรัชญาจริงๆ ยุคนั้น555

เพิ่มเติม ไม่รู้ว่าทันดูไหม สงสัยมาเห็นแต่บาร์ซ่ายุคเป็ปซะละมั้ง
ถึงเพ้อเจ้อว่า ปรัชญา บาร์ซ่า555
เข้าร่วม: 22 Apr 2007
ตอบ: 6944
ที่อยู่: Barcelona Catalunya
โพสเมื่อ: Tue Aug 30, 2016 12:21 am
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
3แชมป์ชุด3ทีมหลังสุดนี่โหดๆทั้งนั้นเลย
Inter10 Bayern13 Barca15
0
0
เข้าร่วม: 04 Nov 2014
ตอบ: 4213
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 30, 2016 3:44 am
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
CristianoCr7 พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 

ผมแฟนผีนะ แต่บอกว่าสอนบอลนี่เกินไปจิงนะครับ ทีมระดับแมนยูไม่ต้องสอนหรอกครับ เรียกสู้ไม่ได้หรืออะไรให้ศัพท์มันดูดีกว่านี้หน่อยก็ได้ มันดูหยามเกินไปนะ งั้นบาซ่าคุณที่โดนบาเยินตบไป-กลับ 7-8 ลูกนี่ไม่เรียกโคตรของโคตรสอนบอลเลยหรอครับ ปีนั้นนักเตะบาซ่าก็โคตรเทพ เมสซี่ ชาบี้ อิเนสต้าช่วงพีค ไหนจะบีย่า เปโดรอีก แมนยูดูตรงกลางใคร คาริก เฟรชเชอร์ กิ๊กส์ สโคลตอนแก่ คือเข้าชิงได้ก็บุญละครับ แถมในเกมโอเคสู้ไม่ได้ก็จิง การครองบอลต่อบอลเป็นรองแต่จังหวะจบแมนยูใช่ว่าไม่มี ก็ได้มาตั้ง 1 ลูก แถมจังหวะอื่นอีกที่บัลเดสเซฟก็มี ถ้าแบบมีดวงฟลุคๆยิงเข้าไปอีกสักลูก สองลูกมันก็ไม่ใช่สอนบอลหรอกครับ  


อย่าไปยุ่งกะเค้าดีกว่าครับ

2009 รอดจากเชลซีมาได้ไง



แหม่

แต่เอาจริงๆ ถ้าป๋าเน้นตัวที่เวิลคลาสมากกว่านี้ อาจจะคว้า ucl มากกว่านี้ผมว่า

ป๋าไม่ค่อยจะสอยตัวที่ชื่อเป้งๆระดับบัลลงดอร์เลย

มีแค่โด้นี่แหละ แถมต้องปั้นอีก

1
0
เข้าร่วม: 13 Oct 2010
ตอบ: 194
ที่อยู่: TPcomputer service ปราจีนบุรี
โพสเมื่อ: Tue Aug 30, 2016 11:33 pm
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
llmomoll พิมพ์ว่า:
CristianoCr7 พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
TheBasic พิมพ์ว่า:
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
บาร์ซ่ายุคเป๊ปที่สอนบอลแมนยูปี 2011 ผมว่านั่นคือที่สุดของวงการฟุตบอลล่ะ

ส่วนบาร์ซ่ายุคน้ารูร่าที่โดนบาร์เยินถล่มตามที่ จขกท พูดนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าบาร์ซ่าไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาคุมแล้วเทพหมด  


สอนบอล นี่ก็พูดเกินไป ชนะแค่ 3-1 เรียกสอนบอล

แบบนี้ทีมชนะห่างกัน 5-6 ลูก เรียกอะไรละ

 


ไม่เกิน Tactic ตัวผู้เล่น รูปเกม สถิติในเกม แมนยูสู้ไม่ได้สักอย่าง

เซอร์ยังนั่งกำหมัดอยู่ข้างสนาม  


มันไม่ใช่ Tactic สู้ไม่ได้ Tacticแบบนี้ก็ได้มา 1ลูก ไม่ใช่เหรอ? เข้าทำแบบแมนยูปกติ

แต่หลักๆที่สู้ไม่ได้คือตัวผู้เล่น แมนยูยุคนั้นมันบอลระบบ

ตัวผู้เล่นมีแต่เกรด B ถึง A ส่วนบาซ่ายุคนั้นมันมีเกรด S ตั้งหลายตัว

เกรด S 2ตัว ก็เป็นกองกลางแล้ว แล้วดูกลางแมนยูใคร? คาริก

มันก็เป็นปกติของฟุตบอล ถ้ากลางสู้ไม่ไหว นั้นก็แปลว่าทีมนั้นจะขึ้นเกมส์สู้ไม่ได้

คือทีมมันไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ปี2011 เข้ารอบชิง ปี 2012 ตกรอบแรก

พูดว่าสอนบอลมันก็เกินไป คือตัวผู้เล่นมันสู้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่ากระจอก ถึงขั้นต้องสอนบอล


ปล. สรุป คุณพูดเหยียดหยามไปพูดง่ายๆ  


ไปหาดู Full Match มาใหม่ดีกว่าไหมครับ ถึงแม้สกอร์ไม่ขาดแต่รูปเกมมันขาดมากๆ

ที่กลางคุณทั้งพาร์ค ทั้งคาริกวิ่งไม่เจอบอลก็เพราะ tactic tiki taka ไงครับ

นัดนั้นทีมคุณไม่สามารถเอาบอลมาครอง ไม่สามารถบุกกดดันได้ ไล่บอลไม่เจอบอล โดนบาร์ซ่าบุกทั้งเกม แบบนี้คือสู้ได้หรอครับ

เซอร์ยังนั่งกำหมัดหน้าแดงอยู่ข้างสนาม มันแสดงให้เห็นว่า tactic ที่เซอร์เตรียมมาและความได้เปรียบของการเล่นในอังกฤษมันพังแบบราบคาบ

นัดนี้ผมถือว่าเป็นการสอนปรัชญาฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าโดยแท้จริง

 

ผมแฟนผีนะ แต่บอกว่าสอนบอลนี่เกินไปจิงนะครับ ทีมระดับแมนยูไม่ต้องสอนหรอกครับ เรียกสู้ไม่ได้หรืออะไรให้ศัพท์มันดูดีกว่านี้หน่อยก็ได้ มันดูหยามเกินไปนะ งั้นบาซ่าคุณที่โดนบาเยินตบไป-กลับ 7-8 ลูกนี่ไม่เรียกโคตรของโคตรสอนบอลเลยหรอครับ ปีนั้นนักเตะบาซ่าก็โคตรเทพ เมสซี่ ชาบี้ อิเนสต้าช่วงพีค ไหนจะบีย่า เปโดรอีก แมนยูดูตรงกลางใคร คาริก เฟรชเชอร์ กิ๊กส์ สโคลตอนแก่ คือเข้าชิงได้ก็บุญละครับ แถมในเกมโอเคสู้ไม่ได้ก็จิง การครองบอลต่อบอลเป็นรองแต่จังหวะจบแมนยูใช่ว่าไม่มี ก็ได้มาตั้ง 1 ลูก แถมจังหวะอื่นอีกที่บัลเดสเซฟก็มี ถ้าแบบมีดวงฟลุคๆยิงเข้าไปอีกสักลูก สองลูกมันก็ไม่ใช่สอนบอลหรอกครับ  


อย่าไปยุ่งกะเค้าดีกว่าครับ

2009 รอดจากเชลซีมาได้ไง



แหม่

แต่เอาจริงๆ ถ้าป๋าเน้นตัวที่เวิลคลาสมากกว่านี้ อาจจะคว้า ucl มากกว่านี้ผมว่า

ป๋าไม่ค่อยจะสอยตัวที่ชื่อเป้งๆระดับบัลลงดอร์เลย

มีแค่โด้นี่แหละ แถมต้องปั้นอีก

 



แหม ป๋าสน แล้ว ใช่ว่าเค้าจะมานะ ไอ้ระดับบัลลงดอ เนี้ย
0
0

เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 2096
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Wed Aug 31, 2016 2:14 am
[RE: ทำไม Bayern ยุคของ Jupp Heynckes โหดจังครับ]
กระทู้บาเยิร์นแต่แฟนแมนยูกับบาซ่ามานั่งเถียงกัน

0
0