จอห์น บารน์สอดีตปีกนิลกาฬของ"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลวิ่งโร่ออกมาชี้แจงกรณีเล่าข่าวด้วยการอ่านเดอะ ซันหนังสือพิมพ์สุดฉาวที่คนเมืองสเกาเซอร์รังเกียจไม่ซื้ออ่านหรือแม้กระทั่งจะหยิบสัมผัสด้วยซ้ำ

เหตุการณ์ที่เดอะ ค็อปไม่พอใจมาจากรายการสดวิเคราะห์ข่าวซึ่งอดีตแข้งลิเวอร์พูลวัย 52 ปีถืออ่านซึ่งผิดหลักของเหล่าเดอะ ค็อปที่เป็นอันรู้กันอย่างกว้างขวางว่าหากเป็นแฟนบอลเลือดสีแดงต้องรู้ถึงสิ่งที่เดอะ ซันโยนความผิดให้แฟน"หงส์แดง"ในโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์เบอร์เรอห์เมื่อปี 1989 ซึ่งบาร์นสเองก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดวันนั้นซึ่งการถือหนังสือพิมพ์จากค่ายนี้เป็นการแสดงออกกลายๆว่าเขายอมรับการกระทำดังกล่าวนอดีต

อย่างไรก็ตามน้าบารน์สออกมาอธิบายว่าเป็นแค่การวิเคราะห์ข่าวจากหนังสือพิมพ์ที่ทีมงานเตรียมเอาไว้ให้ซึ่งเขาเองไม่มีทางเลือกใดๆ

"ผมวิเคราะห์หนังสือพิมพ์ทุกฉบับและหนึ่งในนั้นก็เป็นเดอะ ซัน"

"เราไปถึงสตูดิโอ 8 โมงเช้าและมีหนังสือพิมพ์หลายฉบับที่คุณต้องมาอ่านวิเคราะห์ เราไม่มีทางเลือกอะไรเลย สคริป์ถูกเขียนตอนตี 5 เราได้รับการแจกหนังสือพิมพ์หลากหลายฉบับและถูกลิสหัวข้อมาให้ เราไม่ได้เป็นคนเลือกหัวข้อเองใดๆเลย มันเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว ผมมั่นใจว่ารายการก็จะยอมตรวจสอบเรื่องนี้"

"สิ่งที่ผมจะพยายามทำคือขอร้องเขาว่าอย่าให้อ่านหนังสือพิมพ์จากเดอะ ซันได้ไหม ผมไม่เคยคิดเลยว่าการมาเล่าข่าวจากหนังสือพิมพ์จะกลายเป็นเรื่องอะไรขนาดนี้ มันบ้าเกิน ผมเองก็ไม่ได้ชอบดิ เอ็กซ์เพรสหรือเดอะ เมล์ซักเท่าไหร่แต่ผมก็ต้องมาอ่านเล่าข่าว"

"เรื่องของเรื่องคือมีหนังสือพิมพ์เป็นตั้งแล้วก็กระดาษขาวๆใบนึงที่ระบุให้เห็นถึงหัวหนังสือพิมพ์และเนื้อเรื่อง นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องเล่าข่าว ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย เดอะ ซันก็ไม่ได้จ่ายเงินอะไรผมเลยด้วย"

หนึ่งวันหลังเหตุการณ์ฮิลสเบอร์เรอห์เดอะ ซันพาดหัวข่าวตัวโตบอกโศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นน้ำมือของเดอะ ค็อปที่เหยียบกันตายแถมแฟนบอลบางคนขโมยทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต บางคนฉี่รดใส่ตำรวจโดยเป็นคำกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ใดๆจนสร้างความโกรธแค้นให้แฟนบอลลิเวอร์พูล

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาคดีนี้ถูกตัดสินออกมาเรียบร้อยแล้วว่าเดอะ ค็อปเป็นผู้บริสุทธิ์ซึ่งเท่ากับรอคอยความยุติธรรมมาอย่างยาวนาน 27 ปีและตำรวจเป็นต้นเหตุจากการที่ปล่อยให้แฟนบอลเข้ามาในสนามเพื่อชมเกมเอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศระหว่างลิเวอร์พูลและน็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์มากจนมากเกินไปทั้งๆที่ gate 3 และ 4 ที่รองรับผู้ชมได้เพียง 1,600 คนแต่กลับมีแฟนบอลแห่เข้ามาชมอย่างมากมายถึง 3,000 คนทำให้เดอะ ค็อปที่อยู่หน้าสุดต้องถูกอัดเข้ากับรั้วเหล็กจนขาดใจตายก่อนเกิดความวุ่นวายเมื่อหลายคนดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยการปีนรั้วและปีนขึ้นไปอัฒนจันทร์ด้านบนโดยมีเดอะ ค็อปช่วยกันแต่ท้ายที่สุดก็มีผู้เสียชีวิตในวันนั้น 96 คนและบาดเจ็บกว่า 700 คน

เดอะ ซันออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อปี 2012 ด้วยการพาดหัวตัวไม้ซึ่งเป็นการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำไว้แม้จะสายเกินไปสำหรับเหล่าเดอะ ค็อปทั่วเมืองที่แอนตี้หนังสือพิมพ์จากค่ายนี้ไปตลอดชีวิตเรียบร้อยแล้ว

[twitter]https://twitter.com/Mr603/status/769145987172560900[/twitter]

คลิปเหตุการณ์ที่ฮิลสเบอร์เรอห์


สารคดีจากบีบีซีกับเหตุการณ์ฮิลสเบอร์เรอห์ความยาว 1 ชั่วโมง


พาดหัวของเดอะ ซันในปี 1989 หลังเกิดเหตุการณ์ที่ฮิลสเบอร์เรอห์



ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 96 คนออกมาร้องเพลงยู วิว เนฟเวอร์ วอล์ก อโลนหลังได้รับชัยชนะจากการตัดสินของศาลและเป็นการรอคอยความยุติธรรมมานาน 27 ปี



ภาพการพาดหัวขอโทษของเดอะ ซันเมื่อปี 2012 ซึ่งความรู้สึกช้าไปถึง 23 ปีโดยคนขวาชื่อเดวิด โมฮานบรรณาธิการ



หนึ่งในภาพตำนานสำหรับแฟนบอลที่ถูกอัดเข้ากับรั้วเหล็กจนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 96 คนก่อนที่วงการฟุตบอลอังกฤษจะปฏิวัติยกเลิกรั้วเหล็กที่ไว้ใช้ป้องกันอันธพาลที่ถือว่าเยอะมากในช่วงนั้น



ว่ากันว่าบางคนในภาพนี้เสียชีวิตไปแล้ว


แฟนบอลหนีตายไปชั้นสอง


เดอะ ค็อปด้วยกันต่างหากที่ช่วยเหลือกันเต็มที่ ในภาพเอาป้ายโฆษณามาดัดแปลงเป็นเปลเพื่อหามคนเจ็บ



เคนนี่ ดัลกลิชกุนซือลิเวอร์พูลสมัยนั้นยืนช็อกก่อนประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังจากนั้นไม่นาน

ภาพ รั้วเหล็ก น่ากลัวถ้าไปติดตรงนั้นมีแต่ตาย แรงอัดมหาศาล

ด้วยหน้าที่การงาน บางทีมันก็จำเป็นน่ะ

น่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้เพราะรายการคงไม่มีแต่แฟนลิเวอที่ดู เค้าคงไม่มาเอาใจอยู่ทีมเดียวหรอก

มันรุนแรงมากนะครับ ถึงจะทำรายการก็ควรให้คนอื่นอ่าน

ปล.เหตุการณ์สู่ยุคหลับไหลของหงส์

เห็นภาพแล้วสลดใจแทน

ไม่กล้ากดดูคลิปเลย

อ้าววววววววว เฮ้ย ลุง

เป็น Legend ของทีม ที่ยังทำงานเข้มข้นให้สโมสรอยู่นะเว่ย

ทามมายพลาดวะ?

#YNWA

เดอะซุย เคยมีเรื่องดีๆกับเขามั้ยเนี้ย

ทำไมคนถึงเข้าไปอัดแน่นได้ขนาดนั้น

ข่าวนี้เหมาะสมแล้วล่ะที่นายกเบนเป็นคนจัดเอง ขอขอบคุณ

เอาแบบเข้าใจง่ายๆตามลิงค์นี้ครับ

http://www.oknation.net/blog/rukpong/2009/04/15/entry-1

สรุปแบบไม่ต้องเข้าไปอ่านก็คือตอนนั้นเอฟเอจัดตั๋วให้แฟนหงส์น้อยกว่าฟอเรสต์ทั้งๆที่จำนวนแฟนมีมากกว่าหลายเท่า คำร้องถูกปฏิเสธ

นั่นเป็นเหตุผลแรก เหตุผลสอง สมัยก่อนเป็นตั๋วยืน ไม่มีที่นั่งไม่มีอะไรระบุว่าต้องดูจุดนี้ที่ตรงนี้ของคนนี้ พวกแฟนก็ไปชิวด้านนอกสนาม กินเบียร์ คุย ร้องเพลง จับกลุ่มตามประสาแฟน พอเกมงวดเข้ามาก็เริ่มออยัดเข้ามาซึ่งแน่นอนครับคนที่ไม่มีตั๋วด้านนอกก็เยอะพยายามจะเข้ามาดูให้ได้ ตำรวจก็ดันไปเปิด gate C (ที่เป็นช่องไม่เช็กตั๋ว)แฟนทะลักเลยทีนี้ พวกที่มารอจองที่ด้านหน้านี่ซวยครับ โดนดันจนตัวหน้าติดแบนเหล็กหายใจไม่ออก ส่วนใหญ่เป็นเด็กด้วย ตายสิครับ

แต่ประเด็นคือตอนนั้นแฟนหงส์บอกให้ตำรวจเปิดรั้วเพื่อระบายคนแต่ถูกปฏิเสธเพราะกลัววุ่นวาย คนที่ปีนออกมาก็โดนไล่กลับเข้าไป ทีนี้พอมันลุกลามก็ต้านไม่อยู่ ต้องทำลายกรงเหล็กเพื่อระบายแต่เหมือนช้าเกินไป

แหมท่าน ก็เว่อไป

เอาจิงมันก้หน้าที่การงานนะไม่ผิดหรอก แต่มันเปนเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ

น่าจะออกแอคชั่นไปทางปฏิเสธนิดหน่อยก็ดีน่ะ แต่ก็ทำไปตามหน้าที่
อย่าง คล็อป ตอนเดอะซันพยายามจะสัมภาษณ์ แกยังเลี่ยงไม่ตอบ แถมเหน็บไปหน่อยนึงด้วย

ผมอ่านในวิกิเมื่อคืนละ ผิดตั้งแต่จัดฝั่งละผมว่า ให้ทีมแฟนเยอะไปอยู่ฝั่งความจุน้อย แถมตำรวจคุมไม่อยู่อีก ทางเข้าก็มีแค่ 7 ช่องหนักเข้าไปอีก