สวัสดีครับ ไม่ค่อยได้เขียนคอลัมน์ซักเท่าไหร่ ยอมรับว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ฝ่าฟันโหมกับการทำเว็บ SoccerSuck มาอย่างหนัก เสียชีวิตส่วนตัวและวัยรุ่นจนบางทีก็เสียดายช่วงเวลานั้นๆ ก็เลยชดเชยทวงคืนอย่างต่อเนื่อง เลิกแสดงตัวออกสื่อหรือในโลกโซเชี่ยล บางทีก็รู้สึกดีเหมือนกันที่คนรู้เรื่องเราน้อย เวลาเค้าจะด่าเราก็คงได้แต่ด่าเรื่องเก่าๆ 555 ตอนแรกตั้งใจจะเขียนนัดเปิดสนามแต่พอดีไปเชียงใหม่ก็เลยรวบยอดมาเขียน 2 นัดทีเดียวเลยล่ะกันครับ
ทีมแรกที่ผมต้องขอพูดถึงก่อนเลยคือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ฤดูกาลนี้เหล่าเร้ด อาร์มี่มองถึงการกลับไปแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้เพราะเวทีบอลยุโรปถ้วยใหญ่เปรียบเสมือนบ้านเก่าที่ยังไงก็ต้องลงเล่นทุกปี การดึงพอล ป็อกบามาร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาลเหยียบ 100 ล้านปอนด์,ได้ซลาทาน อิบราฮิโมวิช,เอริค ไบญี่บวกกับกึ๋นของโจเซ่ มูรินโญ่นี่บอกได้คำเดียวว่าโป๊กจริงๆ เกมมีมิติ เล่นเกมรุกไม่ได้ขวางค่อยๆส่งช้าๆฝากไปฝากมาเหมือนสมัยอ้วนปรัชญา แม้นัดแรกจะได้ของขวัญที่แข้งบอร์นมัธมอบให้จนฆวน มาต้ายิงเบิกร่องก่อนไหลตามมาอีก 2 แต่นัดล่าสุดเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นแล้วว่าการมีแข้งเวิร์ลดคลาสอย่าง"อิบรา"สร้างความแตกต่างแค่ไหน ว่ากันว่า"ปีศาจแดง"เตะวันศุกร์เพราะ"อิบรา"อยากลงเล่นวันศุกร์ ยืมมุกมาเล่นนะแอบอ่านบอร์ดบ่อย ที่พรีเมียร์มีเพิ่มวันศุกร์มาน่าจะระบายการถ่ายทอดสดมากกว่าครับเพราะดูเหมือนวันเสาร์เตะคู่แรกแล้วแยกไปคู่ดึกมันน้อยไป คู่สามทุ่มมันชนเยอะ แบบนี้กลายเป็นว่ามีคู่โดดวันศุกร์(1 คู่),เสาร์(2 คู่) อาทิตย์(2 คู่) ถือว่ากำลังพอดีเลยได้ข่าวคู่ยูไนเต็ดกับเซาแธมป์ตันแฟนผีแดงตื่นเต้นอยากดูป็อกบากันจนน้ำเดินเป็นแถวแต่ก็มีคนทำคลิปแซวว่าสัมผัสแรกของอดีตแข้งเทพยูเวนตุสจั่วลมซะงั้น ฮาแต่พอเล่นไปเล่นมาเริ่มมีของ การขโยกบอล การออกบอลได้เสียเป็นสิ่งที่"ปีศาจแดง"ขาดหายไปจริงๆแถมมูรินโญ่มาปลุกมารูยาน เฟลไลนี่ที่มีแต่คนสาปส่งตอนนี้กลายเป็นเทพแดนกลางขโมยบอล ชน เก็บบอลซะเนียนกิ๊กบวกกับเอริค ไบญี่ที่บอกได้คำเดียวว่าแข็งโป๊กยิ่งกว่าเตาปิ้งย่างบาร์บีคิวเหลือแต่"อาเสี่ย"เวย์น รูนีย์ที่ผมเข้าใจหัวอกแฟนบอลเลยว่าทำไมท้อแท้กับนางเหลือเกิน คือพออายุมากความเร็วหาย สมงสมองคิดอะไรก็ช้า ที่ทดแทนมาคือการออกบอลต้องเหนือ ต้องค่อยๆเล่น ขวางสนาม ส่งไซด์ก้อย จากที่จะบุกจะสวนกลายเป็นช้าเหมือนมีรถออกจากซอยต้องคอบชลอให้เวลานักเตะมีอิทธิพลเยอะๆอยู่มานานบางทีก็มีข้อเสียแบบนี้แหละครับ ทำอะไรทีก็เกรงใจ ถอยมาล้วงบอลต่ำเพื่อนก็ต้องให้(เหมือนสมัยเจอร์ราร์ดที่เริ่มโรยราแล้วลิเวอร์พูลมีตัวแข็งๆห้าวกว่าเล่นด้วยแต่ต้องเกรงใจส่งบอลให้ตลอด) ได้แต่หวังว่าความโหดของมูรินโญ่อาจจะทำให้กล้าดร็อปรูนีย์บ้างเพราะตอนนี้แฟนบอลอยากเห็น MK ลงตัวจริง ประสิทธิภาพในทีมจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยซักทีนัดหน้าออกเยือนฮัลล์ที่ชนะมา 2 นัดรวดเช่นกันเป็นอะไรที่น่าติดตามมากว่า"น้ามู"จะร่ายมนต์เน้นผลให้ทีมที่อ้วนปรัชญาทำแฟนหัวร้อนเมื่อซีซั่นก่อนได้ไหม ออกสตาร์ตสวยแบบนี้ถ้าชนะ 3 นัดติดบอกตามตรงว่าน่าอิจฉาครับ
ทีมนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ครับกำลังหัวร้อนเลยสำหรับ"หงส์แดง"ได้ดึงเดอะ ค็อปกลับมาสู่โลกของตัวเองอย่างรวดเร็วแค่หนึ่งสัปดาห์ให้หลังจากชัยชนะที่ทุกคนฝันไปไกลถึงแชมป์นู่นคล้ายคนที่แอบชอบมาบอกรักจนตัวลอยแต่อีกวันเธอล้างเครื่องสำอางค์จนเห็นหนังหน้าที่แท้จริงปีที่ได้รองแชมป์เกมรับกากสุดๆครับแต่แฟนบอลถูกกลบด้วย 100 กว่าประตูที่แนวรุกทำได้ จากนั้นมาพอเสียหลุยส์ ซัวเรสจำนวนประตูน้อยลงแต่ที่เสียนี่สิครับเหมือนจะโดนเรื่อยๆโดนทุกวีค ตอนนี้ถ้านัดไหนมีคลีนชีตถือว่าลิเวอร์เกรด A แน่!เกมที่แพ้เบิร์นลีย์จากที่ว่าต้องเจอน้องใหม่ที่ส่วนใหญ่ต้นฤดูกาลแรงยังดี ใช้สไตล์หนักจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ(ที่ตกง่ายขึ้นยาก) ก็ว่าโหดแล้วยังมาเสียเร็วแบบนี้ถ้าไม่มีเวทมนต์ของฟิลิปเป้ คูตินโญ่ก็แทบไม่มีอะไรเลย ยิ่งไร้มาเน่ไปอีกคนเกมกว่าจะตั้งขึ้นมาช้าเกินไปแล้วที่น่าห่วงคือการที่เยอร์เก้น คล็อปป์จับเอาไวนัลดุมมายืนกลางคู่เฮนเดอร์สันนี่แหละครับ รายแรกนี่เค้าถนัดรุก วิ่งสอดเข้าเขตโทษ แต่พอมาเล่นคู่เฮนโด้ก็เรียกว่าผิดตำแหน่ง กลายเป็นเล่นไม่ออกแถมเห็นได้ชัดว่าเกร็ง(แตะบอลลั่น ได้บอลดีๆลากไปให้เค้าเฉย ช็อตนี้อย่างงง) ขนาดเพื่อนจะจ่ายให้เพราะยืนว่างแกยังชี้นิ้วให้ส่งไปที่อื่น!คาดว่า JK คงต้องปรับใหม่ตอนเจอสเปอร์สไม่งั้นมีพังครับ เฮนโด้กับไวนัลดุมไม่สามารถสกรีนการบุกของฝ่ายตรงข้ามได้ นัดเจออาร์เซนอลยังมีคนอื่นคอยวิ่งไล่เลยเอาอยู่ ขนาดคูตินโญ่ยังเป็นตะคริวพอโดนเบิร์นลี่ย์นำ 1-0 แล้วดูจังหวะและการเข้าทำมันทำให้ยิ่งสิ้นหวังเพราะกลางไม่มีตัวที่จะสร้างความแตกต่างได้เลย การเจาะทีมที่ลงไปตั้งรับถ่ายจ่ายเป็นแนวขวางช้าๆมันไม่ได้ผลแน่ๆครับเพราะกองหลังและแนวรับจะประกบตัวรุกฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายที่สุด จะเจาะทีมพวกนี้ต้องใช้การออกบอลที่ไวขึ้น คนที่ออกบอลจะต้องห้ามยืนอยู่ที่เดิมและต้องจ่ายไปแนวลึกครับ ถ้าตัวจ่ายขยับไปเอามันคือการเพิ่มทางเลือกให้คนที่เราเพิ่งส่งไป ต้องใช้วิธีตัดหลังแบ็คควบคู่กันไป ถ้าพวกริมเส้นยืนรอเอาบอลแล้วเปิดครอสก็ถามว่าใครจะโหม่งครับ แถมลิเวอร์ยุคนี้ตัวเปิดริมเส้นแม่นๆก็ล้มหายตายจากไปหมดแล้วน่าเสียดายที่วันนี้คล็อปป์ติดประมาทส่งกลางหลวมลงเจอกับทีมเพรสซิ่งแล้วตัวใหญ่ๆทั้งนั้นซึ่งอีกจุดที่เห็นได้ชัดคือดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ถ้าหายเจ็บกลับมาสนิมเกาะนี่ความเร็วหายไปเยอะครับ วิ่งแต่ละทีนึกว่าแบกกระสอบข้าวสารอยู่ กลายเป็นว่าลูกรักอย่างดิวอร์ค โอริกี้ต้องมานั่งสำรองทั้งๆที่ผมว่าเกมแบบนี้น่าจะมีประโยชน์กว่าหริดแบ็คซ้ายก็ชัดเจนแล้วนะครับว่าเจมส์ มิลเนอร์ไม่ถนัดและไม่ตอบโจทย์เวลาต้องการออปชั่นในการบุกเพิ่ม แบ็คอาชีพก็ไม่เอาอ่าว แบ็คจำเป็นก็ยังไม่ใช่ ตอนนี้ต้องวัดใจว่า JK จะฉลาดพอหรือกระสันมากพอที่จะแก้ไขตำแหน่งนี้ก่อนตลาดปิดหรือไม่ ถ้าไม่คงต้องเหนื่อยปากกันไปอีกอย่างน้อยเกือบครึ่งปีนู่นล่ะครับกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงไวหน่อยก็ดีครับสำหรับเดอะ ค็อปเพราะผมเชื่อว่าปัญหาหลายๆอย่างไม่นาจะหยุดอยู่แค่นี้ เรื่องเสียลูกตั้งเตะจนเหมือนจุดโทษไปแล้วยังมียิงหนแรกเป็นตุงให้ผวากันอีก ถ้าแก้ไม่ได้ในโลกฟุตบอลอาชีพที่มีการแข่งขันกันสูงบอกได้คำเดียวว่าไม่ดีพอและต้องดิ้นรนถามหาจิ๊กซอว์กันต่อไป
อีกทีมครับ กำลังเดือดหนักเลยคืออาร์เซนอลที่พอจบเกมเสมอเลสเตอร์ 0-0 กล้องจับภาพไปยังแฟนบอลเดอะ กันเนอร์สที่ชูป้าย"enough is enough" คือมีเงินให้ใช้ไม่ใช้ ระบบทีมที่เหนือชั้นสวยงามทุกปี ไปแชมเปี้ยนส์ลีกทุกปีแต่ถ้าวนเวียนอยู่แบบนี้มาสิบๆปีผมว่าผู้จัดการทีมน่าจะถึงทางตันแล้วล่ะครับ ส่วนใหญ่เค้าจะส่งไม้ต่อให้คนที่มีไฟและไอเดียใหม่ๆเหมือนสมัยที่อาร์แซน เวนเกอร์ก็เคยรับช่วงต่อจากบรูซ ริออคและเปลี่ยน"บอรริ่งอาร์เซนอล"ให้กลายเป็นทีมที่มีระบบเจ๋งสุดในเกาะอังกฤษแต่ในเมื่อระบบที่เจ็งที่สุดมันไม่นำมาซึ่งผลการแข่งขันอันสม่ำเสมอซึ่งสำคัญที่สุดในการถามหาแชมป์แฟนบอลที่จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆต้องการให้เปลี่ยนหัวเรืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ผมชอบดูอาร์เซนอลเล่นนะ แพ้ลิเวอร์พูลมาแต่ผมเห็นการต่อบอลเคาะบอลพื้นที่แคบๆยังคงมี class ให้เห็นอยู่ตลอดแต่ ณ ตอนนี้การคัดเลือกผู้เล่นที่สไตล์เหมือนถอดพิมพ์กันมาหรือการดื้อแพ่งใช้กองหน้าที่ไม่ใข่หน้าเป้า กองหลังพิการก็ยังนิ่งไม่เสริม(JK ที่ว่าดื้อแบ็คซ้ายยังกดเซนเตอร์มา 2) อะไรหลายๆอย่างทำให้แฟนบอล"ปืนใหญ่"มองเป็นเสียงเดียวกันว่ามันไม่ใช่วิสัยทัศน์ผู้นำที่ลงมือฉับไวที่ต้องมีเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่ตอนนี้ไปไหนต่อไหนแล้ว ผมว่าบอร์ดบริหารเองตราบใดที่เวนเกอร์ยังทำกำไรทุกปีก็ไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่ผมว่าฤดูกาลนี้อาจเห็นหน้าเห็นหลังเพราะสุ่มเสี่ยงต่อการหลุด top4 เป็นอย่างยิ่ง อันนี้ต้องถามด้วยว่าจะชนะปลดล็อกนัดแรกเมื่อไหร่เนื่องจากโปรแกรมนัดต่อไปเจอวัตฟอร์ดที่เกือบพลิกล็อกเอาชนะเชลซีซะด้วยสิ!
พูดถึงเชลซีผมก็ดู livescore ก็นึกว่าเสียซิงแพ้นัดแรกเหมือน"หงส์แดง"เนื่องจากเข้าสู่นาที 80 ยังตามหลังอยู่ 1-0แต่การแก้เกมของอันโตนิโอ คอนเต้ต้องบอกว่าเป็นไม้เด็ดสมกับเป็นชาวอิตาเลี่ยนคิดไวทำไวไม่ลีลาเป็นเหตุทำให้ 2 ตัวสำรองอย่างเชสก์และบาตชูอายี่มีส่วนทำให้ได้ประตูตีเสมอก่อนหมดเวลา 10 นาทีและปูทางให้"โปรเถื่อน"มาจัดประตูชัยนาที 87กลางเชลซีฤดูกาลนี้ผมว่าดูเขี้ยวมาก เรียกว่านัดไหนเจอทีมใหญ่ไม่ใครก็ใครต้องมีร้องแต่เหลือแนวรับที่ยังเสียประตูง่ายๆอยู่ ถ้าเสริมตัวดีๆผมว่ามีลุ้นเป็นเนื้อเป็นหนังกว่านี้เยอะแน่ๆแต่เป็นสัญญาณที่ดีครับสำหรับทีมที่ฟอร์มออกทะเลเมื่อฤดูกาลที่แล้วออกตัว 2 นัด 6 แต้มในขณะที่อะไรยังไม่ลงตัว เป็นสิ่งที่โค้ชและแฟนบอลหลายๆทีมต่างใฝ่ฝันเลยครับ มีแต้มตุนไว้ก่อนดีกว่ามาเล่นเกมไล่จับคอยนับแต้มหักล้างแช่งมันเหนื่อยนะเออ
สำหรับเต็งหนึ่งฤดูกาลนี้ที่สื่อยกให้คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้นี่ไม่ผิดตัวครับ 2 นัด 6 แต้ม 6 ลูกตัวรุกแต่ละตัวเห็นแล้วบอกเลยว่าหนาวขี้ทั้งกุน,โนลิโต้,เควิน เด บรอยเน้อรรรรรรรรร์แถมมีซิลบาที่ผมชอบเซนส์การจ่ายเอามากๆ คือ"เรือใบ"ผมว่าที่น่ากลัวจะฉีกหนีทีมอื่นๆก็ตรงที่ชอบตบ"เด็ก"นี่แหละครับ เหมือนมีตัวทะลุทะลวงโชว์ของเวลาเจอทีมที่ตามไม่ทัน ซึ่งผิดกับทีมอื่นที่เจอพวกอุดๆตั้งรับแล้วลิ้นห้อย แล้วคิดดูว่าในลีกมีทีมระดับเป็นรองซิตี้อยู่กี่ทีมเมื่อเทียบกับปริมาณทีมใหญ๋ยิ่งราฮีม สเตอร์ลิ่งเหมือนเปิดการ์ดตีบวกเวลาเจอทีมรองบ่อนแกจะเข้าฝักมาก แต่ถ้าเจอทีมเขี้ยวๆหน่อยจะเริ่มไปไม่เป็น เรียกว่าตอนนี้แต่ละทีมมีจุดอ่อนของตัวเองเพียงแต่ถ้านานๆเกิดขึ้นทีไม่ใช่ทุกๆสัปดาห์มันก็คือการแข่งกันว่าใครจะโดนเปิด"ขวัญเรียม"หรือ"แผลเก่า"ของตัวเองมากแค่ไหนหรือถี่แค่ไหนทางด้านสเปอร์สม้ามืดปีที่แล้วก็ยังดูฝืดๆโดยเฉพาะพวกกองหน้าอย่างแฮร์รี่ เคนจนต้องไปพึ่งพาประตูชัยของวิคเตอร์ วานยาม่าในนาที 83 นู่นเลยแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกนิ้วให้อลัน พาร์ดิวที่วางแท็คติกทำให้คริสตัล พาเลซเกือบเอาอยู่เพราะเหมือนกุนซือคนนี้จะทำให้"ไก่เดือยทอง"ลิ้นห้อยทุกครั้ง มีลางสังหรว่านัดหน้าสเปอร์สจะปล่อยของใส่ลิเวอร์พูลชอบกลส่งท้ายรวบยอดครับตอนนี้พาเลซอาจต้องเรียกศรัทธาและหาชัยชนะให้ได้โดยไวเพราะแพ้มา 2 เกมอมบ๊วยร่วมแบบนี้อาการไม่ค่อยดี ก็ได้แต่หวังว่าคริสเตียน เบนเทเก้คงไม่เผลอเดินทางไปซ้อมกับเบิร์นลีย์ซะก่อน อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนครับ เกมรุกของพาร์ดิวต้องการเบนเทเก้อย่างมาก"แชมป์เก่า"เลสเตอร์หัวอกเดียวกันกับอาร์เซนอลเพราะ 2 นัดยังไม่ชนะใครแถมบอล direct ที่ให้คู่แข่งครองบอลตัวเองรอสวนยังไม่ได้ผลโดยเฉพาะเจมี่ วาร์ดี้ยังไม่คลิกเหมือนที่เคยทำไว้ มาเรซเองก็เวลาได้บอลโดนรุมสองตลอด การขาดก็องเต้ไปเห็นผลชัดเจนครับว่าแดนกลางที่เคยถูกแบกตอนนี้หายไปเยอะเลย แต่นัดหน้าเจอสวอนซีถ้าไม่ปลดล็อกผมว่าความกดดันท่วมหัวแน่ๆ
เห็นเดอะ โบโร่เล่นแล้วดูดีสวยงามมากครับ บอลระบบภาคพื้นดินสมกับที่มีกุนซือเป็นคนสเปนจริงๆ การันก้าวัย 42 ปีเคยเป็นแค่ผู้ช่วยในทีมเรอัล มาดริดผมนั่งดูเกมที่เจอซันเดอร์แลนด์ลูกเข้าทำเม็ด 2 งามหยดจริงๆครับ พระองค์เนเกรโด้ก็ทรงนิ่งใจกว้างให้สตูอานี่ยิงไม่เหลือ จังหวะการทำชิ่งต่อเกมรุกกันขึ้นมาสั้นๆผมเห็นแล้วชอบจริงๆ ถ้ายืนระยะไม่เป๋ตามแบบฉบับทีมเล็กผมว่าอาจรอดตกชั้นเกาะกลางตารางได้สบายๆเลยนะเพราะแต่ละตัวไม่ธรรมดาดาวนิ่ง,กาสตัน รามิเรสแล้ว 2 น้องใหม่อย่างเนเกรโด้(31)ที่ได้ความเก๋ามีดีกรีกับทีมอย่างเรอัล มาดริด,เซบีญ่า,บาเลนเซียและสตูอานี่(29) กับเอสปันญอลผมว่าใครเจอนี่เหนื่อยนะ โบโร่นี่น่าสงสารนะครับคือเป็นเมืองที่ไม่ได้ดึงดูดอะไร แถมภาคเหนือค่อนไปทางอีสานอากาศก็แปรปรวนครับ สตีฟ กิ๊บสันประธานสโมสรก็เคยออกมาบอกเองว่าทางเดียวที่จะทำให้นักเตะเก่งๆมีชื่อเสียงมาเล่นให้ก็ต้องใช้เงินล่ออย่างเดียวเหมือนสมัยจูนินโญ่,เอเมอร์สัน,"ไอ้หงอก"ราวาเนลลี่ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า(ถ้าไม่ขี้เกียจ) สวัสดีครับ
อ่านสนุกดีครับ
