[RE: 'หน้าบาก'บอกเป๊ปขาดประสบการณ์-ฟุตบอลเรื่องง่ายๆจะพูดมากทำไม]
Johan de Cruyff พิมพ์ว่า:
มีแฟนเม้นสีน้ำเงินคนนึงที่ทำแฟนยูไนเต็ดดีๆเสียไปหมด ถ้าจะแถก็ขอด้วยเหตุและผลนึดนึงไม่ใช่ไถแถไปตามประเด็นอะไรก็ไม่รู้ ผมขอพูดในฐานะคนดูบอลน่ะว่าผมเคารพเซอร์ อเล็กมากแกพายูไนเต็ดมาเป็นยูไนเต็ดจนวันนี้ แต่ก็เคารพเป๊ปมากเพราะทำให้ซากปรักหักพังของบาร์ซ่าในวันนั้นกลายมาเป็นบาร์ซ่าที่แข็งแกร่งที่ยืนยงในวันนี้ แต่ก็ยังมีคนคนนึงพยายามสร้างชื่อแย่ๆให้กับแก (เซอร์ อเล็ก)เพื่อสนองตัญหาส่วนตัวที่ต้องการด่าโค้ชอีกคน
งี้ดีกว่าผมถามหน่อยคำว่า "Overrate" ของเป๊ปที่คุณว่า คุณเห็นคิดว่าคำคำนี้เหมาะสมกับแกด้วยเหตุผลอะไร คุณเห็นอะไรที่มากกว่าคนทั่วโลกมองเห็น ถ้าบอกว่าคุมแต่ทีมใหญ่ๆมา งี้มันก็ไม่ใช่เหตุผลน่ะ เพราะเซอร์เริ่มต้นด้วยอเบอร์ดีน เป๊ปเองก็เริ่มด้วยบาร์ซ่าเบ ทีมเล็กเหมือนกัน แต่แค่เป๊ปมีชื่อบาร์ซ่าติดมา มันจึงไม่ใช่เหตุผล ช่วยตอบให้ผมเข้าใจหน่อย ด้วยมุมมองที่แตกต่างกันนี้แหล่ะ
น่าจะดีสุดในหลายเม้นที่เถียงกันเรื่องโค้ช ผมอ่านหลายคนละก็เซ็งๆนะครับ น่าแบนไปทั้ง2ฝั่ง แทนที่จะเถียงกันด้วยเหตุผล แต่ดันเอาคำดูถูกมาถากถางกัน
โดยส่วนตัวผมชอบทั้งเป๊ปและเซอ อเล็ก และบอกได้เลยว่ามีดีต่างกัน
ส่วนถ้าว่าตามตรงเรื่องบาเยินจ้างเป๊ป บอกตามความคิดผมมโนไปเองว่าเยอรมันต้องการเรียนรู้แทคติคของสเปนครับ และเป๊ปไม่ยี่หระตรงส่วนนี้ บาเยินนั้นต่างจากสโมสรอื่นๆอย่างชัดเจนถ้าสังเกตุกันดีๆ เพราะแทบจะเป็นแกนหลักทีมชาติเยอรมันและได้รับการสนับสนุนอย่างมากด้านการพัฒนาแทคติคและเทคนิคฟุตบอลสำหรับนักเตะเยอรมันเองหรือนักเตะคนอื่นๆในสโมสร
ซึ่งจุดสังเกตุง่ายๆว่าเยอรมันเรียนรู้แทคติคสเปนนั้นคืออะไร คำตอบคือหลังจากเป๊ปมาคุมบาเยิน ทีมชาติเยอรมันก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนแทคติคที่ใช้ แน่นอนว่าไม่ได้เอาไปทั้งหมดแต่มีการนำไปผสม ลองไปสังเกตุดูเอาเองละกันครับ จากยุคนึงที่เยอรมันนั้นไม่ได้เน้นการครองบอลเข้าทำมากแต่มาในช่วงหลังเริ่มมีการเน้นทางด้านนี้ลงไปด้วย
วกกลับมาที่เรื่องโค้ช สิ่งที่มีมันแตกต่างกันด้านแทคติคล้วนๆครับ ซึ่งไอ้ที่จะแพ้ชนะกันน่ะ องค์ประกอบมันโคตรเยอะ หลายๆสิ่งมันเอามาวัดกันไม่ได้หรอกครับเพราะโค้ชทั้ง2คนไม่ได้ใช้นักเตะเหมือนกันในการลงเตะ และมันไม่ได้วัดกันได้แน่นอนว่าเค้าจะชนะเสมอหรือแพ้เสมอเมื่อวนมาเจอกัน ไม่งั้นปู่จุ๊ปคงเป็นสุดยอดในตำนานละครับ(ไม่กล่าวพาดพิงต่อนะแต่คิดว่าน่าจะเข้าใจ อย่าอ้างเหตุผลใดๆครับ เพราะแพ้ก็คือแพ้ใช่มั้ยครับ แต่อย่างที่ผมบอกองค์ประกอบมันโคตรเยอะ เพราะงั้นมันวัดกันจริงๆไม่ได้หรอกครับว่าโค้ชคนใดจะเก่งกว่ากันแม้ว่าทีมที่คุมมาเจอกันจะแพ้หรือชนะแล้วก็ตาม)
เพิ่มเติมอีกนิดที่ว่าต่างกันเพราะในถ้วยบอลยุโรป กว่าทีมจะวนมาเจอกันจนเข้าช่วงสุดท้ายของฤดูกาล บางทีมนักเตะก็เจ็บ บางทีมนักเตะโดนแบน บางทีมไม่ได้ซื้อผู้เล่นใหม่เพิ่ม หรือบางทีมเข็นนักเตะเกรดบี+จนทะลุเข้ามาชิงได้ (ว่าตามตรงผมบอกได้เลยว่าผมรู้สึกทุกครั้งว่านักเตะแมนยูเป็นรองทีมหลายๆทีมในยุโรปหลายๆครั้ง เพราะยุคที่ป๋าแกคุมแกไม่ค่อยทุ่มซื้อและยังทนใช้ลูกรักบางคน เช่นพวกจอน โอเชีย เวส บราว เฟลทเชอร์ อะไรพวกนี้ )แต่นั่นแหละมันก็เอามาอ้างวัดความเก่งโค้ชไม่ได้อยู่ดี เพราะงั้น สรุปว่าโค้ชแต่ละคนก็มีสไตล์หรือแทคติคที่คุมแตกต่างกันไป ถ้าคุยก็ว่ากันตามเหตุและผลดีกว่าครับ ไม่ใช่แขวะไปมาเห็นแล้วมันเหมือนเด็กๆคุยกันซะมากกว่านะครับ
ปล ด้านแทคติคแล้วผมว่าบาเยินน่าจะเป็นสโมสรเดียวที่มีการพัฒนาแนวทางมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้โค้ชหรือผู้จัดการทีมจะเปลี่ยนไปก็ตาม น่าจะขึ้นอยู่กับเหล่าบรรดาผู้บริหารล่ะครับที่ค่อนข้างมีแนวทางชัดเจนและมีอิทธิพลไปถึงทีมชาติได้
ปล2 สิ่งที่เยอรมันพลาดในยูโรที่ผ่านมาชัดเจนเรื่องนึงคือ เน้นแต่แทคติคมากไป ดันลืมพัฒนานักเตะกองหน้าขึ้นมาทดแทน หมดยุคโคลเซ่แล้วพวกที่เหลือนี่ไม่ไหวจะเคลียร์กันจริงๆ แล้วก็ไม่รู้เลิฟทนใช้มุลเลอร์อยู่ได้ยังไงยิงไม่ได้ก็น่าจะเปลี่ยนเร็วๆให้โอกาสคนอื่นลงไปเสี่ยงบ้าง อันนี้ บ่นในฐานะเชียร์ทีมเยอรมัน อารมค้างจากยูโรครับ