ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 7850
ที่อยู่: กทม
โพสเมื่อ: Thu Jul 28, 2016 10:49 pm
" สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?


เป๋... อกไก่ กับคดีสะเทือนขวัญ ในห้องน้ำหญิง
คดีนี้เป็นคดีที่ สั่นประสาทคนทั่วประเทศ ในสมัยนั้น
เพราะนอกจากจะสร้างปริศนา ให้กับตำรวจแล้ว
คดีนี้ยังเป็นคดีแรก ที่ผู้ร้ายก่อเหตุในโรงภาพยนต์อีกด้วย
มาลองดู ลำดับเหตุการณ์ วันนั้นกันครับ
เราจะย้อนกันไปในวันที่ 14 กรกฎาคม 2525 กันน่ะครับ

คดีอาชญกรรม กับคดีการฆ่าข่มขืน นับได้ว่าเป็นภัยอันดับต้นๆ
ของสตรีเพศ ในทุกๆยุค สมัย ไม่ว่าจะเป็นยุคของหญิงสาวรุ่นใหม่
หรือจะย้อนไปในสมัย สตรีนุ่งผ้าแถบ ...

และหนึ่งในคดีที่ถูกฆ่าข่มขืน ซึ่งโด่งดังมากๆที่สุดในเมืองไทย
ก็คงไม่พ้นคดีดังที่ถูกกล่าวขานกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง
เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ยังทำให้
คนพิการที่มีลักษณะ อกไก่ ขาเป๋ ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมไปด้วย



ย้อนเหตุการณ์ สะเทือนขวัญ ครั้งนั้นกันครับ
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2525
หนังสือพิมพ์รายวัน ได้ขึ้นพาดหัวข่าวอย่างเด่นชัดว่า
ฆ่าข่มขืน นักศึกษาสาวในโรงภาพยนต์
และพาดหัวข่าวลองลงมาว่า " ตามเข้าห้องน้ำรัดคอดับ !!! "

โดยเนื้อหาของข่าวคือ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2525
เวลา 16.00 น ร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาล บางซื่อ
ได้รับแจ้งเหตุว่า มีหญิงสาว ถูกข่มขืนฆ่า
ก่อนที่จะถูกทิ้งศพ ไว้ในห้องน้ำ ของโรงหนังชื่อนิวยอรค์
ยานสะพานควาย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท
ตำรวจจึงได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งก็ได้พบร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง
สวมชุดนักศึกษา เสื้อขาวกระโปรงน้ำเงิน อยู่ในสภาพหงายตัวพาดกับโถ๋ส้วม
ศพของหญิงสาวถูกรัดคอด้วยผ้า กระโปรงถูกถลกขึ้นมาเหนือ ระดับเอว
และกางเกงในสีเนื้อ ที่ขาดวิ้น นั้น ก็โดนวางกองเอาไว้อยู่กับพื้น



ซึ่งใก้ลๆกับศพ มีมีดปลอกผลไม้ตกอยู่เล่มหนึ่ง
จากการสอบสวนของตำรวจ ทำให้ทราบว่า
ผู้ตายที่มี นามสมมุติว่า นางสาวกลิ่น เป็นนักศึกษา
คณะบริหารธุรกิจ ปี4 มหาลัยแห่งหนึ่ง
มีบ้านอยู่ในซอย นฤมิตรใต้ ถ.ประชาชื่น แขวงลาดยาว
และจากการสอบสวนแฟนหนุ่มของเธอ คือ นายมงคล อายุ 24 ปี

จึงทราบว่า ในวันเกิดเหตุ หนุ่มสาว ทั้งคู่ ได้ชักชวนกันไปดูหนัง
ที่โรงหนังนิวยอรค์ โดยมีชายคนหนึ่ง ที่ส่อแวว ว่ามีพิรุด ติดตามเข้าไปดูด้วย
ชายต้องสงสัยผู้นี้ นั่งอยู่ด้านหน้าพวกเค้า
พร้อมกับมองความเคลื่อนไหวของตนเองและแฟนสาวตลอดเวลา
แฟนของผู้ตายยังให้การอีกว่า ชายคนนั้นมีลักษณะหลังค่อม
ผมหยิก ไว้หนวดหนา ปกคลุมใบหน้าทรงเหลี่ยม
เมื่อดูหนังจบแล้ว ตนและแฟนสาวก็เดินออกจากโรงภาพยนต์
แต่แฟนสาวขอตัวออกไปเข้าห้องน้ำก่อน ตนจึงยืนรอข้างนอก



แต่รอแล้วรอเล่า จนกระทั้งโรงหนังปิด แฟนก็ยังไม่เดินออกมา
ตนจึงเดินเข้าไปดูในห้องน้ำหญิง จากด้านนอก ก็พบว่าไม่เห็นว่ามีใคร
แค่เพียงสักครู่ต่อมา มีแม่ค้าผลไม้ในโรงหนัง ร้องโวยวายขึ้นว่า
" มีคนตายในห้องน้ำ " ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปดู ก่อนพบว่าผู้ตายคือแฟนของเค้านั่นเอง

หนังสือพิพม์ฉบับเดิมได้เสนอความคืบหน้า ว่าในวันที่ 14 กรกฎาคม หรือวันถัดมาว่า
สารวัตรใหญ่ของตำรวจนครบาลบางซื่อ ได้พานาย มงคล
เดินไปที่กองทะเบียนประวัติ อาชญกรรม พร้อมกับนำรูปถ่ายและประวัติรูปและหน้าตา
ของคนร้ายในคดีต่างๆ มาให้นาย มงคลดู ปรากฎว่า ทันทีที่เห็นผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง
ซึ่งมีนามสมมุติว่า นายรือ อดีตคนร้ายฆ่าคนตายเมื่อปี 2516
ในความรับผิดชอบในเขต สน. ห้วยขวาง เค้าบอกว่า นายรือนี่แหละ
คือคนที่มีพิรุด และติดตามตนเข้าไปในโรงหนังแน่นอน



เจ้าหน้าที่จึงให้การว่า นายรือ เพิ่งจะพ้นโทษออกมา จากการได้รับ อภัยโทษ
เมื่อคราวฉลองกรุงรัตนโกสิน ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากพ้นออกมา ก็มาก่อคดีอันเหี้ยมโหดอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมี พยานบางคนให้ปากคำว่า นายรือ ได้เคยมาคุมรถ สองแถว
และยังทำตัวเป็นนักเลงข้างถนน อยู่แถวหน้าโรงหนังแห่งนี้เป็นประจำ
แถม นายรือ ยังสนิทสนมกับพวกพนักงานเก็บตั๋ว ของโรงหนังด้วย

ทางสถายันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
ได้พิสูจน์บาดแผล จากการกระทำของฆาตกร อย่างระเอียด
จึงทราบว่า ก่อนตาย ผู้ตายไม่ได้ถูก ข่มขืน แต่อย่างใด
หากแต่ว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นบริเวณ อวัยวะเพศนั้น
มีวัตถุของแข็ง ทะลวงเข้าไป จึงสร้างความเจ็บปวดรุนแรง ให้กับเหยื่อสาว
ซึ่งผู้ตายก็คงจะขัดขืนและร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ
เหยื่อสาวจึงถูกฆาตกรรัดคอ จนเสียชีวิต !!!?



ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนเพื่อ คลี่คลายคดี จนได้ทราบจากพยานหลายๆที่ว่า
ฆาตกรโหดรายนี้ เป็นชายพิการขาเป๋ ซึ่งมาดูภาพยนต์เป็นประจำ
และเค้าก็มักจะเดินวนไปวนมา แถวๆห้องน้ำหญิง
เจ้าหน้าที่ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า หากฆาตกรรายนี้ ถูกจับกุมเมื่อใด
นั่นแสดงว่าจะไม่มีการจับผิดตัวอย่างแน่นอน ทั้งนี้อาจเพราะ
ผนังห้องน้ำมีรอยนิ้วมือ ที่เปื้อนเลือดของหญิงสาว ติดเต็มผนังห้องน้ำเต็มไปหมด
ในกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บข้อมูลเอาไว้อย่างรัดกุม และสมบูรณ์ที่สุด
ชุดสืบสวนของ สน.บางซื้อ สันนิฐานว่า ฆาตกรรายนี้ น่าจะจัดอยู่ในประเภท
โรคจิตวิปริต ประเภทชอบกระทำชำเราศพ หรือทารุณเหยื่อก่อนจะ ข่มขืน

ทั้งนี้สังเกตุได้จากสภาพศพของผู้ตาย ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
เหยื่อสาวได้รับการทารุณ ก่อนที่จะถูกพยายามข่มขืน และเมื่อหญิงสาวขัดขืน
เธอจึงถูกฆ่า ปิดปาก แต่เนื่องจากฆาตกร ใช้เวลาก่อความชั่วนานเกินไป
จึงกลัวว่าจะมีคนเข้ามาเห็น เลยยังไม่ได้ข่มขืน เพราะรีบหลบหนีไปซะก่อน
ฆาตกรจึงทำได้เพียง ปลดทรัพย์สินในตัวผู้ตาย ติดมือไปด้วยเท่านั้น



วันที 19 กรกฎาคม หนังสือพิมพ์ขึ้น พาดหัวตัวยักษ์ว่า " รวบ 8 ไอ้เป๋ ใคร อกไก่ "
เอามาตรวจสอบหมดทุกคน รายล่าสุดเป็นคนขายหนังสือพิมพ์
โดยรายระเอียดของข่าวระบุว่า ชายคนนี้มีลักษณะที่เหมือนจะเป็นคนร้ายที่สุด
เนื่องจากลักษณะรูปพรรณ สันฐาน ตรงกับที่พยานให้การไว้

โดยตำรวจได้นำผู้ต้องสงสัยที่มีนานสมมุติว่า นายหน่อย มาจากโรงภาพยนต์อีกแห่งหนึ่ง
ในย่านเดียวกัน นายหน่อยคนนี้ จะมีลักษณะหลับนอนไม่เป็นที่
และจากการสอบสวนยังทราบอีกว่า นายหน่อยเคยทำงานเป็นคนเฝ้ารถ
อยู่หน้าโรงหนังโดยไม่เอาเงินเดือน แต่รายได้ก็จะมาจาก ทริป ที่คนขับรถจะมีน้ำใจมอบให้
แต่แล้วนายหน่อย ได้ก่อคดีปลุกปล้ำผู้หญิงในโรงหนัง จึงถูกไล่ออก
เค้าจึงหันมาขายหนังสือพิมพ์แทน ลักษณะร่างกายของนายหน่อย
จะเป็นคนแขนซ้ายพิการ และเค้าจะต้องถูกควบคุมตัวไว้ก่อน
เพื่อทำการสอบสวน และตำรวจก็ได้พิมพ์ลายนิ้วมือของนายหน่อยไว้ เพื่อประกอบรูปคดี
ก่อนที่จะนำไปเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของคนร้าย ในที่เกิดเหตุ
โดยตอนนี้ มีคนพิการ ที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไว้แล้วทั้งสิ้นมากถึง 8 คน



หากแต่ว่า !!??? เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม
เรื่องราวทั้งหมดกลับเปลี่ยนแปลงไป
สร้างความสับสน ให้กับตำรวจ และประชาชน เป็นอย่างมาก
โดยหนังสือพิพม์ได้ขึ้นพาดหัวข่าว ใจความว่า
" ตำรวจ งง ฆาตกรที่ฆ่า นักศึกษาสาว เป็นผู้ชาย หรือ ผู้หญิงกันแน่ "
เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ เพศได้จากลายนิ้วมือว่า
ฆาตกรเป็น ผู้หญิง ผู้ชาย หรือ เลสเบี้ยน กันแน่ !!???
อีกทั้งในการสืบสวน ยังมีการขัดแย้งกันในหลายประเด็น
จนไม่สามารถที่จะหาผลสรุปได้ โดยบางกระแสก็เชื่อมั่นว่า
ฆาตกรน่าจะเป็นผู้ชาย ตามคำบอกเล่าของพยาน
แต่การสอบสวนก็ไม่พบพิรุด ใดๆจากผู้ต้องหา ทั้งหมดเลย !!?



อีกกระแสก็บอกว่า อาจจะเป็นเลสเบี้ยน ที่ตามมาฆ่านักศึกษาสาว
เพราะความหึงหวง หรืออารมณ์ชั่ววูป เนื่องจาก ความสงสัยในหลายประเด็น
ว่าเพราะเหตุใด หญิงสาวจึง ขอไปเข้าห้องน้ำหลังจากหนังจบ
และเมื่อเข้าไปในห้องน้ำหญิงแล้ว หากพบว่ามีผู้ชายอยู่ในห้องน้ำ
ทำไมผู้ตายจึงไม่วิ่งหนี หรือร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ
หรือว่าผู้ตายได้แอบนัดหมาย พบเจอกับใครอยู่ในห้องน้ำหรือไม่ !!?
ซึ่งเมื่อเจรจา ตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดเหตุบีบคอฆ่า

หรือยังมีการตั้งขอสันนิฐานอีกว่า มีดปลอกผลไม้ในที่เกิดเหตุนั้น
ก็ไม่น่าจะใช่มีดที่ผู้ชาย มักจะพกติดตัวกัน
นอกจากนี้ การที่ผู้ชายเข้าไปรอในห้องน้ำหญิง ถือว่าเป็นการเสี่ยงมากๆ
เพราะอาจจะมีคนเห็นและร้องโวยวายได้
แต่ทุกอย่างกลับเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หรือลักษณะการป้ายเลือดในฝาผนัง ทั้งๆที่มีกระดาษชิชชูอยู่ในห้องน้ำ
ควรจะเป็นนิสัยของผู้ชาย หรือ ผู้หญิงกันแน่ !!???

และมันเป็นไปได้หรือไม่ว่า คนร้ายจะเป็นสาวเลสเบี้ยน
ที่แข็งแรงเหมือนกับผู้ชาย แต่เกิดหึงหวงคนรักที่กำลัง ตีตัวออกห่าง
ยิ่งตำรวจพยายามสืบสวน ประเด็นการฆ่าก็ยิ่งกว้างออกไปเรื่อยๆ
และไม่สามารถสรุปประเด็นให้แคบลงได้ ทำให้การไขคดีเป็นไปอย่างยากลำบาก



จนถึงวันที่ 22 กรกฎาคม มีพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่า
" ไอ้ค่อมยอมรับ รัดคอคามือ แค่หวังชิงทรัพย์ "
โดยตั้งแต่เกิดคดีฆ่านักศึกษาสาวขึ้น
ตำรวจก็พยายามที่จะหาตัวคนร้ายอย่างจริงจัง
และคนขาเป๋ ก็ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยมากมาย
จนคนขาเป๋ ต่างหวาดผวา กันไปถ้วนหน้า
เนื่องจากตำรวจระบุว่า ฆาตกรเป็นชายที่มีลักษณะ อกไก่ ขาเป๋
จนกระทั้งในที่สุด ก็จับคนร้ายตัวจริงได้

โดยการแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกไปซุ่มอยู่ที่วัดเขมา
เพราะทราบมาว่าในซอยนั้น มีเจ้าของร้านเสริมสวยรายหนึ่ง
เป็นเมียของผู้ต้องสงสัย แต่หลังจากซุ่มอยู่ 3 วันก็ไม่พบตัว
ส่วนชุดที่ 2 ไปซุ่มอยู่แถว ทรงวาด ซึ่งก็ทำให้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้



พร้อมกับ ของกลางเป็นนาฬิกาของสตรีเรื่อนทอง 1 เรื่อน
ที่ผู้ต้องหานำไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อน นอกจากนี้ !!?
ก็ยังมีนาฬิกาข้อมือ ของสตรีเรือนสีทอง อีก 1 เรื่อน กำไรข้อมือ 1 อัน
สร้อยคอ หนัก 2 สลึง 1 เส้น ต่างหูทองคำ 1 คู่
ซึ่งยึดได้จากร้านทอง ที่ผู้ต้องหาเอาไปขาย
และยังมีพระหลวงพ่อโต เลี่ยมทอง 1 องค์
ที่ถูกขายต่อให้กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง
โดยนามสมมุติของผู้ต้องหารายนี้มีนามว่า " นายเล็ก "

จากการสอบสวน นายเล็ก ผู้ต้องหารายล่าสุดนี้
เค้ายอมรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุ ตนได้ไปดูหนัง
และระหว่างที่หนังจบ ก็ได้ออกมาสูบบุหรี่ ข้างนอก
ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ตายเดินเข้าห้องน้ำพอดี ตนจึงไปยืนดักรออยู่หน้าห้องน้ำ
เมื่อผู้ตายเดินออกมา ตนก็ได้ใช้ มีดจี้บังคับให้ผู้ตายเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ
และล๊อคประตูเพื่อทำการ ปลดทรัพย์สิน แต่ผู้ตายขัดขืน
จึงได้ใช้เศษผ้าขี้ริ้วรัดปาก แต่เหยื่อก็ยังดิ้นไม่หยุดจึงใช้ผ้ารัดคอหญิงสาว
จนเหยื่อรูดตัวไปกับผนังห้องน้ำ และลงไปนอนหมดสติอยู่ที่พื้น



จากนั้นจึงทำการปลดทรัพย์สินทั้งหมด
และเปิดประตูหลบหนีไปจากห้องน้ำ
แต่ในขณะที่คนร้ายเดินออกมา ก็ได้พบกับพนักงานเดินตั๋ว
ของโรงหนังคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเค้าก็ได้มาเป็น พยานปากเอก ของคดีนี้
เพราะพนักงานคนนี้ จำหน้าฆาตกร รายนี้ได้อย่างแม่นยำ
เนื่องจาก นายเล็ก มาดูหนังที่นี่บ่อยๆ และในวันที่เกิดเหตุ
นายเล็ก ก็ได้แอบมานั่งเก้าอี้เสริม จนกระทั้งมีการทะเลาะกัน
ก่อนที่นายเล็ก จะเดินไปนั่งที่ด้านหน้า ของผู้ตาย
ในเล็กให้การว่า ตนไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ
เพราะกางเกงในของเหยื่อ มีรอยถูกมีดกรีดจนขาด
แต่ในขณะที่ นายเล็ก จะข่มขืนเหยื่อ คงจะมีคนเข้ามาในห้องน้ำ

หรือมีอุปสรรคจนลงมือไม่ได้มากกว่า นายเล็กเป็นชายพิการ
ที่พิการมาตั้งแต่เด็ก เพราะถูกรถชน เค้าเป็นนักพนัน
และนักเที่ยวที่มีเมียหลายคน เคยต้องคดีฆ่าคนตาย
มาแล้ว 1 ครั้ง แต่ตอนนั้นพยานหลักฐานไม่แน่นหนาพอ
จึงหลุดคดีไปได้ และยังเคยขึ้นโรงพักบางซื่อ
จากคดีทำร้ายร่างการผู้อื่นด้วย !!!???



ซึ่งต่อมา หนังสือพิมพ์ก็ ตีพิมพ์วิจารณ์ว่า
หลังจากเหยื่อสาวกลายเป็น ศพ
ตำรวจก็เร่งหาตัวคนร้ายอย่าง รวดเร็ว
คนพิการคนแล้ว คนเล่า ถูกพวกท่านคุมตัว
ไปวิจารณ์ออกสื่อ จนภาพของเค้าเหล่านั้น ดูเป็นคนเลวทราบไปด้วย
กลายเป็นคน น่าสมเพช ซึ่งหากว่าผิดจริงโทษประหารก็ยังไม่สาสม
แต่นี่พวกเค้าไม่ผิด อย่าลืมว่าพวกเค้าก็เป็นมนุษย์เหมือนพวกท่านเช่นกัน
แต่ถึงอย่างไร เรื่องนี้ก็เป็นอัน สิ้นสุดลงแล้ว
ด้วยความโล่งอก ของชายขาเป๋ ที่ถูกคุมตัวมาก่อนหน้า ทั้ง 8 ราย
รวมไปถึงชายขาเป๋ ทั่วไป อีกมากมาย
ที่ต้องกลายมาเป็นเชลยทางสังคมอยู่นานนับสัปดาห์ !!!

ปล.
หลังจากนั้น ฆาตกรก็ถูกนำตัวขึ้นศาล
ศาลชั้นต้นในสมัยนั้น ตัดสิน ประหารชีวติ ครับ
แต่ว่ารับสารภาพเลย ให้เป็นจำคุกตลอดชีวิตครับ

แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลอย่างไร หลังจากนั้นไม่นาน
นายคนนี้กลับถูกปล่อยตัวออกมาใช้ชีวิต เป็นปกติได้ .....
( ซึ่งคงเป็นเพราะ การประพฤติตัวดีในคุก มั้ง )
แต่มันก็เหมือนกับว่า เป็นการทำดีบังหน้าเท่านั้น
เพราะว่า ไอ้สันดานคนนี้เมื่อมันออกมาแล้ว
มันก็ยังถูกดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ หลังจากที่มันออกมาเหมือนเดิม
ปัจจุยันไม่รู้ว่า มันตายรึยังนะครับ แต่ถ้ามันยังไม่ตาย
มันก็คงเป็นชายแก่ชาติชั่วคนหนึ่งก็เท่านั้น !!!!

.....

เข้าร่วม: 30 Apr 2010
ตอบ: 969
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jul 28, 2016 10:56 pm
" สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?
ยาวมากกกก
0
0
เข้าร่วม: 01 May 2008
ตอบ: 1266
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jul 28, 2016 11:04 pm
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
อ่านจบพูดได้คำเดียว "เพราะที่นี่คือ บราซิล"
0
0
เข้าร่วม: 21 Mar 2010
ตอบ: 1864
ที่อยู่: Hillsborough , เชียงใหม่
โพสเมื่อ: Thu Jul 28, 2016 11:06 pm
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
ฆ่าคนตายติดคุกไม่นานก็ได้ออกมา เพราะ ที่นี่บราซิล
0
0

เข้าร่วม: 11 Nov 2009
ตอบ: 296
ที่อยู่: สน.บางกรวย Raccoon City
โพสเมื่อ: Thu Jul 28, 2016 11:11 pm
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
อภัยโทษ สินะ
ไม่อยากพูดมาก รู้ๆกันอยู่
ควรไหม ให้ลบกฎอภัยโทษแก่คดีอุกชกรรร ทิ้งไป

เหมือนประเทศนี้ เอื้อต่อคนเลวๆ เหมือนอาจให้มีแต่คนเลวในสังคม
ถ้าเป็นแบบนี้ ผมขอให้มีใครสักคนเป็นตำรวจสืบสวนคดีเลวๆแบบ dexter ด้วยละกัน
ตาต่อตาฟันต่อฟันกันไป

ถ้าไอ้เวรนี่ยังอยู่ น่าจะให้เจอกับแก๊งค์โจ๋รุมกระทืบคนพิการ
คงจะมันส์ดี
0
0
the most Handsome Keeper
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 39885
ที่อยู่: Anfield ที่รัก ... :3
โพสเมื่อ: Fri Jul 29, 2016 12:38 am
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
อภัยโทษเหมือนเดิม ออกมาไวเหมือนเดิม ก็นะประเทศใจดีรอคนพลาดกลับใจ ถุ๊ย!!
0
0
เรื่องบางเรื่อง ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด เพียงแต่สิ่งที่เราคิดมันต่างกัน
My Liverpool, the Kop will always rule
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 8751
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 29, 2016 6:21 am
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
สมัยเรียนเคยไปใช้บริการที่นี่อยู่ครั้งนึง นั่งๆดูอยู่เพลินๆ รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ใต้ขา
พอก้มลงไปดูเท่านั้นเอง ผมนี่สะดุ้งสุดตัวเลย


Spoil
เจอหนูวิ่งชนขา  
0
0
เข้าร่วม: 11 Jan 2006
ตอบ: 11781
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 29, 2016 8:40 am
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
เจ้าหน้าที่จึงให้การว่า นายรือ เพิ่งจะพ้นโทษออกมา จากการได้รับ อภัยโทษ
เมื่อคราวฉลองกรุงรัตนโกสิน

โอ้....ฉลองด้วยการปล่อยนักโทษ
เยี่ยมไปเลยครับ

คดีแบบนี้ไม่ควรได้รับสิทธิพิเศษอะไรทั้งนั้น
พระยังฉันข้าวมื้อเดียวได้ ไอ้พวกนี้มันช่วยพัฒนาประเทศชาติไหม
มันควรได้กินสามมื้อหรือเปล่า ครึ่งจานก็พอมั้ง

0
0
เข้าร่วม: 29 Mar 2015
ตอบ: 375
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 29, 2016 10:37 am
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
ที่นี้บลาซิล
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 821
ที่อยู่: North London
โพสเมื่อ: Fri Jul 29, 2016 10:42 am
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
มันจะไปโทษ การอภัยโทษมันก็ไม่ถูกหรอก มันต้องโทษที่ตัวคน
คนที่เค้าพร้อมจะกลับตัวแล้วอยากได้โอกาสนี้ก็มี แต่บางคนมันเลวโดยสันดานมันก็เลวเหมือนเดิม มันต้องไปเพิ่มกระบวนการคัดคนได้รับสิทธิ์อภัยโทษ ต้องเข้มงวดมากกว่านี้
0
0

เข้าร่วม: 19 Sep 2008
ตอบ: 8709
ที่อยู่: ภายใต้ท้องฟ้าผืนเดียวกับเธอ
โพสเมื่อ: Fri Jul 29, 2016 11:15 am
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
ประหารชีวิตไม่มีจริงในสารบบไทยสมัยนี้นะ

ส่วนมากก็ลดโทษติดตลอดชีวิต แล้วก็ลดๆๆๆๆๆ สึดท้ายก็ราวๆ 20 ปี
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4255
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 29, 2016 12:00 pm
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
Danaitorz พิมพ์ว่า:
มันจะไปโทษ การอภัยโทษมันก็ไม่ถูกหรอก มันต้องโทษที่ตัวคน
คนที่เค้าพร้อมจะกลับตัวแล้วอยากได้โอกาสนี้ก็มี แต่บางคนมันเลวโดยสันดานมันก็เลวเหมือนเดิม มันต้องไปเพิ่มกระบวนการคัดคนได้รับสิทธิ์อภัยโทษ ต้องเข้มงวดมากกว่านี้
 


อยากกลับตัวก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองได้รับโทษให้้หมดก่อนสิครับ


คุณลองนึกถึงญาติผู้เสียหายบ้างนะครับ
0
0


เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 821
ที่อยู่: North London
โพสเมื่อ: Sun Jul 31, 2016 4:19 pm
[RE: " สยอง " ย้อนยุค... คดี " เป๋ อกไก่ " !?]
คาซึระ โคทาโร่ พิมพ์ว่า:
Danaitorz พิมพ์ว่า:
มันจะไปโทษ การอภัยโทษมันก็ไม่ถูกหรอก มันต้องโทษที่ตัวคน
คนที่เค้าพร้อมจะกลับตัวแล้วอยากได้โอกาสนี้ก็มี แต่บางคนมันเลวโดยสันดานมันก็เลวเหมือนเดิม มันต้องไปเพิ่มกระบวนการคัดคนได้รับสิทธิ์อภัยโทษ ต้องเข้มงวดมากกว่านี้
 


อยากกลับตัวก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองได้รับโทษให้้หมดก่อนสิครับ


คุณลองนึกถึงญาติผู้เสียหายบ้างนะครับ  


ผมถึงบอกไง ว่ามันขึ้นอยู่กับกระบวนการ คดีแบบใหนควรได้ คดีแบบใหนไม่ควรได้อภัยโทษเลย ไม่ใช่จะได้ทั้งหมด ใช่ถูก ต้องนึกถึงญาติผู้เสียหาย แต่บางคนที่เข้าไปเป็นแพะก็เยอะแยะ ผมถึงบอกว่ามันอยู่ที่คนไง เอามาใช้ไม่ถูกต้อง
0
0