ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 01 Nov 2006
ตอบ: 71
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 24, 2016 10:56 am
[เรื่องสั้น] พิสตาชิโอกับความหมายที่ซ่อนอยู่


1
ในเวลาเกือบเที่ยงคืน แฟรงค์เดินเข้าไปในบาร์แจ๊สแห่งหนึ่งย่านชินจูกุกลางมหานครโตเกียว ด้วยสภาพเปียกปอนไปทั้งตัว
เขาเลือกที่นั่งในมุมเงียบที่สุด ทว่าสามารถมองเห็นทุกอย่างภายในบาร์
"พิสตาชิโอ กับน้ำเปล่าไม่เย็น ไม่ใส่น้ำแข็ง" เขาไม่เปิดเมนู บอกประโยคดังกล่าวออกไปทันทีที่บริกรหนุ่มเดินเข้ามา
บริกรยักคิ้ว ทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย แล้วถามเขาว่าต้องการอย่างอื่นเพิ่มไหมก่อนถูกแฟรงค์ปฏิเสธไป
ระหว่างรออาหารและเครื่องดื่ม เขากวาดสายตาดูลูกค้าภายในบาร์
คู่หนุ่มสาวพูดคุยสนุกสนานพร้อมอาหารเต็มโต๊ะ จ้องมองกันราวกับโลกนี้หลงเหลือมนุษย์อยู่เพียงสองคน
ชายหนุ่มวัยกลางคนนั่งโดดเดี่ยวอยู่ริมเคาน์เตอร์ กำลังรินบลูเลเบิ้ลออนเดอะร็อกให้กับตัวเองในจังหวะที่แฟรงค์เฝ้ามอง
ภาพทั้งหมดอยู่ภายใต้เสียงเพลงมายวันแอนโอนลี่ของเดอะสตริง
ชวนให้แฟรงค์นึกว่าภาพยนตร์เรื่องลีฟวิ่งลาสเวกัส ที่พระเอกขายทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อนำเงินมาซื้อวิสกี้ชั้นดี ตั้งใจจะดื่มให้หนักเพื่อจะจากโลกนี้ไปด้วยสุราที่เขาโปรดปราน

2
บริกรคนเดิมนำเมนูที่เขาสั่งมาเสิร์ฟด้วยใบหน้าที่ยังคงสงสัยและดูเหมือนจะยิ้มเยาะๆ ก่อนเดินกลับไป
แฟรงค์ดื่มน้ำอึกใหญ่ ก่อนนั่งแกะพิสตาชิโอ ถั่วชนิดที่เขาโปรดปรานที่สุด
เขาเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนตรงเข็มสั้นและยาวทับซ้อนกันเหมาะเจาะ
หญิงสาวผมบลอนด์กางร่มสีดำ ภายในชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาในร้าน เธอมาในสภาพสวยสง่าต่างจากแฟรงค์อย่างตรงข้าม
แฟรงค์ยิ้มให้เธอ เช่นเดียวกันเธอยิ้มรับ และเดินมานั่ง ณ เก้าอี้ด้านขวามือของแฟรงค์เคียงข้างกับเขา

3
"ขอโทษด้วยที่ต้องนัดดึกขนาดนี้ ซ้ำฝนยังตกไม่หยุดอีก ดูสภาพคุณสิ" เธอยิ้มตลกให้กับผมไร้ทรง ขอบตาดำคล้ำ หนวดเคราเฟอะฟะ และเสื้อผ้าที่แฉะไปทั้งตัวของแฟรงค์
"ไม่สำคัญหรอก ผมดีใจที่ได้เจอคุณในช่วงเวลาฝนตกกลางดึกแบบนี้ มันดูมีเสน่ห์ดี คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ" แฟรงค์มองเธอไม่ละสายตาราวกับนั่นเป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิตที่เขาจะมีโอกาสจ้องมองเธอ
"แฟรงค์... ฉันเสียใจด้วยนะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณน่ะ ฉันดีใจที่คุณถึงขั้นบินข้ามขอบฟ้ามาหาฉันที่นี่ ฉันคิดว่าตัวเองคงไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับคุณแล้วเสียอีก แต่พูดตามตรง... ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะช่วยคุณได้แค่ไหน" เธอกล่าวราวกับคิดบทพูดมาแล้วในใจ
"คุณช่วยแล้วล่ะ แค่ผมได้มาเจอคุณก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นบ้างแล้ว" เขายังคงจ้องมองและยิ้มให้เธอไม่ละสายตา แววตายืนยันความจริงของคำพูดที่เขากล่าว
เธอก็ยิ้มให้กับเขาโดยหวังว่ารอยยิ้มนั้นจะปลอบประโลมเขาได้บ้าง

4
"หืม... คนอะไรสั่งพิสตาชิโอมากินกับน้ำเปล่า คุณยังเหมือนเดิมเลยนะ" เธอพูดขึ้นพยายามชวนเขาคุย
"ใช่แล้วล่ะเหมือนเดิม มันก็เคยเป็นถั่วชนิดโปรดของคุณเหมือนกันไม่ใช่หรอ"
"แน่นอน ตอนนี้ก็ยังคงเป็นอยู่ แม่ของคุณทำให้มันกลายเป็นของว่างประจำตัวฉันเลยล่ะ" เธอรู้สึกเสียใจในทันทีที่กล่าวออกไป แต่แฟรงค์ก็พูดขึ้นมาในทันที
"ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น สมัยนั้นที่คุณมาบ้านผม แม่จะเอามาเป็นของว่างให้เราสองคนเสมอ ในห้องของผม ที่เราใช้เวลาอ่านหนังสือสอบเข้ามหา'ลัยด้วยกัน"
"ค่ะ... ฉันก็คิดถึงช่วงเวลานั้น คิดถึงแม่ของคุณกับห้องนั้น"
"ห้องของผมยังต้อนรับคุณเสมอนะ ถ้าจะกลับไปเยี่ยม..." แฟรงค์ทิ้งช่วง ก่อนพูดขึ้นต่อ
"แต่สำหรับแม่ คุณคงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ" เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่เธอรู้ดีว่าเขาเก็บความรู้สึกเก่งเพียงใด
เพราะแฟรงค์ที่เธอรู้จัก ไม่ใช่คนจะแสดงความอ่อนแอออกมา แม้ภายในกำลังจะแหลกสลาย

5
เธอยิ้มอบอุ่นและกุมมือเขาไว้ คงไม่มีถ้อยคำใดปลอบประโยนได้ดีกว่านี้
"คุณกับฮารุมิเป็นไงบ้าง มีเจ้าหนูแล้วเหนื่อยไหม หนูน้อยน่ารักรึเปล่า" แฟรงค์เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
"น่ารักสิ แต่ก็ทำให้เราเหนื่อยสายตัวแทบขาดเชียวล่ะ" เธอกล่าวพร้อมหัวเราะเล็กน้อย
"คุณมีความสุขดีนะ"
"ค่ะ... มีปัญหาเข้ามาบ้าง แต่เราก็มีชีวิตคู่ที่ดี"
"ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น" แฟรงค์ใช้คำกล่าวประจำตัวของเขาอีกครั้ง และหาเรื่องพูดพยายามทำให้การสนทนาต่อเนื่องไม่อึดอัด
"ว่าแต่... คุณอยากดื่มอะไรสักหน่อยไหม"
"ไม่ดีกว่าค่ะ" เธอตอบสั้นๆ ก่อนจะพูดต่อไปในลมหายใจถัดมา
"นี่แฟรงค์... คุณแสดงออกได้นะ ไม่ต้องพยายามร่าเริงหรอก"
"ครับ... ผมรู้ดีเคท" เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะดื่มน้ำอึกใหญ่และสั่งพิสตาชิโออีกจาน ทั้งคู่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

6
"แฟรงค์คุณรู้มั้ย เหตุผลที่ฉันชอบพิสตาชิโอน่ะ นอกจากเพราะแม่ของคุณแล้ว ก็เพราะว่ามันต้องแกะออกมา ไม่ใช่แค่หยิบเข้าปาก มันแตกต่างจากถั่วชนิดอื่นนะ" เคทเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
"เช่นเดียวกัน แต่สำหรับผม... มันทำให้ผมนึกถึงช่วงเวลาในห้องนั่งเล่นของยามบ่ายวันอาทิตย์ ตอนนั้นผมคงสักเจ็บขวบ แน่นอนผมยังแกะพิสตาชิโอไม่เป็น แม่จะแกะใส่มือผม... และเราก็จะนั่งดูหนังสนุกๆ ซักเรื่องด้วยกันทุกบ่ายวันอาทิตย์ในห้องนั่งเล่นของเรา"
"ใช่ค่ะ... คุณเคยเล่าให้ฉันฟังแล้วล่ะ" เธอจ้องมองแววตาของเขา คล้ายจะเห็นภาพที่เขาเล่าอยู่ในประกายนั้น
"นี่แฟรงค์ ถ้าเป็นคนอื่นคงเมาหัวราน้ำไปแล้ว แต่สำหรับคุณยังคงเป็นน้ำเปล่าเหมือนเดิมเลยนะ" เธอเปลี่ยนเรื่องไม่อยากทำให้บรรยากาศเศร้าเกินไป
"ไม่ผิดหรอก ผมเคยบอกคุณไหม ว่าทำไมทุกปาร์ตี้ผมถึงดื่มแต่น้ำส้ม"
"คุณแพ้แอลกอฮอล์ไงคะ เพื่อนทุกคนไม่มีใครสงสัยเรื่องนั้น"
"ไม่ใช่หรอก... มันเป็นข้ออ้างของคำถามน่ารำคาญตังหากล่ะ"
"อ้าวหรอคะ...อ๋อ คุณใช้มันเป็นข้อแก้ตัวนี่เอง"
แฟรงค์ยิ้มมุมปากเล็กน้อยและแกะพิสตาชิโอจานใหม่ที่นำมาเสิร์ฟ

7
"จริงๆ น่ะ... พ่อผมดื่มจัดและนั่นเป็นสิ่งที่แม่กลุ้มใจมาตลอดชีวิต" เคทนิ่งเงียบครู่หนึ่งพยายามคิดหาถ้อยคำที่เหมาะสม
"อืม... ฉันไม่เคยเจอพ่อคุณที่บ้านและคุณก็ไม่ค่อยพูดถึงท่านเท่าไร"
"ใช่แล้วล่ะ" เขาตอบสั้นๆ ไม่ขยายความ
แฟรงค์หันไปมองคนในร้านอีกครั้ง คู่หนุ่มสาวออกจากร้านไปแล้ว ชายหนุ่มวัยกลางคน หน้าตาอมทุกข์มากยิ่งขึ้น กำลังสูบบุหรี่มาร์ลโบโร่ซองสีขาวอยู่ บทเพลงเปลี่ยนเป็นเพลงพรีเทน ของแน็ทคิงโคล
ความหมายที่ซ่อนอยู่ในเนื้อเพลงและหญิงคนรักเก่าที่นั่งข้างๆ ปลอบประโลมความเจ็บปวดของเขาได้อย่างน่าประหลาดใจ

8
"คุณรู้ไหม... ผมเลิกบุหรี่มาพักใหญ่แล้ว"
"ค่ะ... ถึงคุณจะเป็นสิงห์อมควัน แต่ก็คาดเดาได้ว่าต้องเป็นอย่างนั้น" แฟรงค์ก้มหน้าก้มตานิ่งเงียบ จนเธอต้องพูดขึ้นต่อ
"นี่... คุณคงไม่โทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุในการจากไปของแม่นะหรอกนะแฟรงค์" เธอถามด้วยน้ำเสียงกังวล
"ครับ ไม่ต้องห่วง... ผมไม่เคยสูบต่อหน้าเธอสักครั้งในชีวิต"
ทั้งคู่นิ่งเงียบกันอีกครั้ง หยิบแกะพิสตาชิโอที่เหลืออยู่ในจาน จนกระทั่งอยู่ท่ามกลางเสียงเพลงมูนริเวอร์ ในเสียงร้องของออเดรย์ เฮปเบิร์น

9
"เคท ผมคิดว่าถึงเวลาที่คุณต้องกลับแล้วล่ะ... ผมขอนั่งแท็กซี่ไปส่งคุณด้วยได้ไหม"
"ไม่ลำบากไปเหรอแฟรงค์ ไปกลับก็เสียเวลาร่วมชั่วโมงเลยนะ"
แฟรงค์นิ่งเงียบค้นหาคำพูดที่เหมาะสมท่ามกลางเสียงเพลงลำน้ำแสงจันทร์ ก่อนจะพูดขึ้น
"ไม่เลย ผมอยากอยู่กับคุณ... อย่างน้อยก็อีกสักพักหนึ่ง"

https://www.facebook.com/stardust1723/
ผมกำลังเริ่มขัดเกลาเอา กลอนไม่สัมผัส, flash fiction, เรื่องสั้นที่เขียนไว้มาแบ่งปันในเพจนี้
หากใครชื่นชอบที่จะอ่านแนวนี้ ก็มาแบ่งปันมุมมองกันนะครับ
เข้าร่วม: 13 Jun 2006
ตอบ: 2669
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Sun Jul 24, 2016 11:01 am
[RE: [เรื่องสั้น] พิสตาชิโอกับความหมายที่ซ่อนอยู่]
แต่งเองเหรอครับ? เขียนดีครับ

นึกว่าอ่านงานเขียนของวินทร์
เข้าร่วม: 01 Nov 2006
ตอบ: 71
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 24, 2016 11:03 am
[RE: [เรื่องสั้น] พิสตาชิโอกับความหมายที่ซ่อนอยู่]
Centrinos พิมพ์ว่า:
แต่งเองเหรอครับ? เขียนดีครับ

นึกว่าอ่านงานเขียนของวินทร์  


แต่งเองครับ ขอบคุณมากครับถึงขั้นของวินทร์เลย 555
ผมก็ได้อิทธิพลส่วนหนึ่งมาจากแกด้วยแหละครับ
เรื่องสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนที่วินทร์แต่ง เปิดมุมมองหลายอย่างเลยครับ
0
0
เข้าร่วม: 13 Jun 2006
ตอบ: 2669
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Sun Jul 24, 2016 11:09 am
[RE: [เรื่องสั้น] พิสตาชิโอกับความหมายที่ซ่อนอยู่]
SuperWindy พิมพ์ว่า:
Centrinos พิมพ์ว่า:
แต่งเองเหรอครับ? เขียนดีครับ

นึกว่าอ่านงานเขียนของวินทร์  


แต่งเองครับ ขอบคุณมากครับถึงขั้นของวินทร์เลย 555
ผมก็ได้อิทธิพลส่วนหนึ่งมาจากแกด้วยแหละครับ
เรื่องสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนที่วินทร์แต่ง เปิดมุมมองหลายอย่างเลยครับ  


ผมชอบอ่าน ผมเขียนไม่เป็น ไม่รู้จะวิพากย์วิจารณ์อะไร แต่งานคุณอ่านแล้วผมนึกถึงวินทร์
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 67
ที่อยู่: เทคโนโลยีการเชื่อม
โพสเมื่อ: Sun Jul 24, 2016 2:04 pm
[RE: [เรื่องสั้น] พิสตาชิโอกับความหมายที่ซ่อนอยู่]
แจ๋วๆ
สิงห์สำอาง ณ ลอนดอน
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 508
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 24, 2016 2:19 pm
[RE: [เรื่องสั้น] พิสตาชิโอกับความหมายที่ซ่อนอยู่]
Centrinos พิมพ์ว่า:
SuperWindy พิมพ์ว่า:
Centrinos พิมพ์ว่า:
แต่งเองเหรอครับ? เขียนดีครับ

นึกว่าอ่านงานเขียนของวินทร์  


แต่งเองครับ ขอบคุณมากครับถึงขั้นของวินทร์เลย 555
ผมก็ได้อิทธิพลส่วนหนึ่งมาจากแกด้วยแหละครับ
เรื่องสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนที่วินทร์แต่ง เปิดมุมมองหลายอย่างเลยครับ  


ผมชอบอ่าน ผมเขียนไม่เป็น ไม่รู้จะวิพากย์วิจารณ์อะไร แต่งานคุณอ่านแล้วผมนึกถึงวินทร์  


ใช่เลย ลักษณะการเล่าเรื่องคล้ายกัน
ตอนต้นเรื่องนึกว่าใช่ พอกลางเรื่องถึงเริ่มรู้ว่าไม่ใช่
แต่มีกลิ่นอายงานเขียนของอาวินทร์อยู่ 60-70%. เลยทีเดียว

ชอบครับ
เข้าร่วม: 01 Nov 2006
ตอบ: 71
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 24, 2016 2:47 pm
[RE: [เรื่องสั้น] พิสตาชิโอกับความหมายที่ซ่อนอยู่]
YESS พิมพ์ว่า:
แจ๋วๆ  


ขอบคุณมากครับ
0
0
เข้าร่วม: 01 Nov 2006
ตอบ: 71
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 24, 2016 2:48 pm
[RE: [เรื่องสั้น] พิสตาชิโอกับความหมายที่ซ่อนอยู่]
อย่ากระนั้น พิมพ์ว่า:
Centrinos พิมพ์ว่า:
SuperWindy พิมพ์ว่า:
Centrinos พิมพ์ว่า:
แต่งเองเหรอครับ? เขียนดีครับ

นึกว่าอ่านงานเขียนของวินทร์  


แต่งเองครับ ขอบคุณมากครับถึงขั้นของวินทร์เลย 555
ผมก็ได้อิทธิพลส่วนหนึ่งมาจากแกด้วยแหละครับ
เรื่องสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนที่วินทร์แต่ง เปิดมุมมองหลายอย่างเลยครับ  


ผมชอบอ่าน ผมเขียนไม่เป็น ไม่รู้จะวิพากย์วิจารณ์อะไร แต่งานคุณอ่านแล้วผมนึกถึงวินทร์  


ใช่เลย ลักษณะการเล่าเรื่องคล้ายกัน
ตอนต้นเรื่องนึกว่าใช่ พอกลางเรื่องถึงเริ่มรู้ว่าไม่ใช่
แต่มีกลิ่นอายงานเขียนของอาวินทร์อยู่ 60-70%. เลยทีเดียว

ชอบครับ  


ขอบคุณมากครับ ถือเป็นกำลังใจ จะพยายามเขียนต่อไปครับ