กุญแจสำคัญสำหรับการชนะใน Solo matchmaking คือ เป็นผู้เล่นที่เก่ง ไม่เพียงแต่มีความสามารถที่ดี ต้องมีความยืดหยุ่นด้วย จะทำให้ไต่ MMR ได้สูงกว่าการพึ่งความสามารถส่วนตัว แต่ไม่ได้หมายถึงความสามารถไม่สำคัญนะ ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิคการกันหัวร้อนหรือการจัดการความคิดตัวเอง เพราะการเปลี่ยนแนวการคิดมันง่ายกว่าการฝึกฝีมืออีก หวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้คุณชนะมากขึ้นและแพ้น้อยลงนะ
Page FB:
https://www.facebook.com/xelbehindthetree
ฝีมือกับความเข้าใจแบบผิดๆในการเล่น
1.ทักษะ(SKILL)
ผู้เล่นหลายคนคงหัวร้อนกันเยอะ เพราะเขาเชื่อว่าทักษะตัวเองกับ MMR ไม่ตรงกัน นั้นก็แสดงถึงทักษะหลายๆด้านด้วย ทักษะมีหลายด้าน มีmechanical skill(การLast hit,Juke) ความเข้าใจเกม การวางแผน การหัวร้อน สมาธิและการสื่อสารกับคนในทีม mechanical skill บางอย่างจะเห็นได้ง่าย เช่น การลาสครีปได้ถึง 80 ตัวใน 10 นาที ก็จะถือว่าเป็น carry ที่ฟาร์มได้ไว
สิ่งที่สำคัญคือเข้าใจในทักษะตัวเองที่ส่งผลที่การเล่น!! การเรียนรู้ที่จะควบคุมด้านอื่นๆนั้นจะช่วยให้ชนะ นั้นสำคัญพอๆกับการเล่นให้ดี อย่าลืม Dota เป็น Team game คุณก็จะถูกจำกัดโดยการตัดสินใจและการสื่อสารกับคนในทีม ดังนั้นการตัดสินใจและการสื่อสารจะส่งผลต่อความเข้าใจในเกมของคุณ พยายามทำความเข้าใจกับรูปเกม ฮีโร่และผู้เล่นที่เล่นด้วยกัน
ความเข้าใจในเกมจะส่งผลต่อทุกๆการตัดสินใจและมันจะแสดงผลออกมา ถ้ามีความเข้าใจที่ดีก็จะทำให้พัฒนาการเล่นของตัวเองได้
2.การลดลงของMMR
เคยเห็นคำว่าELO Hellไหม??? ELO HellคือระดับMMRที่ประกอบดังนี้
-Noob แจก ทุกๆ คนคงเคยเห็น Last pick Meepo ที่ไม่มีเลนอยู่และแจกอย่างต่อเนื่อง
-Pinoys(หรือใส่ชื่อประเทศที่ตัวเองเกลียด)การด่าและ Troll จะทำให้เกิดการแตกแยกในทีม เหมือนข้อข้างบน คือเราควบคุมมันไม่ได้ มันจะทำให้เราแพ้เช่นกัน
-เจอกับฮีโร่โกงๆ เช่น ใน Patch ที่ Troll warlord โกงมากๆ และฮีโร่ที่โกงในแต่ละ Patch มักจะไม่จำเป็นต้องมีทักษะมาก ทำให้ผู้เล่นที่อ่อนกว่าชนะเราที่เก่งกว่าได้
มันเป็นปัญหาต่างๆที่ทุกคนเคยเจอ สมมติถ้าเราแพ้ 10 ตาติด มันจะทำให้เราหัวร้อนได้ ถ้าเราชนะกลับมาได้ ก็จะทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นทันที
การไต่ MMR ก็ต้องใช้ดวงด้วย ยิ่งถ้าไป Solo ก็ต้องเล่นกับใครก็ไม่รู้ตั้ง 9 คน ถ้าดวงซวยก็เจอกับ Feeder/Noob ผู้ที่พร้อม Throw เกม ถ้าดวงดีอีกฝั่งก็จะมีแทน ดวงก็สำคัญนะ
3.สิ่งที่ส่งผลต่อ MMR
คลิปจากAui_2000และDay[9]ที่พูดถึงพวกMMRไม่ได้หมายถึงฝีมือ แต่มันคือการพัฒนาของเราต่างหาก สิ่งที่จะทำให้มันดีขึ้นได้แค่ชนะ.. จากคลิปของAui จะสรุปได้ 3 อย่าง
-เล่นให้ดีขึ้น มีการระวังตัว เลือก item ให้ดีขึ้น เลือกฮีโร่ให้เหมาะกับเกม เป็นต้น
-ทำให้ทีมเล่นดีขี้น หลีกเลี่ยงการทะเลาะกับทีม สื่อสารให้มีประโยชน์กับทีม
-ทำให้ฝั่งตรงข้ามเล่นแย่ ง่ายๆ ไปเกรียนใส่ฝั่งมัน
ทัศนคติกับWIN RATE!!
Dota ไม่ใช่เกมที่เราจะชนะตลอดได้ ตอนนี้เรามาดูอะไรที่ส่งผลลบกับเราดีกว่า
1 THE DUNNING-KRUGER EFFECT
ไอ้ทฤษฎีThe Dunning-Kruger effect จะใช้กันบ่อยในวงการกีฬามันคือการดูว่าผู้เล่นนั้นขาดการเข้าใจในเกมมากแค่ไหน เดียวมาดูตัวอย่าง
The Dunning-Kruger effect จะเคยขัดการพัฒนา เพราะจะทำให้เราเรียนรู้จากการแพ้ไม่ได้
2.CONFIRMATION BIAS
คิดตามนะ มันเป็นวันที่สุดยอดมากๆ ทุกๆเกมฝั่งคุณจะมีคนเลือกCarryทัน สกอร์ 0-10 ไม่มีใครซื้อWard ทุกๆเกมเล่นอย่างลำบากตรากตรำ ทุกๆเลนโดนกดเละและมีNoobคอยThrowเกม
ข้างบนๆเราเคยพูดถึงว่าการแพ้รัวๆมันเกิดขึ้นได้ ตัวConfirmation biasจะมองหาสาเหตุที่ทำให้เราแพ้ ไม่ก็มองข้ามไป ดังนั้นตอนเราแพ้รัวๆ เราก็จะมองเห็นทุกคนเป็นNoobหมด มันจะขวางการวิเคราะห์เกมที่ดี นำไปสู่การ – 25 ได้
3.ON TILT (การโน้มเอียง)
tiltingคือ การที่หัวร้อนจนฝีมือกากกว่าเดิม เมื่อคุณหัวร้อนจากการแพ้รัวๆมา คุณก็จะเล่นแย่ลงและจาก -25จะกลายเป็น -500ได้ภายในชั่วข้ามคืน
การสร้างความคิดให้ดีขึ้น (ป้องกันหัวร้อน)
กีฬาทุกอย่างต้องเรียนรู้ถึงป้องกันหัวร้อน เพราะอารมณ์จะส่งผลต่อการเล่นได้ เช่นเดียวกันDota ที่Throwเกมที่ โอกาสแพ้แทบเป็น 0 ได้
1.ป้องกันความคิดแบบถอยหลังลงคลอง
ทำในสิ่งที่พาเราชนะ เลิกในสิ่งนำไปสู่การพ่ายแพ้ อะไรก็ทำละแพ้ ก็ไม่ต้องทำ
นี้ก็เป็นแนวคิดที่จะทำให้ชนะ เริ่มจากความเข้าใจในเกมไปสู่วิเคราะห์และระวังปัญหา ปรับตัวให้สำเร็จ ดูผลลัพธ์และทำความเข้าใจ
สิ่งแรกที่ทำให้เกิดภาวะขี้แพ้หรือแพ้รัวๆ คือการโทษคนอื่นสำหรับการแพ้ การเชื่อว่าตัวเองไม่ผิด
แนวทางการหัวร้อนความเข้าใจแบบผิดๆ นำไปสู่การสันนิษฐานและอคติ สนับสนุนการเปลี่ยนวิธีการเล่น ทำให้ไม่พัฒนาการเล่น เกิดการยอมแพ้อย่างรวดเร็ว (GG end plsตั้งแต่ 5 นาที)
เข้าใจว่าการเล่นในระดับMMRน้อยๆ มันน่าปวดหัว แต่ลองใช้แนวคิดที่ดีดูสักครั้ง
ถ้าให้Dendi(ใครเลิกเชียร์Na’Viไปละ ก็สมมติProคนอื่นละกัน) เล่นid 1k mmr คงได้Win rate เกือบ100%
พยายามเลิกใช้แนวคิดหัวร้อน เริ่มหัวร้อนแรง ให้พักก่อนจนกว่าจะพร้อมเล่นอีกครั้ง
2.ออกจากการแพ้รัวๆ -25 -25 -25
มันเป็นปัญหาใหญ่เลยนะ เพราะถ้าจะหยุดจากการแพ้ ก็ต้องเล่นต่อไป สำหรับเราที่นั่งเล่นที่บ้าน จะหนีไปนอนพักตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าPro แข่งLanจะหยุดพักกลางทางไม่ได้ สัญญาณไม่ดีควรพักคือ
-หงุดหงิดมากขึ้น
-ขาดความกระตือรือร้น
-อคติเพิ่มขึ้น
-ขาดสมาธิ
-พลาดโง่
เมื่อเป็นแบบนี้ควรพัก ไม่ก็ไปเล่นแบบธรรมดา ทำอย่างอื่นบ้าง
3.ยอมรับความจริง
ทุกคนเวลาเล่นก็ต้องมีสมาธิในการชนะ เช่น Pro playerเวลาLast hitจะเป็นไปโดยธรรมชาติ ทำให้แบ่งสมาธิไปทำอย่างอื่นในเกมได้ เช่นเดียวกันกับเรา ถ้าอารมณ์บูดมาตีดอทหรือมีสมาธิมากไปกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ก็เหลือพลังน้อยในการจัดการปัญหาที่เราควบคุมมันได้
เมื่อมีคนเลือกตัวOPมา ต้องคิดวิธีแก้ทางมา เมื่อทีมเริ่มด่ากัน อย่าด่าตามกระแส หาทางที่จะให้ทีมเล่นดีๆดีกว่าเยอะ มันดูยากนะ แต่ลองดู มันอาจจะ +25 แทนก็ได้
4.ทำให้ชนะมากขึ้นและคิดให้น้อยลง
ตัวอย่างเช่น EternalEnvyที่เป็นCaptain C9 ปกติCaptainส่วนใหญ่จะเป็นsupportเพราะจะมีเวลาว่าง ไม่ต้องLast hit จะมองเกมได้ดีกว่า แต่EEสามารถเล่นcarryไปด้วย สั่งการไปด้วย เพราะLast hitเป็นไปโดยธรรมชาติไม่ต้องคิดนั้นเอง
5.แพ้เพื่อชนะ
การชนะแบบ30-0นั้นไม่ทำให้เราเก่งขึ้น ทำให้เราสะใจอย่างเดียว แต่การแพ้แบบสูสีจะทำให้เราได้เรียนรู้ถึงสิ่งต่างๆมากกว่า เช่น การฟาร์ม การสื่อสารที่ดีกับทีมตัวเอง
สรุปสุดท้าย
จำไว้ว่าDota เป็นTeam game วันนึงอาจจะอยู่ทีมเก่งๆ แต่อีกวันทีมเรากากมากก็ได้ ฉะนั้นเราจะต้องควบคุมอารมณ์ไว้ จะได้เล่นได้ดีขึ้นไม่ก็กากน้อยลง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
1.เล่นUnrankedก่อนเล่นRanked จะได้วอร์มไปในตัว
2.ไม่เล่นหลังแพ้รัวๆหรือแพ้ขาดมาก สมองต้องการพักผ่อนก่อน
3.อย่าพยายามชนะตามแพ้ที่เสียไป อารมณ์เหมือนคนเสียBet จะต้องการBetต่อก็จะเสียเพิ่มขึ้นมากกว่า
4.ดูReplayตัวเองเพื่อหาข้อผิดพลาด
5.คิดนอกกรอบบ้าง (ระวังโดนด่า)
6.ออกกำลัง สุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญนะ
7.อย่าฝืนเล่นตอนป่วย โกรธ หิว หรือง่วง มันทำให้คุณเล่นได้ห่วยกว่าปกติ
8.พยายามสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมดีๆ ไม่หาเรื่องกัน
ทิ้งอีโก้ไปบ้าง แต่ต้องมั่นใจในตัวเองนะ
Page FB:
https://www.facebook.com/xelbehindthetree
SOURCE:HTTP://WWW.LIQUIDDOTA.COM/FORUM/DOTA-2-GENERAL/480623-DOTA-2-MINDSET-AND-YOU