13 February 2016 10:25 AM by chirojung
ทางรอดลีกภูมิภาค!"โค้ชเสก"แนะอย่าเพิ่มโซนทำเกมเหลือน้อย

"โค้ชเสก"เศกสรร ศิริพงษ์ ประธานสโมสร "นักรบชากังราว"กำแพงเพชร เอฟซี เสนอนายกสมาคมฟุตบอลฯคนใหม่ถ้าจะปฎิรูปวงการฟุตบอล ขออย่าลดเกมการแข่งขันของฟุตบอลลีกภูมิภาคให้เหลือจำนวนเกมที่ต้องแข่งขันน้อยกว่าเดิม ยืนยัน 40 นัดรวมทุกถ้วยกำลังเหมาะเนื่องจากเป็นลีกที่รองรับทั้งนักเตะดาวรุ่ง,นักเตะใกล้ปลดระวาง และ เป็นแหล่งลองวิชาของโค้ชอีกด้วย

ภายหลังจากที่ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯออกมาแถลงนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการวงการฟุตบอลไทยทั้งองคาพยพผ่านทางสื่อต่างๆไปแล้วนั้น โดยยืนยันว่า ไทยลีกพรีเมียร์ลีก จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นกว่าเดิม ส่วน ดิวิชั่น 1 ลดหลั่นกันไป ในขณะที่ ดิวิชั่น 2 ลีกภูมิภาค ก็จะมีการนำเงินมาช่วยเหลืออีกด้วย

อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งนโยบายที่คาดว่าจะส่งผลกระทบกับทีมในระดับดิวิชั่น 2 คือการแยกโซนอาจจะแบ่งออกเป็น 8-10 โซนเพื่อให้มีเกมการแข่งขันที่สั้นและกระชับ ซึ่งมันมีทั้งผลดีและผลเสียของสโมสรสมาชิก ล่าสุด "โค้ชเสก"เศกสรร ศิริพงษ์ ประธานสโมสร กำแพงเพชร เอฟซี ออกมาเสนอแนวความคิดว่าลีกดิวิชั่น2คือรากฐานสำคัญไม่ควรจะตัดเกมการแข่งขันให้เหลือน้อย

"ฟุตบอลอาชีพ คือดำรงชีพด้วยการทำงานกับฟุตบอล โค้ช นักเตะและบุคลากรในสำนักงานสมควรมีงานทำ12เดือนจึงจะอยู่ได้ทีมในไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชั่น1มีการเซ็นสัญญานักเตะทั้งปีเพราะมีแข่ง34นัด(18ทีม)ไม่รวมบอลถ้วย มีรายได้จากสปอนเซอร์,ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด,ขายของที่ระลึกและบัตรผ่านประตู"

"มีข่าวของดิวิชั่น2ที่กำลังจะถูกมองเป็นลูกเมียน้อยบางคนต้องการแบ่งซอยย่อยเป็น8-12โซนเพื่อเตะจบๆไปเร็วๆบางคนบอกจะได้เตะชปล.ได้ยาวและมีเวลาเตรียมทีมขึ้นดิวิชั่น1 อยากให้ไตร่ตรองว่าทีมที่เหลือและบุคลากรในทีมของพวกเขาจะต้องหยุดงานขาดรายได้ไปกี่เดือนเขาจะเอาอะไรกินเพราะฉนั้นเพื่อให้ทุกคนอยู่ได้รอบลีกภาคควรมีระยะเวลาที่ยาวนานประมาณ9เดือนพัก1เดือนปรีซีซั่น8สัปดาห์ รอบชปล.เปลี่ยนเป็นจับสลากเตะเพลย์ออฟ เหย้า,เยือนหาทีมเลื่อนชั้นแบบในลีกของอังกฤษผมว่านี่คือ"ฟุตบอลอาชีพ"ในแบบที่เป็นหลักสากล"

"สร้างลีกภูมิภาคให้แข็งแรงเท่ากับว่าพัฒนาบอลไทยที่ฐานราก เด็กเยาวชนดาวรุ่งเยาวชนทีมชาติเริ่มพัฒนาจากที่นี่แหล่งหากินช่วงขาลงของนักเตะฝีเท้าดีที่โดนคลื่นลูกใหม่แทรกเข้าไปพวกเขาก็ยังมีที่ทำงานรองรับอีกอย่างน้อย3-5ปีก่อนเลิกราแขวนสตั๊ดออกไปทำอาชีพอื่นๆโค้ชจบใหม่ก็มีบันไดอยู่ที่นี่เป็นที่ๆฝึกปรือลับคมสมองประลองวิชาความรู้..ลีกรากหญ้าต้องมีแข่งปีละอย่างน้อย40กว่านัด(รวมทุกถ้วย)เพื่อพัฒนาบุคลากรบอลไทยทั้งระบบ"โค้ชเสก"กล่าว
0
0
เข้าร่วม: 19 May 2010
ตอบ: 5500
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Feb 13, 2016 10:47 am
[RE: ทางรอดลีกภูมิภาค!"โค้ชเสก"แนะอย่าเพิ่มโซนทำเกมเหลือน้อย]
เป้าหมาย ที่เข้าแยกโซน เยอะๆ เพราะ ถ้วยข. ค. ง. จะไม่มีแล้ว

D3 ลีกภูมิภาค จะเป็นแค่ เวทีกึ่งอาชีพ
งบประมาณทำทีมไม่เกิน 5 ล้านบาท ใช้เวลาแข่ง 7-8เดือน
จะทำให้การบริหารฟุตบอลคล่องตัว ค่าจ้างสามารถจ้างให้มากขึ้น

D2 ลีกอาชีพ งบประมาณทำทีม 10 ล้านบาท

D1 ลีกอาชีพ งบประมาณทำทีม 10-30 ล้านบาท

TPL ลีกอาชีพ งบประมาณทำทีม เกิน 30 ล้านบาท
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3736
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Feb 13, 2016 12:11 pm
[RE: ทางรอดลีกภูมิภาค!"โค้ชเสก"แนะอย่าเพิ่มโซนทำเกมเหลือน้อย]
hi-parinya พิมพ์ว่า:
เป้าหมาย ที่เข้าแยกโซน เยอะๆ เพราะ ถ้วยข. ค. ง. จะไม่มีแล้ว

D3 ลีกภูมิภาค จะเป็นแค่ เวทีกึ่งอาชีพ
งบประมาณทำทีมไม่เกิน 5 ล้านบาท ใช้เวลาแข่ง 7-8เดือน
จะทำให้การบริหารฟุตบอลคล่องตัว ค่าจ้างสามารถจ้างให้มากขึ้น

D2 ลีกอาชีพ งบประมาณทำทีม 10 ล้านบาท

D1 ลีกอาชีพ งบประมาณทำทีม 10-30 ล้านบาท

TPL ลีกอาชีพ งบประมาณทำทีม เกิน 30 ล้านบาท  

ผมว่า ดี3อาจะแบ่งเป็น6-8โซน ลีกสมัครเล่น กี่ทีมก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง และใช้เงินตัวเอง
ดี2 2โซนเหนือใต้ ลีกกึ่งอาชีพ 30ทีม และเป็นลีกที่ควรได้รับการสนับสนุนจากกกท.
ดี1 คัดแยกคลับไลเซนลีกอาชีพ
TPL ลีกอาชีพ อย่างนี้ดีกว่า

0
0
เข้าร่วม: 28 Oct 2008
ตอบ: 3212
ที่อยู่: บอร์ดบอลไทย
โพสเมื่อ: Sat Feb 13, 2016 1:54 pm
[RE: ทางรอดลีกภูมิภาค!"โค้ชเสก"แนะอย่าเพิ่มโซนทำเกมเหลือน้อย]
ถ้าใครได้ดูรายการ เจาะข่าวเด่นและเฟสไทม์ นายกระบุชัดเจนนะครับ ว่า
- TPL รับรายได้ 60% (18 ทีม TPL บริหารจัดการเอง ตามโครงสร้างนโยบาย)
- D1 รับรายได้ 10% (18 ทีม D1 บริหารจัดการเอง ตามโครงสร้างนโยบาย)
- D2 รับรายได้ 10% (สโมสรสมาชิก D2 บริหารจัดการเอง ตามโครงสร้างนโยบาย)
- ทีมชาติไทย รับรายได้ 20% (สมาคม ฯ จัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้)

ในส่วนค่าใช้จ่ายการเป็นทีมเยือน
- สำหรับ D1 สมาคมจะสนับสนุนนัดละ 1 แสนบาท เพราะ D1 แข่งตะเวนทั่วประเทศ
- สำหรับ D2 สมาคมจะสนับสนุนนัดละ 5 หมื่นบาท เพราะ D2 จัดโซนแข่งเฉพาะภูมิภาค
ไม่ต้องเดินทางไกลแบบ D1 ฉะนั้น การสนับสนุนก็ลดหลั่นกันไปตามความเหมาะสม
- สำหรับ TPL สมาคมไม่มีนโยบายสนับสนุน ค่าใช้จ่ายในการเป็นทีมเยือน เพราะ
ถือเป็นลีคสูงสุดของประเทศ ฉะนั้นความพร้อมทุกด้านดีกว่าและมีมากกว่า ค่าใช้จ่ายพอเพียง
อยู่แล้วสำหรับการเป็นทีมเยือน งบตรงส่วนนี้สำหรับ TPL สมาคมจึงตัดออกไป

*** ส่วน D3 หรือ ลีคภูมิภาค ผมยังหาไม่เจอนะครับ ว่านโยบายเป็นอย่างไร? โครงสร้างจะ
ใช้แบบอีก 3 ลีคบนรึป่าว? ส่วนตัวเห็นใจกับโค๊ชเสก เรื่องค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ ในห้วงเวลา
ที่ไม่ได้มีโปรแกรมแข่งขัน ส่วน D3 ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นแบบกึ่งอาชีพมากกว่า ฉะนั้น
รายละเอียดและขั้นตอนการบริหารงานต่าง ๆ ก็น่าจะรวบรัด กว่าฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัว
ดังนั้น ความสม่ำเสมอและความต่อเนื่อง น่าจะยังไม่พร้อมเท่าที่ควร

แต่ก็หวังว่า ในอนาคต D3 น่าจะได้รับโอกาส ใช้นโยบายโครงสร้างแบบเดียวกับ TPL, D1
และ D2 แบบที่ พรีเมียร์ ลีค ของอังกฤษเขาทำอยู่ แล้วก็แยกเป็นนอกลีคไปเลย
โครงสร้างใหม่ก็จะเป็น TPL, D1, D2, D3 และ ทีมนอกลีค อันนี้ก็ต้องรอดูความเคลื่อนไหวต่อไป
เชียร์ลิเวอร์พูล ชอบมูรินโญ่ รักเจอร์ราด DNAฟุตบอลไทย
เข้าร่วม: 10 Jan 2011
ตอบ: 4002
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Feb 13, 2016 2:33 pm
[RE: ทางรอดลีกภูมิภาค!"โค้ชเสก"แนะอย่าเพิ่มโซนทำเกมเหลือน้อย]
ตามคอมเม้นด้านบนนะล่ะ แต่อย่าลอกลีคต่างประเทศมากนัก เพราะไทยยังทำไม่ได้ถึงขั้นนั้น


หลายๆทีม ติดหนี้ บริหารกันยังไม่เป็นเลย แต่ที่อยากเห็น คือ TPL D1 D2 D3 โดยเพิ่ม D3


เป็นลีคภูมิภาคแทน D2 แล้วทำ D2 ให้เป็นแบบ D1 ส่วนสิทธิการเลือกตั้งให้ใช้ TPL D1 D2


ที่มีสิทธิ์เลือกนายกได้ จะได้ไม่วุ่นวายกันแบบตอนนี้ ทีมที่มีสิทธิ์ก็เป็นทีมแบบลีคอาชีพ


น่าจะไม่สร้างปัญหาในอนาคต
0
0