[RE: ผมแฟร์พอ ! ปธ.ทีพีแอลพร้อมส่งไม้ผลัดให้ชุดใหม่]
incon พิมพ์ว่า:
Spoil
SuperOakes พิมพ์ว่า:
จริงๆ ได้อ่านเม้นมาค่อนข้างเยอะมากๆ แฟนๆ หลายๆ ท่านก็ด่าว่าสมาคมฟุตบอลฯ มาโดยตลอดจากการได้รับข่าวสาร จากสื่อกีฬาต่างๆ ซึ่งพวกสื่อที่เขียน หลายคนเล่าเป็นฉากๆ โดยจริงๆ แล้วก็ไม่รู้หรอกขั้นตอนการทำงานจริงๆ เป็นอย่างไร แค่อยากเขียนให้คนสนใจอ่าน แล้วแฝงความรู้สึกตัวเองเข้าไป
ผมเป็นคนนึงที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของวงการบอลไทย แต่จริงๆ แล้วเราก็ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย จะมีแฟนคนไหนรู้จริงถึงผลงานชุดนี้ยุคสมัยที่ 16 บ้าง เอาเข้าจริงคงไม่ค่อยมีเพราะแค่เสพสื่อจากนักข่าวเท่านั้น
อย่างเช่น ทีมชาติเล่นไม่ดี โทษ สมาคมฯ พอเล่นดี ชมโค้ช มันก็ดูไม่ยุติธรรมนะผมว่า โค้ชจะเก่งแค่ไหนถ้าไม่มีนักฟุตบอลให้เลือกใช้ได้เยอะ คงไม่สำเร็จขนาดนี้
ก่อนหน้ายุคนี้ การทำลีกฟุตบอลไทยอาชีพ แทบจะไม่มีใครสนใจเลย เพราะทำไม่ติดยุคสมัยไหน ถ้าแฟนบอลไทย จริงคงทราบ ผมไม่อยากเอ่ยชื่อใคร จนมาถึงยุคสมัยที่ 16 เปลี่ยนแปลงวงการลีกไทย ซึ่งจะมีใครรู้บ้างว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นต้องสู้รบกับอะไรบ้าง สโมสรทั้งหมดด่าว่า สมาคมฯ เพราะสมาคมฯ ต้องการนำฟุตบอลไทยให้เป็นอาชีพจริงๆ เพื่อเป็นการพัฒนาเบื้องต้น ของการเตรียมทีมชาติไทยในการผลัดใบและสร้างนักฟุตบอลไทย นี่คือ โครงสร้างการพัฒนาบอลไทย อย่างแรก แต่สโมสรส่วนใหญ่คิดว่าการนำ club licensing เข้ามาทำให้วุ่นวาย ต้องมานั่งจดบริษัท ต้องตรวจสนามให้เข้าหลักเกณฑ์ AFC ทำไมต้องทำตามเค้า อย่างนั้นอย่างนี้ จนมาทุกวันนี้ มีแฟนบอลไทยคนไหน เข้าใจจุดสำคัญ จุดนี้ ที่สโมสรฟุตบอลไทยเป็นอาชีพจริงๆ มีรายได้ๆ เอง และลีกบอลไทย ก็แข็งแรงที่สุดใน aec และกำลังจะก้าวไปทัดเทียมระดับ asia ปัจจุบันค่าสัมปสิทธิ์ เราได้สิทธ์เข้าไปเล่นรอบคัดเลือก AFC Champion League ปีนี้ถึง 3 ทีม ก่อนหน้านี้ ไม่ 1 ก็ 2 เท่านั้น
ต่อมาการพัฒนาฟุตบอลไทย ต้องลึกลงไปกว่านั้น คือ สมาคมฯ ชุดนี้ ได้เริ่มทำ grassroots youth development ตามขั้นตอน FIFA และ AFC ไปพร้อมๆ กัน หลายคนอาจไม่ทราบว่ามันคืออะไรด้วยซ้ำ ผมขอขยายความให้นะครับ คือการพัฒนาตั้งแต่ระดับ นักฟุตบอลเยาวชน ตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างจริงจังกว่าทุกสมัยที่ผ่านมา จะให้ถามกันชัดๆ เลย คุณว่า ทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน บ่งบอกให้เห็นว่า นักฟุตบอลไทย อายุน้อย และ ทีมชาติไทยทุกชุด มีการพัฒนา เติมเต็ม กันได้ เห็นได้ชัดจากที่ ปัจจุบัน ชุด 16ปี 19ปี 23ปี และทีมใหญ่ ค่อนข้างประสบความสำเร็จในวันนี้จึงดึงความสนใจของแฟนบอลได้เพิ่มมากขึ้น เรียกศรัทธาได้มากขึ้น แน่นอนครับ การพัฒนาให้แข็งแกร่งจึงต้องใช้ระยะเวลานาน เป็น 10 ปี นับตั้งแต่ชุดบริหารคณะนี้ ได้เข้ามา ระหว่างการพัฒนา ก็โดนแฟนบอลไทยด่าว่า ถึงผลงานของทีมชาติไทย ต่างๆ นาๆ ซึ่ง จนวันนี้ ผลผลิต ได้ออกดอก ออกผลให้แฟนบอลชาวไทยแล้ว แต่กลับ ชมแต่โค้ช อย่างเช่นคำกล่าวที่ว่า "โรมไม่สามารถสร้างได้ในวันเดียว"
grassroots ยังมีอีกนะครับ ไม่หมดแค่นี้ คือการพัฒนาโค้ช ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยมีการพัฒนาโค้ชมาอย่างผิดๆ โดยโค้ชชื่อดังท่านหนึ่งของเรา ที่ให้ความเคารพกันดี แต่ใครจะทราบว่าตัวเค้าเองก็ไม่เคยจบ coach license เลยสักใบเดียว แต่มีการไปเปิดหลักสูตรมากมาย ทั่วประเทศและยังอ้างว่าเป็นระดับเดียวกับ AFC จึงทำให้บรรดาผู้ที่เข้ามาอบรมเข้าใจผิด คิดว่าเป็นคอร์สอบรม อย่างถูกต้อง ในที่สุดก็ต้องมาพัฒนาด้านนี้ จึงมีการล้างบาง ทั้งหมด โดยมี AFC เข้ามาร่วมช่วย ด้วยการขอความช่วยเหลือโดยสมาคมฯ ในการเปิดอบรม AFC Coaching License อย่างถูกต้อง ช่วงปีแรกๆ ค่อนข้างวุ่นวายมาก เพราะแต่ละคนที่เคยอบรมแล้วก็ไม่เข้าใจ หลายพันคนนะครับ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ตอนนั้น โค้ชฟุตบอลชาวไทย มีไม่ถึง 10 ท่านด้วยซ้ำที่มี AFC Coaching License อย่างถูกต้อง แฟนพันธ์ูแท้บางท่านอาจจะจำเรื่องราวได้บ้าง
นี่คือคร่าวๆ ที่ผมได้เห็นการพัฒนาฟุตบอลของสมาคมฯ ยุคสมัยที่ 16 ได้ทำไว้ ซึ่งนี่คือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ของวงการฟุตบอลไทยนี่ยังไม่นับรวมที่ทีมฟุตบอลหญิงเราได้เป็นเล่นฟุตบอลโลกนะครับ
ผมว่าเราคงต้องให้เครดิต ในเรื่องที่ดีกับยุคสมัยที่ 16 บ้างเท่านั้นครับ การจะด่าว่ากันแรงๆ บางครั้งอ่านแล้วก็ว่าเกินไป ส่วนใหญ่ แต่ละท่านก็เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งมีอายุราวๆ พ่อ แม่ น้า อา หรืออาจจะปู่ ตา เราด้วยซ้ำ เราคนไทยยังไงก็น่าจะให้เกียรติผู้อาวุโสกันบ้างครับ แต่ก็เข้าใจคนเราชอบสนุกปาก
ฝากท้ายนิดนึงนะครับ ถ้ายุคสมัยที่ 16 มีแต่ข้อเสียจริงๆ ทุกด้าน ฟุตบอลไทยคงไม่รุ่งเรือง ณ ปัจจุบัน ครับ ผมว่านะ
ขอโทษนะครับที่ผมอาจมองต่างออกไปบ้าง แต่ก็อยากให้ฟุตบอลไทยพัฒนาจริงๆ เหมือนพวกท่านแหละครับ
ผมขอถามนะครับ ถ้า AFC ไม่บังคับจริงๆ ว่าต้องทำ ไลเซนซิ่ง TPL มีปัญญาแค่ไหนครับที่จะบีบสโมสรสมาชิกให้ทำ เท่าที่ผมเห็น TPL ทำแบบขอไปที ใครพร้อมก็ทำก่อน ใครยังไม่พร้อม ค่อยๆทำ(ยิ่งสโมสรพวกตัวเองยิ่งค่อยๆทำใหญ่) แต่จุดแตกมาตรงที่AFC ออกข้อบังคับ ถ้าไม่ทำอดเล่น แชมป์เปี้ยนลีค สโสมสรก็วุ่นกันใหญ่ บางทีมยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ ในตอนที่ AFC ออกข้อบังคับว่าต้องมี (ปี2013) ซึ่งจริงๆ AFC กำหนดมาตั้งแต่ราวปี 08-09 แล้วด้วยซ้ำ แต่การทำงานแบบ พวกพ้อง ทำให้มันมีปัญหายืดเยื้อเรื่อยมา แต่ฟุตบอลลีคผมให้เครดิต TPL ส่วนนึงตรงที่เอาโปรลีคมารวมกัน อันนี้ผมให้เครดิตสมาคมชุดนี้ ส่วนการปลุกกระแส ผมให้ชลบุรี 2007 ที่เป็นแชมป์และทำให้แต่ละทีมเริ่มมองต่างจังหวัด จนเริ่มกระจายออกต่างจังหวัดมากขึ้นเพื่อดึงคนดู และ รายได้เข้าทีม ส่วนอคาเดมี่ต่างๆ ผมก็ให้เครดิต AFC อีกนั่นละ เพราะข้อบังคับ ไลเซนซิ่ง ต้องมี ซึ่งทีมที่เริ่มก่อนก็ออกดอกออกผลก่อน ทีมเริ่มทีหลังถึงยังไม่มีดาวรุ่งหน้าใหม่ขึ้นมาในทีมเช่นทุกวันนี้
ส่วนบอลหญิงไปบอลโลก ถ้าเกาหลีเหนือไม่โดนตัดสิทธ์แข่งขัน ถามว่าเราจะได้ไปหรอครับ ?
ส่วนเรื่องโค้ช ก็ AFC อีกนั่นล่ะที่ผมเห็นๆว่าเข้ามาช่วยแบบจริงๆจังๆ (แต่โค้ชของ อ. ท่านนึงก็ยังวนเวียนใน D2 อีกเพียบ บางคนเพิ่งจะได้ใบปีนี้ด้วยซ้ำ)
นั้นแหละครับที่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยในการที่จะบังคับ สโมสรให้ทำ ปรับเปลี่ยนกันแบบ หน้ามือเป็นหลังมือ จากก่อนหน้านี้ที่เคยทำมาแบบไม่เคยเข้าใจ ซึ่งถ้าจะพูดตรงๆ จะมีใครทำได้ครับ ให้เปลี่ยนได้ทันทีทุกสโมสรทันทีเลย เป็นไปไม่ได้ครับ และเรื่อง club licensing จริงๆ มีมานานกว่านั้นแล้วครับผม แต่ไม่ได้ใส่ใจกันเอง
ผมไม่ทราบว่าที่คุณทราบว่าทำแบบขอไปทีพักพวกกัน นี้ หมายถึงยังไง
ถ้ามองจากความจริงแล้ว ถ้าสมาคมฯ ยืนยันบังคับให้ทุกสโมสรทำ แต่สโมสรไม่ทำ เราถูกตัดสิทธิ์ แฟนบอลชาวไทยก็ด่าว่าสมาคมฯ อีกหรือไม่ครับ
สมาคมฯ จึงมีการขอผ่อนผันกับทาง afc ในเรื่องนี้ หรือเปล่า ครับ ไทยจึงยังได้สิทธิ์ ในการไปเล่น เพื่อให้ระยะเวลากับสโมสรที่ยังไม่พร้อมจริงๆ และสโมสรที่ได้โอกาสเล่น champion league ก็ยังได้สิทธิ์ไปเล่น
ใสเรื่องฟุตบอล หญิงนะครับ ถ้าทีมไทย ไม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นะครับ ถึง เกาหลีโดนตัดสิทธิ์ ไทยก็คงไม่ได้ไปเล่นอยู่ดี จริงมั้ยครับ
อ่อ เรื่องโค้ช ไม่ทราบว่าท่านทราบมาจากไหนว่า afc เข้ามาช่วยอย่างจริงจัง ครับ ปกติ afc จะมีการให้แสดงความจำนงขอเปิดคอร์ส ปีละ ประมาณ 2-3 ครั้ง ในแต่ละประเทศสมาชิก ถ้าจำไม่ผิด แต่ช่วงแรก ที่มีการปรับเปลี่ยน สมาคมฯ ขอ afc ให้มาเปิดคอร์ส มากกว่า 5-6 ครั้งนะครับ