12 February 2016 12:47 PM by jedi
ฟ้าเปลี่ยนสี



การเลือกตั้ง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จบสิ้นไปแล้วแบบมีทั้ง “ผิดคาด” และ “ตามคาด”

ที่ผิดคาดคือทุกอย่างดำเนินไปแบบไร้ปัญหาอุปสรรคใดๆจนน่าสงสัย เพราะหลายคนคาดการณ์กันว่าอาจมีเรื่องวุ่นๆหน้าสนามเลือกตั้งทำให้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัยกันหลายร้อยคน

แต่สุดท้ายแล้วไม่มีอะไรที่ต้องสะดุดเลย ตั้งแต่การลงทะเบียน เปิดประชุม หย่อนบัตรลงคะแนน นับผลคะแนน ทุกอย่างผ่านฉลุยแบบหลายคนยังแอบคุยกันว่า….ผิดสังเกตุ !!!

ถึงตรงนี้ยังไม่มีใครยืนยันว่ามีอะไรที่ลึกล้ำซ่อนอยู่ในความเงียบสงบที่ว่าหรือเปล่า หรือจะเป็นเพราะอยู่ในสภาพจำยอมแบบ “ยอมรับสภาพ” จริงๆเลยเกิดอาการ “หมดมุก” อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

แต่ที่สุดแล้วก็ถือว่าการเลือกตั้งดำเนินไปจนจบสิ้นพร้อมกับผลการเลือกตั้งที่ “ตามคาด” เมื่อ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และทีมงานคว้าชัยแบบขาดลอย กวาดเรียบทุกตำแหน่งตั้งแต่ นายกฯ อุปนายก และ สภากรรมการ

ขั้นตอนหลังจากนี้คือการดำเนินการตามข้อบังคับเพื่อรับรองให้ถูกต้องอย่างเป็นทางการ ส่วนจะมีการฟ้องร้องหรือเหตุอันใดให้สะดุดอีกหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป คาดว่าคงใช้ระยะเวลาอีกไม่นานน่าจะจบแบบสะเด็ดน้ำสมบูรณ์แบบ

เรื่องของการฟ้องร้องนั้นเป็นสิ่งที่กระทำได้ เหมือนเช่นการเลือกตั้งสมัยที่แล้วที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ต้องวิ่งวุ่นไปถึง “ศาลกีฬาโลก” ก่อนที่สุดท้ายจะชนะคดีในที่สุด หากครั้งนี้ใครคิดว่า “บิ๊กอ๊อด” ทำไม่ถูกต้องย่อมสิทธิ์ฟ้องร้องได้เช่นกัน

แต่การฟ้องร้องควรทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่ฟ้องซ้ำฟ้องซากกับเรื่องเดิมๆ เพราะบางคดีมีเรื่่องคาอยู่ที่ศาลอยู่แล้ว และบางเรื่องไม่ใช่เรื่องใหม่ ดังนั้นถ้าจะเอากันแบบทีเดียวจบแนะนำให้ไปถึง “ศาลกีฬาโลก” นู้นเลย

ฝั่งที่เชียร์ “บิ๊กอ๊อด” ต้องมองในแง่บวกด้วย การถูกฟ้องไม่ใช่เลวร้ายไปเสียหมด อย่างน้อยถือเป็นการ “เคลียร์” ว่าหลายเหตุการณ์ที่ถูกโจมตีว่าไม่ถูกต้อง ผิดข้อบังคับ และอีกสารพัดข้อกล่าวหานั้นที่สุดแล้ว “ศาลกีฬาโลก” เห็นเป็นถูกหรือผิด

แต่หนทางที่ดีที่สุดหากเป็นไปได้ควรจะยึดถือ “สปีริต” หรือน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มากกว่า เมื่อการเลือกตั้งจบไปแล้วทุกอย่างควรเดินหน้าต่อไป ฟุตบอลไทยไม่ควรมาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้อีกเพราะวุ่นวายกันตรงนี้มาจะครึ่งปีแล้ว

สิ่งแรกเลยที่อยากจะเห็นคือทั้งฝ่ายเชียร์และฝ่ายแช่ง “เลิกด่า” กันเสียที คนเก่าที่หมดอำนาจไปใช่ว่าจะเลวร้ายไปเสียทุกอย่าง เรื่องดีๆที่ทำไว้มีให้เห็นมากมาย ส่วนคนที่เข้ามามีอำนาจใช่จะเป็น “เทวดา” ที่ดลบัลดาลหรือเนรมิตอะไรได้ทันที

สิ่งสำคัญหลังจากนี้คือการลงมือทำเพื่อนำพาฟุตบอลไทยทั้งระบบก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและเข็มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเรื่องหลักๆที่เป็นรากฐานอย่าง “ลีก” รวมถึงยอดปลายที่ “ทีมชาติไทย”

คำว่า “ฟ้าเปลี่ยนสี” เป็นสิ่งที่แฟนบอลและหลายๆคนรอคอยมานาน ดังนั้นการเข้ามาของ “บิ๊กอ๊อด” และทีมงานจึงเป็นอะไรที่ถูกฝากความหวังเอาไว้มาก นั่นหมายถึงว่าทุกการเคลื่อนไหวเป็นที่จับตามอง

แน่นอนว่า “บิ๊กอ๊อด” ไม่ใช่คนที่คลุกคลีตีโมงกับวงการฟุตบอลไทยมาช้านาน แต่ใช่ว่าจะไม่รักฟุตบอล สมัยวัยรุ่นเคยเล่นแบ็กขวาให้ “โรงเรียนนายร้อยตำรวจ” มาแล้ว แต่หลังจากนั้นชีวิตไปเอาดีทางราชการจนไปถึง “ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ตำแหน่งอดีตนายตำรวจใหญ่นี่ละที่ทำให้ “บิ๊กอ๊อด” มากล้นไปด้วย “บารมี” ดั่งจะเห็นได้ว่าเกมการเลือกตั้งที่ผ่านมาจึงค่อนข้างไร้ปัญหาและอุปสรรค ทั้งที่การเลือกตั้งหลายหนก่อนหน้านี้มีเรื่องที่เป็นขวางหนามกั้นไว้มากมาย

เหนือสิ่งอื่นใดคือ “ทีมงาน” ของ “บิ๊กอ๊อด” ที่ระดมเอาตัวแทนจากสโมสรใน 3 ลีกมาเป็น “พันธมิตร” เพื่อทำงานร่วมกัน ทีมงานหลายๆคนเป็นที่ยอมรับในวงการ แม้ “บิ๊กอ๊อด” จะถูกมองว่าเป็น “คนนอก” แต่ทีมงานล้วนเป็น “คนใน” แทบทั้งสิ้น

ด้านนโยบาย “แฟร์” ที่วางกรอบไว้กว้างๆหลายๆอย่างถือว่าค่อนข้างโดนใจ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือจะทำได้ตามที่เคยบอกเอาไว้กี่มากน้อย แฟนบอลไทยได้ยินนโยบาย “ขายฝัน” หรือสวยหรูมาแล้วสารพัด แต่สุดท้ายเป็นแค่ข่าวบนกระดาษหนังสือพิมพ์

ทีมงานของ “บิ๊กอ๊อด” ต้องทำให้ได้ตามที่เคยสัญญากับวงการฟุตบอลเอาไว้ และอะไรที่เคยเป็นข้อเสียของผู้บริหารชุดเก่าต้องไม่เกิดขึ้นอีกในทีมบริหารชุดนี้ ไม่งั้นจะเข้าสูตร “ว่าให้เขา เราเป็นเอง”

เอาง่ายๆว่าอะไรที่ดีอยู่แล้วต้องไม่แย่ไปกว่าเดิม ส่วนอะไรที่แย่ต้องแก้ให้ดีกว่าเก่า แต่แค่นั้นยังถือว่าไม่พอด้วยซ้ำเพราะ “บิ๊กอ๊อด” จะมีเวลาบริหารงานแบบยาวถึง 4 ปีเต็ม ดังนั้นทุกๆอย่างต้องดีกว่าที่เคยเป็นทั้งระบบการบริหารจัดการและผลงาน

การเปลี่ยนแปลงแบบเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น แต่สิ่งสำคัญคือการทำงานหลังจากนี้ คำว่า “ฟ้าเปลี่ยนสี” จะส่งผลต่อพัฒนาการฟุตบอลไทยขนาดไหนอยู่ที่ทีมงานของ “บิ๊กอ๊อด” ที่จะต้องพิสูจน์ตัวเอง

การเข้ามาของ “บิ๊กอ๊อด” คล้ายๆกับตอนที่ “บังยี” ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งต่อจาก “วีเจ” วิจิตร เกตุแก้ว เมื่อเกือบ 9 ปีก่อน นั่นคือทุกคนฝากความหวังเอาไว้มากมาย แต่ผลสัมฤทธิ์หลังจากนี้จะเหมือนกันหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป

ถึงเวลานี้อยากบอกว่าป่วยการที่จะมานั่งด่ากันอีก ขอขอบคุณ “บังยี” ที่สร้างสิ่งดีๆเป็นพื้นฐานให้ฟุตบอลไทยได้ก้าวเดินต่อไป และขอเป็นกำลังใจให้ทีมงาน “บิ๊กอ๊อด” ที่จะเข้ามาสานต่อและเปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลไทยไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ไม่ว่าใครจะมาใครจะไป ขอยืนยันไว้เหมือนเดิมครับว่า “ทำดีต้องชม ทำแย่ต้องติ” เชื่อเถอะว่า “ไม่มีใครทำร้ายฟุตบอลไทยได้ นอกจากคนไทยกันเองนี่ละ”

“บับเบิ้ล”
เข้าร่วม: 03 Oct 2007
ตอบ: 24784
ที่อยู่: แขนของทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Fri Feb 12, 2016 12:56 pm
[RE: ฟ้าเปลี่ยนสี]
สำหรับผมต่างกันนิดนึงตรง คราวบังยีผมไม่คาดหวังดีขนาดนั้นเพราะรู้อยู่แล้วว่าวีมาทำต่อวิจิต และคงไม่ดีไปกว่าเดิมมากนัก
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 4537
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 12, 2016 1:01 pm
[RE: ฟ้าเปลี่ยนสี]
ขอให้พัฒนาต่อไปเถอะ เราจะได้หวังกันไกลๆ บ้าง
0
0
เข้าร่วม: 03 May 2007
ตอบ: 1651
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 12, 2016 1:11 pm
[RE: ฟ้าเปลี่ยนสี]
ฝ่ายบังยีตอนนี้ทำได้ดีที่สุดคือแสดงสปิริตเป็นผู้แพ้ที่ดีแล้วอยู่เฉยๆซะ รอโอกาสของตัวเองที่ไม่น่าจะมีอีกแล้วต่อไป กระแสบอลไทยกำลังแรงแบบฮาร์ดคอร์ ถ้าออกมาเคลื่อนไหวบ้าบออะไรตอนนี้ เกิดเจอคลื่นมหาชนเดือด อาจไม่ปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง
0
0
เข้าร่วม: 30 Nov 2014
ตอบ: 6056
ที่อยู่: ไม่เสือกดิ...
โพสเมื่อ: Fri Feb 12, 2016 1:40 pm
[RE: ฟ้าเปลี่ยนสี]



เข้าร่วม: 15 Sep 2010
ตอบ: 336
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 12, 2016 2:56 pm
[RE: ฟ้าเปลี่ยนสี]
อย่าไปเรียกร้องคำว่า สปิริตหรือน้ำใจนักกีฬาจากพวกขั้วอำนาจเก่าเลยครับ

เพราะมันไม่น่าจะมี
0
0
คำบางคำ คนพูดไม่เคยจำ แต่คนฟัง "ไม่เคยลืม"

เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 50
ที่อยู่: บนดินถิ่นอโยธยา
โพสเมื่อ: Sun Feb 14, 2016 9:05 pm
[RE: ฟ้าเปลี่ยนสี]
0
0