จริงๆข่าวนี้เก่าแล้วละ
แต่ผมอยากขอแสดงความยินดีกับ ความฝันที่เป็นจริงของโค้ชเฮงครับ

เห็นแกบอกอยากเป็นประธานเทคนิคบอลไทยมาตลอดเกือบ 10 ปี แล้ว

เปิดใจนโยบายโค้ชเฮง

“ผมมีความฝันมานานแล้วว่าอยากจะทำหน้าที่ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคฟุตบอลไทย ผมเคยทะเลาะกับสมาคมมาตั้งแต่สมัยคุณวิจิตร เกตุแก้ว มาจนถึงยุคของคุณวรวีร์ แต่ก็ไม่เคยได้รับโอกาส ผมไม่อยากทะเลาะกับใครแล้ว อันที่จริงผมไม่ได้คิดว่าจะต้องอยู่กับฝ่ายไหน แม้กระทั่งหากคุณวรวีร์ชนะการเลือกตั้ง ตำแหน่งนี้ก็ควรมีบทบาททำงานจริงๆ ไม่ใช่ตั้งไว้แค่ชื่ออย่างที่ผ่านๆ มา เพราะประเทศที่ประสบความสำเร็จในเรื่องฟุตบอลทั่วทั้งโลก เล็งเห็นความสำคัญของตำแหน่งนี้ และฟุตบอลไทยจะไปบอลโลกได้ ต้องพัฒนาจากโครงสร้างทั้งระบบก่อน เด็กรุ่นเยาวชนต้องไปฟุตบอลโลกเป็นประจำ เราถึงค่อยไปหวังว่าทีมชุดใหญ่จะได้ไปบอลโลก”
“ครั้งนี้ผมถูกผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในวงการฟุตบอลไทย ผมไม่ขอเอ่ยชื่อ แต่บอกได้ว่าเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ มีบารมี มีบทบาทสำคัญ และมีความคิดที่จะพัฒนาโครงสร้างฟุตบอลไทยอย่างจริงจัง ซึ่งเมื่อได้คุยกันแล้วก็มองว่านี่คือโอกาสที่ผมจะได้นำความรู้และโครงสร้างที่พัฒนาเด็กเยาวชนของชลบุรีมานานกว่า 10 ปี มาใช้กับฟุตบอลไทยทั้งระบบเสียที” โค้ชเฮงกล่าว

พร้อมลาชลบุรีเพื่อลูกหนังไทย

“โค้ชเฮง” เผยต่อไปว่าหากชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนคงลาออกจากตำแหน่งประธานพัฒนาเทคนิคของ ชลบุรี เอฟซี เพื่อทำหน้าที่พัฒนาเทคนิคให้กับสมาคมฟุตบอลอย่างเต็มตัว และเชื่อมั่นว่าโครงสร้างและเมนูการฝึกสอนที่ถูกต้อง จะช่วยยกระดับให้ทีมชาติไทยขึ้นไปเทียบเท่ากับประเทศญี่ปุ่น หรือระดับโลกได้
“ผมไม่ทำงานแบบจับปลาสองมืออยู่แล้ว ที่ผ่านมาผมทำอคาเดมี่ของชลบุรี และสร้างเด็กเยาวชนขึ้นมาเป็นที่ยอมรับของประเทศอื่นๆ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย ผมว่าเด็กชลบุรีน่าอิจฉาเสียด้วยซ้ำที่มีโอกาสได้เรียนรู้และอยู่ในโครงสร้างนี้ ต่อไปเราจะกระจายไปให้ทั่วทั้งประเทศ ลองคิดดูว่าจะมีเยาวชนเก่งๆ เกิดขึ้นมาอีกมากแค่ไหน ชลบุรีเองก็ได้ประโยชน์เหมือนเดิม เพราะโครงสร้างที่ผมนำมาใช้ก็ยังคงอยู่”
อคาเดมี่สมาคมแหล่งปั้นช้างเผือก
ส่วนเรื่องโครงการเปิดอคาเดมี่ของสมาคมฟุตบอลนั้น “โค้ชเฮง” กล่าวว่าเป็นรูปแบบที่ประเทศญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้, เยอรมนี ใช้อยู่ โดยนักเตะแต่ละคนอาจจะมีสังกัดหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งจะไม่ใช้วิธีการคัดเลือก แต่จะเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนเข้ามาเก็บประสบการณ์ความรู้ เหมือนอย่างที่ชลบุรีทำอยู่ในปัจจุบัน
“เด็กของชลบุรี ไม่ได้มาจากการคัดตัว เราใช้วิธีประเมินผลและเล็คเชอร์ว่าแต่ละคนมีข้อบกพร่องด้านใดบ้าง ควรจะพัฒนาในจุดใด และแบ่งเป็นระดับอายุ แล้วค่อยประเมินออกมาว่าคนไหนมีพรสวรรค์ก็จะจัดไว้อีกกลุ่ม เพื่อให้หาประสบการณ์ทั้งการฝึกซ้อมและไปแข่งขันในต่างประเทศ อย่างเช่นเจ้ายิม (วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ) และอีกหลายๆ คนที่กำลังก้าวขึ้นมา”
“สำหรับอคาเดมี่ของสมาคม ตอนนี้เราเล็งสถานที่ไว้แล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าที่ไหน เป็นที่ๆ ดีมากๆ และผมเองก็ขับรถผ่านทุกวัน ก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยได้ถูกใช้งานอย่างจริงจัง และผมก็มองว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับโครงการนี้”
“เด็กๆ ที่จะเข้ามาอยู่ในอคาเดมี่ อาจจะมีสังกัดอยู่แล้วหรือไม่มีก็ได้ หากเราพัฒนาจนเด็กก้าวขึ้นไปอยู่ชุดใหญ่ของสโมสรได้ ก็ถือเป็นความสำเร็จของโครงการรวมถึงนักเตะเอง เหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่นทำอยู่ในปัจจุบัน”

ไม่ปิดกั้นโค้ชไทย-ต่างชาติ
“โค้ชเฮง” เผยต่อไปว่า “สำหรับบุคคลากรที่จะดึงมาทำงานในอคาเดมี่ ผมไม่ปิดกั้นว่าต้องเป็นชาติไหน หากมองว่าใคร สามารถสอนเด็กได้อย่างถูกวิธี ก็พร้อมจะดึงมาร่วมงาน ที่ผ่านมามีคนโทรหาผมเยอะมาก ว่าอยากขอร่วมทำงานด้วย แต่เราก็จะมาดูอีกทีว่าใครเหมาะสมบ้าง”
“สิ่งสำคัญนอกเหนือจากนักเตะแล้ว โค้ชไทยเองก็ต้องมีการพัฒนา ไม่ใช่เพื่อแค่สอบไลเซ่นผ่านเท่านั้น แต่ต้องมีการอบรมการฝึกสอนอย่างถูกต้อง เพราะหากเราได้โค้ชที่มีคุณภาพแล้ว โค้ชเหล่านี้ก็จะสามารถสั่งสอนเด็กให้มีคุณภาพได้เช่นกัน”

ยันร่วมงาน‘ซิโก้’ได้ไม่มีปัญหา
ส่วนกรณีที่มีแฟนบอลตั้งข้อสงสัยว่าหาก “โค้ชเฮง” เข้ามาเป็นประธานเทคนิค แล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมชาติไทยหรือไม่ “โค้ชเฮง” กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
“ไม่มีหรอก โค้ชทีมชาติทุกชุดก็จะยังทำงานต่อไป ผมคงคอยให้คำปรึกษาแนะนำ ที่ผ่านมาซิโก้ก็มาขอคำปรึกษาอยู่บ้าง โค้ชทีมชาติไทยทุกชุดก็ลูกศิษย์เก่าผมทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ผลลัพธ์มากกว่า”
“ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะเริ่มต้นพัฒนาเด็กที่เกิดในปี 2000 ก็คือรุ่นยู16 ว่าจะต้องไปฟุตบอลโลกให้ได้ เราต้องเริ่มพัฒนาจากเด็กๆ ก่อนให้ได้ไปฟุตบอลโลกอย่างสม่ำเสมอ และถ้าทำได้ทำไมชุดใหญ่เราจะไปฟุตบอลโลกไม่ได้ล่ะ”

‘เนวิน’รับชวน‘เฮงซัง’เพราะในไทยมีคนเดียว
ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เผยว่าตนเองคือคนที่เชิญ “โค้ชเฮง” เข้ามาร่วมทีมของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และสาเหตุเพราะมองว่าในประเทศไทยมี “โค้ชเฮง” เพียงคนเดียวที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงสำหรับตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค ส่วนการร่วมงานกับโค้ชทีมชาติทุกชุดในปัจจุบันนั้น “โค้ชเฮง” จะเป็นคนประเมินภาพรวมทั้งหมด
“ผมมองว่าในประเทศไทย มีโค้ชเฮงคนเดียวที่ทำได้ ที่สำคัญเขาเป็นคนไทย มีความมุ่งมั่นตั้งใจกับการทำงานจริงจัง มีความรู้ความสามารถที่เห็นเป็นรูปธรรม ผมเคยพูดไว้ว่าบุรีรัมย์ เรามีทุกอย่างแล้ว ขาดอย่างเดียวคือไม่มีโค้ชเฮง แต่หากได้ โค้ชเฮง เข้ามาเป็นประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสมาคมฟุตบอล ไม่ใช่เพียงแค่ ชลบุรี หรือ บุรีรัมย์ แต่เยาวชนไทยทั้งประเทศจะเกิดการพัฒนาอย่างเป็นระบบแน่นอน”
“โค้ชที่จะเข้ามาทำงานทุกคนจะอยู่ใต้อัมเบรลล่าของโค้ชเฮง ไม่ว่าจะในอคาเดมี่หรือทีมชาติก็ตาม ทุกคนต้องทำงานร่วมกัน และมีโค้ชเฮงเป็นผู้ประเมินสูงสุด เพื่อให้ทั้งระบบพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน” บิ๊กเนกล่าวในท้ายที่สุด

เพิ่งจะโดนล้อเรื่องชลบุรีแพ้ 9-0 มา

คงพูดอะไรได้ไม่มากตอนนี้

จาก เพจเกรียนบอลไทย

ขำๆนะครับ
ถ้าท่านติดตามเพจนี้จะรู้ว่าหาสาระอะไรจากมันไม่ได้อยุ่แล้ว

ตอนนี้พูดอะไรก็แย่แหละครับโค้ชเฮง ถึงจะอันเก่าก็เถอะ

เพราะมันมีพวกคอยตามด่าตลอด

ประธานเทคนิคเราต้องมีครับ ไม่งั้นหมดยุคนี้ก็ไม่ได้พัฒนาเพราะไม่มีคนวางแผนระยะยาว

แกอยากเป็นมานานแล้ว

คงคันไม้คันมือมาก

รอให้แกพิสูจน์ผลงานดีกว่าครับ
ผมไม่แคร์พวกเสียงเห่าหอนพวกที่มันยังไม่รู้ว่าหน้าที่ประธานเทคนิคต้องทำไรบ้าง

ที่ผมเชียร์ทีมสมยศก็เพราะมีโค้ชเฮงเนี้ยล่ะ

ครั้งหนึ่งเนวินเคยพูดไว้ว่า "บุรีรัมย์มีทุกอย่าง ยกเว้นโค้ชเฮง" วันนี้เนวินคงสมใจแล้วนะ ที่ได้ร่วมงานกับโค้ชเฮงสักที

ถ้าบทความนั้นเป็นเรื่องจริงนี่ บอกเลยว่าใจเฮียเนแกหล่อมากจิงๆ

ถ้าไม่มีโค้ชเฮง บอกตรงๆว่าจะไม่เชียร์ทีมสมยศแน่ๆ นี่มีโค้ชเฮงทำให้ดูมีอนาคต และเป็นคนที่เข้าใจคำว่า ฟุตบอลอาชีพ มากที่สุดในประเทศ

โค้ชเฮงไม่เคยยุ่งกับทีมชุดใหญ่เลย
ที่แกลงมาจริงๆ มีแค่ตอนลงมาช่วยวาดะครึ่งฤดูกาลหลัง

ผมขอแทรกนิดนะครับ สำหรับบางคนที่โยงชลบุรีแพ้ 9 ลูกน่ะ


ของแบบนี้ไม่ได้อยู่แค่โครงสร้างนะครับ วินัยของนักเตะก็สำคัญมากๆ


เอาเป็นว่าถ้าคิดว่า ชนาธิป เก่งก็นั่นแหละคนหนึ่งที่ฝึกมาจากแผนงานโครงสร้างของเฮงซัง ซึ่งพ่อของเจเป็นคนไปขอแนวทางมาจากเฮงซังเลยแล้วก็เอามาฝึกให้เจตั้งแต่เด็กๆ(บังคับเลยว่างั้น)

แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแบบเจได้ทุกคน ไม่งั้นบาเซโลน่ามันคงมีเมสซี่เป็นร้อยคนแล้วครับ


แต่สิ่งสำคัญคือเบสิคฟุตบอลที่จะต้องพัฒนามากขึ้น ถ้าชลบุรีมันมี วรชิต เกริกฤิทธิ์ นูรูล ที่โผล่ขึ้นมาได้ทั้งๆที่โอกาสมันเป็นแค่ส่วนเล็กๆ

ลองคิดกลับกันดูสิ ถ้าแกได้คุมแผนพัฒนาเยาวชนทั้งประเทศจะเป็นยังไง ? มันน่าลุ้นใช่ไหม

ชาลเก้04 ไมนซ์05 ชลบุรี09

นักเตะเด่นๆจากอเคเดมี่ชลมีขึ้นมาตลอดนะถ้าติดตามนักเตะดังๆหลายคนก็ผผ่านจากแกมาทั้งนั้น และปัจจุบันส่วนที่แกดูแลก็แค่เด็ก กับการพัฒนาเยวชนผมมองว่าแกของจริงนะ

ผมว่าเรื่อง แท้กติกในสนาม ของแกอาจจะหมดยุคไปแล้ว

แต่ผมว่าเรื่องวิสัยทัศน์ การวางระบบ ความรู้เชิงรายละเอียดประสบการณ์อยู่ต่างประเทศ ยังไม่มีใครสูสีกับแกเลยนะ สำหรับผม

โค๊ช เฮง ทำชลบุรี ทีม ฉลามชลเล่นดีนะ ทรงบอลเหมือน ติกี้ ตาก้า บาร์ซ่า แต่ไปไม่ถึงแชมป์

ส่วนความรู้ความสามารถ ไม่ต้องบอก ระดับเทพแล้ว

ผมว่าชลบุรี ทีมที่ไม่มีทรัพยากรถุงถัง เหมือนเมืองทองหรือบุรีรัมย์ แต่ทำทีมท็อปทรีทุกปี นี่ก็สุดยอดแล้ว

ชลบุรีมีข้อเสียอยู่เรื่องเดียว คือเฮดโค้ชที่มักใช้คนใน ซึ่งความรู้ความสามารถมันไม่พอที่จะนำทีมไปสู่แชมป์ได้ ไม่รู้ว่าเพราะเงินไม่ถึงรึเปล่า ถึงต้องทำแบบนี้ แต่ถ้าอยากได้แชมป์ ผมว่าเฮดโค้ชก็ควรหาโปรไฟล์ที่ดีกว่าที่ผ่านมา

ยังงัยก็น่าจะดีกว่าคนเก่า ธัญญา โพธิ์วิจิตร (เป็ด เชิญยิ้ม) แน่นอน

เอาน้าเป็ดตรูนั่งประธานเทคนิค มิน่า มีแต่เรื่องฮาๆในวงการบอลไทย

เอาจริงๆผมว่าโค๊ชเฮงนี่เป็นคนฟุตบอลมากกว่าโค๊ชหรั่งซ่ะอีกน่ะ ถ้าสมัครนายกนี่ผมว่าก็ชนะสบายอ่ะ ราศีดีกว่าเยอะ

ผมอยากรู้ว่าเขาจะพัฒนายังไงในเมื่อเด็กอยู๋กับสโมสร วางรากฐาน แบบแผนการฝึกซ้อมอย่างนั้นเหรอ

ผมอยากรู้มากเลยว่า ฝ่ายเทคนิคนี้ มีหน้าที่อะไร

ถ้าแบบที่ผมเข้าใจนะ คือเป็นคนวางแผนและวางหลักเกณฑ์ต่างๆ ว่าจะไปถึงเป้าหมายอย่างไร เช่น

U15, U17, U19, ไปบอลโลก ภายในเวลากี่ปีๆ และนักฟุตบอลต้องมีสถิติวิ่ง เป็นระยะทางรวมกี่กิโล อะไรประมาณนี้

ซึ่งพอได้หลักเกณฑ์ต่างๆ ก็ไปจัดอบรมให้แต่ละสโมสรรับทราบและเข้าใจพร้อมกับแนะนำวิธีการเบื้องต้น และคอยให้ความช่วยเหลือเรื่อยๆ ทีนี้แต่ละสโมสรก็จะมีเป้าหมายและแนวทางไปทางเดียวกัน วิธีการและการจัดการก็อาจแตกต่างแต่ทุกๆ ทีมจะมีเป้าหมายเหมือนกัน ทำให้นักกีฬาที่จะได้มามีความเข้าใจเหมือนกัน การคัดตัวก็จะได้แข่งขันกันสูง ตัวที่ได้มาก็จะเก่งจริง แถมสำรองก็พร้อม

มันเป็นแบบที่ผมคิดมั้ยเนี่ย เหมือนเพ้อคนเดียว

นาที 4.45
ลองฟังดูครับ
อันนี้ นาที 4.35 จะเห็นความตั้งใจของแกครับ

ลองฟังดูครับ
อันนี้ นาที 4.35 จะเห็นความตั้งใจของแกครับ

ไม่รู้ดิ ผมคาใจเรื่องแมตช์กับอินโด แต่ไหนแต่ไรละ กล้าทำขนาดนั้น ผมก็ไม่กล้ามารับงานระดับชาติอีกแล้ว ถึงจะบอกว่าโดนบังคับก็เถอะ

ประสบการณ์ของแกหนะของจริงเลยนะ

ขอบคุณครับ เท่าที่ฟังก็คล้ายๆ ที่คิด เห็นจากพวกเจ้ายิม เจ้าโก้ มาตรฐานที่แกจะวางคงเพิ่มนักฟุตบอลดีๆ ขึ้นอีก เป็นกำลังใจให้ครับ

ผมดูง่ายๆ โง่ๆเลยนะ จากระดับเด็กปั้นที่เกิดกับแก ที่ผ่านๆมาเนี่ย ผมว่าแกเหมาะสุดและกับตำแหน่งนี้ สำหรับตอนนี้นะ

เป็นโค้ชที่ผมชอบที่สุดในไทย รอติดตามผลงานครับ

ที่ชลบุรีแพ้เละ

คิดว่ามีส่วนจากโค้ชเฮง

ขออนุญาตนะครับ ผมขอเรียกคนพวกนี้ว่า

ไอ้สมองถั่ว

เหมือนกันเลย เพราะเฮงซังคนเดียวเลย ขนาดโค้ชหรือสตาฟทำงานทีมชาติ ยังต้องการตำแหน่งนี้เลย

ฟังจากโค้ชโชคในรายการนึงวันก่อน

อ่านแล้วดีใจมากเลย เหมือนทีมไทยเรากำลังจะมีอนาคตที่สดใส สมาคมกำลังจะทำงานกันแบบมืออาชีพ