ประธาน อสม.ที่อุดรธานี วัย 47 ถูกพบในสภาพนั่งอยู่ในห้องนอนบ้านตัวเอง มีเลือดไหลออกจมูกออกหู หลานสาวบอกป้าชอบตื่นมานั่งสมาธิตั้งแต่เช้ามืด แต่วันนี้สายแล้วยังไม่ออกจากห้องเลยไปดู คาด อากาศที่หนาวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ช็อก...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.พ. 59 พ.ต.ท.เจริญศักดิ์ อุบลพิทักษ์ พงส.ผนพ.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 151 หมู่ 6 ต.หนองหาน จ.อุดรธานี จึงประสานแพทย์เวร รพ.หนองหาน และกู้ภัยทางหลวงหนองหาน ร่วมกันออกไปพลิกศพผู้เสียชีวิต

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ พบมีชาวบ้านมามุงดู เจ้าหน้าที่จึงกันชาวบ้านออกแล้วเข้าไปภายในบ้าน ที่ห้องนอนชั้นสอง พบศพหญิงเสียชีวิตในชุดเสื้อกางเกงสีขาว ญาตินำศพมาวางนอนไว้บนเสื่อ สภาพกำมือแน่น มีเลือดไหลออกทางรูจมูก และหู ตามร่างกายไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้าย ทราบชื่อผู้ตายคือ นางไพรัช รอดขันเมือง อายุ 47 ปี ประธาน อสม.ของตำบลหนองหาน

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบจาก น.ส.ยุภาพรรณ รอดขันเมือง หลานสาวที่อยู่ด้วย บอกว่า ผู้ตายนอนอยู่บนชั้นสองของบ้าน ส่วนตนนอนชั้นล่าง ตามปกติป้าจะเป็นคนชอบนั่งสมาธิ แต่เมื่อคืนอากาศหนาวมาก ป้าที่เคยตื่นแต่เช้าทุกวัน วันนี้สายมากแล้วยังไม่ตื่น ตนจึงขึ้นไปดูในห้องนอน พบว่าป้านั่งก้มหน้าไม่ห่มผ้า เรียกอย่างไรก็ไม่ตอบจึงรีบไปบอกญาติมาดู พบว่าป้าเสียชีวิตแล้ว

ด้านนายแพทย์ธำรงค์ งามอุรุเลิศ แพทย์เวร รพ.หนองหาน ระบุว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-6 ชั่วโมง เนื่องจากหัวใจวายเฉียบพลัน ตรวจตามร่างกายไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าผู้ตายอาจตื่นเช้ามานั่งสมาธิตามปกติ เพียงแต่วันนี้อากาศหนาวลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันจนเกิดช็อกไปอย่างกะทันหัน หลังจากตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน สอบถามญาติไม่มีใครติดใจการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ไปจัดการตามประเพณี ต่อไป.

Cr.Thairath

เป็นป้าที่เรารู้จักคะ เมื่อวานยายโทรมาบอก โชคดีที่ยายเราไม่เป็ไรมากทั้งๆ ที่อายุเกือบ 80 แล้ว ที่หนองหานหนาวมากเลยเราเองก็ห่วงยาย ไหนจะติดเรียนอีกก่อนสงกรานต์เราว่าจะไปอยู่ดูแลยายอยู่ มะรืนนี้จะเผาแล้วคะ ขออนุญาตไม่ลงรูปนะคะ

ไปดีนะป้า ถ้าตอนตายจิตป้านิ่งเป็นกุศลจากสมาธิก็ไปดีแหละครับ กลัวพลาดกลายเป็นทรมานจากความหนาวแล้วจิตสุดท้ายเป็นทรมานจากความหนาวก่อนตายนี่แหละ อันนั้นน่ากลัวกว่ามากครับ

ญาตินำศพมาวางนอนไว้บนเสื่อ สภาพกำมือแน่น มีเลือดไหลออกทางรูจมูก และหู ตามร่างกายไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้าย

เสียชีวิตด้วยอาการแบบนี้ ผมว่ายากนะที่จะจิตใตสงบตั้งมั่นในวินาทีสุดท้ายก่อนลมปราณจะดับได้

แต่ผมสงสัยอยู่เรื่องความเชื่อที่ว่าจิตสุดท้ายเกาะกับการกำหนดจิตรูปแบบไหน จิตจะพาเราไปยัง

รูปแบบนั้นจริงๆเหรอครับ ยังงี้คนไม่ดี ทำความชั่วมาเยอะแต่นั่งสมาธิกำหนดจิตมาตลอดตอนวาระสุดท้าย

ตายไปเค้าก็ได้ยังภพภูมิที่ดีน่ะสิ กรรมชั่วไม่ไต้องชดใช้เลยหรืเปล่าครับ อันนี้ถามด้วยความสงสัยเฉยๆครับ

ผมเองก็ยังไม่มีประสบการณ์ตรงครับเลยตอบไม่ได้เช่นกันแต่จากที่เคยได้คุยกับพระอาจารย์เรื่องนี้สมัยบวชหลายปีที่แล้วซึ่งท่านเป็นพระปฏิบัติจริงรูปหนึ่ง ท่านบอกว่าไอ้การหนีกรรมน่ะมันมีนะแต่มีทางเดียวคือตัดไปนิพพานเลย ตราบใดที่ยังไม่นิพพานผลของการกระทำมันตามมาให้ผลได้ตลอดครับไม่ว่าจะมาในรูปแบบนวดเป็นช่วง ๆ หรือกระหน่ำเอาให้โดนหรือแม้กระทั่งตายให้ได้

ในโลกความจริงอย่าว่าแต่นิพพานเลยครับ ไม่ต้องถือศีลให้ครบก็ได้แต่เอาเป็นว่าคนที่ใจบาปหยาบช้าจะหนีกรรมด้วยการไปนิพพานน่ะถามว่าก่อนหน้านั้นมีพฤติกรรมอย่างไรทำอะไรไว้มันตามมาตลอดแม้แต่ไอ้ที่เราลืมไปแล้ว เห็นเองตอนปฏิบัติ (ข้อนี้จริงนะครับ ต้องประสบเองแล้วจะเข้าใจว่าขนลุกหลังเย็นวาบเป็นยังไง)ดังนั้นการหนีด้วยนิพพานน่ะพูดสวยหรูได้แต่ทำจริงไม่ได้หรอก กฎแห่งกรรมทำงานเที่ยงตรงทวงคืนทั้งต้นและดอกได้ครบทุกเม็ดยิ่งกว่าบริษัททวงหนี้ทุกที่ในโลกนี้ครับ เพราะในชีวิตเราเราทำทั้งดีและไม่ดีสลับกันตลอด ทั้งด้วยมีสติและไม่มีสติครับ

ตอบคำถามท่าน คำตอบคือใช่ครับเค้าจะได้ไปภพที่ดีและได้เสวยผลดีที่ได้กระทำมา แต่ผลดีที่เสวยก็เหมือนถอนเงินในธนาคารครับมันมีวันหมด พอหมดแล้วก็เตรียมรับผลไม่ดีที่ทำไว้ต่อได้ (ง่าย ๆ คือหนีไม่ได้) พระพุทธเจ้าท่านถึงตั้งฐานเลยว่าการเกิดเป็นทุกข์ครับ

อย่างที่ท่าน MyLiver ตอบด้านบนครับ หนีได้แต่กรรมนั้นยังอยู่พอหมดบุญก็ต้องใช้กรรมชั่วอยู่ดี ขอเสริมอีกหน่อยครับไม่เพียงแต่ทำชั่วเท่านั้นทำดีมาทั้งชีวิตจิตสุดท้ายเศร้าหมองก็ลงนรกได้ครับ ตัวอย่าง พระนางมัลลิกาเทวี พระมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล ทำดีมาทั้งชีวิตก่อนพระนางตายใจเศร้าหมองต้องแหย่ขาข้างนึงลงนรก 7 วัน ถ้าสนใจลองศึกษาในพระไตรปิฎก หรือธรรมบทดูครับ

จริงๆคืออาสันนกรรมน่ะครับ ส่งผลครับ แต่ก็ไม่สามารถลบล้างกรรมอื่นๆได้หรอกครับ แต่เป็นกรรมที่ถือว่าแรง เปรียบประดุจโคแก่นอนที่ประตูคอก ลองไปค้นอ่านเอาครับ ธรรมะนั้นลึกซึ้ง ลองศึกษาดูครับ

ลองคิดดูนะครับ ถ้าทำความชั่ว จิตใจมีแต่สิ่งอกุศล ก่อนตายไม่มีทางคิดถึงแต่สิ่งดีๆด้วยใจจริงได้แน่นอน ผมพูดถูกไหมครับ


หรือถ้าทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่ก่อนตายสำนึกได้ ทำแต่ความดี สัก 2-3 ปี
ก่อนตายจิตเป็นกุศลจริงๆ ไปดีแน่นอนครับ แต่ความชั่วยังอยู่้แน่นอน และเมื่อกรรมดีหมดวาระ กรรมที่เคยทำชั่ว จัดมาเต็มเหนี่ยวครับ

เทวะมาชี้แนะเองจริงๆ ชาบูๆ

เอาง่ายๆนะครับ ทำกรรมดีมา ก็จะได้รับผลดี ทำกรรมชัวมายังไงก็ได้รับกรรมชั่ว ขึ้นอยู่กับว่าอันไหนมากน้อยกว่ากัน แต่ๆๆ ชวนะจิต จิตก่อนตาย เรานึกถึงอันไหน จะให้ผลอันนั้นครับ