“ผมพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง ถ้าผมได้รับโอกาสให้กลับเข้าไปอยู่ในทีมอีกครั้ง ผมจะทำทุกอย่าง จะให้ผมแจกผ้าขนหนู ให้เป็นเด็กส่งน้ำ ผมทำทั้งนั้น ครั้งนี้ผมจะไม่เหยาะแหยะอีก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อยแค่ไหนถ้าผมทำได้ผมจะทำ” – Danny Green




ก่อนจะมาเป็น Danny Green มือสามคะแนนและแชมป์ NBA กับ Spurs อย่างทุกวันนี้ ชีวิตการเล่นบาสอาชีพกรีนไม่สดใสนัก กรีนถูก Cleveland Cavaliers ดราฟท์เป็นอันดับที่ 46 ในรอบสอง แต่เมื่อเริ่มฤดูกาลไปได้แค่ 20 เกมส์ กรีนก็ถูกตัดออกจากทีม หลังจากนั้น Spurs เซ็นสัญญารับกรีนเข้ามาในทีมแต่พอผ่านไปแค่หกวัน Spurs ก็ตัดกรีนออกจากทีม ต่อมา Spurs ก็รับเค้าเข้ามาในทีมอีกครั้ง และก็ตัดเค้าออกจากทีมอีกเป็นครั้งที่สอง

“ตอนถูกตัดออกจาก Spurs ครั้งที่สองถือเป็นจุดตกต่ำที่สุดในชีวิตของผม” กรีนกล่าว “ผมอยู่บ้านเฉยๆ อยู่สองเดือน ไม่รู้ว่าจะไปไหน ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี”

ในช่วงเวลานั้นเอเจนท์ของกรีนแนะนำให้เค้าลองหาโอกาสไปเล่นบาสอาชีพในลีกต่างประเทศเพื่อสร้างผลงาน แต่กรีนยืนหยัดที่จะต่อสู้เพื่อหาหนทางกลับเข้าสู่ NBA ให้ได้ กรีนตัดสินใจหาช่องทางพิสูจน์ตัวเองโดยการเข้าไปเล่นใน NBA D-League กรีนตั้งใจฝึกซ้อมและพิสูจน์ตัวเองอยู่ใน D-League อยู่พักใหญ่ ท่ามกลางความสิ้นหวังอยู่กับชีวิตการเล่นใน D-League กรีนตัดสินใจยกหูโทรศัพท์หา Gregg Popovich โค้ชที่เป็นคนตัดตัวเค้าออกจากทีม โค้ชป๊อบไม่ได้รับสาย กรีนจึงฝากข้อความเสียง

“ผมพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง ถ้าผมได้รับโอกาสให้กลับเข้าไปอยู่ในทีมอีกครั้ง ผมจะทำทุกอย่าง จะให้ผมแจกผ้าขนหนู ให้เป็นเด็กส่งน้ำ ผมทำทั้งนั้น ครั้งนี้ผมจะไม่เหยาะแหยะอีก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อยแค่ไหนถ้าผมทำได้ผมจะทำ”





ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าโค้ชป๊อบรู้สึกอย่างไรกับข้อความเสียงที่กรีนทิ้งไว้ แต่หลังจากนั้น Roy Williams โค้ชเก่าของกรีนสมัยอยู่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของโค้ชป๊อบ ได้มีการคุยกันอย่างตรงไปตรงมาถึงเหตุผลที่ต้องตัดตัวกรีนออก สื่อสารให้กรีนรับรู้ว่ากรีนขาดอะไร และทีมต้องการอะไรในตัวกรีน สองครั้งที่ผ่านมากรีนทำผิดพลาดอย่างไรบ้าง กรีนรับฟังทุกอย่างและพัฒนาการเล่นของตัวเอง และได้รับโอกาสให้กลับเข้ามาเล่นให้ Spurs อีกครั้ง จนกลายเป็น Danny Green ที่พวกเรารู้จักในวันนี้

“ผมเป็นตัวอย่างให้พวกคุณเห็นว่า คุณไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด มีพรสวรรค์มากที่สุด หรือ สูงที่สุด คุณแค่ต้องมุ่งมั่นตั้งใจทำสิ่งที่คุณทำอยู่ให้ดีที่สุด เดี๋ยวโอกาสมันเข้ามาเองล่ะ คุณอาจไปไม่ถึงดวงจันทร์ทุกครั้งที่คุณพยายาม แต่ถ้าคุณตั้งใจจริง สุดท้ายคุณจะอยู่ไม่ห่างจากดวงจันทร์หรอก และที่ตรงนั้นมันก็ไม่แย่ซะเดียวนะ” Danny Green





Cr. NBA TIME

แถมให้อีกอัน

---------------------------------------------------------

“มันก็จะเป็นเหมือนยุคของผมกับ Manu เมื่อสมัยก่อน คุณต้องรู้จักแบ่งปันและรอโอกาสของตัวเอง บางครั้งแม้ผมแทบจะไม่ได้บาสเลยเป็นเวลานานแต่ Kawhi ก็เล่นได้อย่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ และสุดท้ายทีมนี้มันจะเป็นทีมของ Kawhi นั่นละ เหมือนตอนที่ Timmy ส่งต่อทีมให้ Manu และ Manu ก็ส่งต่อทีมให้ผม ตอนนี้มันจะเป็นการส่งต่อให้กับ Kawhi ในขณะที่ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยทีม สุดท้าย Kawhi ต้องเป็นผู้นำอยู่ดี เขาเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก แม้มันจะมีบางคืนที่ผมได้ครองบอลบ่อยและเล่นได้ดีแบบนี้ แต่ท้ายที่สุด ส่วนใหญ่มันก็ต้องเป็น Kawhi [ที่จะนำทีม] พวกเรากำลังจะเปลี่ยนไปในทิศทางนั้น เขายังหนุ่ม เล่นได้ยอดเยี่ยม และเขาจะบีบให้คู่ต่อสู้ต้องมาดับเบิ้ลทีม ถึงจังหวะนั้นผมถึงจะค่อยรับลูกและเล่นต่อจากเขา เหมือนตอนที่ผมทำกับ Timmy ในสมัยก่อน ผมจะยืนรอที่มุมสนามและรอให้ Timmy จัดการในส่วนของเขา พวกเราทำได้ดีเสมอในการแบ่งปันและรอโอกาส ถึงยุคนี้ผมก็จะแบ่งปันเช่นกัน มันจะไม่ต่างกัน”

- Tony Parker พูดถึงการเข้ามารับบทบาทผู้นำของ Kawhi Leonard สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการเล่นและทัศนคติของผู้เล่น Spurs และ คำว่า “ทีม” ได้เป็นอย่างดี

ชอบอ่านบทความแนวนี้มาก

ประวัตินักกีฬา อุปสรรคในชีวิตไรเทือกนี้

ฟอร์มพี่ตอนนี้ก็น่าโดนตัดทิ้งอีกครั้งจริงๆ

พูดเป็นเล่น ตั้งแต่ขึ้นปี 2016 ยิง 3 แต้มลง 47% เลยนะ

คุณอาจไปไม่ถึงดวงจันทร์ทุกครั้งที่คุณพยายาม แต่ถ้าคุณตั้งใจจริง สุดท้ายคุณจะอยู่ไม่ห่างจากดวงจันทร์หรอก
เหยดเข้ อย่างคม มีภาษาอังกฤษไหมครับ ท่อนี้ ขอโควทไปแชรในเฟสหน่อย Inspire me มากๆครับ

เชียร์ สเปอร์มาตั้งแต่ปี 90 ( แก่นะเรา )
จากรุ่นสู่รุ่น ....... David Robinson / Avery Johnson / Sean Elliott / Tim Duncan
มาสู่ยุค Tim Duncan / Bruce Bowen / Tony Parker / Manu Ginobili
ถึงเวลาส่งต่อให้กับ Kawhi Leonard / DAnny Green และก็อยากให้ Lamarcus Aldridge ไม่ย้ายออกไปไหน

หวัดดีครับลุง5555 ผมเชียร์ตั้งแต่ประมาณปี 2006 มั้ง ป.5 ป.6 ได้ตอนนั้น เชียร์เพราะ Parker เลย

รักวัฒนธรรมของทีมนี้จริงๆ Admiral กับ Avery ยังมาดูเกมอยู่ตลอด หวังว่า Tim จะได้วงที่ 6 ก่อนเลิกครับ

เพิ่ง 30 ต้นๆ เรียกพี่ก็ได้ 555

ท่านไปหาอ่านของเจมส์ดิ อ่านแล้วจะสงสารมันทันที